ประสบการณ์ต่อรองกับบ.ประกันภัยเมื่อบ้านโดนน้ำท่วมเกือบหมดตัว และยังเอาชีวิตไม่รอด
ผมเป็นลูกค้าบริษัทประกันภัยยักษ์ใหญ่แห่งหนึ่ง
ซึ่งถ้าคนทั่วไปจะเห็นได้ว่าใช้ชื่อภาษาอังกฤษและชื่อภาษาไทยไม่ตรงกัน
ซึ่งบ้านผมได้ประสบอุทกภัยน้ำท่วม และ บ้านคือเป็นน้ำโคลน บวกกับ น้ำอุจจาระ จากบ่อส้วม ในบ้านหลังต่างๆ ในบริเวณนั้น
ขึ้นมาท่วมสูง 1.5ม. อยู่สองวัน จึงได้พาคุณพ่อคุณแม่นั่งเรือของทีมกู้ภัย ออกมาพบท่านนายกอบจ. ซึ่งได้รับการช่วยเหลือเป็นอย่างดี
จึงต้องขอขอบพระคุณท่านนายก และ ลูกชายมา ณ ที่นี้ด้วยครับ -/l\-
และพอบริษัทประกันภัยติดต่อมา
ก็ส่งน้องเข้ามาถ่ายรูป ซึ่งผมได้คุยกับน้อง น้องแจ้งว่าเพิ่งทำงานถ่ายรูปความเสียหายให้กับบริษัทนี้เป็นวันที่2ของชีวิต
ซึ่งน้องก็อัธยาศัยดี พูดจาดีมาก ขอชมเชยมา ณ ตรงนี้ครับ
แล้วพอทางหัวหน้าของน้อง ท่านนึงนี้ ที่แจ้งผมว่า จะได้รับการคุยกับหัวหน้าเคลม
ซึ่งทางหัวหน้าเคลมแจ้งผมว่า ได้ประเมินความเสียงหาย ของบ้านผม เป็นเงิน xx,xxx บาท
แล้วก็ได้แจ้งว่า ได้ประเมินไปทั้งหมด xxราย ประเมินไปแล้ว xx ราย
ซึ่งเป็นจำนวนเกือบทั้งหมด
แล้วไม่มีผู้เอาประกันรายไหนได้เกิน xx,xxxบาท
ซึ่งตัวเลขนี้ใกล้เคียงกับตัวเลขที่เสนอมาทางผมมา อย่างไม่น่าเชื่อ
ซึ่งตรงนี้ทางผม และ ทางท่านผู้อำนวยการ ของคปภ.ของจังหวัด
เห็นตรงกันว่า ไม่ควรแจ้งลูกค้าผู้เอาประกันแบบนี้
โดยผมเล็งเห็นว่าทางบริษัทนี้ได้มีเจตนา ล็อคจำนวนเงินเอาประกันของลูกค้า ไว้ที่ตัวเลขหนึ่งเลยใช่หรือไม่
(ซึ่งตัวเลขห่างไกลกับทางบริษัทออกแบบรับเหมาก่อสร้างอาคารที่ผมให้เขียนแบบซ่อมแซมที่ทางหัวหน้าเคลมของบริษัทเป็นผู้ขอ
และห่างไกลกับทางบริษัทผู้รับเหมา ซึ่งได้มาแวะเวียนมาดูบ้านผมและประเมินราคาเพื่อจะได้รับงานไปมาก
ตัวเลขห่างไกลกันมาก โดยที่ผมยังไม่ได้ใช้บริษัทที่ผมรู้จักเลย
ซึ่งผมก็ทำงานหลัก คือ งานในแวดวงอสังหาริมทรัพย์ ครอบคลุม4จังหวัดภาคเหนือตอนบน และทั่วประเทศไทย)
กลับมาที่การล็อคตัวเลขว่ามีการล็อคใช่หรือไม่
ผมมองว่าทางบริษัทไม่สนใจทุนประกันของลูกค้าก็คือ ผู้เอาประกันแต่ละท่าน ว่าเป็นเท่าไรใช่หรือไม่
ความเสียหายจริง จะเป็นเท่าไหร่ใช่หรือไม่
เป็นการไม่จริงใจต่อลูกค้าใช่หรือไม่ และปกป้องผลประโยชน์ของบริษัทใช่หรือไม่
และทางหัวหน้าเคลมท่านนี้ ได้ขอให้ผมเขียนแบบซ่อมแซมมายืนยันความเสียหาย
ซึ่งทางผม ได้จ้างบริษัทออกแบบรับเหมาก่อสร้างให้เขียนแบบซ่อมแซม ใช้เงินไปเกือบ 10,000 บาท
ก็ยังไม่ได้อะไรคืบหน้า เหมือนเสียเงินฟรี และ เหมือนเสียเงินสดที่อยู่ในกระเป๋า ที่สำคัญต่อชีวิตผม และ ครอบครัวในช่วงวิกฤตน้ำท่วม เป็นอย่างมากไปฟรีๆ
อย่างค่าทำความสะอาดทางบริษัทเสนอให้ผม15,000บาท ซึ่งผมไม่สามารถรอให้บ้านผมเปื้อนโคลนและอุจจาระได้ต่อไป
เพราะไม่สามารถให้เงินฉุกเฉินกับลูกค้าได้ ซึ่งผมก็เข้าใจเป็นอย่างดี
และยอมรับระเบียบของทางบริษัท ตัวผมจึงได้จ้างทีมมาทำความสะอาดจ่ายไปเรียบแล้วในราคา 45,xxxบาท
และปัจจุบันล่าสุด ทางบริษัทได้ลดค่าทำความสะอาด ที่จะให้ผม จาก 15,000บาท ที่ประเมินความเสียหายมาครั้งแรก
เป็นเหลือแค่ 8,500บาท ซึ่งกระทบกระเทือนต่อจิตใจ ของคนในครอบครัวผม เป็นอย่างมาก
ต่อจากนั้น ผมจึงได้โทรหาคอลเซนเตอร์ของบริษัท หาท่านเจ้าหน้าที่ที่เป็นผู้ดูแลเคส
และพูดคุยอย่างจริงใจว่า ผมเข้าใจว่าทางคุณต้องปกป้องผลประโยชน์ของบริษัท อย่างเต็มที่ ทางคุณซึ่งเป็นลูกจ้างของบริษัทถึงจะได้โบนัสเยอะ
การทำงานของพวกคุณเป็นแบบนี้ ผมเข้าใจถูกต้องไหมครับ
ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ของทางบริษัทที่ดูแลเคสนี้ท่านนี้ ก็ตอบว่า ใช่ครับ
ผมจึงให้เค้าเสนอตัวเลข ที่น้อยกว่า ทุนของกรมธรรม์ของผม ไปประมาณ 10%
เพื่อให้เป็นไปตามที่ได้คุยกับเจ้าหน้าที่ท่านนี้เบื้องต้น เค้าก็จะได้ผลงาน
ผมก็ยอมได้น้อยกว่าเงินประกันจริง ที่ควรจะได้ไปมากๆ
แต่เรื่องจะได้จบเร็วๆ ผมจะได้กลับไปดูแลครอบครัวและทำมาหากินต่อ
ทางท่านเจ้าหน้าที่ของทางบริษัทที่ดูแลเคสของผมก็ขอนำเรื่องนี้ไปให้ทางผู้ใหญ่พิจารณา
ซึ่งก็ไม่ทราบว่าได้เสนอท่านกรรมการผู้จัดการบริษัทไปจริงหรือไม่ และหลังจากรอคอยติดต่อกันมาเป็นเวลานานหลายสัปดาห์ หรืออาจจะเดือนกว่าๆผมจำไม่ได้แน่ชัด ทางบริษัทได้แจ้งตัวเลขประเมินความเสียหาย สูงขึ้นอีกนิดหน่อย เป็นสูงขึ้นประมาณ6ถึง 7% จากยอดเดิม
ซึ่งห่างไกลความเสียหายจริงมาก
และเจ้าหน้าที่ท่านนี้ของบริษัท ได้รับทราบว่าผมอาจจะนำเรื่องนี้ลงโซเชียล
เค้าจึงแจ้งว่าผมจะร้องสื่อใช่หรือไม่ ซึ่งผมจะไม่ทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่จึงไม่ต้องการร้องสื่อในเบื้องต้น
ซึ่งในความเห็นผม คือทุกกรณีพิพาทควรจะทำให้เล็กที่สุดก่อน ถ้าคุยกันไม่ได้ก็คงจะต้องใหญ่ขึ้น ทีละนิดๆ ตามลำดับขั้นตอน ของกระบวนการตามกฎหมาย
ผมจึงได้ขอทำการไกล่เกลี่ยกับทางบริษัท และผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่าทางคปภ.จะจัดหาผู้มีความรู้ความเชี่ยวชาญเกี่ยวกับการรับเหมาก่อสร้าง การรีโนเวทบ้าน และการซ่อมแซมบ้านน้ำท่วมจากโคลน ซึ่งมีประสบการณ์ในการประกอบอาชีพนี้จริง และทางผู้เจรจาจากทางบริษัท
จะมีเจ้าหน้าที่ที่มีความรู้ความสามารถและอยู่ในวงการอสังหาริมทรัพย์จริงๆ ไม่ใช่แค่ผู้ที่มีใบรับรองจากคปภ.แห่งประเทศไทย
เพื่อที่จะได้ตัวเลขที่เป็นธรรมกับทั้งทางผม และทางบริษัท
ปล. บ้านผมน้ำท่วมสูง1.5เมตร ทางบริษัทก็ยื่นการซ่อมแซมความเสียหายตรงนี้เป็นการทาสีสูง1.5เมตร
ซึ่งผมจะได้บ้านสีทูโทนในชั้นที่1ของบ้านผม
โดยไม่มีการฉีดฆ่าเชื้อโรคที่บ้านจมอุจจาระแต่อย่างใด
ซึ่งผมว่ามันก็คงสวยงามแบบแปลกๆ
และทางธนาคารเจ้าของสัญญาจำนองก็คงไม่ค่อยจะชอบสักเท่าไหร่ ที่มีบ้านที่มีชั้น1เป็นสีทูโทน
ซึ่งไม่มีบริษัทประกันไหนเลยที่จะเสนอลูกค้าแบบนี้
แบบว่าน้ำท่วมชั้น1 xxcm ก็ซ่อมสีแค่ XXcm
เพราะทางบริษัทอื่นได้ให้ลูกค้าทาสีใหม่ทั้งชั้น
และทางบริษัทแจ้งว่าห้องครัวไม่ได้รับความเสียหาย
ซึ่งผมก็ไม่เข้าใจ เพราะน้ำท่วมทั้งบ้าน จะมีห้องหนึ่งไม่ได้รับความเสียหายจากโคลนและอุจจาระอย่างน้อยเรื่องสีของห้อง
ซึ่งแปลกแยกกว่าห้องที่ติดกันได้อย่างไร
โดยยังไงความคืบหน้าผมจะลงให้ทางสมาชิกและท่านที่ไม่ใช่สมาชิกของพันทิปได้ติดตามกันต่อไปครับผม
ขอบพระคุณมากครับ -/l\-
ปล.ต้องขออภัยทุกท่ายที่อาจจะอ่านยากไปมาก เพราะผมใช้มือถือพิมพ์ครับ ^ ^“
ประสบการณ์ต่อรอง บ.ประกันภัย บ้านโดนน้ำท่วมเกือบหมดตัวยังเอาชีวิตไม่รอด
ผมเป็นลูกค้าบริษัทประกันภัยยักษ์ใหญ่แห่งหนึ่ง
ซึ่งถ้าคนทั่วไปจะเห็นได้ว่าใช้ชื่อภาษาอังกฤษและชื่อภาษาไทยไม่ตรงกัน
ซึ่งบ้านผมได้ประสบอุทกภัยน้ำท่วม และ บ้านคือเป็นน้ำโคลน บวกกับ น้ำอุจจาระ จากบ่อส้วม ในบ้านหลังต่างๆ ในบริเวณนั้น
ขึ้นมาท่วมสูง 1.5ม. อยู่สองวัน จึงได้พาคุณพ่อคุณแม่นั่งเรือของทีมกู้ภัย ออกมาพบท่านนายกอบจ. ซึ่งได้รับการช่วยเหลือเป็นอย่างดี
จึงต้องขอขอบพระคุณท่านนายก และ ลูกชายมา ณ ที่นี้ด้วยครับ -/l\-
และพอบริษัทประกันภัยติดต่อมา
ก็ส่งน้องเข้ามาถ่ายรูป ซึ่งผมได้คุยกับน้อง น้องแจ้งว่าเพิ่งทำงานถ่ายรูปความเสียหายให้กับบริษัทนี้เป็นวันที่2ของชีวิต
ซึ่งน้องก็อัธยาศัยดี พูดจาดีมาก ขอชมเชยมา ณ ตรงนี้ครับ
แล้วพอทางหัวหน้าของน้อง ท่านนึงนี้ ที่แจ้งผมว่า จะได้รับการคุยกับหัวหน้าเคลม
ซึ่งทางหัวหน้าเคลมแจ้งผมว่า ได้ประเมินความเสียงหาย ของบ้านผม เป็นเงิน xx,xxx บาท
แล้วก็ได้แจ้งว่า ได้ประเมินไปทั้งหมด xxราย ประเมินไปแล้ว xx ราย
ซึ่งเป็นจำนวนเกือบทั้งหมด
แล้วไม่มีผู้เอาประกันรายไหนได้เกิน xx,xxxบาท
ซึ่งตัวเลขนี้ใกล้เคียงกับตัวเลขที่เสนอมาทางผมมา อย่างไม่น่าเชื่อ
ซึ่งตรงนี้ทางผม และ ทางท่านผู้อำนวยการ ของคปภ.ของจังหวัด
เห็นตรงกันว่า ไม่ควรแจ้งลูกค้าผู้เอาประกันแบบนี้
โดยผมเล็งเห็นว่าทางบริษัทนี้ได้มีเจตนา ล็อคจำนวนเงินเอาประกันของลูกค้า ไว้ที่ตัวเลขหนึ่งเลยใช่หรือไม่
(ซึ่งตัวเลขห่างไกลกับทางบริษัทออกแบบรับเหมาก่อสร้างอาคารที่ผมให้เขียนแบบซ่อมแซมที่ทางหัวหน้าเคลมของบริษัทเป็นผู้ขอ
และห่างไกลกับทางบริษัทผู้รับเหมา ซึ่งได้มาแวะเวียนมาดูบ้านผมและประเมินราคาเพื่อจะได้รับงานไปมาก
ตัวเลขห่างไกลกันมาก โดยที่ผมยังไม่ได้ใช้บริษัทที่ผมรู้จักเลย
ซึ่งผมก็ทำงานหลัก คือ งานในแวดวงอสังหาริมทรัพย์ ครอบคลุม4จังหวัดภาคเหนือตอนบน และทั่วประเทศไทย)
กลับมาที่การล็อคตัวเลขว่ามีการล็อคใช่หรือไม่
ผมมองว่าทางบริษัทไม่สนใจทุนประกันของลูกค้าก็คือ ผู้เอาประกันแต่ละท่าน ว่าเป็นเท่าไรใช่หรือไม่
ความเสียหายจริง จะเป็นเท่าไหร่ใช่หรือไม่
เป็นการไม่จริงใจต่อลูกค้าใช่หรือไม่ และปกป้องผลประโยชน์ของบริษัทใช่หรือไม่
และทางหัวหน้าเคลมท่านนี้ ได้ขอให้ผมเขียนแบบซ่อมแซมมายืนยันความเสียหาย
ซึ่งทางผม ได้จ้างบริษัทออกแบบรับเหมาก่อสร้างให้เขียนแบบซ่อมแซม ใช้เงินไปเกือบ 10,000 บาท
ก็ยังไม่ได้อะไรคืบหน้า เหมือนเสียเงินฟรี และ เหมือนเสียเงินสดที่อยู่ในกระเป๋า ที่สำคัญต่อชีวิตผม และ ครอบครัวในช่วงวิกฤตน้ำท่วม เป็นอย่างมากไปฟรีๆ
อย่างค่าทำความสะอาดทางบริษัทเสนอให้ผม15,000บาท ซึ่งผมไม่สามารถรอให้บ้านผมเปื้อนโคลนและอุจจาระได้ต่อไป
เพราะไม่สามารถให้เงินฉุกเฉินกับลูกค้าได้ ซึ่งผมก็เข้าใจเป็นอย่างดี
และยอมรับระเบียบของทางบริษัท ตัวผมจึงได้จ้างทีมมาทำความสะอาดจ่ายไปเรียบแล้วในราคา 45,xxxบาท
และปัจจุบันล่าสุด ทางบริษัทได้ลดค่าทำความสะอาด ที่จะให้ผม จาก 15,000บาท ที่ประเมินความเสียหายมาครั้งแรก
เป็นเหลือแค่ 8,500บาท ซึ่งกระทบกระเทือนต่อจิตใจ ของคนในครอบครัวผม เป็นอย่างมาก
ต่อจากนั้น ผมจึงได้โทรหาคอลเซนเตอร์ของบริษัท หาท่านเจ้าหน้าที่ที่เป็นผู้ดูแลเคส
และพูดคุยอย่างจริงใจว่า ผมเข้าใจว่าทางคุณต้องปกป้องผลประโยชน์ของบริษัท อย่างเต็มที่ ทางคุณซึ่งเป็นลูกจ้างของบริษัทถึงจะได้โบนัสเยอะ
การทำงานของพวกคุณเป็นแบบนี้ ผมเข้าใจถูกต้องไหมครับ
ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ของทางบริษัทที่ดูแลเคสนี้ท่านนี้ ก็ตอบว่า ใช่ครับ
ผมจึงให้เค้าเสนอตัวเลข ที่น้อยกว่า ทุนของกรมธรรม์ของผม ไปประมาณ 10%
เพื่อให้เป็นไปตามที่ได้คุยกับเจ้าหน้าที่ท่านนี้เบื้องต้น เค้าก็จะได้ผลงาน
ผมก็ยอมได้น้อยกว่าเงินประกันจริง ที่ควรจะได้ไปมากๆ
แต่เรื่องจะได้จบเร็วๆ ผมจะได้กลับไปดูแลครอบครัวและทำมาหากินต่อ
ทางท่านเจ้าหน้าที่ของทางบริษัทที่ดูแลเคสของผมก็ขอนำเรื่องนี้ไปให้ทางผู้ใหญ่พิจารณา
ซึ่งก็ไม่ทราบว่าได้เสนอท่านกรรมการผู้จัดการบริษัทไปจริงหรือไม่ และหลังจากรอคอยติดต่อกันมาเป็นเวลานานหลายสัปดาห์ หรืออาจจะเดือนกว่าๆผมจำไม่ได้แน่ชัด ทางบริษัทได้แจ้งตัวเลขประเมินความเสียหาย สูงขึ้นอีกนิดหน่อย เป็นสูงขึ้นประมาณ6ถึง 7% จากยอดเดิม
ซึ่งห่างไกลความเสียหายจริงมาก
และเจ้าหน้าที่ท่านนี้ของบริษัท ได้รับทราบว่าผมอาจจะนำเรื่องนี้ลงโซเชียล
เค้าจึงแจ้งว่าผมจะร้องสื่อใช่หรือไม่ ซึ่งผมจะไม่ทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่จึงไม่ต้องการร้องสื่อในเบื้องต้น
ซึ่งในความเห็นผม คือทุกกรณีพิพาทควรจะทำให้เล็กที่สุดก่อน ถ้าคุยกันไม่ได้ก็คงจะต้องใหญ่ขึ้น ทีละนิดๆ ตามลำดับขั้นตอน ของกระบวนการตามกฎหมาย
ผมจึงได้ขอทำการไกล่เกลี่ยกับทางบริษัท และผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่าทางคปภ.จะจัดหาผู้มีความรู้ความเชี่ยวชาญเกี่ยวกับการรับเหมาก่อสร้าง การรีโนเวทบ้าน และการซ่อมแซมบ้านน้ำท่วมจากโคลน ซึ่งมีประสบการณ์ในการประกอบอาชีพนี้จริง และทางผู้เจรจาจากทางบริษัท
จะมีเจ้าหน้าที่ที่มีความรู้ความสามารถและอยู่ในวงการอสังหาริมทรัพย์จริงๆ ไม่ใช่แค่ผู้ที่มีใบรับรองจากคปภ.แห่งประเทศไทย
เพื่อที่จะได้ตัวเลขที่เป็นธรรมกับทั้งทางผม และทางบริษัท
ปล. บ้านผมน้ำท่วมสูง1.5เมตร ทางบริษัทก็ยื่นการซ่อมแซมความเสียหายตรงนี้เป็นการทาสีสูง1.5เมตร
ซึ่งผมจะได้บ้านสีทูโทนในชั้นที่1ของบ้านผม
โดยไม่มีการฉีดฆ่าเชื้อโรคที่บ้านจมอุจจาระแต่อย่างใด
ซึ่งผมว่ามันก็คงสวยงามแบบแปลกๆ
และทางธนาคารเจ้าของสัญญาจำนองก็คงไม่ค่อยจะชอบสักเท่าไหร่ ที่มีบ้านที่มีชั้น1เป็นสีทูโทน
ซึ่งไม่มีบริษัทประกันไหนเลยที่จะเสนอลูกค้าแบบนี้
แบบว่าน้ำท่วมชั้น1 xxcm ก็ซ่อมสีแค่ XXcm
เพราะทางบริษัทอื่นได้ให้ลูกค้าทาสีใหม่ทั้งชั้น
และทางบริษัทแจ้งว่าห้องครัวไม่ได้รับความเสียหาย
ซึ่งผมก็ไม่เข้าใจ เพราะน้ำท่วมทั้งบ้าน จะมีห้องหนึ่งไม่ได้รับความเสียหายจากโคลนและอุจจาระอย่างน้อยเรื่องสีของห้อง
ซึ่งแปลกแยกกว่าห้องที่ติดกันได้อย่างไร
โดยยังไงความคืบหน้าผมจะลงให้ทางสมาชิกและท่านที่ไม่ใช่สมาชิกของพันทิปได้ติดตามกันต่อไปครับผม
ขอบพระคุณมากครับ -/l\-
ปล.ต้องขออภัยทุกท่ายที่อาจจะอ่านยากไปมาก เพราะผมใช้มือถือพิมพ์ครับ ^ ^“