2 สำนักสอนธรรมะแบบสุดโต่ง ที่ควรระวัง และหลีกให้ห่าง

หลักๆ มันมีอยู่ 2 สำนักที่สอนธรรมะแบบสุดโต่ง
สำนัก 1 เอาแต่คำพระพุทธเจ้า ไม่เอาคำสาวกทั้งหมด
สำนัก 2 เอาแค่คำพระพุทธเจ้า และคำสาวก หรือที่มีบันทึกในตำราเท่านั้น ไม่เอาคำพระสงฆ์หรือพระอริยะสงฆ์ในยุคปัจจุบัน

และสำนักอื่นๆ อีกมากมายที่ยึดตามแนวสำนักที่ 2

พฤติกรรมทั้ง 2 สำนัก และสำนักอื่นๆ ตามที่กล่าวด้านบน 
จะมีจุดร่วมกันคือชอบปรามาสพระสงฆ์หรือพระอริยะสงฆ์ในยุคปัจจุบัน
เพียงเพราะตนเองอ่านตำรามา แต่ก็ปฏิบัติธรรมไม่ถึงขั้น คือยังไม่บรรลุคุณวิเศษใดๆ เลยสักข้อ
ใช้แค่การคิดวิเคราห์ธรรมะจากสัญญาเพียงเท่านั้น จึงชอบเที่ยวไปกล่าวหาพระสงฆ์หรือพระอริยะสงฆ์ว่าท่านสอนผิด

ความจริงเพื่อความไม่ประมาท เราควรวางใจเป็นกลางๆ ไม่ควรไปตัดสินพระท่านว่าท่านสอนไม่ถูกต้องหรือสอนผิด
เพราะตัวเราก็ยังไม่ใช่ของจริงยังเข้าไม่ถึงธรรมชาติ

ผมพึ่งฟังหลวงพ่อชื่อดังองค์หนึ่ง สมัยภาวนาปฏิบัติธรรมใหม่ๆ
ท่านก็เคยคิดปรามาสหลวงพ่อฤาษี พอไปเจอหลวงปู่สิม
อยู่ๆ หลวงปู่สิมก็ทักขึ้นมาว่าอย่าไปดูถูกหลวงพ่อฤาษีนะ
พอหลวงพ่อองค์นี้ภาวนาเข้าใจแล้ว
โอ้ ต้องกราบหลวงพ่อฤาษีท่านเลย

ลองไปสังเกตุ FC ของ 2 สำนักนี้ และสำนักอื่นๆ ที่ยึดตามแนวสำนักที่ 2 นี้ดูก็ได้ว่าจริงอย่างที่ผมบอกไหม
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 3
"การปฏิบัติ เป็นเครื่องยังพระสัทธรรมให้บริสุทธิ์"

" .. ธรรมของพระคถาคต เมื่อเข้าประดิษฐานในสันดานของปุถุชนแล้ว
ย่อมกลายเป็นของปลอม(สัทธรรมปฏิรูป)ไป
แต่ถ้าเข้าไปประดิษฐานในจิตสันดานของพระอริยะเจ้าแล้วไซร์
ย่อมเป็นของบริสุทธิ์แท้จริงและเป็นของไม่ลบเลือนอีกด้วย

เพราะฉะนั้น เมื่อยังเพียรแต่เรียนพระปริยัติธรรมฝ่ายเดียว จึงยังใช้การไม่ได้ดี
ต่อเมื่อมาฝึกหัดปฏิบัติจิตใจ กำจัดเหล่ากะปอมก่า(กิ้งกา) คืออุปกิเลสแล้ว
นั้นแหละจึงจะยังประโยชน์ให้สำเร็จเต็มที่และทำให้พระสัทธรรมบริสุทธิ์
ไม่วิปลาสคลาดเคลื่อนจากหลักเดิมด้วย .. "

หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่