คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 101
ไหนๆ ขอเขียนเรื่องซึมเศร้านิดนึง
ในทางการแพทย์ มันจะมีเกณฑ์ในการวินิจฉัยอยู่ ว่าต้องมีอาการ อาการแสดง เข้าได้กี่ข้อในกี่ข้อ เป็นมาแล้วกี่เดือน ส่งผลกระทบด้านนู่นนี้ไหมอย่างไร
แต่ผมขอไม่ลงในนี้ เพราะจริงๆ แค่จำเกณฑ์ได้ ไปแจ้งหมอตามเกณฑ์ แสดงละครเก่งๆ ก็อาจเข้าตามเงื่อนไขการวินิจฉัยละ
ดังนั้นคนทั่วไปไม่ควรรู้เกณฑ์ทางการแพทย์
เห็น gen x, หรือ boomer (ให้เดา 555) หลายๆท่าน บอกว่า เดี๋ยวนี้อ้างซึมเศร้ากันเยอะ...
คือถ้ามีใบแพทย์จากจิตแพทย์ มันก็คือจริงละครับ ไม่ได้อ้างส่งเดช มันมีเกณฑ์ซับซ้อนช่วยกรองอยู่
และการเป็นมากขึ้น ในยุคนี้ก็ไม่แปลก ด้วยสังคมแบบ social มันทำให้เป็นกันง่ายขึ้น คนสมัยก่อน กินอิ่ม นอนหลับก็สุขละ เดี๋ยวนี้การมีอะไรมาเปรียบเทียบ มันทำให้ทุกข์ง่ายขึ้น ทั้งๆที่กินอิ่มนอนหลับ ... แต่เฮ้ย เพื่อนเรากำลังเที่ยวยุโรป กำลังมีรถหรู ความสุข simple มันเลยถูกมองข้ามอย่างไว
ให้เดาถ้าเป็น x หรือ boomer ก็คิดต่อ... แล้วไง ฉันเห็นคนอื่นทำแบบนั้น ฉันก็ยังเฉยๆ มันอยู่ที่คน...ฉันเห็นเพื่อนเที่ยวยุโรป กินแพง ก็ไม่เห็นต้องไปอยากทำแบบเขา...แล้วก็สมทบ เห็นช้างขี้อย่าขี้ตามช้าง.... ตามฉบับสุภาษิตที่ x กับ boomer ฮิตกัน 555
คุณอย่าลืม นั่นเพราะคุณผ่าน maturity ได้แล้ว แล้วเพิ่งมาเจอ social แต่คุณต้องคิดแบบเอาใจเขาใส่ใจเรา...นึกภาพตอนที่คุณยังเด็ก ยังวัยรุ่น แล้วต้องมาเห็น social ทำให้เกิดการเปรียบเทียบ การอยากมี อยากเป็นอย่างเขา การพยายามเข้าใจโลก เข้าใจตัวเอง มันยังไม่ mature พอ มันไม่ง่ายเท่าสมัยยุคพวกคุณแน่ครับ...
ขอดักทางหน่อย ผมพยายามเข้าใจมุมมองพวกคุณ โดยคิดผ่านสิ่งแวดล้อมสมัยพวกคุณ นั่นคือสิ่งที่พวกคุณไม่ค่อยคิดกันแบบนี้ครับ
ในทางการแพทย์ มันจะมีเกณฑ์ในการวินิจฉัยอยู่ ว่าต้องมีอาการ อาการแสดง เข้าได้กี่ข้อในกี่ข้อ เป็นมาแล้วกี่เดือน ส่งผลกระทบด้านนู่นนี้ไหมอย่างไร
แต่ผมขอไม่ลงในนี้ เพราะจริงๆ แค่จำเกณฑ์ได้ ไปแจ้งหมอตามเกณฑ์ แสดงละครเก่งๆ ก็อาจเข้าตามเงื่อนไขการวินิจฉัยละ
ดังนั้นคนทั่วไปไม่ควรรู้เกณฑ์ทางการแพทย์
เห็น gen x, หรือ boomer (ให้เดา 555) หลายๆท่าน บอกว่า เดี๋ยวนี้อ้างซึมเศร้ากันเยอะ...
คือถ้ามีใบแพทย์จากจิตแพทย์ มันก็คือจริงละครับ ไม่ได้อ้างส่งเดช มันมีเกณฑ์ซับซ้อนช่วยกรองอยู่
และการเป็นมากขึ้น ในยุคนี้ก็ไม่แปลก ด้วยสังคมแบบ social มันทำให้เป็นกันง่ายขึ้น คนสมัยก่อน กินอิ่ม นอนหลับก็สุขละ เดี๋ยวนี้การมีอะไรมาเปรียบเทียบ มันทำให้ทุกข์ง่ายขึ้น ทั้งๆที่กินอิ่มนอนหลับ ... แต่เฮ้ย เพื่อนเรากำลังเที่ยวยุโรป กำลังมีรถหรู ความสุข simple มันเลยถูกมองข้ามอย่างไว
ให้เดาถ้าเป็น x หรือ boomer ก็คิดต่อ... แล้วไง ฉันเห็นคนอื่นทำแบบนั้น ฉันก็ยังเฉยๆ มันอยู่ที่คน...ฉันเห็นเพื่อนเที่ยวยุโรป กินแพง ก็ไม่เห็นต้องไปอยากทำแบบเขา...แล้วก็สมทบ เห็นช้างขี้อย่าขี้ตามช้าง.... ตามฉบับสุภาษิตที่ x กับ boomer ฮิตกัน 555
คุณอย่าลืม นั่นเพราะคุณผ่าน maturity ได้แล้ว แล้วเพิ่งมาเจอ social แต่คุณต้องคิดแบบเอาใจเขาใส่ใจเรา...นึกภาพตอนที่คุณยังเด็ก ยังวัยรุ่น แล้วต้องมาเห็น social ทำให้เกิดการเปรียบเทียบ การอยากมี อยากเป็นอย่างเขา การพยายามเข้าใจโลก เข้าใจตัวเอง มันยังไม่ mature พอ มันไม่ง่ายเท่าสมัยยุคพวกคุณแน่ครับ...
ขอดักทางหน่อย ผมพยายามเข้าใจมุมมองพวกคุณ โดยคิดผ่านสิ่งแวดล้อมสมัยพวกคุณ นั่นคือสิ่งที่พวกคุณไม่ค่อยคิดกันแบบนี้ครับ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 93
ข่าวเภสัชกรคนนี้เหรอคะ?
https://www.facebook.com/watch/?v=1374431646724843
เราเห็นใจเจ้านายนะคะ
การทำงาน ต่างจากการเป็นฮ่องเต้ในบ้านในโรงเรียน ... ที่ทำงานไม่ใช่มูลนิธิการกุศล
ยุคนี้50%หงายการ์ดซึมเศร้าทั้งนั้น ... ซึ่งก็ซึมเศร้ากันทั้งโลกนั่นแหล่ะ โลกมันงี่เง่าขึ้นเรื่อยๆ
โซเชียลบรรลัยยิ่งกว่าโลกจริง ซึ่งโลกโซเชียลนี่แหล่ะที่บิดเบือนจนทัศนคติพินาศลามมาสู่โลกจริง
GenY GenZ บอบบางจริงๆ 50%หงายการ์ดซึมเศร้าแน่นอน
ถ้ามีคนนึงใช้อภิสิทธิ์ มีข้ออ้างพิเศษ หัวหน้าจะปกครองจัดการคนทั้งหมดไม่ได้เลย
ซึ่งรุ่นหลังๆ เกิดมาแบบ Child center ... คิดว่าเป็นศูนย์กลางจักรวาล จริงๆนะ
งานมันต้องลงเวร ถ้าคุณไม่ลง ก็ต้องมีคนอื่นลง
.. จริงอยู่ว่าคุณขายเวร แต่คนอื่นก็ต้องโหลดแทน
ถ้ามันครั้งเดียวนานๆครั้งเพราะติดธุระ ก็OK (เราเชื่อว่าบ่อยแน่ ซึ่งมันข้ามหัวนายที่จัดตาราง)
ถ้าคุณไม่พร้อม ... คุณลาออกไปทำงานในแบบที่คุณพร้อม ก็ถูกต้องแล้ว
เค้าก็เสนอให้ลงคลัง ไม่ต้องลงเวร .... แต่เภสัชกรตั้งใจเอาชนะเจ้านาย ด้วยการตุย
การฆ่าตัวตาย ส่วนใหญ่เกิดจากการเอาชนะคนที่อยู่ข้างหลัง
(เอาชนะมีหลายแนว ทั้งประชด ทำให้จดจำ ทำให้รู้สึกผิด ทำให้โดนสังคมลงโทษ ฯลฯ)
ส่วนน้อยที่ดิ่งสิ้นหวังจริงๆ
ซึ่งเคสนี้ชัดเจนในข้อความทิ้งท้ายว่า "ตั้งใจเหวี่ยงไปที่ เจ้านาย" (คือการเอาชนะชัดเจน)
https://www.facebook.com/watch/?v=1374431646724843
เราเห็นใจเจ้านายนะคะ
การทำงาน ต่างจากการเป็นฮ่องเต้ในบ้านในโรงเรียน ... ที่ทำงานไม่ใช่มูลนิธิการกุศล
ยุคนี้50%หงายการ์ดซึมเศร้าทั้งนั้น ... ซึ่งก็ซึมเศร้ากันทั้งโลกนั่นแหล่ะ โลกมันงี่เง่าขึ้นเรื่อยๆ
โซเชียลบรรลัยยิ่งกว่าโลกจริง ซึ่งโลกโซเชียลนี่แหล่ะที่บิดเบือนจนทัศนคติพินาศลามมาสู่โลกจริง
GenY GenZ บอบบางจริงๆ 50%หงายการ์ดซึมเศร้าแน่นอน
ถ้ามีคนนึงใช้อภิสิทธิ์ มีข้ออ้างพิเศษ หัวหน้าจะปกครองจัดการคนทั้งหมดไม่ได้เลย
ซึ่งรุ่นหลังๆ เกิดมาแบบ Child center ... คิดว่าเป็นศูนย์กลางจักรวาล จริงๆนะ
งานมันต้องลงเวร ถ้าคุณไม่ลง ก็ต้องมีคนอื่นลง
.. จริงอยู่ว่าคุณขายเวร แต่คนอื่นก็ต้องโหลดแทน
ถ้ามันครั้งเดียวนานๆครั้งเพราะติดธุระ ก็OK (เราเชื่อว่าบ่อยแน่ ซึ่งมันข้ามหัวนายที่จัดตาราง)
ถ้าคุณไม่พร้อม ... คุณลาออกไปทำงานในแบบที่คุณพร้อม ก็ถูกต้องแล้ว
เค้าก็เสนอให้ลงคลัง ไม่ต้องลงเวร .... แต่เภสัชกรตั้งใจเอาชนะเจ้านาย ด้วยการตุย
การฆ่าตัวตาย ส่วนใหญ่เกิดจากการเอาชนะคนที่อยู่ข้างหลัง
(เอาชนะมีหลายแนว ทั้งประชด ทำให้จดจำ ทำให้รู้สึกผิด ทำให้โดนสังคมลงโทษ ฯลฯ)
ส่วนน้อยที่ดิ่งสิ้นหวังจริงๆ
ซึ่งเคสนี้ชัดเจนในข้อความทิ้งท้ายว่า "ตั้งใจเหวี่ยงไปที่ เจ้านาย" (คือการเอาชนะชัดเจน)
ความคิดเห็นที่ 84
คนที่เข้าข้าง เภสัชผู้ตาย ต้องลดการเอาตัวเองเป็นศูนย์กลางจักรวาล
การที่ทำให้ หัวหน้า ไม่พอใจ คือ อะไร ..
หัวหน้าคือผู้ได้รับการยอมรับจากองค์กร โปรโมตให้เป็นผู้นำทีม
เขามีดุลพินิจดีกว่า พนักงานทั่วไป เขามีความฉลาดพอในการกำหนดเวร
และลูกน้องไม่มีสิทธิไปปรับอะไรเอง ตามอำเภอใจ แม้จะอ้างว่าคุยกับพนักงานคนอื่นแล้ว
ถ้าเห็นว่า ดุลพินิจของคนที่เป็นหัวหน้าคนนี้ไม่ดี การจัดเวรไม่เป็นธรรม
ก็เพียงร้องเรียนไปยังหัวหน้าที่สูงกว่า พร้อมแจ้งไปถึงฝ่ายบุคคลเพื่อทำการสอบสวน
จิตใจ จะอ่อนไหวแค่ไหน เอะอ้างว่าซึมเศร้าหรือเปล่า ไม่ใช่เรื่องสำคัญเลย
คนยุคนี้ชอบเอา "เป็นซึมเศร้า" มาเป็นเกราะพอๆ กับคำว่า "รู้เท่าไม่ถึงการณ์"
คนทั้งโลกนี้ต้องเผื่อใจ และโอ๋เอาใจ คนซึมเศร้า และให้อภัย คนรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ไปอีกถึงเมื่อไหร่
หัวหน้าก็พูดชัดดี ต่อหน้าแชททุกคน จะได้ไม่มีการเอาไปใส่สีตีไข่กันทีหลัง
ใครทำไม่ได้ ก็ลองหางานใหม่ เพราะโรงพบาบาลมันยุบไม่ได้ ฝ่ายเภสัชมันหยุดจ่ายยาไม่ได้
และย้อนกลับไปข้างบน ลูกน้องพนักงานทั่วไป จะเปลี่ยนเวรกันเอง แลกขายกันเองไม่ปรึกษาหัวหน้า
(ยิ่งในกลุ่มเล็กๆ ) ไม่ได้ ถ้าอิสระเสรีขนาดนั้น ใครจะรับประกันคุณภาพงาน เวิร์คโหลด
ควงกะจนเบลอแล้วจ่ายยาผิดล่ะ
หัวหน้าไม่ได้แค่พูดลอยๆ ว่าให้หางานใหม่
เขาแนะนำให้หมด ว่า เปลี่ยนแผนกไหน ไปทำออฟฟิซ หรือ ไปร้านขายยาแทนไหม
เภสัชมันไม่ได้ สิ้นไร้ที่ทำงานขนาดนั้น
อีโก้คนตาย แถม ยังจิตอ่อน มองคนอื่นเป็นลบไปหมด ..
สงสารหัวหน้าจริงๆ
การที่ทำให้ หัวหน้า ไม่พอใจ คือ อะไร ..
หัวหน้าคือผู้ได้รับการยอมรับจากองค์กร โปรโมตให้เป็นผู้นำทีม
เขามีดุลพินิจดีกว่า พนักงานทั่วไป เขามีความฉลาดพอในการกำหนดเวร
และลูกน้องไม่มีสิทธิไปปรับอะไรเอง ตามอำเภอใจ แม้จะอ้างว่าคุยกับพนักงานคนอื่นแล้ว
ถ้าเห็นว่า ดุลพินิจของคนที่เป็นหัวหน้าคนนี้ไม่ดี การจัดเวรไม่เป็นธรรม
ก็เพียงร้องเรียนไปยังหัวหน้าที่สูงกว่า พร้อมแจ้งไปถึงฝ่ายบุคคลเพื่อทำการสอบสวน
จิตใจ จะอ่อนไหวแค่ไหน เอะอ้างว่าซึมเศร้าหรือเปล่า ไม่ใช่เรื่องสำคัญเลย
คนยุคนี้ชอบเอา "เป็นซึมเศร้า" มาเป็นเกราะพอๆ กับคำว่า "รู้เท่าไม่ถึงการณ์"
คนทั้งโลกนี้ต้องเผื่อใจ และโอ๋เอาใจ คนซึมเศร้า และให้อภัย คนรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ไปอีกถึงเมื่อไหร่
หัวหน้าก็พูดชัดดี ต่อหน้าแชททุกคน จะได้ไม่มีการเอาไปใส่สีตีไข่กันทีหลัง
ใครทำไม่ได้ ก็ลองหางานใหม่ เพราะโรงพบาบาลมันยุบไม่ได้ ฝ่ายเภสัชมันหยุดจ่ายยาไม่ได้
และย้อนกลับไปข้างบน ลูกน้องพนักงานทั่วไป จะเปลี่ยนเวรกันเอง แลกขายกันเองไม่ปรึกษาหัวหน้า
(ยิ่งในกลุ่มเล็กๆ ) ไม่ได้ ถ้าอิสระเสรีขนาดนั้น ใครจะรับประกันคุณภาพงาน เวิร์คโหลด
ควงกะจนเบลอแล้วจ่ายยาผิดล่ะ
หัวหน้าไม่ได้แค่พูดลอยๆ ว่าให้หางานใหม่
เขาแนะนำให้หมด ว่า เปลี่ยนแผนกไหน ไปทำออฟฟิซ หรือ ไปร้านขายยาแทนไหม
เภสัชมันไม่ได้ สิ้นไร้ที่ทำงานขนาดนั้น
อีโก้คนตาย แถม ยังจิตอ่อน มองคนอื่นเป็นลบไปหมด ..
สงสารหัวหน้าจริงๆ
ความคิดเห็นที่ 47
ที่ต่างประเทศบอกให้ลูกน้องลาออกคือผิดกฎหมายนะ ถือว่า Bullying และ Constructive dismissal (การเลิกจ้างที่ไม่เป็นธรรม) อยากให้เคสนี้ครอบครัวฟ้องร้องมากๆ
ถ้าทำอะไรผิดจริงๆก็ควรจะมีการตักเตือนโดยให้ HR เข้ามาประชุมร่วมและมีจดหมายเตือน ไม่ใช่ทำให้เกิดสภาพแวดล้อมในการทำงานเป็นพิษขนาดนี้ แค่เห็นตัวอย่างแชตก็ไม่ไหวแล้ว
ถ้าทำอะไรผิดจริงๆก็ควรจะมีการตักเตือนโดยให้ HR เข้ามาประชุมร่วมและมีจดหมายเตือน ไม่ใช่ทำให้เกิดสภาพแวดล้อมในการทำงานเป็นพิษขนาดนี้ แค่เห็นตัวอย่างแชตก็ไม่ไหวแล้ว
ความคิดเห็นที่ 2
เขียนในฐานะเป็นหัวหน้าเหมือนกัน
1. ลูกน้องไม่ทำโอที ปกติโรงงานจะทำโอทีแทบทุกวัน ถ้ามีคนไม่ทำ คนอื่นจะเอาเป็นเยี่ยงย่าง ทำไมคนโน้นไม่ทำโอทีแล้วอนุญาต เพราะอย่างนั้นคนที่ไม่ทำโอที บ่อย ๆ จะแนะนำให้เปลี่ยนแผนกถ้าทำได้ หรือให้ลาออกไปอยู่บริษัทอื่นที่ไม่มีโอทีไปเลยพูดเชิงแนะนำเพราะมันดีกับทุกฝ่าย บริษัทเราทำโอทีประจำมีรายได้ให้กับพนักงาน คนไม่ชอบทำก็ควรไปอยู่บริษัทที่เค้าไม่มีโอที เพราะอยู่ต่อไปมันก็ถ่วงคนอื่นเป็นภาระกับหัวหน้างาน
1.1 แต่เคสที่ไม่ทำโอทีบ่อยมาก เคสนี้จะถูกเสนอเบื้องบน ให้สั่งลงมาให้บีบให้ลาออกไป ซึ่งเคยโดนกันหลายรายแล้ว
2. ลางานบ่อยมาก ธุระเยอะจัด มันก็เหมือนข้อแรก คือแนะนำให้ไปอยู่บริษัทอื่น เพราะมันเป็นภาระกับเพื่อนร่วมงานหรือหัวหน้า ทุกคนจะเหนื่อยยิ่งขึ้นและพาทีมไม่อยากทำงาน เพราะต้องเหนื่อยกับคนที่ลางาน เหมือนเคสเร็ว ๆ นี้ ที่เภสัชฆ่าตัวตายเพราะว่าต้องหาแลกเวรกับคนอื่นนั่นละ ผมเป็นหัวหน้าก็จะแนะนำไปแบบนี้เหมือนกัน
1. ลูกน้องไม่ทำโอที ปกติโรงงานจะทำโอทีแทบทุกวัน ถ้ามีคนไม่ทำ คนอื่นจะเอาเป็นเยี่ยงย่าง ทำไมคนโน้นไม่ทำโอทีแล้วอนุญาต เพราะอย่างนั้นคนที่ไม่ทำโอที บ่อย ๆ จะแนะนำให้เปลี่ยนแผนกถ้าทำได้ หรือให้ลาออกไปอยู่บริษัทอื่นที่ไม่มีโอทีไปเลยพูดเชิงแนะนำเพราะมันดีกับทุกฝ่าย บริษัทเราทำโอทีประจำมีรายได้ให้กับพนักงาน คนไม่ชอบทำก็ควรไปอยู่บริษัทที่เค้าไม่มีโอที เพราะอยู่ต่อไปมันก็ถ่วงคนอื่นเป็นภาระกับหัวหน้างาน
1.1 แต่เคสที่ไม่ทำโอทีบ่อยมาก เคสนี้จะถูกเสนอเบื้องบน ให้สั่งลงมาให้บีบให้ลาออกไป ซึ่งเคยโดนกันหลายรายแล้ว
2. ลางานบ่อยมาก ธุระเยอะจัด มันก็เหมือนข้อแรก คือแนะนำให้ไปอยู่บริษัทอื่น เพราะมันเป็นภาระกับเพื่อนร่วมงานหรือหัวหน้า ทุกคนจะเหนื่อยยิ่งขึ้นและพาทีมไม่อยากทำงาน เพราะต้องเหนื่อยกับคนที่ลางาน เหมือนเคสเร็ว ๆ นี้ ที่เภสัชฆ่าตัวตายเพราะว่าต้องหาแลกเวรกับคนอื่นนั่นละ ผมเป็นหัวหน้าก็จะแนะนำไปแบบนี้เหมือนกัน
แสดงความคิดเห็น
เห็นดราม่า เรื่องหัวหน้าแนะนำให้ลูกน้องลาออก หวังดีอยากให้เปลี่ยนงาน เจตนามันจริงอย่างที่บอกไหม ทำไมรู้สึกตะหงิดๆ
ก็เสนอว่าลาออกไหม ดีกว่านะ เป็นเชิงแนะนำจริงๆ ไม่ได้จะว่า ไม่ได้จะติเตียนอะไร
ถ้าลาออก ประวัติ ก็ไม่เสีย จะได้ไม่ต้องทนเป็นลูกน้องตนด้วย
ปกติคนแนะนำแบบนี้ เขาหวังดีจริงเหรอครับ
ทำไมที่ผ่านมา หัวหน้าที่ผมเจอ เวลาทำผิด เขาจะ พูดโฟกัสกับการแก้ปัญหาเนื้องาน การจะพูดคำว่าลาออกเถอะ มันยากมากเลยนะ เท่าที่เห็นมีแต่ใช้คำว่าพี่อาจต้องจับตาดูนิดนึงนะ หรืออะไรที่เป็นเชิงเข้มงวดขึ้น
และคำว่าลาออกเถอะ ผมว่ามันยากมากเลยนะ เป็นคำที่หัวหน้ารู้สึกกระดากปาก ไม่ค่อยกล้าพูดกัน
แต่ในดราม่า พูดคำนี้บ่อยมากๆ
ส่วนตัวรู้สึกเหมือนเป็นการ gas lighting เลยแฮะ