ความอุ่นใจของ AIS และคราบน้ำตาของลูกค้า: ทำแบบนี้ชีวิตงดงามใช่ไหม?

ล่าสุดมีปัญหากับการคิดค่าบริการของ AIS เพราะมันเกินไปกว่าที่ตัวเองได้ใช้บริการจริง

1. ผมลองกดเข้าไปดูรายละเอียดใน App และคุยกับอุ่นใจ ปรากฏว่า ไม่มีช่องทางให้แจ้งเรื่อง

2. ผมโทรหาคอลเซ็นเตอร์ เจอ AI คุยกันคนละเรื่องเช่นกัน

3. ผมส่งข้อความไปในกล่องข้อความ pantip พนักงานโทรกลับมา พูดไป 3 นาทีก็ยังไม่เข้าประเด็น ตอนตอบข้อความก็เหมือนกัน ตอบมาเป็นหน้า แต่ไม่เกี่ยวกับที่ถาม

ผมก็เลยวางสาย แล้วก็จะจ่ายค่าบริการไป 

สิ่งที่น่าคิดคือ AIS เป็นแบรนด์ที่อุ่นใจ (บริษัทพูดเอง) แต่ใครกันล่ะที่อุ่นใจ ผู้บริหารหรือเปล่า? ผู้บริหารที่ออกแบบระบบนี้ เกือบ 1 ชม.ยังแก้ปัญหาให้ลูกค้าไม่ได้ มันอุ่นใจที่นโยบายมีความก้าวหน้า มี AI เข้ามาช่วย ดูทันสมัย 

แต่ลืมไปว่า ในความทันสมัยนี้ มีคราบน้ำตา ความตึงเครียดของลูกค้าอยู่ ติดต่อไปก็ไม่ได้เรื่องไม่ได้ราว เกือบชั่วโมง ไม่มีอะไรดีขึ้นเลย

ถ้าเราบริหารแบบนี้ ชีวิตเราดีขึ้นไหมครับ เราอาจจะมีเงินมากขึ้น มีเงินเดือนมากขึ้น (เงินแบบไหน เงินจากน้ำตาลูกค้าไหมครับ) แต่จิตใจเราล่ะคับ? เราใจร้ายกับลูกค้ามากขึ้น เราไม่แคร์คนอื่นมากขึ้น ชีวิตที่รวยแต่ใจร้ายกับคนอื่นสามารถมองหน้าลูกตัวเองไหมครับ เราจะตอบลูกที่เราพาไปโรงเรียนยังไงครับว่า ทำไมแม่จึงใจร้ายกับคนอื่น แม่แค่อยากมีเงินหรอ?

ผมคิดว่า ลูกค้าคนอื่นก็เจอเรื่องแบบนี้ น่าคิดว่าผู้บริหารทนเห็นน้ำตาลูกค้าได้อย่างไร แล้วใช้ pantip เป็นสถานที่ให้ลูกค้าตัวเองติดต่อมาเพื่อแก้ปัญหาได้อย่างไร

ชีวิตที่ไม่ใจร้ายกับคนอื่น ก็รวยได้ ก้าวหน้าในหน้าที่การงานได้ ไม่เห็นต้องทำแบบนี้เลย
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่