JJNY : ยันฟ้องคนกล่าวหาเป็นพวก BRN วางบึ้ม│การรู้หนังสือในSEA ไทยรั้งท้าย│เตือนอุณหภูมิลดฝนถล่ม│รายได้การคลังจีน Q3 ลดลง

อมรัตน์ ลั่นเกินเลยไปมาก! พรรคประชาชน ยันฟ้องคนกล่าวหาเป็นพวก BRN วางบึ้ม
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_9478316

 
อมรัตน์ ลั่นเกินเลยไปมาก! พรรคประชาชน ยันฟ้องคนกล่าวหาเป็นพวก BRN เกี่ยวข้องสั่งวางระเบิด ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภายใต้
 
วันที่ 27 ต.ค. 2567 นางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ได้โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า 
 
ครั้งนี้มันเกินเลยไปมาก พรรคประชาชนยืนยันจะฟ้องร้องผู้ไปบิดเบือนว่าพรรคเป็นพวก BRN เกี่ยวข้องกับการสั่งระเบิด”
 
ทำให้มีแฟนคลับเข้ามาเห็นด้วยจำนวนมาก เช่น “การให้ร้ายพรรคการเมือง ต้องดำเนินการตามกฎหมายโดยเด็ดขาด สมาชิกพรรคก็ถือเป็นผู้มีส่วนได้เสีย….แจ้งความดำเนินคดีต่อพนักงานสอบสวน 1 สมาชิกก็ 1 คดีทั่วไทย
“รักษาปกป้องสิทธิ์ตัวเองครับ คุณคือตัวแทนประชาชน..การใส่ร้ายต่างๆ ที่สร้างความเสื่อมเสีย ต้องไม่ปล่อยให้ลอยนวล”
“ต้องแยกให้ออกระหว่างวิจารณ์โดยสุจริตกับหมิ่นประมาท กล่าวหาเป็น BRN บงการวางระเบิดไม่ใช่การวิจารณ์แล้ว แต่เป็นการใส่ร้าย ต้องฟ้องให้เข็ด”
  
โดยก่อนหน้านี้มีเพจเฟซบุ๊กต่างๆ และชาวเน็ตจำนวนมากได้แสดงความคิดเห็นผ่านแพลตฟอร์มต่างๆ ว่า พรรคประชาชนให้การสนับสนุนกลุ่ม BRN และต้องการแบ่งแยกดินแดน เช่น
 
“มันไปยุแยงทุกภาคของไทย พยายามก่อให้เกิดการขอแยกแผ่นดิน มันเป็นพฤติกรรมที่เห็นชัดเจน แล้วจะไม่ให้สงสัยในเรื่อง BRN ได้อย่างไร การกระทำมันส่อเจตนาอยู่นะ ไม่ให้คิดอย่างนั้นไม่ใช่ออกมาฟ้องเขา การต่อสู้ก็จะยกหลักฐานที่เห็นและเรียกเอกสารของพรรคออกมาพิจารณาด้วย”
 
“ตั้งแต่ไปหนุน BRN ความนิยมเริ่มดิ่งเหว เลยตาเหลือก”, “คนที่เลือกพรรคประชาชนพม่าพวกนี้สมรู้ร่วมคิดกันเพื่อจะแบ่งแยกแผ่นดินไทยสนับสนุน brn สนับสนุนพม่าคนพวกนี้แหละคือกบฏของแผ่นดินนี้”

https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=pfbid0mGm7hSKjzY6mk8fQpykgaxFWXSRaHTsXY8WTMXBSJP7ku7EN32GbsikWGFtBxSHXl&id=100054162881442



เปิดอันดับการรู้หนังสือในทวีป SEA ไทยรั้งท้าย แต่ยังนำเมียนมา และกัมพูชา
https://www.bangkokbiznews.com/environment/1150883
  
ความไม่เท่าเทียมในอัตราการรู้หนังสือทำให้เกิดการแบ่งแยกอย่างมาก ผู้ที่ไม่มีทักษะการรู้หนังสือมักจะติดอยู่ในงานที่ได้รับค่าตอบแทนต่ำและพลาดโอกาสทางการศึกษาและสังคม
 
ความสามารถในการอ่านออกและเขียนได้ (Literacy) ถือเป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุดในการกำหนดเส้นทางอาชีพของบุคคล เพราะผู้ที่อ่านและเขียนได้มีทางเลือกในการทำงานมากมาย โดยเฉพาะอาชีพที่ต้องใช้ทักษะสูงและมีรายได้สูง ในทางตรงข้ามสำหรับผู้ที่อ่านและเขียนไม่ได้ ทางเลือกนั้นมีจำกัดมาก แม้แต่การหางานที่ไม่ต้องใช้ทักษะและมีค่าจ้างขั้นต่ำก็ยังหาได้ยาก
 
จากข้อมูล Literacy Rate by Country 2024 ของ World Population Review ระบุว่า อัตราการรู้หนังสือของคนที่อายุ 15 ปีขึ้นไป ในแต่ละประเทศมีความแตกต่างอย่างมาก โดยในประเทศที่พัฒนาแล้วมีอัตราการรู้หนังสือที่ 96% ขึ้นไป ในทางตรงกันข้าม ประเทศที่พัฒนาน้อยที่สุดมีอัตราการรู้หนังสือเฉลี่ยเพียง 65%
 
ความยากจนและการไม่รู้หนังสือมักจะมาคู่กัน การเข้าถึงการศึกษาในพื้นที่ยากจนมักมีน้อยกว่า ยิ่งไปกว่านั้น ครอบครัวที่ยากจนอาจต้องการให้ลูกๆ ทำงานและหาเงินแทนที่จะไปโรงเรียน ประเทศที่มีอัตราการรู้หนังสือต่ำที่สุดส่วนใหญ่ตั้งอยู่ในเอเชียใต้ เอเชียตะวันตก และแอฟริกาใต้สะฮารา ซึ่งเป็นภูมิภาคที่รวมถึงประเทศที่ยากจนที่สุดในโลกส่วนใหญ่
 
ยังมีช่องว่างระหว่างเพศในการรู้หนังสืออีกด้วย โดยในจำนวนผู้ใหญ่ประมาณ 781 ล้านคนทั่วโลกที่อ่านหรือเขียนหนังสือไม่ได้ เกือบสองในสามเป็นผู้หญิง ความแตกต่างนี้เห็นได้ชัดโดยเฉพาะในประเทศที่พัฒนาน้อยกว่า ซึ่งผู้หญิงมักถูกคาดหวังให้อยู่บ้านและดูแลบ้านและลูกๆ ในขณะที่ผู้ชายออกไปทำงาน ประเทศที่พัฒนาแล้วของโลกมีอัตราการรู้หนังสือสูงกว่ามาก โดยมีช่องว่างระหว่างเพศน้อยกว่า 
 
อันดับการรู้หนังสือในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ภาพรวมที่ครอบคลุมอัตราการรู้หนังสือในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้รับการปรับปรุงอย่างมีนัยสำคัญตลอดหลายปีที่ผ่านมา ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของภูมิภาคต่อการศึกษาและการพัฒนา ข้อมูลจากธนาคารโลกระบุอัตราการรู้หนังสือในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ดังนี้
• บรูไน : 98% (ข้อมูลปี 2021)
• สิงคโปร์ : 98% (ข้อมูลปี 2021)
• เวียดนาม : 96% (ข้อมูลปี 2022)
• ฟิลิปปินส์ : 98% (ข้อมูลปี 2020)
• อินโดนีเซีย : 96% (ข้อมูลปี 2020)
• มาเลเซีย : 96% (ข้อมูลปี 2022)
• ไทย : 91% (ข้อมูลปี 2022)
• เมียนมาร์ : 89.1% (ข้อมูลปี 2019)
• กัมพูชา : 84% (ข้อมูลปี 2022)
• ลาว : 88% (ข้อมูลปี 2022)
• ติมอร์-เลสเต : 70% (ข้อมูลปี 2020)
 
หมายเหตุ : การเปรียบเทียบความสามารถในการอ่านออกเขียนได้แบบประเทศต่อประเทศเป็นแบบประมาณการ สาเหตุหลักมาจากปัจจัย 2 ประการ ได้แก่ ประเทศต่างๆ ไม่ได้รายงานความสามารถในการอ่านออกเขียนได้ทุกปี และหลายประเทศมีคำจำกัดความที่ไม่ตรงกันว่าอะไรคือความสามารถในการอ่านออกเขียนได้
 
การจัดอันดับนี้ไม่เพียงแต่สะท้อนถึงสถานะปัจจุบันของการรู้หนังสือในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เท่านั้น แต่ยังเน้นย้ำถึงความสำคัญของการลงทุนด้านการศึกษาอย่างต่อเนื่องเพื่อให้แน่ใจว่าทุกคนมีโอกาสพัฒนาทักษะการอ่านและการเขียน ในขณะที่ภูมิภาคนี้เติบโตและพัฒนาต่อไป การเน้นที่การศึกษาจะเป็นสิ่งสำคัญในการสร้างประชากรที่รู้หนังสือและได้รับข้อมูลมากขึ้น
 
ประเทศที่มีคนรู้หนังสือมากที่สุดในโลก
• ยูเครน 100%
• อุซเบกิสถาน 100%
• เกาหลีเหนือ 100%
• คาซัคสถาน 100%
• อาเซอร์ไบจาน 100%
• ฟินแลนด์ 100%
• นอร์เวย์ 100%
• จอร์เจีย 100%
• ลักเซมเบิร์ก 100%
• กวม 100%
 
10 ประเทศที่มีคนรู้หนังสือน้อยที่สุดในโลก
• ชาด 27%
• มาลี 31%
• ซูดานใต้ 34.5%
• อัฟกานิสถาน 37.3%
• สาธารณรัฐแอฟริกากลาง 37.5%
• ไนเจอร์ 38%
โซมาเลีย 41%
• กินี 45.3%
• บูร์กินาฟาโซ 46%
• เบนิน 47%
 
ที่มา : World BankWorld Population Review



สภาพอากาศวันนี้ กรมอุตุฯ เตือน อุณหภูมิลด ฝนถล่มหนัก 26 จังหวัด
https://www.khaosod.co.th/breaking-news/news_9478432

สภาพอากาศวันนี้ กรมอุตุฯ เตือน อุณหภูมิลดลง ฝนฟ้าคะนอง ถล่มหนัก 26 จังหวัด กทม.โดนด้วย ระวังอันตราย น้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก

วันที่ 28 ต.ค.2567 กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ภาคเหนือตอนบนและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนมีอากาศเย็นในตอนเช้า อุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียสแต่ยังคงฝนตกหนักบางแห่งบริเวณทางด้านตะวันออกของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนอง ฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม รวมทั้งดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลงไว้ด้วย

ทั้งนี้ เนื่องจากบริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นระลอกใหม่จากประเทศจีนได้แผ่ปกคลุมถึงภาคเหนือตอนบนและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนแล้ว ในขณะที่พายุโซนร้อน “จ่ามี” เคลื่อนที่ไปปกคลุมบริเวณชายฝั่งประเทศเวียดนามตอนกลาง

สำหรับลมตะวันตกและลมตะวันตกเฉียงเหนือพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย ทำให้ภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักไว้ด้วย

ส่วนคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนล่างมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือในบริเวณดังกล่าวเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง

พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06.00 น.วันนี้ ถึงเวลา 06.00 น.วันพรุ่งนี้
ภาคเหนือ อากาศเย็นในตอนเช้า อุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียสทางตอนบนของภาค โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดตาก พิษณุโลก และเพชรบูรณ์ อุณหภูมิต่ำสุด 20-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-36 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อากาศเย็นในตอนเช้า อุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศาเซลเซียสทางตอนบนของภาค โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดมุกดาหาร อำนาจเจริญ และอุบลราชธานี อุณหภูมิต่ำสุด 19-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28-34 องศาเซลเซียส ลมเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

ภาคกลาง มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 20 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดกาญจนบุรี นครปฐม ราชบุรี สมุทรสงคราม และสมุทรสาคร อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-36 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.

ภาคตะวันออก มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

ภาคใต้(ฝั่งตะวันออก) มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดสุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

ภาคใต้(ฝั่งตะวันตก) มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส

ตั้งแต่จังหวัดภูเก็ตขึ้นมา : ลมตะวันตกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ตั้งแต่จังหวัดกระบี่ลงไป : ลมตะวันตกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

กรุงเทพและปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 30 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 26-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่