กลับมาอีกครั้งกับการเดินทางครั้งใหม่ ด้วยการเก็บตกกับประเทศที่เคยไปมาแล้วอย่างฝรั่งเศสและสวิตเซอร์แลนด์ด้วยบางสถานที่อยากจะไปเก็บ(ตก)ให้ครบในแบบฉบับมันทุกเม็ด สำหรับฝรั่งเศสก็เก็บตกในกรุงปารีสแบบที่ 7 ปีที่ผ่านมาได้พลาดไป (
https://ppantip.com/topic/37061176)และรอบๆวิหาร Mont-Saint-Michel แบบ Onde Day Trip จากปารีส ส่วนสวิตเซอร์แลนด์หลักๆก็คือการไปชม Matterhon ให้เห็นเต็มตาและเต็มตัว เนื่องจาก 2 ปีที่ผ่านมา (
https://ppantip.com/topic/41707056) ได้ไปเยี่ยมชม Zermatt แบบครึ่งวันคิดว่าไม่คุ้มค่าเท่าที่ควร Matterhorn ถูกเมฆลักพาตัวไปในส่วนยอดทำให้ไม่เห็นเต็มตัว และได้ไปเยี่ยมชมในส่วนของ Murren และ Ebenalp เล็กๆน้อยๆ จึงมาเก็บตกในทริปครั้งนี้
สิ่งที่ต้องเตรียมตัวเมื่อไป Switzerland
1. ตั๋วเครื่องบินใบกลับ ไทย-ฝรั่งเศส ในทริปนี้เราเลือกใช้บริการของสายการบิน China Eastern สายการบินที่มี Hub อยู่ที่เซี่ยงไฮ้ ผู่ตง (Pudong, ปูดอง) โดยราคาอยู่ที่ 21,361 บาท พร้อมบริการอาหาร 3 มื้ออิ่มๆ จุกๆต่อขา (สุวรรภูมิ-ปูดอง 1 มื้อ, ปูดอง-ปารีส 2 มื้อ)
2. ที่ซุกหัวนอน ในทริปนี้ Paris, Zermatt และ Interlaken แต่ละที่พักราคาแรงๆทั้งนั้น โดยควบคุมราคาไม่ให้สูงเกินแต่ขอนอนสบายหน่อยกว่าทริปก่อนๆ
- Paris พักที่ Au Pacific Hotel 2 คืน อยู่ในเขต 15 ใกล้ Metro, ใกล้หอไอเฟล (ระยะทาง 1-2 กิโลเมตร) มีห้องน้ำในตัว WiFi ดี ไม่มีกาน้ำร้อน ขอยืมที่ Reception ได้ สนนราคาอยู่ที่ 9,004 บาท/2 คืน เฉลี่ยต่อคนอยู่ที่ 4,502 บาท แนะนำให้จองผ่านเว็บโดยตรงของโรงแรมจะได้ราคาดีกว่า Booking, Agoda ทางไปจอง
https://www.pacific-hotel-paris.com/
- Zermatt พัก 3 คืนที่ Josy's Home Zermatt เป็นที่พักที่ครบเครื่อง กินอิ่มนอนหลับ เครื่องครัวครบ มีตู้เย็น WiFi ดี ห้องน้ำดี จองผ่าน Booking.com
ห่างจากสถานีรถไฟ Zermatt ด้วยการเดินเท้า 10 นาที สนนราคาอยู่ที่ 14,910 บาท/3 คืน เฉลี่ยต่อคนอยู่ที่ 7,455 บาท
- Interlaken พักที่ใกล้สถานีรถไฟ Interlaken West เดินเท้าประมาณ 5-7 นาที พักที่เดิม New West Station 7 ราคาย่อมเยาว์แถวนั้น Rating ไม่ค่อยดี ห้องน้ำรวม ห้องครัวรวมเหม็นหืนหน่อยๆ สนนราคาอยู่ที่ 6,266 บาท/2 คืน เฉลี่ยต่อคนอยู่ที่ 3,133 บาท
3. ถึงแม้ว่าค่าครองชีพจะแสนแพง เราก็เตรียมบะหมึ่และโจ๊กกึ่งสำเร็จรูปจากเมืองไทยครอบคลุมการกินมื้อเช้า-เย็น ในราคา 220 บาท/คน/ทริป สำหรับมื้อกลางวัน ก็หิวเมื่อไหร่ก็แวะมาที่สวิสมี Coop, Migros, Denner พอประทังชีวิตในดินแดนที่ค่าครองชีพแสนแพงได้ อย่างเช่นไก่ย่างครึ่งตัวอยู่ที่ราคา 6-8 CHF (ไม่เกิน 350 บาท) สะโพกไก่ย่างอยู่ที่ 4-5 CHF (ไม่เกิน 200 บาท) แซนวิชเย็นๆ ชืดๆ ประทังชีวิตได้ 1 มื้ออยู่ที่ราคา 2-5 CHF อีกทั้งยังเป็นสถานที่ซื้อของฝากประเภทขนมในราคาที่ไม่แรงได้อีกด้วย ถ้าเป็นปารีสก็จะมีหลากหลายแบรนด์ Supermarket เท่าที่จำได้ก็มี Carrefour กับ Franprix นี่แหละ
4. ขาดไม่ได้เลยสำหรับการเดินทางในประเทศ Switzerland นั่นก็คือ Swiss pass แต่เราไม่ได้ใช้ Swiss pass เนื่องจากเงินฟรังก์สวิสที่พุ่งพรวดไม่หยุด ทำให้ค่า Swiss pass 6 วันอยู่ที่ราคา 14,xxx บาท เราได้เทคนิคดีๆจากกลุ่ม "เที่ยวสวิตเซอร์แลนด์ ด้วยตัวเอง" นั่นก็คือ การใช้ Swiss Half Fare Card ซึ่งมีอายุการใช้งาน 30 วันในราคา 120 CHF นำไปเบ่งการซื้อ Saver day pass second class ล่วงหน้า 6 เดือน ในราคา 29 CHF/วัน (ย้ำนะ ว่าต้อง 6 เดือนเป๊ะๆ ก่อนวันเดินทาง และผมซื้อตอนตีห้าเมืองไทย = เที่ยงคืนสวิส ไม่งั้นถ้าซื้อหลังจากน้ันราคาอาจจะขยับไปที่ 34 CHF ได้) เราซื้อ Saver day pass ไป 6 วัน ทั้งทริปใช้วิธีการนี้ซื้อแทน Swiss pass ราคาประมาณ 11,863 บาท ประหยัดกว่าค่า Swiss pass 2-3 พันบาทเลยทีเดียว ซึ่งเจ้าหน้าที่ SBB ที่ตรวจบนรถไฟผ่าน app SBB เห็นชอบว่าไม่ผิดเงื่อนไข (เจ้าหน้าที่ SBB ตรวจตั๋วบ่อยมาก อย่าพลาดเลยเดี๋ยวจะโดนค่าปรับมหาศาล)
ปล. การใช้ Saver day pass แบบราคา 29 CHF มีข้อเสียก็คือการเดินทางไม่สามารถเปลี่ยนแปลงหรือคืนเงินได้ วันที่เราเดินทางจะถูกล็อคไว้
5. ตั๋วเดินทางระหว่างเมือง ระหว่างประเทศ ตั๋วเข้าชมสถานที่ต่างๆ ล่วงหน้า
5.1 ตั๋วไปกลับ Paris-Le Mont-Saint-Michel เราเลือกใช้บริการของ SNCF ราคาไปกลับอยู่ 58 ยูโร (2,273 บาท) ขาละ 29 ยูโร
- ขาไป Paris Montparnasse (08.53) = รถไฟ => Pontorson Mont St Michel (12.44), (12.55) = บัส => Le Mont-St.Michel
- ขากลับ Le Mont-St.Michel (17.26) = บัส => Pontorson Mont St Michel (17.51), (18.06) = รถไฟ => Paris Montparnasse (22.06)
ทางไปจอง
https://www.sncf-connect.com/
5.2 รถโดยสารกลางคืนไป-กลับระหว่าง Paris-Zurich ด้วยประหยัดค่าที่พัก และค่ารถไฟความเร็วสูง ใช้บริการของ FlixBus ดังนี้
- Paris (22.00) - Zurich (07.35 +1)
- Zurich (21.00) - Paris (06.40 +1) จองเนิ่นๆหน่อยจะได้ราคาดี ราคาไป-กลับอยู่ที่ 53.18 ยูโร (2,273 บาท)
ทางไปจอง
https://global.flixbus.com/
5.3 ตั๋วเข้าชมประตูชัย Arc de Triomphe สามารถขึ้นชมด้านบนของประตูชัยได้ ในราคา 16 ยูโร (598 บาท)
ทางไปจอง
https://www.paris-arc-de-triomphe.fr/en/
5.4 ตั๋วเข้าชม Saint-Jacques Tower ชมมุมสูงของปารีสได้อีกมุมมอง ซึ่งต่างจาก Tour Montparnasse ราคาย่อมเยากว่า ในราคา 12 ยูโร (449 บาท)
จองพร้อมระบุเวลาในเว็บที่เป็นภาษาฝรั่งเศส (ใช้ Google Translate) และได้ไกด์บรรยายระหว่างทัวร์เป็นภาษาฝรั่งเศส
ทางไปจอง
https://www.toursaintjacques.fr/en
6. ท่องโลก Social Network ด้วย eSim.vacacy ช่วงที่เดินทางจัดโปร 20 GB (799 บาท) พ่วงด้วยเน็ตระหว่างต่อเครื่องบินที่จีน 500 MB และซื้อเพิ่ม 1 GB อีก 99 บาท สิริรวมอยู่ที่ 898 บาท เน็ตดี คลอบคลุมหลากหลายพื้นที่ มีสะดุดแค่ระหว่างรถไฟไปที่ Le Mont Saint Michel
7. ประกันการเดินทาง เราใช้บริการของกรุงเทพประกันภัย ราคา 294 บาท
8. วีซ่าผ่านการบริการของ TLS อยู่ที่ราคา 5,837 บาท แบบพรีเมี่ยม เพราะมาสายกว่าเวลาที่จองไว้ ก็เลยต้องจำยอมยื่นวีซ่าแบบพรีเมี่ยม ที่มีพนักงาน TLS ดูแลดีเป็นพิเศษ มีขนมจีบ ซาลาเปา ขนมขบเคี้ยว น้ำอัดลม และคำแนะนำดีๆจาก TLS ในแบบราคาย่อมเยาว์ ไม่มี
9. Travel Card ส่วนใหญ่เป็นสังคมไร้เงินสด Card ใบเดียวครบเกือบจบทุกการใช้จ่าย แต่แลกเงินสดสกุลยูโรไว้ซื้อพวกกุญแจหอไอเฟลกับคนดำที่ Trocadero
10. ปลั๊กไฟฟ้าแบบสวิสและฝรั่งเศสเป็นแบบ รูกลม 2 รู ทางที่ดีใช้ปลั๊กแบบ Universal จะคุ้มที่สุด เอาไว้ใช้ต่อได้หลายประเทศ ราคาไม่เกิน 300 บาท
ส่วนเรื่องราวการเดินทางต่างๆ สามารถติดตามที่ได้ Comment ได้เลยครับ
[CR] เก็บตก Paris and Matterhorn ในแบบฉบับว่าไม่รู้จะได้เจอกันอีกไหม
สิ่งที่ต้องเตรียมตัวเมื่อไป Switzerland
1. ตั๋วเครื่องบินใบกลับ ไทย-ฝรั่งเศส ในทริปนี้เราเลือกใช้บริการของสายการบิน China Eastern สายการบินที่มี Hub อยู่ที่เซี่ยงไฮ้ ผู่ตง (Pudong, ปูดอง) โดยราคาอยู่ที่ 21,361 บาท พร้อมบริการอาหาร 3 มื้ออิ่มๆ จุกๆต่อขา (สุวรรภูมิ-ปูดอง 1 มื้อ, ปูดอง-ปารีส 2 มื้อ)
2. ที่ซุกหัวนอน ในทริปนี้ Paris, Zermatt และ Interlaken แต่ละที่พักราคาแรงๆทั้งนั้น โดยควบคุมราคาไม่ให้สูงเกินแต่ขอนอนสบายหน่อยกว่าทริปก่อนๆ
- Paris พักที่ Au Pacific Hotel 2 คืน อยู่ในเขต 15 ใกล้ Metro, ใกล้หอไอเฟล (ระยะทาง 1-2 กิโลเมตร) มีห้องน้ำในตัว WiFi ดี ไม่มีกาน้ำร้อน ขอยืมที่ Reception ได้ สนนราคาอยู่ที่ 9,004 บาท/2 คืน เฉลี่ยต่อคนอยู่ที่ 4,502 บาท แนะนำให้จองผ่านเว็บโดยตรงของโรงแรมจะได้ราคาดีกว่า Booking, Agoda ทางไปจอง https://www.pacific-hotel-paris.com/
- Zermatt พัก 3 คืนที่ Josy's Home Zermatt เป็นที่พักที่ครบเครื่อง กินอิ่มนอนหลับ เครื่องครัวครบ มีตู้เย็น WiFi ดี ห้องน้ำดี จองผ่าน Booking.com
ห่างจากสถานีรถไฟ Zermatt ด้วยการเดินเท้า 10 นาที สนนราคาอยู่ที่ 14,910 บาท/3 คืน เฉลี่ยต่อคนอยู่ที่ 7,455 บาท
- Interlaken พักที่ใกล้สถานีรถไฟ Interlaken West เดินเท้าประมาณ 5-7 นาที พักที่เดิม New West Station 7 ราคาย่อมเยาว์แถวนั้น Rating ไม่ค่อยดี ห้องน้ำรวม ห้องครัวรวมเหม็นหืนหน่อยๆ สนนราคาอยู่ที่ 6,266 บาท/2 คืน เฉลี่ยต่อคนอยู่ที่ 3,133 บาท
3. ถึงแม้ว่าค่าครองชีพจะแสนแพง เราก็เตรียมบะหมึ่และโจ๊กกึ่งสำเร็จรูปจากเมืองไทยครอบคลุมการกินมื้อเช้า-เย็น ในราคา 220 บาท/คน/ทริป สำหรับมื้อกลางวัน ก็หิวเมื่อไหร่ก็แวะมาที่สวิสมี Coop, Migros, Denner พอประทังชีวิตในดินแดนที่ค่าครองชีพแสนแพงได้ อย่างเช่นไก่ย่างครึ่งตัวอยู่ที่ราคา 6-8 CHF (ไม่เกิน 350 บาท) สะโพกไก่ย่างอยู่ที่ 4-5 CHF (ไม่เกิน 200 บาท) แซนวิชเย็นๆ ชืดๆ ประทังชีวิตได้ 1 มื้ออยู่ที่ราคา 2-5 CHF อีกทั้งยังเป็นสถานที่ซื้อของฝากประเภทขนมในราคาที่ไม่แรงได้อีกด้วย ถ้าเป็นปารีสก็จะมีหลากหลายแบรนด์ Supermarket เท่าที่จำได้ก็มี Carrefour กับ Franprix นี่แหละ
4. ขาดไม่ได้เลยสำหรับการเดินทางในประเทศ Switzerland นั่นก็คือ Swiss pass แต่เราไม่ได้ใช้ Swiss pass เนื่องจากเงินฟรังก์สวิสที่พุ่งพรวดไม่หยุด ทำให้ค่า Swiss pass 6 วันอยู่ที่ราคา 14,xxx บาท เราได้เทคนิคดีๆจากกลุ่ม "เที่ยวสวิตเซอร์แลนด์ ด้วยตัวเอง" นั่นก็คือ การใช้ Swiss Half Fare Card ซึ่งมีอายุการใช้งาน 30 วันในราคา 120 CHF นำไปเบ่งการซื้อ Saver day pass second class ล่วงหน้า 6 เดือน ในราคา 29 CHF/วัน (ย้ำนะ ว่าต้อง 6 เดือนเป๊ะๆ ก่อนวันเดินทาง และผมซื้อตอนตีห้าเมืองไทย = เที่ยงคืนสวิส ไม่งั้นถ้าซื้อหลังจากน้ันราคาอาจจะขยับไปที่ 34 CHF ได้) เราซื้อ Saver day pass ไป 6 วัน ทั้งทริปใช้วิธีการนี้ซื้อแทน Swiss pass ราคาประมาณ 11,863 บาท ประหยัดกว่าค่า Swiss pass 2-3 พันบาทเลยทีเดียว ซึ่งเจ้าหน้าที่ SBB ที่ตรวจบนรถไฟผ่าน app SBB เห็นชอบว่าไม่ผิดเงื่อนไข (เจ้าหน้าที่ SBB ตรวจตั๋วบ่อยมาก อย่าพลาดเลยเดี๋ยวจะโดนค่าปรับมหาศาล)
ปล. การใช้ Saver day pass แบบราคา 29 CHF มีข้อเสียก็คือการเดินทางไม่สามารถเปลี่ยนแปลงหรือคืนเงินได้ วันที่เราเดินทางจะถูกล็อคไว้
5. ตั๋วเดินทางระหว่างเมือง ระหว่างประเทศ ตั๋วเข้าชมสถานที่ต่างๆ ล่วงหน้า
5.1 ตั๋วไปกลับ Paris-Le Mont-Saint-Michel เราเลือกใช้บริการของ SNCF ราคาไปกลับอยู่ 58 ยูโร (2,273 บาท) ขาละ 29 ยูโร
- ขาไป Paris Montparnasse (08.53) = รถไฟ => Pontorson Mont St Michel (12.44), (12.55) = บัส => Le Mont-St.Michel
- ขากลับ Le Mont-St.Michel (17.26) = บัส => Pontorson Mont St Michel (17.51), (18.06) = รถไฟ => Paris Montparnasse (22.06)
ทางไปจอง https://www.sncf-connect.com/
5.2 รถโดยสารกลางคืนไป-กลับระหว่าง Paris-Zurich ด้วยประหยัดค่าที่พัก และค่ารถไฟความเร็วสูง ใช้บริการของ FlixBus ดังนี้
- Paris (22.00) - Zurich (07.35 +1)
- Zurich (21.00) - Paris (06.40 +1) จองเนิ่นๆหน่อยจะได้ราคาดี ราคาไป-กลับอยู่ที่ 53.18 ยูโร (2,273 บาท)
ทางไปจอง https://global.flixbus.com/
5.3 ตั๋วเข้าชมประตูชัย Arc de Triomphe สามารถขึ้นชมด้านบนของประตูชัยได้ ในราคา 16 ยูโร (598 บาท)
ทางไปจอง https://www.paris-arc-de-triomphe.fr/en/
5.4 ตั๋วเข้าชม Saint-Jacques Tower ชมมุมสูงของปารีสได้อีกมุมมอง ซึ่งต่างจาก Tour Montparnasse ราคาย่อมเยากว่า ในราคา 12 ยูโร (449 บาท)
จองพร้อมระบุเวลาในเว็บที่เป็นภาษาฝรั่งเศส (ใช้ Google Translate) และได้ไกด์บรรยายระหว่างทัวร์เป็นภาษาฝรั่งเศส
ทางไปจอง https://www.toursaintjacques.fr/en
6. ท่องโลก Social Network ด้วย eSim.vacacy ช่วงที่เดินทางจัดโปร 20 GB (799 บาท) พ่วงด้วยเน็ตระหว่างต่อเครื่องบินที่จีน 500 MB และซื้อเพิ่ม 1 GB อีก 99 บาท สิริรวมอยู่ที่ 898 บาท เน็ตดี คลอบคลุมหลากหลายพื้นที่ มีสะดุดแค่ระหว่างรถไฟไปที่ Le Mont Saint Michel
7. ประกันการเดินทาง เราใช้บริการของกรุงเทพประกันภัย ราคา 294 บาท
8. วีซ่าผ่านการบริการของ TLS อยู่ที่ราคา 5,837 บาท แบบพรีเมี่ยม เพราะมาสายกว่าเวลาที่จองไว้ ก็เลยต้องจำยอมยื่นวีซ่าแบบพรีเมี่ยม ที่มีพนักงาน TLS ดูแลดีเป็นพิเศษ มีขนมจีบ ซาลาเปา ขนมขบเคี้ยว น้ำอัดลม และคำแนะนำดีๆจาก TLS ในแบบราคาย่อมเยาว์ ไม่มี
9. Travel Card ส่วนใหญ่เป็นสังคมไร้เงินสด Card ใบเดียวครบเกือบจบทุกการใช้จ่าย แต่แลกเงินสดสกุลยูโรไว้ซื้อพวกกุญแจหอไอเฟลกับคนดำที่ Trocadero
10. ปลั๊กไฟฟ้าแบบสวิสและฝรั่งเศสเป็นแบบ รูกลม 2 รู ทางที่ดีใช้ปลั๊กแบบ Universal จะคุ้มที่สุด เอาไว้ใช้ต่อได้หลายประเทศ ราคาไม่เกิน 300 บาท
ส่วนเรื่องราวการเดินทางต่างๆ สามารถติดตามที่ได้ Comment ได้เลยครับ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้