ผิดไหมที่เราเป็นร่าเริงจนกลายเป็นสหนามอารมณ์ของคนอื่น คนอื่นที่ว่าก็คือที่บ้านและเกือบทัง ร.ร

สหวัดดีค่ะ นี้เป็นเรื่องจริงของเราที่จะเอามาเล่าที่อยากจะมาเล่าแชร์ให้ทุกคนฟัง ขอเรียกตัวเองว่า " เทียนหอม " นะคะ
เทียนหอม เป็นคนลาวค่ะเด็กผู้หญิงม.3 เราเริ่มกลายเป็นสหนามอารมณ์ของคนอื่นตั้งแต่ขื้นม.1มาตอนช่วงมาใหม่เราก็เป็นนักเรียนปกติเลยไม่ค่อยมีดร่าม่าอะไรเราเป็นคนอารมณ์ดียิ้มง่ายและมีความสุขแทบจะตหลอดเวลานั้นมันจืงทำให้เรากลายเป็นจุดสนใจของการโดนบูลี่นินทาต่างๆ สารพัด ว่า บ้าบ้าง ปัญญาอ่อนบ้าง สติเพี้ยนบ้าง แต่เราก็ไม่เคยสนใจเพราะตอนนั้นคิดแค่ว่าก็คงเป็นปกติที่เด็กหลายคนทำกัน แต่มันเริ่มหนักขื้นช่วงตอนม.2คำบูลี่นินทาการกลันแกล้งพวกนี้มันเริ่มแรงขื่นเราโดนบูลี่ว่าบ้า ปัญญาอ่อนเหมื่อนเดีมแต่ที่เพิ่มขื่นมาก็คือเพื่อน ๆพายในห้องนั้น ( พวกเด็ก ผ.ช ) พากันร่อเรียนคำพูดเรา เราเป็นคนติดตลกซึ่งเกือบทุกครั้งที่เราพูดเราจะชอบทำเสียง effect ดัดลิ้นตีฟันออกมามันทำให้เราโดนบูลี่หนักกว่าเดีมพวกเขาชอบเรียกชื่อเราและเมื่อเราหันไปเขาก็จะร่อเรียนคำพูดของเรา เราจืงปลับปรุงตัวเองพยายามที่จะกำจัดนิสัยชอบดัดลิ้นตีฟันนี่ออกไปและเราก็ทำได้เริ่มไม่ท ำนิสัยแบบนั้น จากที่เราเป็นเด็ก ร่าเริง ยิ้ม หัวเรอะ อารมณ์ดี เรากลายเป็นเด็กเก็บตัวไม่ค่อยพูดค่อยจา แต่ทังๆที่เรากลายเป็นเด็กเก็บตัวเพื่อนๆ ( พวกเด็กผ.ช ) ก็ยังไม่แคร่วที่จะบูลี่เรามันเป็นแบบนั้นมา เรื่อยๆ จนตอนนี้ม.3แล้ว เป็นช่วงที่เราโดนบูลี่หนักมากๆ โดนทุกวัน ทุกครั้งที่เราเปีดปากพูดเขาก็จะร่อเรียนคำพูดเราทังที่ตอนนี้เราไม่ได้ทำนิสัยแบบนั้นแล้วลูกำลูกน้องเราที่เรียนอยู่ห้องเดียวกันทังที่จะปกป้องเรากลับเป็นต้นเหตุที่ทำให้เราโดนบูลี่มาตั้งแต่ม.1 และ จากที่เราโดนร่อเรียนบูลี่แค่ในห้องก็ลามไปถืงห้องข้าง ๆแล้วก็ลามไปเรื่อยๆจนตอนนี้ทังรุ้นน้องทังรุ้นพี่เกือบทัง ร.ร บูลี่และร่อเรียนเรา ไปร.รแต่ละครั้งก็พยามทำใจไม่ให้ตัวเองร้องไห้กลับมาถืงบ้านค่อยปล่อยโฮออกมา อีกทังยังโดนว่าจากที่บ้านว่าเราจะไปโทษพวกนั้นไม่ได้มันเป็นนิสัยของเราลูกพี่ลูกน้องเราเองก็พูดเรื่องนี้กับที่บ้านทำให้จากที่เราโดนบูลี่ร่อเรียน เรากลายเป็นสหนามอารมณ์ของคนจำนวนมาก มันหนักเกีนที่เราที่เป็นแค่เด็กจะรับไหวแล้ว เราไม่ชอบทำหน้าทำตาอารมณ์ที่เศร่าเสียใจร้องให้คนอื่นเห็นจืงไม่มีใครรู้นิสัยจริง ๆของเราเลยว่าเรารู้สืกยังไงระบายกับเพื่อนก็ไม่ได้ระบายกับที่บ้านก็ไม่ได้คนเดียวที่เราพื่งพาได้ตอนนี้ก็คือพ่อของเรา พ่อขอให้เราย้ายไปอยู่ด้วยถืงเราจะอยากไปแต่ก็กลัวอีกว่า ร.ร ใหม่จะเป็นแบบนี้อีกหรือปล่าวตอนนี้เราไม่รู้จะทำอะไรแล้วไม่มีใครเข้าใจเราเลยว่าเราต้องเศร่ามากแค่ไหนเสียใจมากแค่ไหน วันที่25 เดือน ตุลาคม ปี 2567เป็นวันที่ทำให้เราร้องไห้หนักที่สุดแต่ก็ยังเหมือนเดีมไม่มีใครรู้ใครเห็นเราแม้แต่คนเดียวไม่มีใครรู้เลยว่า เด็กคนนี้ต้องเจออะไรบ้างในแต่ละวัน วันที่ 25 มิถุนายน ปี 2566 เป็นวันที่เรา ตรวจเจอว่าเราเป็น ซืมเศร่า และ เป็นวันเกีดปีที่ 14 ของเราด้วย...
เราหวังว่าในเมื่อโลกพายนอกไม่ใจดี ไม่รักเรา
แล้วโลก Social จะใจดีและรักเรานะ ✌
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่