เราอยากปรึกษาเรื่องลาออกจากงานค่ะ เราอยู่ในจุดเสียดายวันหยุดกับเริ่มไม่โอเคกับที่ปัจจุบัน
หัวหน้าเราชอบพูดปัญหาของตัวเองบ่อยๆค่ะ บอกตามตรงว่าทุกคนมันมีปัญหากันหมด เล็กน้อยแค่ไหนก็คือปัญหา แล้วแค่ปัญหาของตัวเองก็เครียดแล้ว ต้องมารับรู้ปัญหาของคนอื่นอีกไม่รู้ทำไปเพื่ออะไร แต่คนพูดคือหัวหน้าเลยจำใจต้องรับฟังแบบเป็นมิตรไว้ก่อน จนตอนเราบอกว่าอยากให้เขาหยุดพูดเรื่องลบๆ สักพักเขางัดเรื่องที่ตัวเองเป็นซึมเศร้าอยากฆ่าตัวตายออกมา เราก็ได้แค่ เค งั้นอยากพูดก็พูดเลย (ทะเลาะรอบ 1)
อีกปัญหาคือความไม่มั่นใจด้านการเงินด้วยค่ะ เขาชอบพูดว่าเงินพี่ไม่เยอะ พี่แทบจะไม่มีเงินจ่ายพนักงานแล้วเนี่ย แต่พี่ก็ต้องจ่ายไรงี้ค่ะ ตอนแรกคิดว่าพูดเพื่อกระตุ้นเราในฐานะเซลล์ แต่อยู่กับเขามาเกิน 2 เดือนก็เห็นว่าเขาพูดกับทุกคนในที่ทำงาน มันใช่เรื่องที่พนักงานอย่างเราต้องรู้เรื่องนี้ด้วยหรอคะ จ่ายไม่ไหวก็เด้งออกก็ได้นี่ค่ะ เราเคยเสนอเขาไปว่าถ้าไม่ไหว เอาเราออก 1 คนได้เลย เรารู้ว่าตำแหน่งนี้มันไม่สำคัญกับที่นี่ไม่งั้นเขาก็ต้องกดดันยอดล่ะ ที่อยู่ทุกวันนี้แค่เพราะเซลล์เขาไม่เอายอดและหยุดส-อาเฉยๆเลยอ่ะค่ะ แต่ถ้าเขาเอาออกก็ไม่แปลกใจ ไม่โกรธ ไม่อะไรด้วย ตอนนี้อยู่ในฐานะที่ว่า ไปก็ได้ อยู่ก็ดี
เสนอวิธีแก้ปัญหา+คอมเพลนปัญหาตัวเองไปจนหมดแล้ว แต่ดูแล้วเขาไม่ฟังเลย จนล่าสุดเราทะเลาะกันหนักรอบ 2 เลยทำให้เรากำลังคิดว่าลาออกดีไหม เสียดายแค่เรื่องเดียวเลยค่ะ งานที่หยุดส-อามันหายากมากกกกกกกกกกกก เลยยังอดทนอยู่ต่อ แต่นี่ก็ใกล้สิ้นเดือนแล้ว เลยอยากรู้ว่าในมุมมองสังคมตอนนี้ ควรออกดีไหมนะ (เด็กจบใหม่กำลังทยอยหางานด้วยค่ะ)
(ข้อมูลเพิ่มเติมนะคะ เราเป็นจอมลาออก อาจจะเพราะยังเด็กอยู่และไม่เรื่องมากเรื่องเงินเดือน รับต่ำกว่า 14K หมดเลย เลยหางานง่ายมากๆด้วยค่ะ ลาออกปุ๊ปเราก็จะหางานใหม่ได้ทันทีไม่เกิน 1 เดือน แต่งานที่เราหาจะแนวของเหลือที่คนไม่อยากทำกันค่ะ แต่ที่นี่เป็นที่ที่ 2 ที่หยุดส-อา เลยเสียดายมากๆ เพราะคิดว่าไปที่อื่นก็คงหาหยุด 2 วันแบบนี้ไม่ได้แล้ว)
ปัญหาที่ทำงาน - ไปก็ได้ อยู่ก็โอ อยากดูความเห็นของคนอื่นประกอบการตัดสินใจให้ตัวเองแน่ๆอีกทีค่ะ
หัวหน้าเราชอบพูดปัญหาของตัวเองบ่อยๆค่ะ บอกตามตรงว่าทุกคนมันมีปัญหากันหมด เล็กน้อยแค่ไหนก็คือปัญหา แล้วแค่ปัญหาของตัวเองก็เครียดแล้ว ต้องมารับรู้ปัญหาของคนอื่นอีกไม่รู้ทำไปเพื่ออะไร แต่คนพูดคือหัวหน้าเลยจำใจต้องรับฟังแบบเป็นมิตรไว้ก่อน จนตอนเราบอกว่าอยากให้เขาหยุดพูดเรื่องลบๆ สักพักเขางัดเรื่องที่ตัวเองเป็นซึมเศร้าอยากฆ่าตัวตายออกมา เราก็ได้แค่ เค งั้นอยากพูดก็พูดเลย (ทะเลาะรอบ 1)
อีกปัญหาคือความไม่มั่นใจด้านการเงินด้วยค่ะ เขาชอบพูดว่าเงินพี่ไม่เยอะ พี่แทบจะไม่มีเงินจ่ายพนักงานแล้วเนี่ย แต่พี่ก็ต้องจ่ายไรงี้ค่ะ ตอนแรกคิดว่าพูดเพื่อกระตุ้นเราในฐานะเซลล์ แต่อยู่กับเขามาเกิน 2 เดือนก็เห็นว่าเขาพูดกับทุกคนในที่ทำงาน มันใช่เรื่องที่พนักงานอย่างเราต้องรู้เรื่องนี้ด้วยหรอคะ จ่ายไม่ไหวก็เด้งออกก็ได้นี่ค่ะ เราเคยเสนอเขาไปว่าถ้าไม่ไหว เอาเราออก 1 คนได้เลย เรารู้ว่าตำแหน่งนี้มันไม่สำคัญกับที่นี่ไม่งั้นเขาก็ต้องกดดันยอดล่ะ ที่อยู่ทุกวันนี้แค่เพราะเซลล์เขาไม่เอายอดและหยุดส-อาเฉยๆเลยอ่ะค่ะ แต่ถ้าเขาเอาออกก็ไม่แปลกใจ ไม่โกรธ ไม่อะไรด้วย ตอนนี้อยู่ในฐานะที่ว่า ไปก็ได้ อยู่ก็ดี
เสนอวิธีแก้ปัญหา+คอมเพลนปัญหาตัวเองไปจนหมดแล้ว แต่ดูแล้วเขาไม่ฟังเลย จนล่าสุดเราทะเลาะกันหนักรอบ 2 เลยทำให้เรากำลังคิดว่าลาออกดีไหม เสียดายแค่เรื่องเดียวเลยค่ะ งานที่หยุดส-อามันหายากมากกกกกกกกกกกก เลยยังอดทนอยู่ต่อ แต่นี่ก็ใกล้สิ้นเดือนแล้ว เลยอยากรู้ว่าในมุมมองสังคมตอนนี้ ควรออกดีไหมนะ (เด็กจบใหม่กำลังทยอยหางานด้วยค่ะ)
(ข้อมูลเพิ่มเติมนะคะ เราเป็นจอมลาออก อาจจะเพราะยังเด็กอยู่และไม่เรื่องมากเรื่องเงินเดือน รับต่ำกว่า 14K หมดเลย เลยหางานง่ายมากๆด้วยค่ะ ลาออกปุ๊ปเราก็จะหางานใหม่ได้ทันทีไม่เกิน 1 เดือน แต่งานที่เราหาจะแนวของเหลือที่คนไม่อยากทำกันค่ะ แต่ที่นี่เป็นที่ที่ 2 ที่หยุดส-อา เลยเสียดายมากๆ เพราะคิดว่าไปที่อื่นก็คงหาหยุด 2 วันแบบนี้ไม่ได้แล้ว)