สวัสดีครับพี่ๆน้องๆชาวพันทิป ผมมีปัญหาเรื่องเกี่ยวกับ แผนอนาคตการเรียนต่อแพทย์เฉพาะทาง(ที่ตปท.) vs ความสัมพันธ์กับแฟน อยากจะรบกวนขอความเห็นหน่อยครับ
ผมอยากทราบว่าชีวิตของคนเราแท้จริงแล้วอะไรคือสิ่งที่ควรค่าแก่การไขว่ขว้าไว้ครับ? ปจบ.ผมมีความเชื่อว่าชีวิตของคนเราควรจะต้องทำตามเป้าหมาย ความฝัน ของชีวิตครับ ผมเชื่อว่าการที่ผมได้ไปเรียนต่อแพทย์เฉพาะทางที่ตปท. ได้มีโอกาสเป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่เก่ง มีความสามารถในระดับแนวหน้า มีโอกาสทำงานวิจัยระดับ world class คือเป้าหมายของชีวิตครับ แม้ว่าจะประสบค.สำเร็จดั่งใจหวังหรือไม่ก็ตาม เพราะมันเป็นสิ่งที่ผมเลือกที่จะทำเอง และอย่างน้อยก็ได้ทำมันแล้ว อย่างไรก็ตามการจะไปทำตามความฝันได้นั้นมันมีสิ่งที่ต้องแลกมาครับ (ห่างไกลจากแฟน/คนรัก และครอบครัว) ดังนั้นผมจึงตั้งคำถามต่อว่าหากเราแลกการเดินตามเป้าหมาย กับสิ่งที่ต้องแลกมาจะคุ้มค่าไหม? กล่าวอีกนัยหนึ่งคือ ผมก็ตั้งคำถามด้วยว่า “อะไรคือสิ่งที่ควรค่าแก่การที่จะไปไขว่ขว้ามาในชีวิต? ” การประสบความสำเร็จในเป้าหมาย/หน้าที่การงาน? ก.มีความสุข? ก.ได้อยู่กับครอบครัว/คนรัก? หรือการมีลูก มีครอบครัวที่สมบูรณ์? (เพราะว่าเร็วๆนี้ แฟนพูดถึงเรื่องอยากมีลูก ส่วนผมไม่อยากมี จึงทะเลาะกัน ความเห็นไม่ตรงกัน) เพื่อที่ว่าผมจะได้วางแผนให้สอดคล้องกับความต้องการในชีวิตของผมเองในอนาคตครับ
ปัจจุบันผมมีอาชีพเป็นแพทย์ทั่วไปยังไม่ได้เรียนต่อแพทย์เฉพาะทางครับ ซึ่งก็ได้วางแผนไว้ตั้งแต่ตอนเรียนจบหมอ 6 ปีใหม่ๆว่าจะไปเรียนต่อเฉพาะทางที่ตปท. ตอนนี้ก็ทำงานเป็นหมอไปด้วย+เรียนภาษาที่ 3 ไปด้วยประมาณ 3 ปีกว่าแล้วครับ ส่วนแฟนมีอาชีพทางด้านกฎหมาย และมีแผนต้องการจะสอบเป็นอัยการ/ผู้พิพากษาให้สำเร็จในสักวันหนึ่ง ปัจจุบันเค้าก็ทำงานไปด้วยอ่านนส.ไปด้วยครับ ซึ่งสายอาชีพทางกฎหมายของเค้าจำเป็นต้องทำงานได้เพียงแค่ในไทยเท่านั้น ผมกับแฟนคบกันมาได้ 4 ปีแล้วครับ เราอยู่บ้านเดียวกัน 2 คน
ปัญหาเกิดขึ้นเมื่อขณะนี้ผมกำลังทำงานเก็บเงินเพื่อไปเรียนต่อแพทย์เฉพาะทางที่ตปท.ครับ (เรียน 6 ปี) เธอตั้งคำถามว่าถ้าแยกกันแล้วจะเป็นครอบครัวได้อย่างไร? ความสัมพันธ์ระยะไกลเป็นไปได้ยาก และเธอกังวลว่าผมจะไปแอบมีผญ.คนอื่นขณะที่ไปเรียนต่อตปท.(ผมมีประวัติมีเล็กมีน้อยมาหลายครั้งครับ, แต่ปจบ.ก็ได้ปรับปรังตัวขึ้นแล้ว) ผมก็ลองให้ทางออกกับเธอครับ เช่น งั้นเราแต่งงานกันก่อนที่เราจะไปเรียนต่อตปท.ไหม? เพื่อความมั่นคงทางจิตใจของเธอ … เธอก็ปล่อยคาราคาซังไว้ไม่ยอมมาคุยเพื่อหาทางออกร่วมกัน ทั้งๆที่ผมแจ้งเธอไปตั้งแต่ตอนคบกันแต่แรกแล้วว่ามีแผนจะไปเรียนต่อตปท. แต่เธอก็เหมือนทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ และคบกันมาเรื่อยๆจนถึงปจบ.(ไม่รู้ว่าเป็นเพราะหวังว่าสักวันนึงผมจะเปลี่ยนใจหรือเปล่า?) หลายๆครั้งก็ผุดคิดขึ้นมาว่าหรือเราควรจะตัดค.สัมพันธ์กับเธอไปเลยดี เพื่อที่เราจะได้ไปตามแผนเรียนอนาคตของเรา
มิหนำซ้ำล่าสุดยังมีปัญหาเพิ่มเข้ามาอีก เพราะเพื่อนผมที่เป็นหมอสูติมาทักเธอว่าอายุเริ่มเยอะแล้วถ้าจะมีลูกต้องเริ่มคิดได้แล้ว ยิ่งทำให้เธอต้องการจะมีลูก/หรือมีแผนที่จะฝากไข่/ทำ ICSI ผมก็ยิ่งปวดหัวหนักกว่าเดิมเพราะว่าความเห็นเรื่องการมีลูกของเราทั้ง 2 ไม่ตรงกัน (เธออยากมี แต่ผมไม่อยากมี) ประเด็นเรื่องมีลูกนี่ยิ่งหนักกว่าเดิมอีก เพราะถ้าเมื่อไหร่ที่มีลูก ผมคิดว่าแผนอนาคตเรื่องเรียนต่อทุกอย่างของผมจะพังทลายลงทันที ด้วยเหตุที่ว่า ผมคิดว่าลูกคือบ่วงเชือกที่พันตัวเราไว้ไม่สามารถไปไหนได้อีก เมื่อมีลูกทุกอย่างจะต้องไปทุ่มเทให้กับเค้าหมด ไม่มีเวลาแม้แต่จะให้กับตัวเองด้วยซ้ำ ยิ่งตอนลูกป่วยยิ่งไม่ต้องพูดถึง (จากปสก.เป็นหมอที่เจอเด็กๆป่วยมาทำให้เห็นความลำบากของพ่อแม่มามากครับ) พอผมถามถึงเหตุผลว่าทำไมถึงอยากมีลูก เธอก็บอกว่ามันเป็นเรื่องธรรมดาทั่วๆไปที่ทุกคนเค้าอยากมีกัน โดยเฉพาะผญ. ใครๆก็อยากมีกันทั้งนั้น ผมจึงไม่เห็นทางออกเลยครับว่าจะเอายังไงดี … ก็พอจะมีทางเลือกเรื่องฝากไข่เหมือนกันแต่ก็เป็นวิธีที่ต้องใช้เงินพอสมควร พอมาเจอปัญหานี้จึงต้องเริ่มหาทางออกอย่างจริงจังครับ เพราะเธอโกรธ งอล ไม่พูดไม่จาด้วย ผมก็ต้องตามไปง้อ ….ครั้นจะไม่ง้อก็ไม่ได้ เพราะสถานการณ์ทำให้อึดอัดใจกันทั้ง 2 ฝ่าย
สำหรับความรู้สึกที่ผมมีต่อแฟนคนนี้ค่อนข้างผูกพัน และรักมากที่สุดเลยครับ เพราะคบกันมาถึง 4 ปี ผ่านร้อนผ่านหนาว อุปสรรคมากมายมาด้วยกัน ผมรักเธอมาก แต่ในขณะเดียวกันผมก็ไม่สามารถละทิ้งเป้าหมายที่ผมอยากจะไปเรียนที่ตปท.ได้ เพราะผมเป็นพวกคนลักษณ์ 3 (นพลักษณ์; Enneagram type 3) กล่าวคือ เป็นคนมีเป้าหมายในชีวิตและอยากทำให้สำเร็จครับ อยากเป็นแพทย์เฉพาะทางที่ได้ไปเรียนต่อตปท. + ทำงาน research ระดับ world class ความฝันของผมจึงเป็นความก้าวหน้าในชีวิตการทำงาน ส่วนเรื่อง ครอบครัว คนรัก ถือว่าเป็นเรื่องรองครับ จริงๆแล้วผมก็เคยต่อรองกับเธอและครอบครัวของผมเอง (ครอบครัวผมก็ไม่อยากจะให้ไปเรียนต่อตปท.ครับ) ว่าขอไปเรียนต่อตปท.สานฝันความตั้งใจของเรา เรียนเสร็จแล้วก็จะกลับมาสมัครเป็นอาจารย์แพทย์ในประเทศไทย … เค้าเหล่านั้นก็ยังไม่เข้าใจและไม่อยากให้ไปอยู่ดีครับ อย่างไรก็ตามด้วยความที่ผมยังรักเธออยากใช้ชีวิตร่วมกับเธอ ผมก็พร้อมที่จะ compromise เพื่อหาทางออกร่วมกันครับ แต่ไม่ใช่เรื่องมีลูกภายในเร็วๆนี้แน่ (อาจฝากไข่เอาไว้ แล้วตอนใกล้เรียนจบอีก 3 ปี ค่อยตั้งครรภ์ก็พอเป็นไปได้ครับ แต่มันไม่ใช่เรื่องง่ายอีกเหมือนกัน)
อยากของความเห็นครับว่าผมควรทำอย่างไรดี? Mindset / หรือความต้องการทำตามความฝันของผมเป็นเรื่องที่ผิดแปลกไหม? เพราะคนรอบข้างเอาแต่บอกว่า เราคิดไม่เหมือนคนอื่นๆ แปลกแยกจากคนทั่วๆไป พ่อแม่ พี่น้อง ญาติๆ พยายามบอกว่าชีวิตที่เรามีคนรักอยู่ข้างๆตัวมันดีอยู่แล้ว จะไปไขว่ขว้าอะไรอีก? แต่ผมก็ไม่ได้ต้องการทำตามสิ่งที่คนอื่นบอกว่าดี เพราะไม่มีใครบอกได้ว่ามันจะดีสำหรับเราด้วยหรือเปล่า แล้วคนเราจำเป็นต้องมีลูกจริงๆหรอครับ? (โดยเฉพาะในแง่มุมของคุณผู้หญิง) หรือแท้จริงแล้วอะไรคือสิ่งสำคัญในชีวิตที่ผมควรยึดถือและไขว่ขว้ามาครับ? เป้าหมาย/การงาน? ความรัก? ความสุข? ครอบครัว?
ขอบพระคุณทุกๆคนมากครับที่มาช่วยแสดงความเห็น
ควรเลือกทำตามความฝัน หรือเลือกคนรัก/ครอบครัว ?
ผมอยากทราบว่าชีวิตของคนเราแท้จริงแล้วอะไรคือสิ่งที่ควรค่าแก่การไขว่ขว้าไว้ครับ? ปจบ.ผมมีความเชื่อว่าชีวิตของคนเราควรจะต้องทำตามเป้าหมาย ความฝัน ของชีวิตครับ ผมเชื่อว่าการที่ผมได้ไปเรียนต่อแพทย์เฉพาะทางที่ตปท. ได้มีโอกาสเป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่เก่ง มีความสามารถในระดับแนวหน้า มีโอกาสทำงานวิจัยระดับ world class คือเป้าหมายของชีวิตครับ แม้ว่าจะประสบค.สำเร็จดั่งใจหวังหรือไม่ก็ตาม เพราะมันเป็นสิ่งที่ผมเลือกที่จะทำเอง และอย่างน้อยก็ได้ทำมันแล้ว อย่างไรก็ตามการจะไปทำตามความฝันได้นั้นมันมีสิ่งที่ต้องแลกมาครับ (ห่างไกลจากแฟน/คนรัก และครอบครัว) ดังนั้นผมจึงตั้งคำถามต่อว่าหากเราแลกการเดินตามเป้าหมาย กับสิ่งที่ต้องแลกมาจะคุ้มค่าไหม? กล่าวอีกนัยหนึ่งคือ ผมก็ตั้งคำถามด้วยว่า “อะไรคือสิ่งที่ควรค่าแก่การที่จะไปไขว่ขว้ามาในชีวิต? ” การประสบความสำเร็จในเป้าหมาย/หน้าที่การงาน? ก.มีความสุข? ก.ได้อยู่กับครอบครัว/คนรัก? หรือการมีลูก มีครอบครัวที่สมบูรณ์? (เพราะว่าเร็วๆนี้ แฟนพูดถึงเรื่องอยากมีลูก ส่วนผมไม่อยากมี จึงทะเลาะกัน ความเห็นไม่ตรงกัน) เพื่อที่ว่าผมจะได้วางแผนให้สอดคล้องกับความต้องการในชีวิตของผมเองในอนาคตครับ
ปัจจุบันผมมีอาชีพเป็นแพทย์ทั่วไปยังไม่ได้เรียนต่อแพทย์เฉพาะทางครับ ซึ่งก็ได้วางแผนไว้ตั้งแต่ตอนเรียนจบหมอ 6 ปีใหม่ๆว่าจะไปเรียนต่อเฉพาะทางที่ตปท. ตอนนี้ก็ทำงานเป็นหมอไปด้วย+เรียนภาษาที่ 3 ไปด้วยประมาณ 3 ปีกว่าแล้วครับ ส่วนแฟนมีอาชีพทางด้านกฎหมาย และมีแผนต้องการจะสอบเป็นอัยการ/ผู้พิพากษาให้สำเร็จในสักวันหนึ่ง ปัจจุบันเค้าก็ทำงานไปด้วยอ่านนส.ไปด้วยครับ ซึ่งสายอาชีพทางกฎหมายของเค้าจำเป็นต้องทำงานได้เพียงแค่ในไทยเท่านั้น ผมกับแฟนคบกันมาได้ 4 ปีแล้วครับ เราอยู่บ้านเดียวกัน 2 คน
ปัญหาเกิดขึ้นเมื่อขณะนี้ผมกำลังทำงานเก็บเงินเพื่อไปเรียนต่อแพทย์เฉพาะทางที่ตปท.ครับ (เรียน 6 ปี) เธอตั้งคำถามว่าถ้าแยกกันแล้วจะเป็นครอบครัวได้อย่างไร? ความสัมพันธ์ระยะไกลเป็นไปได้ยาก และเธอกังวลว่าผมจะไปแอบมีผญ.คนอื่นขณะที่ไปเรียนต่อตปท.(ผมมีประวัติมีเล็กมีน้อยมาหลายครั้งครับ, แต่ปจบ.ก็ได้ปรับปรังตัวขึ้นแล้ว) ผมก็ลองให้ทางออกกับเธอครับ เช่น งั้นเราแต่งงานกันก่อนที่เราจะไปเรียนต่อตปท.ไหม? เพื่อความมั่นคงทางจิตใจของเธอ … เธอก็ปล่อยคาราคาซังไว้ไม่ยอมมาคุยเพื่อหาทางออกร่วมกัน ทั้งๆที่ผมแจ้งเธอไปตั้งแต่ตอนคบกันแต่แรกแล้วว่ามีแผนจะไปเรียนต่อตปท. แต่เธอก็เหมือนทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ และคบกันมาเรื่อยๆจนถึงปจบ.(ไม่รู้ว่าเป็นเพราะหวังว่าสักวันนึงผมจะเปลี่ยนใจหรือเปล่า?) หลายๆครั้งก็ผุดคิดขึ้นมาว่าหรือเราควรจะตัดค.สัมพันธ์กับเธอไปเลยดี เพื่อที่เราจะได้ไปตามแผนเรียนอนาคตของเรา
มิหนำซ้ำล่าสุดยังมีปัญหาเพิ่มเข้ามาอีก เพราะเพื่อนผมที่เป็นหมอสูติมาทักเธอว่าอายุเริ่มเยอะแล้วถ้าจะมีลูกต้องเริ่มคิดได้แล้ว ยิ่งทำให้เธอต้องการจะมีลูก/หรือมีแผนที่จะฝากไข่/ทำ ICSI ผมก็ยิ่งปวดหัวหนักกว่าเดิมเพราะว่าความเห็นเรื่องการมีลูกของเราทั้ง 2 ไม่ตรงกัน (เธออยากมี แต่ผมไม่อยากมี) ประเด็นเรื่องมีลูกนี่ยิ่งหนักกว่าเดิมอีก เพราะถ้าเมื่อไหร่ที่มีลูก ผมคิดว่าแผนอนาคตเรื่องเรียนต่อทุกอย่างของผมจะพังทลายลงทันที ด้วยเหตุที่ว่า ผมคิดว่าลูกคือบ่วงเชือกที่พันตัวเราไว้ไม่สามารถไปไหนได้อีก เมื่อมีลูกทุกอย่างจะต้องไปทุ่มเทให้กับเค้าหมด ไม่มีเวลาแม้แต่จะให้กับตัวเองด้วยซ้ำ ยิ่งตอนลูกป่วยยิ่งไม่ต้องพูดถึง (จากปสก.เป็นหมอที่เจอเด็กๆป่วยมาทำให้เห็นความลำบากของพ่อแม่มามากครับ) พอผมถามถึงเหตุผลว่าทำไมถึงอยากมีลูก เธอก็บอกว่ามันเป็นเรื่องธรรมดาทั่วๆไปที่ทุกคนเค้าอยากมีกัน โดยเฉพาะผญ. ใครๆก็อยากมีกันทั้งนั้น ผมจึงไม่เห็นทางออกเลยครับว่าจะเอายังไงดี … ก็พอจะมีทางเลือกเรื่องฝากไข่เหมือนกันแต่ก็เป็นวิธีที่ต้องใช้เงินพอสมควร พอมาเจอปัญหานี้จึงต้องเริ่มหาทางออกอย่างจริงจังครับ เพราะเธอโกรธ งอล ไม่พูดไม่จาด้วย ผมก็ต้องตามไปง้อ ….ครั้นจะไม่ง้อก็ไม่ได้ เพราะสถานการณ์ทำให้อึดอัดใจกันทั้ง 2 ฝ่าย
สำหรับความรู้สึกที่ผมมีต่อแฟนคนนี้ค่อนข้างผูกพัน และรักมากที่สุดเลยครับ เพราะคบกันมาถึง 4 ปี ผ่านร้อนผ่านหนาว อุปสรรคมากมายมาด้วยกัน ผมรักเธอมาก แต่ในขณะเดียวกันผมก็ไม่สามารถละทิ้งเป้าหมายที่ผมอยากจะไปเรียนที่ตปท.ได้ เพราะผมเป็นพวกคนลักษณ์ 3 (นพลักษณ์; Enneagram type 3) กล่าวคือ เป็นคนมีเป้าหมายในชีวิตและอยากทำให้สำเร็จครับ อยากเป็นแพทย์เฉพาะทางที่ได้ไปเรียนต่อตปท. + ทำงาน research ระดับ world class ความฝันของผมจึงเป็นความก้าวหน้าในชีวิตการทำงาน ส่วนเรื่อง ครอบครัว คนรัก ถือว่าเป็นเรื่องรองครับ จริงๆแล้วผมก็เคยต่อรองกับเธอและครอบครัวของผมเอง (ครอบครัวผมก็ไม่อยากจะให้ไปเรียนต่อตปท.ครับ) ว่าขอไปเรียนต่อตปท.สานฝันความตั้งใจของเรา เรียนเสร็จแล้วก็จะกลับมาสมัครเป็นอาจารย์แพทย์ในประเทศไทย … เค้าเหล่านั้นก็ยังไม่เข้าใจและไม่อยากให้ไปอยู่ดีครับ อย่างไรก็ตามด้วยความที่ผมยังรักเธออยากใช้ชีวิตร่วมกับเธอ ผมก็พร้อมที่จะ compromise เพื่อหาทางออกร่วมกันครับ แต่ไม่ใช่เรื่องมีลูกภายในเร็วๆนี้แน่ (อาจฝากไข่เอาไว้ แล้วตอนใกล้เรียนจบอีก 3 ปี ค่อยตั้งครรภ์ก็พอเป็นไปได้ครับ แต่มันไม่ใช่เรื่องง่ายอีกเหมือนกัน)
อยากของความเห็นครับว่าผมควรทำอย่างไรดี? Mindset / หรือความต้องการทำตามความฝันของผมเป็นเรื่องที่ผิดแปลกไหม? เพราะคนรอบข้างเอาแต่บอกว่า เราคิดไม่เหมือนคนอื่นๆ แปลกแยกจากคนทั่วๆไป พ่อแม่ พี่น้อง ญาติๆ พยายามบอกว่าชีวิตที่เรามีคนรักอยู่ข้างๆตัวมันดีอยู่แล้ว จะไปไขว่ขว้าอะไรอีก? แต่ผมก็ไม่ได้ต้องการทำตามสิ่งที่คนอื่นบอกว่าดี เพราะไม่มีใครบอกได้ว่ามันจะดีสำหรับเราด้วยหรือเปล่า แล้วคนเราจำเป็นต้องมีลูกจริงๆหรอครับ? (โดยเฉพาะในแง่มุมของคุณผู้หญิง) หรือแท้จริงแล้วอะไรคือสิ่งสำคัญในชีวิตที่ผมควรยึดถือและไขว่ขว้ามาครับ? เป้าหมาย/การงาน? ความรัก? ความสุข? ครอบครัว?
ขอบพระคุณทุกๆคนมากครับที่มาช่วยแสดงความเห็น