!!!!ความมหัศจรรย์ของการออกกำลังกาย ตัวช่วย บรรเทาความทรมานจากการรักษาโรคมะเร็งเต้านม กับช่วงเวลาซ่อมร่าง!!!!

สวัสดีทุกคนนะคะ มาต่อกันในตอนที่สองเลยค่ะ 
ตอนนี้แอนจะมาแชร์เรื่องราวในช่วงเวลาการเข้าสู่กระบวนการรักษามะเร็งเต้านม 
แอนมีชื่อเรียก ช่วงเวลานี้ว่า "ช่วงเวลาซ่อมร่าง" นั่นเองค่ะ 
บอกเล่าผ่านคำพูดที่ช่วยให้เห็นภาพง่ายขึ้น ขออนุญาตไม่ใช้ศัพท์ทางการแพทย์นะคะ
หลังจากได้คุยกับหมอคร่าวๆ ถึงแนวทางการรักษา
หมอได้อธิบายให้แอนเข้าใจถึง ระดับของมะเร็งเต้านม
โดยแบ่งเป็น ระดับความดุจากน้อยสุดไปมากสุด ตั้งชื่อเรียกง่ายๆ ประมาณนี้เลยค่ะ
ระดับ a ตัวซุกซนมาให้เราขำๆ
ระดับ b ตัวดุนิดนึง แต่ยาดีเอาอยู่ (แอนเป็นตัวนี้ค่ะ)
ระดับ c ดุบวกบ้าง ลบบ้าง เอาอยู่มั้ยตอบยังไม่ได้ร้อยเปอร์ ดูไปยาวๆ
ระดับ d ดุสุดลบไปหมด พร้อมผลักทุกยาออกจากร่าง

 หลังผ่าตัดไปหนึ่งสัปดาห์ 
คุณหมอนัดมาดูแผลและวางแผนการให้
ยาเคมีบำบัด(คีโม) ณ ตอนนั้นที่คุยกัน 
ผลแลปชนิดชิ้นเนื้อยังไม่ออก หมอคาดการณ์
จากประสบการณ์ ขนาดก้อน บวกกับระยะเวลาที่
แอนเริ่มมีอาการเจ็บตอนลูกเข้าเต้า ก็เกือบๆ 2 ปี 
หมอคิดว่า น่าจะเป็นตัวซุกซน มาแค่ขำๆ ระดับ a
หมอจึงให้ฉีดคีโมแบบขำๆ โดสเบา 4 เข็ม ร่วมกับ
การฉายแสง(เนื่องจากแอนผ่าเฉพาะก้อนเนื้อจึงต้องฉายแสงด้วย 
แต่ถ้าใครที่ผ่าตัดทั้งเต้าแล้วเป็นตัวระดับนี้ ไม่ต้องฉายแสงนะคะ) 
นัดวันที่จะมารับคีโมเข็มแรกเรียบร้อย ก็ไม่มีอะไรมากกลับบ้านได้ 
ช่วงหลังแผลผ่าตัดหายดี หมออนุญาตให้ แอนกลับมาวิ่งได้ตามปกติเลยค่ะ 
ก่อนรับยาคีโม ก็จัด pb ระยะ 10k  เป็นของขวัญและกำลังใจให้ตัวเองไปเลยซิจ๊ะ


       >>>หลังผ่าตัดเสร็จสิ้น ก่อนเข้าสู่ช่วงรับยาเคมีบำบัด แอนก็ยังคงมีความสุขกับ การออกไปวิ่ง


     >>>ตลอดช่วงเวลาซ่อมร่าง แอนก็ยังคงสนุกกับการใช้ชีวิตกับ การวิ่ง

....แล้ววันนัดฉีดคีโมก็มาถึง พร้อมๆกับการฟังผลแลป
ที่ลุ้นที่สุดด้วยเช่นกัน เจอหน้าหมอปุ๊บ (ตอนนี้หมอที่รักษาแอนเป็นคุณหมออีกท่านแล้วนะคะ
เป็นคุณหมอที่เชี่ยวชาญด้านมะเร็งเต้านมโดยเฉพาะ คนละคนกับคุณหมอที่ทำการผ่าตัด)
ก็เซอร์ไพรส์นิดนึง เป็นคุณหมอที่แอนเคย follow up ก่อนหน้านี้แล้วคุณหมอก็ไปเรียนต่อด้านมะเร็งเต้านม
ในช่วงที่แอนท้องพอดี แล้วโชคชะตาก็ทำให้กลับมาเจอกัน🤣
ดูเหมือนจะไม่มีอะไรมาก แต่ทุกอย่างก็ไม่ได้ราบรื่นอย่างที่คิดไว้ เมื่อผลแลปที่ออกมา 
แอนเป็นระดับ b ตัวที่ค่อนข้างดุ มีอัตราการลุกลามในระดับที่สูงใช้ได้แถมด้วยชนิดเฮอร์ทู และฮอร์โมนเป็นบวกไปอีก
แล้วมันแตกต่างจากที่คุยไว้ครั้งแรกยังงัย ต่างตรงต้องเปลี่ยนแผนการรักษาใหม่ทั้งหมด
แอนให้คีโม 4 เข็มเหมือนเดิม แต่ละเข็มเพิ่มปริมาณเป็น 2 โดสต่อเข็ม ต่อด้วยฉายแสง 
เพิ่มเติมด้วยยามุ่งเป้า 9 เข็ม บวกกับกินยาต้านฮอร์โมนไปอีก 5 ปี จบครบทุกขั้นตอนกันเลยทีเดียว
(การรักษามะเร็งเต้านมจะมี 5 วิธี ทำทุกวิธีทั้งหมดก็เพื่อ ให้ระดับ b มีผลลัพธ์เท่ากับระดับ a นั่นเอง ) 
 … แล้วความมหัศจรรย์แรก จากวัคซีนออกกำลังกายก็เกิดขึ้น ✨  จากผลแลปทั้งหมดที่ออกมา
หมอเองก็ไม่อยากจะเชื่อว่า เจ้าก้อนมะเร็งจะเล็กมาก ด้านที่ใหญ่ที่สุดแค่ 1 เซน เพราะถ้าประเมินจากผลแลปและหลายๆ อย่าง
มันควรจะโตไปเป็นระยะ 2 ได้แล้ว การเติมออกซิเจนเข้าสู่ร่างกายและการมีความสุขกับทุกสิ่งรอบตัว
เป็นข้อดีอย่างหนึ่งที่ส่งผลทางอ้อมให้เจ้ามะเร็งเติบโตช้า เพราะสิ่งที่เจ้ามะเร็งกลัวที่สุด
คือ ความสุขและออกชิเจนจากการออกกำลังกายนี่แหละ...
 ทีนี้งานยากก็มาละ เมื่อต้องให้ยาคีโม 4 เข็ม +มุ่งเป้า 9 เข็ม รวมเป็น 13 เข็ม
หมอจึงเปลี่ยนเป็นการผ่าฝัง port แทนรับยาผ่านการเจาะเส้นเลือด
แต่วันนี้แอนรับยาคีโมเข็มแรกเสร็จประมาณหนึ่งทุ่ม ถ้ารอผ่าตัดฝังในวันพรุ่งนี้
เลือดจะไม่หยุดไหลเนื่องจากเป็นเอฟเฟคจากยา เลยได้เข้าผ่าตัดตอนสี่ทุ่มคืนนั้นกันไปเลยค่ะ
ขอบคุณคุณหมอมากๆที่สละเวลาพักผ่อนมาผ่าตัดให้นะคะ ทุกอย่างก็ผ่านไปด้วยดีค่ะ
ก่อนออกจากโรงพยาบาลก็มีเจ้าหน้าที่โภชนาการมาให้ข้อมูล เรื่องอาหาร
การดูแลตัวเองในช่วงรับยาคีโม  ขอบคุณพี่ตุ๊ก(พยาบาลที่ดูแลฉีดยาคีโมของแอน ผู้เป็นทุกอย่างให้แอนจริงๆ)
ติดขัดตรงไหนต้องการข้อมูลอะไร พี่ตุ๊กคนนี้จัดให้ได้หมด แม้กระทั้งแจ้งข้อมูลให้คุณหมอทราบ
(ด้วยความที่คนไข้คุณหมอเยอะมากจริงๆ) เป็นความโชคดีมากๆ ที่แอนได้เจอคุณหมอที่น่ารัก(คุณหมอชื่อคุณหมอศุภวัตน์
แถมยังช่วยดูเคสให้คำแนะนำ อาของแอนที่เจอมะเร็งเต้านมพร้อมๆกับแอน ช่วยให้อาคลายความกังวลได้เยอะมาก
อาของแอนรักษาคนละโรงพยาบาลกัน) คุณหมอให้ข้อมูลทุกอย่างละเอียดมาก ทุกสิ่งที่หมอบอกคือ 
ตัวเลขสถิติจากงานวิจัยทั้งหมด ทุกคำแนะนำ หมอจะถ่ายทอดข้อมูลด้วยคำพูดที่คนธรรมดา เข้าใจได้ง่าย
สร้างความเชื่อมั่นให้แอนได้อย่างมาก และเมื่อเราเชื่อมั่นในตัวคุณหมอ ระหว่างทางซ่อมร่าง 
เราจะไม่ไขว้เขวไปกับข้อมูลอื่นๆ จากคนรอบตัว ที่คอยมาแนะนำกับประโยคที่ว่า
"เค้าบอกว่า....." ซึ่งเค้าที่ว่านี่!! คือใครกันนะ ไม่มีที่มาที่ไป
และขอขอบคุณสำหรับคำแนะนำที่มีให้นะคะแอนรับรู้ถึงความหวังดี ความห่วงใจจากทุกๆคน
เมื่อแอนเชื่อมั่นในตัวคุณหมอ ทีมพยาบาลทุกคน ช่วยให้แอนใช้ชีวิตในช่วงที่รักษาตัวด้วยความสุข
จิตใจก็แข็งแรง ส่งผลให้ร่างกายยิ่งแข็งแรงตามไปด้วย กลับมาบ้านในสัปดาห์แรกหลังฉีดยาคีโม
แอนยังแทบจะใช้ชีวิตได้ปกติ ตามที่หมอบอกไว้ก่อนกลับว่า ให้ใช้ชีวิตได้ปกติ ทำอะไรได้ก็ทำ 
งานบ้านถ้าไหวก็ทำได้ วิ่งได้ โยคะได้ ประเมินตัวเองทำเท่าที่ไหว แต่ให้ดูแลตัวเองอย่าให้เสี่ยงต่อ 
การติดเชื้อก็เพียงพอ ดูแลตัวเองเหมือนช่วงที่โควิดระบาดเลยนะ กินสุก กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ
เลี่ยงที่ชุมชนและแหล่งเชื้อโรค ฟังแล้วก็ไม่ได้ยากใช่มั่ย สิ่งที่ยากที่สุด คือ การกินโปรตีนให้ได้วันละ 75 กรัม นี่แหละ
(โดยคำนวณจากน้ำหนักตัวx1.5) งานหินเลยละ เมื่อต้องกินเนื้อหมู ไก่ ปลา กุ้ง (เนื้อวัวทานได้นะคะ
แต่แอนไม่กินเนื้อวัวมานานแล้วค่ะ)  รวมๆกันเท่ากับ 4ฝ่ามือ/วัน ( 1 ฝ่ามือ= โปรตีน 20กรัมโดยประมาณ )
กินยังงัยละในเมื่อท้องอืด เป็นเอฟเฟคจากยาคีโม  ก็กินแป้งน้อยๆ เน้นโปรตีนไปเลยจ๊ะ 
แต่ผักสุกก็ขาดไม่ได้นะคะ ไม่งั้นจะท้องผูกได้ ช่วงนั้นคือ ทำอาหารกินเองไปเลยค่ะ แทบจะเป็นอาหารคลีน
ปรุงน้อยๆ รสไม่จัด ไข่นี่เน้นๆไข่ขาวไปเลยวันละขั้นต่ำ 6-10 ฟอง 
หมุนเวียนไปทำเมนูไข่ตุ๋น ไข่ต้ม ไข่ดาว ไข่เจียว ไข่น้ำ เอาไปผัดรวมกับเนื้อบ้าง ผักบ้าง 
เป็นความสนุกจากการได้ทำอาหารดีๆกินเองไปอีก ผลไม้สดทานได้ เฉพาะผลไม้เปลือกแข็ง 
ต้องปลอกเปลือก และล้างให้สะอาดเท่านั้น เอาเข้าจริงๆ การดูแลตัวเองในช่วงคีโม
ก็มีความสุขไปอีกแบบ รู้สึกถึงการใส่ใจและรักตัวเองเอามากๆเลยละ
ผ่านเข้าสู่สัปดาห์ที่สอง ( 8-14 วันหลังฉีดยาคีโม) เป็นช่วงที่ภูมิคุ้มกันเป็นศูนย์ คือ 
ร่างการเราจะมีทหารอยู่เต็มไปหมดเพื่อต่อสู้กับศัตรูเชื้อโรคต่างๆใช่มั่ย ทีนี้ผลจากคีโมคือ
นอกจากจะฆ่าทหารไม่ดี(เซลล์มะเร็ง)แล้ว ยังฆ่าทหารดี(เม็ดเลือดขาว)ที่ไอเราฟูมฟักดูแลมาทั้งชีวิตไปอีกด้วย
เป็นช่วงที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อที่สุด ในขณะที่แอนต้องกลับไปทำงานซึ่ง ต้องนั่งนับธนบัตรที่เป็นแหล่งเชื้อโรค
และรับลูกค้าจำนวนมากในแต่ละวัน ป้องกันตัวเองแบบขั้นสุดไปเลยจ๊ะ
แต่เชื่อมั้ย ความมหัศจรรย์ของการออกกำลังกายทำงานอีกแล้ว ✨ มีใครเคยคิดมั้ยว่า
คนที่กำลังให้ยาคีโมอยู่ จะยังคงไป วิ่งได้วันละ 4-5 กิโล นั่นแหละ!!! แอนเอง
แอนตื่นไปวิ่งในตอนเช้าหลังจากฉีดยาคีโมเข็มแรกผ่านมา 10 วัน พร้อมๆกับผมที่ร่วงเกือบหมดหัวแล้ว
เชื่อมั้ยว่า ถ้าเรามีวัคซีนภูมิคุ้มกันที่สร้างขึ้นจากการออกกำลังกาย ร่างกายเค้ามหัศจรรย์นะ 
อะไรที่เราเคยทำได้ สมองเค้าจดจำ และก็ยังคงทำมันได้อยู่ อาจไม่เท่ากับช่วงปกติ 
แต่จะรู้สึกดีแค่ไหน ถ้าวันนี้เรายังคงได้ทำในสิ่งที่รักอยู่ แม้จะอยู่ในช่วงเวลาซ่อมร่าง โคตรมีความสุขเลยละ
ยิ่งในสัปดาห์ที่สาม แทบไม่มีเอฟเฟคใดๆแล้ว ร่างกายฟื้นกลับมา ทหารที่ถูกฆ่าตอนนี้เกิดใหม่แล้วนะคะ
แต่ช่วงยากลำบากที่สุดของ การคีโม มันคือ การต้องกลับไปวนลูปเดิมอีกครั้ง
กับการให้ยาในเข็มที่สอง ทหารชั้นจะถูกฆ่าซ้ำ!!! แล้วก็ต้องกลับไปสร้างทหารขึ้นมาใหม่
ในเวลาแค่ 3 สัปดาห์วนๆไป เป็นเรื่องขำๆ ที่มีน้ำตาซ้อนอยู่เลยทีเดียว เหล่าทหารที่รัก


   >>>>หลังรับยาเคมีบำบัดเข็มที่ 1 แอนก็ยังกลับไปวิ่ง เท่าที่ร่างกายทำได้

....แล้วคีโมเข็มที่สองก็มาถึงในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2566 ก่อนให้ยาก็ต้องตรวจเลือกก่อน
ผลเลือด คือ โอเคผ่านเกณฑ์ แต่ก็ไม่ถึงกลับมาร้อยเปอร์เซ็นต์เท่ากับก่อนฉีดคีโม คราวนี้ได้ข้อมูลใหม่มาจากพี่ตุ๊ก
คือ ให้กินโปรตีนเยอะๆไปเลย ถ้ากินไหวให้กินวันละ 100 กรัมไปเลย งานช้างเลยนะนั่น หลังจากฉีดยาเข็มที่สองมา
ก็เหมือนเดิมเลยค่ะ แอนก็ใช้ชีวิตในแต่ละสัปดาห์เหมือนครั้งแรกเลย เพิ่มเติมคืออัดโปรตีน 
ทั้งจากธรรมชาติและ อาหารเสริม (แอนกิน นีโอมูน nestle impact  fresubin ) และก็เริ่มกลับไปวิ่ง
ในวันที่ 7 มีนาคม 2566 คนที่เห็นก็เริ่มสงสัยละว่า แอนป่วยเป็นมะเร็งจริงเหรอ ฉีดยาคีโมแล้วออกกำลังกายไหว
เพราะ ภาพที่คนส่วนใหญ่คิดคือ ต้องนอนพักฟื้น อ่อนเพลีย ไม่มีแรง ซึ่งตรงกันข้ามกับสิ่งที่แอนเป็น จริงๆคนที่อยู่ในช่วงรับยาคีโม
แอนเชื่อว่ามีหลายๆคนที่ยังแข็งแรง และใช้ชีวิตได้ใกล้เคียง คำว่า ปกติมากๆเลยละคะ
ผ่านเข็มที่สองมา แอนก็ยังคงออกไปวิ่ง ได้ยิ้ม ได้หัวเราะ ได้ใช้ชีวิต เหมือนเดิม


     >>>> รับยาเคมีบำบัดเข็มที่ 2 แอนก็ยังคงวิ่งและโยคะได้
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่