หลังจากที่ผมได้เริ่มเขียน พล็อตเรื่อง และให้ทุกคนช่วยแนะนำ ตอนนี้ผมเขียนตอนที่ 1 แล้วนะครับ นี่คือบางช่วงของตอนที่ 1
กลางแสงแดดอ่อนของยามเช้าในสวนผลไม้แห่งหนึ่ง ดร.แมตธิว แอนเดอร์สัน กำลังยืนรดน้ำต้นไม้ ต้นแอปเปิลที่ปลูกไว้อย่างประณีตเรียงเป็นแถว มีใบเขียวสดและลูกแอปเปิลสีแดงกำลังสุกงอม เสียงน้ำที่กระทบใบไม้สร้างความสงบให้กับบรรยากาศรอบๆ ตัวเขา แมตธิวเองก็รู้สึกสงบสุขในช่วงเวลาที่เงียบสงบเช่นนี้ เป็นการหลีกหนีจากอดีตอันเลวร้ายที่ NASA ที่ยังคงตามหลอกหลอนเขาเสมอ
แม้เขาจะเป็นชาวสวนในตอนนี้ แต่ความเป็นอดีตวิศวกรการบินและอวกาศผู้เคยอยู่แถวหน้าของวงการยังคงติดตัวเขามา ความทรงจำในอดีตเริ่มกลับมาอีกครั้ง ขณะมองออกไปยังท้องฟ้ากว้าง แมตธิวหวนนึกถึงโครงการ SRAS ซึ่งเขาทุ่มเทเวลาหลายปีในการพัฒนามัน ความฝันที่จะสำรวจหลุมดำ Sagittarius A* และความมุ่งมั่นที่จะค้นพบความลับของเอกภพนั้นทำให้เขาละทิ้งชีวิตที่สงบสุขเพื่อมาเสี่ยงในอวกาศ
แต่ทุกอย่างพังทลายลงเมื่อโครงการถูกตัดงบประมาณ ยานระเบิด และลูกเรือเสียชีวิต ความสูญเสียนั้นทิ้งรอยแผลลึกในใจของเขา แมตธิวจึงตัดสินใจลาออกจาก NASA และกลับมาที่ฟาร์มของครอบครัวในชนบท อันเป็นที่ที่เขาเคยใช้ชีวิตในวัยเด็ก
ขณะที่เขากำลังครุ่นคิดถึงอดีต รถยนต์คันหนึ่งก็แล่นเข้ามาทางถนนลูกรัง ดร.คริสโตเฟอร์ แอนโทนี อดีตเพื่อนร่วมงานและเพื่อนสนิทของเขา ก้าวลงมาจากรถ ใบหน้าของแอนโทนีแสดงถึงความเหนื่อยล้าและเร่งรีบ "แมตธิว" แอนโทนีทักทายด้วยน้ำเสียงจริงจัง "ฉันต้องการคุยกับนายเกี่ยวกับโครงการใหม่ของ NASA"
ดร.แอนเดอร์สันวางกระบอกน้ำรดต้นไม้ลงและถอนหายใจยาว "คริส ฉันไม่ได้สนใจจะกลับไปที่นั่นแล้ว นายรู้ดี"
แอนโทนีขยับเข้ามาใกล้ พลางมองหน้าเพื่อนเก่าอย่างจริงจัง "ฉันรู้แมตธิว แต่ครั้งนี้มันต่างออกไป NASA ต้องการให้นายช่วยในโครงการ Warp To Jurassic มันเป็นโครงการที่สำคัญ และนายเป็นคนเดียวที่มีความเชี่ยวชาญเรื่องรูหนอนและทฤษฎีสัมพัทธภาพมากพอที่จะทำให้มันสำเร็จ"
แอนเดอร์สันฟังคำพูดของแอนโทนีด้วยความไม่พอใจ เขารู้สึกถูกบีบคั้นอีกครั้ง "โครงการสำคัญอย่างนั้นเหรอ? ก็เหมือนกับที่นายกับคาร์เพนเตอร์เคยบอกฉันตอน SRAS ใช่ไหม? และมันจบลงยังไง คริส? ลูกเรือทั้งหมดเสียชีวิตเพราะการตัดสินใจที่ขาดความรับผิดชอบ"
แอนโทนีจ้องตาเพื่อนอย่างเด็ดเดี่ยว "มันเป็นความผิดพลาด แต่เราต้องก้าวไปข้างหน้า เราจะใช้ประสบการณ์ที่ผ่านมาเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความผิดพลาดซ้ำอีก คราวนี้เราจะไม่ปล่อยให้มันเกิดขึ้น"
แมตธิวเงียบไปสักครู่ก่อนที่จะถามออกมาเบาๆ "และคาร์เพนเตอร์ล่ะ? เขามีส่วนร่วมในโครงการนี้ด้วยใช่ไหม?"
"ใช่" แอนโทนีตอบด้วยเสียงหนักแน่น "แต่ครั้งนี้ เขาเปิดโอกาสให้นายมีอำนาจในการตัดสินใจมากกว่าเดิม นายจะเป็นคนควบคุมการปฏิบัติการ ไม่ใช่เขา"
แมตธิวสบตาเพื่อนด้วยความลังเล แม้ความเจ็บปวดจากอดีตจะยังฝังลึกอยู่ในใจ แต่ในที่สุดเขาก็พยักหน้า "ก็ได้ คริส ฉันจะลองดู"
เมื่อแมตธิวกลับมาที่ NASA บรรยากาศของศูนย์บัญชาการก็ดูคุ้นเคยและเต็มไปด้วยความทรงจำเก่าๆ เขาได้รับมอบหมายให้ทำหน้าที่ควบคุมการปฏิบัติการในการสร้างรูหนอน ซึ่งจำเป็นต้องใช้พลังงานสูงเพื่อบิดโค้งกาลอวกาศให้เป็นทางเข้าสู่ยุคจูราสสิค แมตธิวเสนอให้ใช้เครื่อง Nuclear Fusion Generator (NCF) เพื่อสร้างปฏิกิริยานิวเคลียร์ฟิวชันและเร่งให้เกิดดาวฤกษ์เทียม แต่ปัญหาคือ NASA ขาดแคลนไฮโดรเจนจำนวนมาก
ผอ.ไมเคิล คาร์เพนเตอร์เสนอให้ใช้ Hydrogen Generator from Quark (HGQ) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีใหม่ที่ยังไม่ผ่านการทดสอบอย่างสมบูรณ์ แมตธิวแย้งว่า "HGQ นั้นยังอยู่ในขั้นตอนการทดลองอยู่ ถ้าเกิดความผิดพลาด รูหนอนจะปิดและพวกเขาจะติดอยู่ในอดีต เราไม่ควรเสี่ยงกับชีวิตของพวกเขา"
คาร์เพนเตอร์ตอบกลับอย่างจริงจัง "แมตธิว เราไม่มีเวลามาถกเถียงกันอีกแล้ว เราต้องทำให้ได้ภายในเดือนนี้ รัฐบาลกำลังจับตาดู และถ้าล้มเหลว เราจะเสียเปรียบต่อรัสเซีย ถ้านายไม่อยากให้สิ่งเลวร้ายเกิดขึ้นอีก นายก็ต้องทำให้มันสำเร็จ"
แอนเดอร์สันสบตาคาร์เพนเตอร์ด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความโกรธและผิดหวัง "ผมจะทำตามคำสั่งคุณ แต่ถ้าสิ่งที่เลวร้ายเกิดขึ้นอีกครั้ง คุณต้องเป็นคนรับผิดชอบ"
แมตธิวเดินออกจากห้องไป ในขณะที่คาร์เพนเตอร์ยืนมองตามหลังเขาด้วยความกังวลที่เริ่มฉายชัดขึ้นในแววตา
เมื่อวันเริ่มต้นภารกิจมาถึง ทีมงานต่างพร้อมเพรียงกัน แมตธิวสั่งให้เปิดสวิตช์ HGQ และ NCF รูหนอนค่อยๆ ปรากฏขึ้นกลางอากาศ ดร.โรบินสัน ดร.อเล็กซานเดอร์ และดร.แคร์ นักบรรพชีวินวิทยาเดินเข้าไปในรูหนอน ความรู้สึกของทุกคนเต็มไปด้วยความตื่นเต้นและระคนความหวาดหวั่น ขณะเดียวกัน แมตธิวก็มองจอมอนิเตอร์ด้วยใจที่หนักอึ้ง หวังว่าภารกิจนี้จะไม่ซ้ำรอยกับเหตุการณ์ที่ผ่านมาที่ฝังใจเขาไว้ตลอดมา
อ่านต่อได้ที่ :
http://writer.dek-d.com/Aekw/writer/viewlongc.php?id=2585316&chapter=1
นิยายแนววิทยาศาสตร์
กลางแสงแดดอ่อนของยามเช้าในสวนผลไม้แห่งหนึ่ง ดร.แมตธิว แอนเดอร์สัน กำลังยืนรดน้ำต้นไม้ ต้นแอปเปิลที่ปลูกไว้อย่างประณีตเรียงเป็นแถว มีใบเขียวสดและลูกแอปเปิลสีแดงกำลังสุกงอม เสียงน้ำที่กระทบใบไม้สร้างความสงบให้กับบรรยากาศรอบๆ ตัวเขา แมตธิวเองก็รู้สึกสงบสุขในช่วงเวลาที่เงียบสงบเช่นนี้ เป็นการหลีกหนีจากอดีตอันเลวร้ายที่ NASA ที่ยังคงตามหลอกหลอนเขาเสมอ
แม้เขาจะเป็นชาวสวนในตอนนี้ แต่ความเป็นอดีตวิศวกรการบินและอวกาศผู้เคยอยู่แถวหน้าของวงการยังคงติดตัวเขามา ความทรงจำในอดีตเริ่มกลับมาอีกครั้ง ขณะมองออกไปยังท้องฟ้ากว้าง แมตธิวหวนนึกถึงโครงการ SRAS ซึ่งเขาทุ่มเทเวลาหลายปีในการพัฒนามัน ความฝันที่จะสำรวจหลุมดำ Sagittarius A* และความมุ่งมั่นที่จะค้นพบความลับของเอกภพนั้นทำให้เขาละทิ้งชีวิตที่สงบสุขเพื่อมาเสี่ยงในอวกาศ
แต่ทุกอย่างพังทลายลงเมื่อโครงการถูกตัดงบประมาณ ยานระเบิด และลูกเรือเสียชีวิต ความสูญเสียนั้นทิ้งรอยแผลลึกในใจของเขา แมตธิวจึงตัดสินใจลาออกจาก NASA และกลับมาที่ฟาร์มของครอบครัวในชนบท อันเป็นที่ที่เขาเคยใช้ชีวิตในวัยเด็ก
ขณะที่เขากำลังครุ่นคิดถึงอดีต รถยนต์คันหนึ่งก็แล่นเข้ามาทางถนนลูกรัง ดร.คริสโตเฟอร์ แอนโทนี อดีตเพื่อนร่วมงานและเพื่อนสนิทของเขา ก้าวลงมาจากรถ ใบหน้าของแอนโทนีแสดงถึงความเหนื่อยล้าและเร่งรีบ "แมตธิว" แอนโทนีทักทายด้วยน้ำเสียงจริงจัง "ฉันต้องการคุยกับนายเกี่ยวกับโครงการใหม่ของ NASA"
ดร.แอนเดอร์สันวางกระบอกน้ำรดต้นไม้ลงและถอนหายใจยาว "คริส ฉันไม่ได้สนใจจะกลับไปที่นั่นแล้ว นายรู้ดี"
แอนโทนีขยับเข้ามาใกล้ พลางมองหน้าเพื่อนเก่าอย่างจริงจัง "ฉันรู้แมตธิว แต่ครั้งนี้มันต่างออกไป NASA ต้องการให้นายช่วยในโครงการ Warp To Jurassic มันเป็นโครงการที่สำคัญ และนายเป็นคนเดียวที่มีความเชี่ยวชาญเรื่องรูหนอนและทฤษฎีสัมพัทธภาพมากพอที่จะทำให้มันสำเร็จ"
แอนเดอร์สันฟังคำพูดของแอนโทนีด้วยความไม่พอใจ เขารู้สึกถูกบีบคั้นอีกครั้ง "โครงการสำคัญอย่างนั้นเหรอ? ก็เหมือนกับที่นายกับคาร์เพนเตอร์เคยบอกฉันตอน SRAS ใช่ไหม? และมันจบลงยังไง คริส? ลูกเรือทั้งหมดเสียชีวิตเพราะการตัดสินใจที่ขาดความรับผิดชอบ"
แอนโทนีจ้องตาเพื่อนอย่างเด็ดเดี่ยว "มันเป็นความผิดพลาด แต่เราต้องก้าวไปข้างหน้า เราจะใช้ประสบการณ์ที่ผ่านมาเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความผิดพลาดซ้ำอีก คราวนี้เราจะไม่ปล่อยให้มันเกิดขึ้น"
แมตธิวเงียบไปสักครู่ก่อนที่จะถามออกมาเบาๆ "และคาร์เพนเตอร์ล่ะ? เขามีส่วนร่วมในโครงการนี้ด้วยใช่ไหม?"
"ใช่" แอนโทนีตอบด้วยเสียงหนักแน่น "แต่ครั้งนี้ เขาเปิดโอกาสให้นายมีอำนาจในการตัดสินใจมากกว่าเดิม นายจะเป็นคนควบคุมการปฏิบัติการ ไม่ใช่เขา"
แมตธิวสบตาเพื่อนด้วยความลังเล แม้ความเจ็บปวดจากอดีตจะยังฝังลึกอยู่ในใจ แต่ในที่สุดเขาก็พยักหน้า "ก็ได้ คริส ฉันจะลองดู"
เมื่อแมตธิวกลับมาที่ NASA บรรยากาศของศูนย์บัญชาการก็ดูคุ้นเคยและเต็มไปด้วยความทรงจำเก่าๆ เขาได้รับมอบหมายให้ทำหน้าที่ควบคุมการปฏิบัติการในการสร้างรูหนอน ซึ่งจำเป็นต้องใช้พลังงานสูงเพื่อบิดโค้งกาลอวกาศให้เป็นทางเข้าสู่ยุคจูราสสิค แมตธิวเสนอให้ใช้เครื่อง Nuclear Fusion Generator (NCF) เพื่อสร้างปฏิกิริยานิวเคลียร์ฟิวชันและเร่งให้เกิดดาวฤกษ์เทียม แต่ปัญหาคือ NASA ขาดแคลนไฮโดรเจนจำนวนมาก
ผอ.ไมเคิล คาร์เพนเตอร์เสนอให้ใช้ Hydrogen Generator from Quark (HGQ) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีใหม่ที่ยังไม่ผ่านการทดสอบอย่างสมบูรณ์ แมตธิวแย้งว่า "HGQ นั้นยังอยู่ในขั้นตอนการทดลองอยู่ ถ้าเกิดความผิดพลาด รูหนอนจะปิดและพวกเขาจะติดอยู่ในอดีต เราไม่ควรเสี่ยงกับชีวิตของพวกเขา"
คาร์เพนเตอร์ตอบกลับอย่างจริงจัง "แมตธิว เราไม่มีเวลามาถกเถียงกันอีกแล้ว เราต้องทำให้ได้ภายในเดือนนี้ รัฐบาลกำลังจับตาดู และถ้าล้มเหลว เราจะเสียเปรียบต่อรัสเซีย ถ้านายไม่อยากให้สิ่งเลวร้ายเกิดขึ้นอีก นายก็ต้องทำให้มันสำเร็จ"
แอนเดอร์สันสบตาคาร์เพนเตอร์ด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความโกรธและผิดหวัง "ผมจะทำตามคำสั่งคุณ แต่ถ้าสิ่งที่เลวร้ายเกิดขึ้นอีกครั้ง คุณต้องเป็นคนรับผิดชอบ"
แมตธิวเดินออกจากห้องไป ในขณะที่คาร์เพนเตอร์ยืนมองตามหลังเขาด้วยความกังวลที่เริ่มฉายชัดขึ้นในแววตา
เมื่อวันเริ่มต้นภารกิจมาถึง ทีมงานต่างพร้อมเพรียงกัน แมตธิวสั่งให้เปิดสวิตช์ HGQ และ NCF รูหนอนค่อยๆ ปรากฏขึ้นกลางอากาศ ดร.โรบินสัน ดร.อเล็กซานเดอร์ และดร.แคร์ นักบรรพชีวินวิทยาเดินเข้าไปในรูหนอน ความรู้สึกของทุกคนเต็มไปด้วยความตื่นเต้นและระคนความหวาดหวั่น ขณะเดียวกัน แมตธิวก็มองจอมอนิเตอร์ด้วยใจที่หนักอึ้ง หวังว่าภารกิจนี้จะไม่ซ้ำรอยกับเหตุการณ์ที่ผ่านมาที่ฝังใจเขาไว้ตลอดมา
อ่านต่อได้ที่ : http://writer.dek-d.com/Aekw/writer/viewlongc.php?id=2585316&chapter=1