ผมใช้ Samsung S22 Ultra และเมื่อวานนี้ ขณะเสียบชาร์จโทรศัพท์ทิ้งไว้ช่วงที่ไปอาบน้ำ หลังจากที่แบตเต็มแล้วดึงออกจากที่ชาร์จ พบว่าทัชสกรีนไม่ได้ เลยเอาไปเข้าศูนย์บริการ Samsung ที่เซ็นทรัลพระรามเก้า
หลังจากเจ้าหน้าที่ตรวจสอบตัวเครื่องเบื้องต้น แจ้งว่าโทรศัพท์มีความชื้น ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้จอเสีย และแจ้งค่าซ่อมประมาณ 8,000 กว่าบาท ผมได้แย้งไปว่าไม่น่าจะมีน้ำเข้าได้ อีกทั้งไม่มีสัญลักษณ์ไอคอนหยดน้ำขึ้นมาเตือนตามที่เจ้าหน้าที่กล่าวอ้าง
ยิ่งกว่านั้น ผมเคยเคลมจอไปเมื่อเดือนพฤศจิกายนปี 2566 ที่ผ่านมา ซึ่งตอนนั้นเจ้าหน้าที่ก็แจ้งว่าตรงรูชาร์จมีสีแดง บ่งบอกถึงความชื้น และครั้งนี้ก็ใช้เหตุผลเดียวกัน ผมจึงสงสัยว่าอาจเป็นเพราะการประกอบหรือซีลที่ศูนย์ทำไว้ไม่ดีหรือไม่ จึงขอให้ตรวจสอบอีกครั้ง
ผมสอบถามว่าหากเป็นปัญหาจากการประกอบเครื่องที่ไม่ดี ทางศูนย์มีมาตรการบรรเทาความเสียหายให้ลูกค้าอย่างไร แต่เจ้าหน้าที่แจ้งว่าก่อนส่งมอบเครื่องให้ลูกค้าครั้งก่อน ช่างได้ตรวจสอบแล้ว แต่ไม่ได้แจ้งว่าตรวจสอบอย่างไร และยืนยันว่าไม่ได้อยู่ในเงื่อนไขการรับประกัน
ผมเข้าใจว่าถ้าศูนย์ตรวจสอบแล้ว โทรศัพท์ควรจะสามารถกันน้ำได้ตามที่ Samsung โฆษณาว่าเครื่องรุ่นนี้มีมาตรฐานกันน้ำ IP68 ซึ่งผ่านการทดสอบในห้องปฏิบัติการว่าสามารถกันน้ำสะอาดได้ลึกสูงสุด 1.5 เมตร เป็นเวลา 30 นาที หากเป็นเช่นนี้ เครื่องไม่ควรมีความชื้นหรือน้ำเข้าได้ เนื่องจากมาตรฐาน IP68 หมายถึงการป้องกันฝุ่นได้สมบูรณ์และป้องกันน้ำได้
เจ้าหน้าที่ยังบอกว่าที่มุมเครื่องมีรอยถลอก ซึ่งอาจเป็นสาเหตุให้น้ำเข้า แต่ผมยืนยันอีกครั้งว่าไม่น่าจะเป็นไปได้
ผมขอให้ศูนย์พิสูจน์ว่าน้ำเข้าได้จากรอยถลอกหรือไม่ และถามว่าหากเปลี่ยนจอครั้งนี้ จะมั่นใจได้อย่างไรว่าเหตุการณ์นี้จะไม่เกิดขึ้นอีก แต่เจ้าหน้าที่ไม่สามารถตอบได้ โดยบอกว่าขึ้นอยู่กับการใช้งานของลูกค้า
ผมเข้าใจว่าเจ้าหน้าที่ที่ให้บริการอาจไม่สามารถตัดสินใจเรื่องนี้ได้ แต่สิ่งที่ทำได้คือส่งต่อปัญหาของลูกค้าไปให้ผู้ที่มีอำนาจตัดสินใจ แต่กลับแจ้งว่าเขาเองที่ตัดสินใจเรื่องนี้ได้และให้ส่วนลดค่าอะไหล่ 30% โดยไม่มีมาตรการเพิ่มเติม
จากประสบการณ์นี้ ผมอยากสอบถามความคิดเห็นจากทุกท่านว่า Samsung โฆษณาเกินจริงหรือไม่? ถ้าใช่ ผมสามารถดำเนินการอย่างไรเพื่อสะท้อนปัญหาให้ผู้ที่สามารถตัดสินใจได้รับรู้และแก้ไข รวมถึงอยากทราบว่าศูนย์ได้ทำการทดสอบเรื่องการกันน้ำก่อนส่งมอบจริงหรือไม่ และหากไม่สามารถมั่นใจในคุณภาพการซ่อมจากศูนย์ เราควรจะใช้บริการศูนย์ต่อไปหรือไม่?
Samsung S22 Ultra จอมีปัญหา หลังเปลี่ยนจอจากศูนย์ไม่ถึง 1 ปี จอทัชไม่ได้ แต่ศูนย์ไม่รับเคลม
หลังจากเจ้าหน้าที่ตรวจสอบตัวเครื่องเบื้องต้น แจ้งว่าโทรศัพท์มีความชื้น ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้จอเสีย และแจ้งค่าซ่อมประมาณ 8,000 กว่าบาท ผมได้แย้งไปว่าไม่น่าจะมีน้ำเข้าได้ อีกทั้งไม่มีสัญลักษณ์ไอคอนหยดน้ำขึ้นมาเตือนตามที่เจ้าหน้าที่กล่าวอ้าง
ยิ่งกว่านั้น ผมเคยเคลมจอไปเมื่อเดือนพฤศจิกายนปี 2566 ที่ผ่านมา ซึ่งตอนนั้นเจ้าหน้าที่ก็แจ้งว่าตรงรูชาร์จมีสีแดง บ่งบอกถึงความชื้น และครั้งนี้ก็ใช้เหตุผลเดียวกัน ผมจึงสงสัยว่าอาจเป็นเพราะการประกอบหรือซีลที่ศูนย์ทำไว้ไม่ดีหรือไม่ จึงขอให้ตรวจสอบอีกครั้ง
ผมสอบถามว่าหากเป็นปัญหาจากการประกอบเครื่องที่ไม่ดี ทางศูนย์มีมาตรการบรรเทาความเสียหายให้ลูกค้าอย่างไร แต่เจ้าหน้าที่แจ้งว่าก่อนส่งมอบเครื่องให้ลูกค้าครั้งก่อน ช่างได้ตรวจสอบแล้ว แต่ไม่ได้แจ้งว่าตรวจสอบอย่างไร และยืนยันว่าไม่ได้อยู่ในเงื่อนไขการรับประกัน
ผมเข้าใจว่าถ้าศูนย์ตรวจสอบแล้ว โทรศัพท์ควรจะสามารถกันน้ำได้ตามที่ Samsung โฆษณาว่าเครื่องรุ่นนี้มีมาตรฐานกันน้ำ IP68 ซึ่งผ่านการทดสอบในห้องปฏิบัติการว่าสามารถกันน้ำสะอาดได้ลึกสูงสุด 1.5 เมตร เป็นเวลา 30 นาที หากเป็นเช่นนี้ เครื่องไม่ควรมีความชื้นหรือน้ำเข้าได้ เนื่องจากมาตรฐาน IP68 หมายถึงการป้องกันฝุ่นได้สมบูรณ์และป้องกันน้ำได้
เจ้าหน้าที่ยังบอกว่าที่มุมเครื่องมีรอยถลอก ซึ่งอาจเป็นสาเหตุให้น้ำเข้า แต่ผมยืนยันอีกครั้งว่าไม่น่าจะเป็นไปได้
ผมขอให้ศูนย์พิสูจน์ว่าน้ำเข้าได้จากรอยถลอกหรือไม่ และถามว่าหากเปลี่ยนจอครั้งนี้ จะมั่นใจได้อย่างไรว่าเหตุการณ์นี้จะไม่เกิดขึ้นอีก แต่เจ้าหน้าที่ไม่สามารถตอบได้ โดยบอกว่าขึ้นอยู่กับการใช้งานของลูกค้า
ผมเข้าใจว่าเจ้าหน้าที่ที่ให้บริการอาจไม่สามารถตัดสินใจเรื่องนี้ได้ แต่สิ่งที่ทำได้คือส่งต่อปัญหาของลูกค้าไปให้ผู้ที่มีอำนาจตัดสินใจ แต่กลับแจ้งว่าเขาเองที่ตัดสินใจเรื่องนี้ได้และให้ส่วนลดค่าอะไหล่ 30% โดยไม่มีมาตรการเพิ่มเติม
จากประสบการณ์นี้ ผมอยากสอบถามความคิดเห็นจากทุกท่านว่า Samsung โฆษณาเกินจริงหรือไม่? ถ้าใช่ ผมสามารถดำเนินการอย่างไรเพื่อสะท้อนปัญหาให้ผู้ที่สามารถตัดสินใจได้รับรู้และแก้ไข รวมถึงอยากทราบว่าศูนย์ได้ทำการทดสอบเรื่องการกันน้ำก่อนส่งมอบจริงหรือไม่ และหากไม่สามารถมั่นใจในคุณภาพการซ่อมจากศูนย์ เราควรจะใช้บริการศูนย์ต่อไปหรือไม่?