เอกลักษณ์ของละครโทรทัศน์ในแต่ละช่อง (ยุคอนาล็อก)

ช่อง 3 ละครบทดีมาก แต่ไม่ค่อยลงทุนเท่าไหร่ ลองไปค้นดูละครเก่าๆของช่องได้เลย จะวนเวียนถ่ายอยู่ในสตูดิโอ (นานๆทีจะมีละครถ่ายนอกสถานที่บ้าง) ส่วนซาวด์สกอร์ประกอบ ส่วนใหญ่จะใช้เปียโนโง่ๆ 1 ตัว กดดังต๊องแหน่งๆ เพื่อเพิ่มอรรถรสในการดูละคร ข้อดีของช่อง 3 จริงๆคือมีนักแสดงและผู้จัดมากฝีมืออยู่ที่ช่องนี้พอสมควร ละครจึงมีคุณภาพ และละครก็ทำเป็นสต๊อกออกอากาศ จึงหาที่ติได้ยากมาก

ส่วนช่อง 7 เน้นแนวละครชาวบ้านและผัวเมียเป็นหลัก แต่ยืนหนึ่งจริงๆคือละครบู๊ ต้องมีทุกๆไตรมาส แต่ก็สอดแทรกละครสร้างสรรค์สังคมมาแบบเรื่อยๆ เรียกว่าหลายอรรถรสหลายรสชาติเลยทีเดียว ส่วนซาวด์สกอร์ประกอบละคร เล่นเอา Music Motion Pictures ของประกอบหนัง Hollywood มาใช้ เรียกว่าเพลงประกอบเล่นใหญ่เล่นจริง ทุกเรื่องมีการลงทุนที่สูงมาก และหลายๆเรื่องก็ทำตรงตามบทประพันธ์บ้าง แต่ก็ไม่เยอะนัก เพราะเป็นละครจานด่วน นั่นคือถ่ายไปออกอากาศไป ทำให้บทละครนั้นถูกเปลี่ยนตลอดเวลา จึงทำให้ช่วงเวลาละครที่ออกอากาศนั้น อยู่ในสถานการณ์ปัจจุบันตลอดเวลา แถมยืดหดการออกอากาศ ตามเรตติ้งที่มี จึงได้ใจคนดูส่วนใหญ่ไปครอง
ต้องบอกว่า ถ้าช่อง 3 มีผู้จัดมากฝีมือก็จริง แต่เรื่องการแก้สถานการณ์และความเก๋าเกม ช่อง 3 สู้ช่อง 7 ไม่ได้เลย เพราะค่ายกันตนาและดาราวีดีโอ เป็น 2 ค่ายที่ทำละครได้แบบทรหดอดทนมากๆ แต่ด้วยสถานการณ์บางอย่างที่บีบบังคับ อาจจะทำให้ละครบางเรื่อง ขาดความเนี๊ยบ ทำให้คนดูละคร บางคนที่ตาดี สามารถจับผิดได้อยู่บ่อยๆ
ช่วงปีหลังๆ 2540 ก็เริ่มมีหลายค่ายเข้ามาทำ ช่อง 7 จึงมีละครที่หลากหลายมากๆ เพราะมีผู้จัดหลายค่าย และเป็นค่ายที่มีฝีมือด้วย วนเวียนเข้าออกตลอดเวลา จึงทำให้ยุคนั้นละครช่อง 7 เป็นที่พูดถึงของคนในวงกว้าง

ช่อง 5 เป็นละครตามบุญตามกรรม นั่นก็คือทุกสิ่งอย่าง อยู่ที่ผู้เช่าเวลา ช่อง 5 แทบไม่ได้ลงทุนอะไร แค่ปล่อยให้ค่ายละครมาเช่าเวลาเฉยๆ ซึ่งตอนนั้น มี 3 ค่ายใหญ่ ที่เช่าเวลาละครของช่อง 5 นั่นคือ Media of Medias กันตนา และ Exact แต่ทั้ง 3 ค่ายดันทำละครได้ดีมากๆ เรียกว่ามี 3 ค่ายมีละคร 3 แนวเลยทีเดียว
ค่าย Media of Medias ทำละครแนวชาวบ้าน ตลกโปกฮา และดราม่าแบบน้ำตาท่วมจอ
ค่ายกันตนา ทำละครแบบบู๊ล้างผลาญ สลับกับละครรักใสๆ รวมถึง ละครแบบดราม่าหนักๆ ที่ดูแล้วชวนให้อยากจะเอารีโมทเขวี้ยงให้โดนให้จอทีวีแตกสักทีก็มีหลายเรื่องอยู่
ค่าย Exact นำเสนอละครรูปแบบแนวสมัยใหม่มีครบทุกรสชาติ จะเน้นไปแนวรักโรแมนติก น้ำเน่ายุงชุม รวมไปถึงละครตลกน่ารักสดใส
และยุคหลังๆของละครช่อง 5 ปรับเวลาละครไม่ให้ชนกับช่องใหญ่ ถือว่าเรตติ้งได้ไปเต็มๆ ส่วนถ้าหลัง 2 ทุ่มครึ่ง ไปแล้ว ช่อง 3 ช่อง 7 เขาเล่นฉายละครกัน ช่อง 5 ไม่เป็นอย่างนั้น ดันเอารายการตลกและวาไรตี้มาชนกันซะเลย เรียกได้เลยว่า ช่อง 5 ยุคนั้นทำตัวย้อนแย้งแต่ได้ดี

ส่วนช่อง 9 ดินแดนแห่งสนธยา ละครมาในรูปแบบการเช่าเวลาไม่ต่างจากช่อง 5 นัก แต่เวลาที่ออกอากาศ น่าสงสารมาก เล่นให้ออกอากาศช่วง เสาร์-อาทิตย์ เวลา 13.00 น. ตอนนั้นมีค่ายละครที่ทำอยู่คือสีบุญเรืองสตูดิโอ ต่อมาก็จะเป็นค่ายดาวเรืองสตูดิโอ หลังๆมาก็จะเป็นค่ายอัครมีเดีย แต่ก็อย่างว่าล่ะค่ะ แดนสนธยาไม่เน้นละคร เน้นเปิดมิวสิควีดีโอค่ายนิธิทัศน์อย่างเดียว
แต่หลังๆช่วงปี 2545 หรือที่เรียกยุคว่าโมเดิร์นไนน์ทีวี เป็นต้นมา ก็เริ่มจะเน้นละครหลายค่ายมากขึ้น เวลาก็ถูกปรับให้เป็น Prime Time ไม่ว่าจะเป็นซีรีส์จาก workpoint ละครค่าย RS และ Exact แต่ก็ทำได้ไม่นาน เพราะนโยบายเปลี่ยนไปเปลี่ยนมา ตามผู้บริหารที่เข้ามาควบคุมตามยุคตามสมัย

ส่วนช่องไอทีวี เป็นช่องน้องใหม่ ไม่ค่อยเน้นละครเท่าไหร่ จะเน้นซีรีย์กับข่าวซะเป็นส่วนมาก ส่วนค่ายละครนั้น ก็มีค่ายละครที่ใหม่มาก บางค่าย แทบจะไม่เคยรู้จักในวงการทีวีซะด้วยซ้ำ จะเน้นละครแนวรักวัยรุ่น ช่วงนั้นไอทีวีจะดีลกับ Sony Music Thailand จะเห็นนักร้องบางคน โดดมาเล่นละคร กับช่องไอทีวีเป็นครั้งแรกก็มี หลังๆก็เริ่มมีค่ายใหญ่มาทำบ้าง อย่างกันตนา และค่าย RS แต่หลังจากที่ทำได้ไม่นาน ช่องก็ถูกปิดถูกเปลี่ยนไป ด้วยสภาพคล่องทางการเมืองไม่ค่อยจะดี
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่