คนที่มีเพื่อนสนิทต่างเพศกัน (ชญ)พอเพื่อนสนิทมีแฟน คุณยังสนิทกับเพื่อนอยู่ไหม หรือตีตัวออกห่าง เว้นระยะ เลิกสนิทกัน?

*****ย้ำ ว่าเพื่อนสนิท ที่คิดต่อกันแค่เพื่อน****
ตามหัวกท. เลยค่ะ
จขกท. แย่แล้ว เพื่อนสนิทเรา ที่เป็น ผช.
เมื่อกี้พึ่งคุยกันมา เขาเล่าว่ากำลังดูๆ คุยๆ กับผญ.คนนึงอยู่
เราก็เลยคิดว่า ตัวเราต้องเฟดตัว ออกห่าง ทิ้งระยะห่างจากเขา เพื่อให้ความสัมพันธ์เขาราบรื่น และฝ่ายผญ. สบายใจ

ซึ่งมันก็ควร จะเป็นแบบนั้น ไม่ได้แอบชอบ แอบรักเพื่อนนะ แต่รู้สึกเศร้ามาก
เพราะเราเป็น คนสนิทกับคนยาก แล้วเพื่อนคนนี้ คือคุยกันถูกคอ ทัศนคติ มายเซ็ท การมองโลกคือ แบบเดียวกันกับเรา
การมีเขาเป็นเพื่อน เหมือนเป็นความอุ่นใจของชีวิตเลย  เป็นคนที่เข้าใจ รับฟัง ช่วยแก้ปัญหา ช่วยวางแผน ชวนกันกินนั่นนี่ ชวนกันออกกำลังกาย ชักจูงกันไปในทางที่ดี

เวลามีปัญหาอะไร โทรหา แล้วเขารับสาย แค่พูดว่า "ว่าไงคุณ"  "ตัวแสบว่าไง"
เหมือนปัญหาเรา ดูเล็กลงทันที หรือรู้สึก ฉันจะผ่านมันไปได้แน่นอน ฉันมีเพื่อน เป็นถึง ที่ปรึกษา บมจ. ที่เงินเดือนสูงลิ่ว

ฉันจะได้รับคำ แนะนำที่ดีแน่นอน
และมันก็เป็น เช่นนั้นมาตลอด
เวลานอนไม่หลับ ตี1 ตี2  มีคนงัดห้อง โทรบอกเขา  เขาก็กระตือรือร้น ถามไถ่น้องเรื่องข้อกฏหมายให้ เพราะถึงพี่สาวเรา จะทำตำแหน่งงาน ด้านเดียวกัน แต่เราก็ไม่ได้ อยากให้ทางบ้าน เป็นกังวล
เวลาฉุกเฉิน ลืมเป็นลืมตาย ทำทุกอย่างเพื่อจะปกป้อง เราเสมอ ไม่ว่าสถานการณ์ไหน

แง เศร้าใจจัง อยู่ๆ ก็ต้องเลิกสนิทกัน
เพื่อนดีๆ ก็ไม่ได้หาง่ายซะด้วย ชาตินี้จะไปหาเพื่อนดีๆ ได้อีกไหม
มีใคร ต้องตีตัวออกห่าง  เลิกสนิทกับเพื่อนเพราะ เขามีแฟนกันบ้างไหมคะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 66
แต่ละคนก็อาจจะมีประสบการณ์และเงื่อนไขของความสนิทไม่เท่ากัน แต่ถ้าจากประสบการณ์ของผม สนิทน้อยลงครับ

ผมกับเพื่อนสนิทเราสนิทกันมากขนาดที่แชร์กันได้ทุกเรื่องไม่ว่าเรื่องเล็กใหญ่ ตัวติดกันตลอด พอเค้ามีแฟน ทุกอย่างมันก็เปลี่ยนไป เริ่มมีระยะห่าง เริ่มมีกำแพงที่เราไม่สามารถข้ามได้อีกต่อไปก่อตัวขึ้นระหว่างเรากับเค้า เรื่องราวต่างๆ ในชีวิตของแต่ละคนที่เคยร่วมแบ่งปันกันก็น้อยลงเรื่อยๆ สิ่งที่ไม่สะดวกใจที่จะบอกเล่าให้เราฟังก็จะมากขึ้น ถึงปากเค้าจะบอกว่าเหมือนเดิม แต่มันไม่เหมือนเดิมหรอกครับ มันสัมผัสได้ ความห่างเหินนี้มันเริ่มมากขึ้นจนถึงขั้นที่ถ้าเรามีปัญหาชีวิตอะไรสักอย่างเค้าก็จะไม่ใช่คนที่เราจะขอคำปรึกษาเป็นคนแรกได้อีกต่อไป ความสัมพันธ์ของเราก็เลยปรับลงมาเหลือเพียง "เพื่อน" โดยปริยาย ซึ่งอย่างที่บอกว่าเงื่อนไขความสัมพันธ์ของแต่ละคู่มันไม่เท่ากัน ใครที่สนิทกับเพื่อนประมาณนึงและตัวเพื่อนเองไม่ได้ปฏิบัติกับเราในทางที่ทำให้อึดอัดมากเกินไป และยังรักษาความแน่นแฟ้นไว้ได้ ก็ขอแสดงความยินดีด้วยครับ

Friendship Breakup มันเจ็บปวดไม่ต่างอะไรกับคนอกหักเลยเพราะเพื่อนเคยเป็นเสมือนโลกทั้งใบของเรา แต่จากเหตุการณ์นี้ก็ทำให้ผมเรียนรู้ที่จะเลิกผูกความสุขของตัวเองไว้กับใคร ถือว่าอย่างน้อยมันก็มีข้อดีที่ทำให้เราได้เติบโตขึ้นอีกขั้นนะครับ เพราะไม่วันนี้ก็วันหน้า เหตุการณ์นี้ก็จะมาถึงอยู่ดี ต่อให้เพื่อนไม่มีแฟน ก็อาจมีเรื่องอื่นที่ทำให้ต้องห่างกัน เช่น การแยกย้ายไปเติบโต พอสังคมเปลี่ยน ประสบการณ์ที่เคยมีร่วมกันก็จะน้อยลง ทัศนคติที่มีต่อเรื่องต่างๆ ก็เปลี่ยน มาคุยกันอีกทีก็อาจจูนกันไม่ติดอีกต่อไปแล้ว มันมีปัจจัยอีกหลายอย่างมากๆ เลยครับ

ความเจ็บปวดของคุณผมเข้าใจดีครับ เพื่อนก็ไม่ได้ผิด แต่ความเจ็บปวดของเรามันก็เป็นของจริงเช่นกัน เพราะงั้นให้เวลาทำหน้าที่ของมัน ปรับ position ในความสัมพันธ์นี้ใหม่ แล้วเอาความสุขกลับมาไว้ที่ตัวเองนะครับ สู้ๆ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่