เรามีเรื่องอยากจะถามทุกคนว่าการที่เราทำผิดแค่ครั้งเดียวสามารถตัดสินเราเลยหรอว่าจะต้องทำผิดซ้ำแบบนี้อีก
ตอนแรกเราอยู่กับครอบครัวฝั่งแม่มาตั้งแต่จำความไม่ได้ถึงม.ต้นพ่อแม่ก็มาหย่ากัน สิทธิการเลี้ยงดูตกมาอยู่ที่พ่อแล้วเราก็ได้เริ่มมาอยู่กับปู่ย่าคอยส่งเสียเลี้ยงดูมาตลอดมีการตีการด่าเป็นเรื่องปกติมีการทำโทษให้เอามือ เขกพื้น500กว่าทีเพราะขี้หลงขี้ลืมบางทีตื่นสายแล้วได้มีเหตุการที่ย่ำแย่ของครอบครัว เราก็เลยทำการจะกู้เงินเพื่อจะได้ไม่ต้องพึ่งย่าแล้วเราก็หลงเชื่อโอนเงินไปจนเราต้องไปเอาเงินย่ามาโอนไปอีกประมาณ 900กว่าจนเราคิดว่าโดนหลอกแล้วคิดว่าจะบอกเรื่องนี้กับย่าด้วย แต่ย่าเรียกเราไปช่วยดูก่อนและเราก็บอกว่าเป็นคนเอาไปเองย่าก็ไม่ได้ทำอะไรในวันนั้น วันต่อมาก็ยึดโทรศัพท์ และก็ด่าเราวนๆๆไป1เดือนแต่เราก็ สัมนึกผิดมาก ว่าเราเป็นต้นเหตุของเรื่องนี้แล้วก็จะไม่ทำผิดอีก พอเปิดเทอมก็ให้โทรศัพท์คืน แต่ตอนที่ยึดโทรศัพท์ส่งข้อความไปหาเพื่อนให้ระวังตัวด้วยนะ แต่เรื่องนี้เราก็เล่าให้เพื่อนสนิทฟังทุกคน ว่าเราทำผิดพลาดครั้งใหญ่ในชีวิต เพื่อนก็ไม่ได้ว่าอะไร แต่ย่าก็ยังค่อยบ่นค่อยด่าเรื่องนี้ซ้ำๆๆวนๆๆไปมีเหตุการณ์ตังค์หายก็โทษเราหลายครั้งแล้วก็เจอตังค์ก็เรียกมาขอโทษแต่คนที่โดนกล่าวหาไปเเล้วความรู้สึกมันหายไปแล้วจนตอนนี้เราขึ้นมหาลัยได้มาอยู่ไกลบ้านได้เงินจากย่าวันละ160 ต้องเขียนรายรับรายจ่ายใด้เงินกยศ.ก็ต้องเขียนรายรับรายจ่ายและไม่เชื่อใจจะขอเลขบัญชีไปตรวจสอบว่าแต่ละวันเราใช้จ่ายอะไรไปบ้างคิดว่าเราใช้จ่ายเกินตัวแต่เพื่อนที่อยู่ด้วยกันจะรู้เลยว่าเราจะอดมื้อกินมื้อเพื่อเก็บตังค์ซื้อของที่อยากได้แต่เขาก็ยังไม่วายเอาเรื่องเก่ามาพูดว่าเราเป็นคนไม่ดีที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงตัวเองได้ ทุกคนมีความเห็นอย่างไรกันบ้างหรือเราคิดมากไปเอง
ปัญหาในครอบครัว
ตอนแรกเราอยู่กับครอบครัวฝั่งแม่มาตั้งแต่จำความไม่ได้ถึงม.ต้นพ่อแม่ก็มาหย่ากัน สิทธิการเลี้ยงดูตกมาอยู่ที่พ่อแล้วเราก็ได้เริ่มมาอยู่กับปู่ย่าคอยส่งเสียเลี้ยงดูมาตลอดมีการตีการด่าเป็นเรื่องปกติมีการทำโทษให้เอามือ เขกพื้น500กว่าทีเพราะขี้หลงขี้ลืมบางทีตื่นสายแล้วได้มีเหตุการที่ย่ำแย่ของครอบครัว เราก็เลยทำการจะกู้เงินเพื่อจะได้ไม่ต้องพึ่งย่าแล้วเราก็หลงเชื่อโอนเงินไปจนเราต้องไปเอาเงินย่ามาโอนไปอีกประมาณ 900กว่าจนเราคิดว่าโดนหลอกแล้วคิดว่าจะบอกเรื่องนี้กับย่าด้วย แต่ย่าเรียกเราไปช่วยดูก่อนและเราก็บอกว่าเป็นคนเอาไปเองย่าก็ไม่ได้ทำอะไรในวันนั้น วันต่อมาก็ยึดโทรศัพท์ และก็ด่าเราวนๆๆไป1เดือนแต่เราก็ สัมนึกผิดมาก ว่าเราเป็นต้นเหตุของเรื่องนี้แล้วก็จะไม่ทำผิดอีก พอเปิดเทอมก็ให้โทรศัพท์คืน แต่ตอนที่ยึดโทรศัพท์ส่งข้อความไปหาเพื่อนให้ระวังตัวด้วยนะ แต่เรื่องนี้เราก็เล่าให้เพื่อนสนิทฟังทุกคน ว่าเราทำผิดพลาดครั้งใหญ่ในชีวิต เพื่อนก็ไม่ได้ว่าอะไร แต่ย่าก็ยังค่อยบ่นค่อยด่าเรื่องนี้ซ้ำๆๆวนๆๆไปมีเหตุการณ์ตังค์หายก็โทษเราหลายครั้งแล้วก็เจอตังค์ก็เรียกมาขอโทษแต่คนที่โดนกล่าวหาไปเเล้วความรู้สึกมันหายไปแล้วจนตอนนี้เราขึ้นมหาลัยได้มาอยู่ไกลบ้านได้เงินจากย่าวันละ160 ต้องเขียนรายรับรายจ่ายใด้เงินกยศ.ก็ต้องเขียนรายรับรายจ่ายและไม่เชื่อใจจะขอเลขบัญชีไปตรวจสอบว่าแต่ละวันเราใช้จ่ายอะไรไปบ้างคิดว่าเราใช้จ่ายเกินตัวแต่เพื่อนที่อยู่ด้วยกันจะรู้เลยว่าเราจะอดมื้อกินมื้อเพื่อเก็บตังค์ซื้อของที่อยากได้แต่เขาก็ยังไม่วายเอาเรื่องเก่ามาพูดว่าเราเป็นคนไม่ดีที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงตัวเองได้ ทุกคนมีความเห็นอย่างไรกันบ้างหรือเราคิดมากไปเอง