รางสังหารแปลกๆ

กระทู้สนทนา
ในช่วง ปลาย ๆมีนาคม67 เราได้ปวดท้องหนักมากแล้วบนแบบกล่าวลอยกับ พระพุทธรูปที่ครอบครัวเรานับถือ พอเราหายปวดท้องเราไม่ได้บอกเรื่องนี้กับใคร จนเวลาผ่านไป จน 27 เมษายน 67 เรารู้สึกกระสับกระส่าย อยากขับรถชนนู่นชนนี่ รู้สึกแปลกๆ เราไม่ได้คิดอยาก ฆตต เลยนะคะ แต่ทุกอย่างมันเข้ามาในหัวเอง จนเรานึกไปถึงเรื่อง ที่เคยบน เราเลยตัดสินใจบอกพ่อแม่ พอแม่รู้ก็รีบพาเราไปแก้บน แต่ทีเนี่ย เราบอกไม่หมดว่าบนน้ำแดงไว้ 1 แพ็คด้วย เลยยังแก้บนไม่หมด พอช่วงกลางเดือน พฤษภาคม เราคิดได้ว่ายังมีน้ำแดงที่ยังแก้ไม่หมด แต่เราก็ไม่ไปแก้สกที พอผ่านไป 6-7 วันเราเริ่มสังเกตตัวเองได้ว่าชอบคิดว่าถ้าบ้านมีงานศพต้องเก็บของไว้ตรงไหน จะมีเต้นท์เท่าไหร่ คืนแรกจะกินอะไร แต่เราไม่กล้าบอกใคร จนวันนึงแม่เราได้ไปช่วยงานคนในหมู่บ้าน แล้ว ป้าคนนึงพูดว่า"แกมาข่วยงานตลอดเลย แล้วชั้นจะเก็บแรงไว้ช่วยงานอะไรแก้ได้" แม่เราเลยตอบ " งานแต่งลูกชั้นไง" พอแม่มาเล่าให้เราฟัง บอกเราว่าผ้ามาบอกนะ ว่า จะช่วยงานอะไรได้ แล้วเราก็มีคำขึ้นมาในหัวว่างานศพแม่ไง แต่เราไม่กล้าพูด เราหลอกตัวเองว่าเราคิดมาก จนวันนึงเราขับรถผ่านบ้านคนๆนึงแล้วเราคิดว่าถ่าบ้านนี้ไม่มีงานศพ ก็ต้องเป็นบ้านเรา เราเลยคิดในหัวว่า ถ้าจะมีใครตายก็ขอให้เป็นใครก็ได้ที่ไม่ใช่แม่ แล้วหลังจากนั้น จนเราเป็นแบบนี้เรื่อยๆ มาถึง 18 มิถุนายน 67 แม่เริ่มพูดกับคนรอบข้างว่าเป็นห่วงเรา พูดว่าห่วงเรากับญาติทุกคน กับคนที่มาบ้าน แม่กระทั่งกับเรา จนในคืนที่ 27 มิถุนายน เราได้นอนตักแม่ แต่แม่ลูบหัวเราพร้อมกับพูดว่า"กูนะห่วงจริงๆ แม่รักหนูนะ" ซึ่งปกติแม่ไม่เคยให้เรานอนตักเพราะชอบบอกว่าปวดขา จนตอนเช้าวันที่ 28 มิถุนายน เรากำลังแต่งตังเพื่อไปโรงเรียน ตอนเช้าแม่ถามเราว่า วันนี้จะไปโรงเรียน ประมาณ 3-4 รอบ แล้วก็บอกว่า ไม่ไปดีกว่ามั้ง 2-3 รอบได้ จนเราบอกว่าไป เพราะจะสอบขาดไม่ได้ พร้อมกับคิดไปว่า "แม่จะตายวันนี้หรอ" แม่เลยออกไปนา เราเรียนตามปกติ พอช่วงพักกลางวัน เรากำลังเดินไปกินข้าว จู่ๆ พี่เราโทรมาบอกว่าแม่เกิดอุบัติเหตุตอนนั้นเราตัวชา เข้าใจเลยว่าก้าวขาไม่ออกเป็บแบบไหน เราเลยตัดสินใจขออนุญาตครูออกจากโรงเรียน เราภาวนาไปตลอดทางว่า อย่าพึ่งเลย ทำไมมันมาถึงไวจัง แขนขาหักก็ได้ อะไรก็ได้ช่วยแม่เราด้วย จนเราถึง รพ. เราได้เข้าไปในห้องฉุกเฉินรู้สึกชาไปหมด เราออกมาเพราะอยู่ต่อไม่ไหว จนมีหมอเดินออกมาบอกข่าวร้าย เราติดโทษตัวเองมาตลอด ว่าไม่เตือนแม่ทั้งที่รู้ทุกอย่าง และใช่ค่ะ บ้านที่เราบอกว่าถ้าไม่มีงานศพ บ้านเราก็ต้องมี แล้วเป็นบ้านหลังนั้นเลยค่ะ ที่ขับรถชนแม่เรา เราไม่เขื่ออีกต่อไปแล้วค่ะว่ามุกอย่างมันคือเนื่องบังเอิญ แล้วเรื่องทั้งหมดเราไม่กล้าเล่าให้ใครฟังเลย ได้แต่เก็บแล้วมาโทษาตัวเอง เพราะใครจะเชื่อเรา หรือถ้าเชื่อเราเราก็คือคนผิดอีก เพระเรารู้ว่ามันจะเกิด แต่เรากลับเลือกที่จะ ปฏิเสธทุกอย่าง ทั้งที่มันต้องเป็นความจริงในสักวันนึง
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่