วันนี้ถูกกำหนดให้ทุกวันพุธแรกของเดือนตุลาคมของทุกปี เพื่อให้เข้าใจถึงประโยชน์ด้านสุขภาพที่น่าทึ่งของผักเคล และเพื่อส่งเสริมให้กินผักกันมากขึ้น ซึ่งวันผักเคลนี้มีข้อมูลว่าผู้ก่อตั้งคือ เชฟเจนนิเฟอร์ อิเซอร์โลห์ (Chef Jennifer Iserloh) และดร. ดรูว์ แรมซีย์ (Drew Ramsey)

ผักเคลนั้นถูกจัดให้เป็นราชินีแห่งผักใบเขียว "Super Food" คุณค่าทางโภชนาการสูง ประโยขน์มากมาย หากกินให้ดีต่อสุขภาพต้องกินให้ถูกวิธีในปริมารที่พอเหมาะ

ผักเคล ชื่อทางวิทยาศาสตร์ Brassica oleracea L. Acephala group จัดเป็นพืชผักในวงศ์ "Brassicaceae" ในกลุ่มเดียวกับคะน้า กะหล่ำปลี บร็อคโคลี่ และกะหล่ำดอก 

ซึ่งมีการปลูกผักเคลเพื่อไว้กินนั้น มีมานานกว่า 2,000 ปีก่อนคริสตกาลแล้ว (มีหลายข้อมูลที่นำไปสู่ต้นกำเนิดของผักนี้มานานกว่า 12,000 ปีก่อน) โดยมีต้นกำเนิดในแถบเมดิเตอร์เรเนียนตะวันออก และอานาโตเลีย (Anatolia หมายถึง "อาทิตย์อุทัย" เป็นดินแดนทางตะวันตกเฉียงใต้ของทวีปเอเชีย เชื่อมต่อระหว่างเอเชียกับยุโรป)

ในยุคกรีซราวศตวรรษที่ 4 ก่อนคริสตกาล ผักเคลพันธุ์ใบหยิกก็มีการปลูกเพื่อกินเพื่อสุขภาพ ส่วนชาวโรมันเรียกผักชนิดนี้ว่า ซาเบลเลียน "Sabellian kale" ที่เป็นบรรพบุรุษของผักในสมัยปัจจุบัน

รู้ไหม! กลุ่มผักคะน้าเคยถูกให้เป็นผักในฐานะผักที่ไม่พึงประสงค์ซึ่งส่วนใหญ่ใช้เลี้ยงวัว แต่เมื่อเวลาผ่านไปหลายปี ผักคะน้าก็ได้พัฒนาจนกลายมาเป็นสุดยอดอาหารที่มีประโยชน์ ซึ่งอาจเกิดจากหลากหลายสาเหตุ แต่ที่แน่ๆ หนึ่งในนั้นคือมีคุณประโยชน์มาก

แล้วการที่มีชื่อเสียงขึ้นมาได้จนถูกเรียกว่า Super Food นั้นหากมองลึกๆ ชาวอเมริกันคลั่งไคล้ผักชนิดนี้ ซึ่งมีข้อมูลของกระทรวงเกษตร การผลิตผักคะน้าของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นเกือบ 60% ระหว่างปีพ.ศ. 2550 ถึง 2555 (ข้อมูลนี้อาจมีความคลาดเคลื่อนได้) และมีวางจำหน่ายทั่วประเทศ แม้แต่ร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดชื่อดังในสหรัฐฯ เองยังสนใจผักในตระกูลนี้ ถึงกับทดลองทำอาหารเช้าที่ใช้ผักเคลในหลายสาขามาแล้ว

และยังมีข่าวร้านชื่อดังอีกร้าน ในสหรัฐฯ เป็นผู้ซื้อผักเคลรายใหญ่สำหรับสลัดบาร์ และถ้ามีรายใหญ่มากมายรับซื้อ การเพาะปลูกก็จะมีแต่เพิ่มมากขึ้นตามมาในแต่ละปี และคงไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะมีการสนับสนุนให้มากขึ้นในระดับโลก เพื่อให้ผู้คนหันมาบริโภคผักชนิดนี้ (หากมองในแบบธุรกิจ)

มีข้อมูลมากมายที่หาค้นคว้าได้ ว่าการที่ผักเคลโด่งดังจนเป็นที่นิยมไปทั่วโลกได้ยังอาจเป็นเพราะว่า มีทั้งแบรนด์โด่งดัง หลายแบรนด์ ในฝั่งของยุโรป ที่พูดถึงผักเคล รวมทั้งเชฟชื่อดังที่เผยแพร่สูตรทำผักเคลนั่นเอง แต่ก็อีกครั้ง! ผักเคลมีคุณค่าทางโภชนาการสูง และมีประโยขน์มาก

ส่วนที่ประเทศไทยนิยมปลูกเคลใบหยิก (Curly Kale) และ เคลใบตรง (Lacinato Dinosaur Kale)

.
มาดูเมนูเคลในแบบฝรั่งๆ ที่น่ากินจริงๆ

1. Kale Bruschetta
- เคลกับขนมปังราดด้วยซอสถั่วแคนเนลลินี

2. Purple Potato Croquettes with Kale Salad
- เคลกับมันฝรั่งม่วง เสริมด้วยหัวหอม กระเทียม มัสตาร์ดดิฌง (moutarde de Dijon)

3. Creamy Avocado-Kale Pasta
- เอาอะโวคาโดมาทำเป็นซอสให้แบบครีมมี่ และผักเคล

4. Kale Arrabbiata-Stuffed Spaghetti Squash
- ผักเคลผัดซอสมะเขือเทศ ยัดลงในสปาเก็ตตี้ พร้อมด้วยถั่วซิกพี (Chick Pea) โรยด้วยชีส

5. Summer Squash Soup with White Beans and Kale
- ซุปเคลโรยต้นหอม ถั่วแคนเนลลินี สมุนไพรพิตาลี



.
ชื่อและรูปภาพอาจจะคาดเคลื่อนไปบ้าง ต้องขอประทานอภัย ส่วนความอร่อยต้องลองหาสูตรทำ หรือหาร้านที่มี ซึ่งเพื่อนๆ รู้จักร้านที่มีเมนูคล้ายๆ นี้มาแบ่งปันพิกัดร้านให้ไปลองกันได้น๊า..

.
ขอขอบคุณข้อมูล
: spiritoftheholidays
: wikipedia
.
Better Day
Green Heart World Green
อยากให้ทุกคนมีวันที่ดีเสมอ มาแบ่งปันกำลังใจ รอยยิ้ม เสียงหัวเราะ และความสุขให้กันและกัน
...
เพื่อนๆ สามารถติดตามเรื่องราวในโลก ความรู้ ข่าวสาร ที่ดีต่อใจ ดีต่อโลกกับ Better Day
ได้ที่ Facebook: https://www.facebook.com/betterdaydotday

ขอบคุณครับ
...