สวัสดีครับ ผมอายุ28ครับ อายุอาจจะโตมากๆแล้วครับแต่ความคิดและประสบการณ์ชีวิตน้อยมากครับ ผมมีน้องชายอายุห่างจากผม3ปี พวกเราอยู่กับป้า ในทะเบียนขึ้นเป็นแม่เลี้ยง/ลูกเลี้ยงกัน. ป้าเปิดร้านขายของ ผมทำงานที่นี่มาตั้งแต่อายุ12ขวบครับ แต่ตอนเด็กๆก็ไม่ได้มาช่วยงานอะไรมากครับ คือจะมาช่วยก็ได้ ไม่มาก็ได้, อายุ15เริ่มมาทำประจำครับ หลังๆมาช่วง17มาอยู่ที่บ้านป้าครับ. ป้าผมไม่มีครอบครัว ไม่มีลูก ปกติก็จ้างพนักงานมาช่วยที่ร้านบ้างครับ
ก็มีพนักงานเข้าๆออกๆครับ แต่ปกติจะรับแค่คนที่รู้จักกันนี่แหละ มีพี่คนนึงเหมือนจะเป็นคนรู้จักกับป้าผมนานมาก พี่คนนี้เขาอยู่ยาวเลยครับ แต่เขาจะแตกต่างจากคนทั่วไป เหมือนเขามาช่วยงานเฉยๆไม่มีเบินเดือนครับ แต่อยู่มาเรื่อยไปก็สนิทกับป้าผมมากครับ จนเรียกได้ว่าเป็นที่ปรึกษาป้าผมได้ครับ
รายละเอียดพี่เขา [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้พี่เขาเป็นคนเก่งนะครับ มีมุมมองความคิด/วิเคราะห์ที่เฉียบขาด มีอะไรปรึกษาเขา เขารู้หมด ไปมาๆด้วยความเป็นที่ปรึกษาที่ดี+ช่วยงานดี มองผ่านๆก็แลดูเป็นแฟนป้าเลยนะ ลูกค้าที่ไม่รู้จักดันดีก็คิดว่าเป็นงั้น แต่จริงๆแล้ว ทั้งคู่ไม่ได้เป็นแฟนกันครับ, พี่คนนี้สามารถเก็บเงิน กุมเงินร้านได้เลยครับ แต่ไม่ใช่ประเด็นอะไรครับ แค่แสดงให้รู้ว่าไว้ใจกันขนาดไหน
ตอนนี้พี่คนนี้ก็อยู่บ้านป้าด้วยกันครับ แต่อยู่คนละห้องกัน เขาก็มีงานของเขาเอง หลังเลิกงานเขาก็มาช่วยที่ร้าน เขาดูแลร้าน/บ้านให้ดีมาก เขาเก่งครับ แต่แลกมาด้วยการที่พี่เขาเป็นคนที่ toxic สุดๆครับ
- เคยมีพนักงานลาออกเพราะพี่คนนี้พูดให้ครับ คนหนึ่งเพื่อนเรามีปากเสียงกัน เพื่อนเราเป็นพวกไม่ยอมคนครับ โดนด่าว่าเป็นพวกหัวดื้อ,สะเออะ,บางครั้งเรียกชื่อตามด้วยคำว่าขี้เจ๋อ กับอีกคนโดนด่าลับหลังว่าโง่ พี่เขาคิดว่าคนนี้กลับบ้านแล้ว แต่จริงๆเขายังไม่กลับ แล้วเขาได้ยิน
- แต่ก่อนเขาก็ไม่ด่าผมนะ หลังๆพอไม่มีพนักงานแล้ว (คนดีลาออกไป ที่เหลือก็มีประเด็นเรื่องขโมยเงินครับ) หลังๆเลยไม่ได้จ้างพนักงานแล้ว เลยเริ่มมาด่าเราแทน
หลังๆมา ผมต้องทำงานกับป้าสองคนทั้งวัน น้องผมก็ไปทำงานแล้ว พี่คนนั้นก็ไปทำงาน เลิกงานค่อยมาช่วย ปกติผมทำเยอะมากๆเพราะป้าก็เริ่มแก่แล้ว. ปกติผมไม่ได้เงินเดือนครับ เพราะอยู่กินกับป้า เพิ่งมาขอตอนปี2020 ได้เดือนละหนึ่งหมื่นบาท. ผมเหนื่อยมากนะ เพราะต้องทำทุกอย่าง ของขายดีมาก แทบไม่ได้หยุดเลย ทั้งลูกค้า ทั้งของที่ต้องเอามาขายก็เข้าตลอด. ผมต้องทำงาน14-15ชมต่อวัน, สัปดาห์ละ7วัน 2สัปดาห์ได้หยุดครั้งเดียววันอาทิตย์ แต่วันที่ได้หยุดก็ต้องทำงานให้ตอนเช้า เที่ยงค่อยได้ไปครับ. แต่ผมก็ทำมาตลอดครับ ไม่เคยบ่น
เวลาทำงานเยอะ เวลาส่วนตัวน้อยมาก ซึ่งป้าผมเขาก็น่าจะชอบชีวิตแบบนี้นะคับ ไม่อยากปิดร้าน ชีวิตต้องทำงานตลอด ก็เข้าใจนะ เขามีชุดความคิดที่ต้องทำตลอด ไม่ทำ = ขี้เกียด. แต่ผมว่าผมไม่มีความสุขเลยครับ มันไม่ใช่แค่ว่าช่วงเวลาทำงานหนักนะ ผมรู้สึกว่าโดนมัดแขนมัดขาอยู่ตลอดเวลา เพราะอยู่ป้าที่ต้องเปิดร้านทำงานทุกวัน ปิดร้านดึกเวลาออกบ้านก็ดึกแล้ว ต้องมาตื่นเช้ามาทำงานอีกพรุ่งนี้อีก. แล้วแต่ละวันที่ทำงาน ผมทำเยอะนะ แน่นอนว่าก็มีโอกาสทำข้อผิดพลาดเยอะครับ + ความเบื่อหน่าย ใจลอย(ผมชอบจินตนาการถึงชีวิตที่ผมจะมีถ้าผมออกครับ) ด้วยส่วนหนึ่ง ก็จะมาลงที่ผมหมดครับ
เป็นเหตุให้ผมมีจุดด่างอยู่ครับ
ป้ากับพี่คนนั้นสองคนเขาจะคุยกันตลอด พี่คนนั้นก็ใช้จุดที่ผมพลาดบ่อยๆ มาค่อยตัดสินผมเสมอ ผมยิ่งเป็นพวกเงียบๆ ไม่ค่อยต่อปากต่อความ ผมว่าผมเป็นคนหัวอ่อนนะ ไม่กล้าสู้คน เลยไม่อยากจะสู้จะเถียงครับ แน่นอนอันนี้มันก็เป็นจุดอ่อนของผมที่เขาเอามาพูดครับ ผมก็ว่ามันก็ถูกนะ ถ้าผมกล้าสู้คน ผมคงไม่ทนอยู่ที่นี่ตั้งนานแล้ว แล้วมันจะมีคำพูดเจ็บๆมาให้ผมเศร้าหมองตลอด ผมเคยได้ยินพี่คนนั้นพูดกับป้าว่าถ้าป้าให้ร้าน เอาทุกอย่างฝากไว้ที่ผมคงหายวับหมด ไม่เหลืออะไรแน่. ผมทำดีแทบตาย ทำงานให้เยอะแค่ไหนก็ไม่เคยพอ มันจะมีพรายกระซิบบอกมาผมไม่ดีนู้นนี้นั้นตลอด ชึ่งป้าก็น่าจะฟังเขามากกว่านะ เพราะเขาคุยกันตลอด แต่ผมไม่กล้าคุยอะไรกับทั้งสองคนครับ ผมรู้แค่ผมต้องอยู่ห่างๆจากทั้งสองคน เพราะผมรู้สึกได้รับพลังงานลบๆจากทั้งสองตลอด. ผมไม่เคยลางานเลยนะ ผมก็แปลกใจอยู่ทำไหมผมถึงไม่ป่วยแล้วลางานดู แต่ผมคงไม่ได้ลาเองมั๊ง ป่วยก็คงต้องทำแหละ
จริงๆอยู่ที่นี่ก็ดีนะครับ ผมแทบใช้ชีวิตไปเรื่อยๆได้เลย ไม่ต้องคิดอะไร แค่ทนเหนื่อยนิดหน่อย+ทนความtoxic ฟังแต่ไม่ตอบโต้อะไรไปเรื่อยๆแบบนี้. ป้าชื้อรถยนต์, ที่ดิน, ฝากเงินในธนาคารแบบเป็นชื่อร่วมกันผมกับป้าให้นะครับ. แต่อีกใจ ผมก็อยากลาออกนะ อยากลองไปใช้ชีวิตดู อยากหางานที่ทำวันละ8ชมก็พอ ผมอยากพักผ่อนจากงานที่ผมทำมาตลอดดู. แต่ก็ยอมรับว่ากลัวครับ ผม28ก็จริง แต่ไม่เคยสมัครงานที่ไหนเลย กลัวมันจะหางานไม่ง่ายนัก แล้วเงินเดือนแต่ล่ะเดือนจะรอดไหม ต้องมีรายจ่ายเยอะแน่ๆ ผมยังไม่เคยออกไปใช้ชีวิตเองเลยครับ
ถ้าผมจะทิ้งทุกอย่าง ไปใช้ชีวิตตัวเองมันจะดีหรือไม่ ผมคิดว่าถ้าผมออกไปคงกลับมาหาหาป้าอีกไม่ได้แน่ ตัดขาดจากผมเลยก็ได้ครับ แต่ผมว่าผมไม่อยากทำงานทั้งวันแบบนี้ ชีวิตก็ไม่ค่อยมีอิสระเลยครับ
ผมไม่รู้จะตัดสินใจจริงๆครับ หลายคนที่มีอิสระแล้ว คงเลือกได้ง่ายได้แน่ๆ ผมทำไมผมตัดสินใจยากจัง จริงๆผมก็คิดนานแล้วนะเรื่องนี้ แต่ยังไม่กล้าทำอะไรเลยครับ
ขอบคุณครับ
ถ้าต้องทิ้งทุกอย่างที่มีไป เลือกไปใช้ชีวิตอิสระ มันจะดีหรือไม่?
ก็มีพนักงานเข้าๆออกๆครับ แต่ปกติจะรับแค่คนที่รู้จักกันนี่แหละ มีพี่คนนึงเหมือนจะเป็นคนรู้จักกับป้าผมนานมาก พี่คนนี้เขาอยู่ยาวเลยครับ แต่เขาจะแตกต่างจากคนทั่วไป เหมือนเขามาช่วยงานเฉยๆไม่มีเบินเดือนครับ แต่อยู่มาเรื่อยไปก็สนิทกับป้าผมมากครับ จนเรียกได้ว่าเป็นที่ปรึกษาป้าผมได้ครับ
รายละเอียดพี่เขา [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
หลังๆมา ผมต้องทำงานกับป้าสองคนทั้งวัน น้องผมก็ไปทำงานแล้ว พี่คนนั้นก็ไปทำงาน เลิกงานค่อยมาช่วย ปกติผมทำเยอะมากๆเพราะป้าก็เริ่มแก่แล้ว. ปกติผมไม่ได้เงินเดือนครับ เพราะอยู่กินกับป้า เพิ่งมาขอตอนปี2020 ได้เดือนละหนึ่งหมื่นบาท. ผมเหนื่อยมากนะ เพราะต้องทำทุกอย่าง ของขายดีมาก แทบไม่ได้หยุดเลย ทั้งลูกค้า ทั้งของที่ต้องเอามาขายก็เข้าตลอด. ผมต้องทำงาน14-15ชมต่อวัน, สัปดาห์ละ7วัน 2สัปดาห์ได้หยุดครั้งเดียววันอาทิตย์ แต่วันที่ได้หยุดก็ต้องทำงานให้ตอนเช้า เที่ยงค่อยได้ไปครับ. แต่ผมก็ทำมาตลอดครับ ไม่เคยบ่น
เวลาทำงานเยอะ เวลาส่วนตัวน้อยมาก ซึ่งป้าผมเขาก็น่าจะชอบชีวิตแบบนี้นะคับ ไม่อยากปิดร้าน ชีวิตต้องทำงานตลอด ก็เข้าใจนะ เขามีชุดความคิดที่ต้องทำตลอด ไม่ทำ = ขี้เกียด. แต่ผมว่าผมไม่มีความสุขเลยครับ มันไม่ใช่แค่ว่าช่วงเวลาทำงานหนักนะ ผมรู้สึกว่าโดนมัดแขนมัดขาอยู่ตลอดเวลา เพราะอยู่ป้าที่ต้องเปิดร้านทำงานทุกวัน ปิดร้านดึกเวลาออกบ้านก็ดึกแล้ว ต้องมาตื่นเช้ามาทำงานอีกพรุ่งนี้อีก. แล้วแต่ละวันที่ทำงาน ผมทำเยอะนะ แน่นอนว่าก็มีโอกาสทำข้อผิดพลาดเยอะครับ + ความเบื่อหน่าย ใจลอย(ผมชอบจินตนาการถึงชีวิตที่ผมจะมีถ้าผมออกครับ) ด้วยส่วนหนึ่ง ก็จะมาลงที่ผมหมดครับ
เป็นเหตุให้ผมมีจุดด่างอยู่ครับ ป้ากับพี่คนนั้นสองคนเขาจะคุยกันตลอด พี่คนนั้นก็ใช้จุดที่ผมพลาดบ่อยๆ มาค่อยตัดสินผมเสมอ ผมยิ่งเป็นพวกเงียบๆ ไม่ค่อยต่อปากต่อความ ผมว่าผมเป็นคนหัวอ่อนนะ ไม่กล้าสู้คน เลยไม่อยากจะสู้จะเถียงครับ แน่นอนอันนี้มันก็เป็นจุดอ่อนของผมที่เขาเอามาพูดครับ ผมก็ว่ามันก็ถูกนะ ถ้าผมกล้าสู้คน ผมคงไม่ทนอยู่ที่นี่ตั้งนานแล้ว แล้วมันจะมีคำพูดเจ็บๆมาให้ผมเศร้าหมองตลอด ผมเคยได้ยินพี่คนนั้นพูดกับป้าว่าถ้าป้าให้ร้าน เอาทุกอย่างฝากไว้ที่ผมคงหายวับหมด ไม่เหลืออะไรแน่. ผมทำดีแทบตาย ทำงานให้เยอะแค่ไหนก็ไม่เคยพอ มันจะมีพรายกระซิบบอกมาผมไม่ดีนู้นนี้นั้นตลอด ชึ่งป้าก็น่าจะฟังเขามากกว่านะ เพราะเขาคุยกันตลอด แต่ผมไม่กล้าคุยอะไรกับทั้งสองคนครับ ผมรู้แค่ผมต้องอยู่ห่างๆจากทั้งสองคน เพราะผมรู้สึกได้รับพลังงานลบๆจากทั้งสองตลอด. ผมไม่เคยลางานเลยนะ ผมก็แปลกใจอยู่ทำไหมผมถึงไม่ป่วยแล้วลางานดู แต่ผมคงไม่ได้ลาเองมั๊ง ป่วยก็คงต้องทำแหละ
จริงๆอยู่ที่นี่ก็ดีนะครับ ผมแทบใช้ชีวิตไปเรื่อยๆได้เลย ไม่ต้องคิดอะไร แค่ทนเหนื่อยนิดหน่อย+ทนความtoxic ฟังแต่ไม่ตอบโต้อะไรไปเรื่อยๆแบบนี้. ป้าชื้อรถยนต์, ที่ดิน, ฝากเงินในธนาคารแบบเป็นชื่อร่วมกันผมกับป้าให้นะครับ. แต่อีกใจ ผมก็อยากลาออกนะ อยากลองไปใช้ชีวิตดู อยากหางานที่ทำวันละ8ชมก็พอ ผมอยากพักผ่อนจากงานที่ผมทำมาตลอดดู. แต่ก็ยอมรับว่ากลัวครับ ผม28ก็จริง แต่ไม่เคยสมัครงานที่ไหนเลย กลัวมันจะหางานไม่ง่ายนัก แล้วเงินเดือนแต่ล่ะเดือนจะรอดไหม ต้องมีรายจ่ายเยอะแน่ๆ ผมยังไม่เคยออกไปใช้ชีวิตเองเลยครับ
ถ้าผมจะทิ้งทุกอย่าง ไปใช้ชีวิตตัวเองมันจะดีหรือไม่ ผมคิดว่าถ้าผมออกไปคงกลับมาหาหาป้าอีกไม่ได้แน่ ตัดขาดจากผมเลยก็ได้ครับ แต่ผมว่าผมไม่อยากทำงานทั้งวันแบบนี้ ชีวิตก็ไม่ค่อยมีอิสระเลยครับ
ผมไม่รู้จะตัดสินใจจริงๆครับ หลายคนที่มีอิสระแล้ว คงเลือกได้ง่ายได้แน่ๆ ผมทำไมผมตัดสินใจยากจัง จริงๆผมก็คิดนานแล้วนะเรื่องนี้ แต่ยังไม่กล้าทำอะไรเลยครับ
ขอบคุณครับ