ขอเริ่มเลยนะคะ เราเป็นลูกคนเดียว โดยปกติสนิทกับพ่อแม่มากๆอยู่แล้ว พ่อเป็นคนไม่ค่อยพูด แม่เป็นคนใจดี ชอบช่วยเหลือคนอื่น
ประโยคที่ว่า มีแค่พ่อกับแม่ที่รู้ว่าลูกกลับบ้านดึกแค่ไหน หมายถึง มีแค่พ่อกับแม่ที่รอเรากลับบ้าน ไม่ว่าดึกแค่ไหน
ตอนเด็กๆ เราน่าจะเคยบอกแม่ว่าชอบสีฟ้าแน่เลย ทุกวันนี้ฉันเลยกลาย ด.ญ.อายุ 29 ที่ใส่ชุดนอนสีฟ้าที่แม่บอกว่าฉันชอบ 55555
แม่ชอบซื้อของสีฟ้ามาฝาก เช่น ถุงผ้าสีฟ้า ชุดนอนสีฟ้า ล่าสุด...กระเบื้องบ้านฉันสีฟ้า อ่ะ เอาสิ
พ่อปลูกผักที่ฉันชอบ เกินครึ่งพื้นที่สวนน้อยๆของพ่อ
ทุกวันนี้.......เมื่อเจอแก้วมังกร ป่นปลา ของโปรดแม่ ผ้าถุงลายสวยๆ ที่อยากให้แม่ใส่
.......เมื่อเจอน้อยหน่า ข้าวโพดสีเหลืองของโปรดพ่อ เสื้อยีนส์ที่พ่ออยากได้
ฉันไม่เคยปล่อยผ่านในสิ่งเหล่านี้ และคิดว่าเป็นสิ่งที่อยากทำให้ เหมือนที่พ่อกับแม่ทำให้ฉันเสมอมา
ทุกครั้งที่เรากลับบ้าน ซื้อเนื่อปลาเนื้ออ่อนที่ห้าง L มาแช่ไว้ให้ในช่องฟีส
เช่นกัน พ่อและแม่ ยังทำหน้าที่ทุกวัน ผักที่พ่อปลูกที่สวน เป็นผักที่ชอบเรา 5 ใน 10 ส่วน อีกครึ่งนึงเป็นพ่อกับแม่ชอบ
******เริ่มต้นปีใหม่ ด้วยการล้างเท้า กราบขอขมา หากมีการกระทำใด หรือคำพูดใดที่ทำไปทั้งตั้งใจ และไม่ตั้งใจ******
สิ่งนี้ในปีแรก เราจะเขิลกันทั้งบ้าน แต่ชีวิตจะโล่งขึ้นมาก
*****เพราะเราไม่รู้ ว่าท่านจะอยู่ในชีวิตเรานานแค่ไหน เราจึงก้าวข้ามทุกความเขิล แล้วทำทุกอย่างที่ไม่อยากเสียดายทีหลัง****
...........ช่วงชีวิตหนึ่งของเรา มีปัญหาใหญ่เข้ามา ...ตอนนั้นเราท้อมาก ไม่รู้จะแก้ยังไง ไปทางไหนดี
จนแม่พูดประโยคเดิมๆ คือ "เดี๋ยวมันกะผ่านไปเด้อลูกหล่า" // เราเป็นคนอีสานค่ะ
พ่อบอกว่า "กินให้อิ่มเด้อลูกเอ้ย นอนพักนำเด้อ"
******สำคัญที่สุด พ่อแม่ก็หวังให้เรา กินอิ่มนอนหลับ มีความสุขกับทุกเส้นทางที่เราเลือก*****
..........ผ่านไป ไม่ถึง 1 เดือน เราสามารถแก้ปัญหานั้นได้ ด้วยวิธีที่เราเองอาจมีหลงลืมไปด้วยซ้ำว่ามีอยู่/ หลงลืมว่าทำได้
ประโยคธรรมดา แต่เรามีกำลังใจมากขึ้นมากๆ
ถึงทางตัน เราจะมีทางออกเสมอ
ถึงคราวหมด เราจะมีทรัพย์ได้มาแบบไม่ทันตั้งตัว
ถึงคราวเดือดร้อน หากสุดกำลังตัวเราเอง เราจะมีเพื่อน ที่คอยรับฟัง และข่วยเหลือ รวมถึงผู้ใหญ่ที่เอ็นดู ทั้งที่เราเป็นคนยิ้มยาก 5555
ถึงคราวเสี่ยงอันตราย เมื่อพ่อแม่เตือนว่า....ไม่ไปดีกว่านะลูก....เราจะปลอดภัย
ถึงคราวเจอคนใจร้าย ทุกคนจะถูกจัดสรรเสมอ
ถึงคราวฝันร้าย พ่อแม่ ตายาย จะเข้าไปเรียก ให้เรากลับบ้าน อย่าตามสิ่งนั้นไป
สุดปลายแขนเรา จะมีพ่อแม่เสมอ สุดความสามารถ กำลังใจในตัวเอง จะมีพ่อแม่เสมอ
ปัจจุบันเรารับราชการ ณ กรม A และสอบติด กรม B พ่อแม่ให้อิสระเราในการเลือกชีวิตของตัวเอง 100% เต็ม
จากคนไม่ชอบกรุงเทพ กลับบอกลูกว่า ถ้ากรุงเทพ เดินทางสะดวกกว่าต่างจังหวัด ก็ให้เลือกอยู่ กทม.ก่อนได้นะลูก
เพราะถ้าบรรจุต่างจังหวัด หนูน่าจะไป-กลับ ระหว่างบ้าน กับที่ทำงานมากกว่าอยู่หอ 55555555
.....แต่อย่าลืม ว่าพ่อกับแม่คิดถึงเรา....
นับจากวันที่มาอยู่ไกลบ้าน เวลายังไม่ถึง 1 ปี สิ่งที่พ่อแม่ให้มา คือ ความเป็นห่วง ความปรารถนาให้ลูกร่างกายแข็งแรง
และมีความสุขกับเส้นทางที่ลูกเลือก
จากนั้นเป็นต้นมา ความชัดเจนที่สุด คือ ไม่ว่าเราจะเลือกเส้นทางไหนให้ตัวเอง มีพ่อแม่อยู่ในเส้นทางนั้นเสมอ
เราออกจากบ้านเพื่อหาทางกลับบ้าน
ทุกวันนี้เรากราบชายผ้าถุงแม่ ชายโสร่งพ่อ ดินจากที่บ้านที่แม่ห่อให้ ไม่ว่าอยู่ที่แห่งใด เพียงแค่ระลึกถึงท่าน เราจะรู้สึกอบอุ่นทุกครั้ง
ขอเป็นอีกเสียงที่ยืนยันว่า การทำดีกับพ่อแม่ จะทำให้ชีวิตเรามีความสุขจริงๆค่ะ ส่วนชีวิตจะประสบความสำเร็จแค่ไหน ส่วนหนึ่งขึ้นอยู่กับตัวเราเองด้วยค่ะ
พ่อแม่เป็นกำลังใจ ตัวเองเป็นคนอ่านหนังสือและทำข้อสอบ สู้ๆนะคะทุกคน ขอให้มีความสุขกับทุกเส้นทาง ขอให้ท่านทั้งสองอยู่ให้เรามองเห็นและดูแลนานๆนะคะ
.....ฉันเอง....
แชร์ประสบการณ์ทำดีกับพ่อแม่แล้วชีวิตดีขึ้นมากๆ
ประโยคที่ว่า มีแค่พ่อกับแม่ที่รู้ว่าลูกกลับบ้านดึกแค่ไหน หมายถึง มีแค่พ่อกับแม่ที่รอเรากลับบ้าน ไม่ว่าดึกแค่ไหน
ตอนเด็กๆ เราน่าจะเคยบอกแม่ว่าชอบสีฟ้าแน่เลย ทุกวันนี้ฉันเลยกลาย ด.ญ.อายุ 29 ที่ใส่ชุดนอนสีฟ้าที่แม่บอกว่าฉันชอบ 55555
แม่ชอบซื้อของสีฟ้ามาฝาก เช่น ถุงผ้าสีฟ้า ชุดนอนสีฟ้า ล่าสุด...กระเบื้องบ้านฉันสีฟ้า อ่ะ เอาสิ
พ่อปลูกผักที่ฉันชอบ เกินครึ่งพื้นที่สวนน้อยๆของพ่อ
ทุกวันนี้.......เมื่อเจอแก้วมังกร ป่นปลา ของโปรดแม่ ผ้าถุงลายสวยๆ ที่อยากให้แม่ใส่
.......เมื่อเจอน้อยหน่า ข้าวโพดสีเหลืองของโปรดพ่อ เสื้อยีนส์ที่พ่ออยากได้
ฉันไม่เคยปล่อยผ่านในสิ่งเหล่านี้ และคิดว่าเป็นสิ่งที่อยากทำให้ เหมือนที่พ่อกับแม่ทำให้ฉันเสมอมา
ทุกครั้งที่เรากลับบ้าน ซื้อเนื่อปลาเนื้ออ่อนที่ห้าง L มาแช่ไว้ให้ในช่องฟีส
เช่นกัน พ่อและแม่ ยังทำหน้าที่ทุกวัน ผักที่พ่อปลูกที่สวน เป็นผักที่ชอบเรา 5 ใน 10 ส่วน อีกครึ่งนึงเป็นพ่อกับแม่ชอบ
******เริ่มต้นปีใหม่ ด้วยการล้างเท้า กราบขอขมา หากมีการกระทำใด หรือคำพูดใดที่ทำไปทั้งตั้งใจ และไม่ตั้งใจ******
สิ่งนี้ในปีแรก เราจะเขิลกันทั้งบ้าน แต่ชีวิตจะโล่งขึ้นมาก
*****เพราะเราไม่รู้ ว่าท่านจะอยู่ในชีวิตเรานานแค่ไหน เราจึงก้าวข้ามทุกความเขิล แล้วทำทุกอย่างที่ไม่อยากเสียดายทีหลัง****
...........ช่วงชีวิตหนึ่งของเรา มีปัญหาใหญ่เข้ามา ...ตอนนั้นเราท้อมาก ไม่รู้จะแก้ยังไง ไปทางไหนดี
จนแม่พูดประโยคเดิมๆ คือ "เดี๋ยวมันกะผ่านไปเด้อลูกหล่า" // เราเป็นคนอีสานค่ะ
พ่อบอกว่า "กินให้อิ่มเด้อลูกเอ้ย นอนพักนำเด้อ"
******สำคัญที่สุด พ่อแม่ก็หวังให้เรา กินอิ่มนอนหลับ มีความสุขกับทุกเส้นทางที่เราเลือก*****
..........ผ่านไป ไม่ถึง 1 เดือน เราสามารถแก้ปัญหานั้นได้ ด้วยวิธีที่เราเองอาจมีหลงลืมไปด้วยซ้ำว่ามีอยู่/ หลงลืมว่าทำได้
ประโยคธรรมดา แต่เรามีกำลังใจมากขึ้นมากๆ
ถึงทางตัน เราจะมีทางออกเสมอ
ถึงคราวหมด เราจะมีทรัพย์ได้มาแบบไม่ทันตั้งตัว
ถึงคราวเดือดร้อน หากสุดกำลังตัวเราเอง เราจะมีเพื่อน ที่คอยรับฟัง และข่วยเหลือ รวมถึงผู้ใหญ่ที่เอ็นดู ทั้งที่เราเป็นคนยิ้มยาก 5555
ถึงคราวเสี่ยงอันตราย เมื่อพ่อแม่เตือนว่า....ไม่ไปดีกว่านะลูก....เราจะปลอดภัย
ถึงคราวเจอคนใจร้าย ทุกคนจะถูกจัดสรรเสมอ
ถึงคราวฝันร้าย พ่อแม่ ตายาย จะเข้าไปเรียก ให้เรากลับบ้าน อย่าตามสิ่งนั้นไป
สุดปลายแขนเรา จะมีพ่อแม่เสมอ สุดความสามารถ กำลังใจในตัวเอง จะมีพ่อแม่เสมอ
ปัจจุบันเรารับราชการ ณ กรม A และสอบติด กรม B พ่อแม่ให้อิสระเราในการเลือกชีวิตของตัวเอง 100% เต็ม
จากคนไม่ชอบกรุงเทพ กลับบอกลูกว่า ถ้ากรุงเทพ เดินทางสะดวกกว่าต่างจังหวัด ก็ให้เลือกอยู่ กทม.ก่อนได้นะลูก
เพราะถ้าบรรจุต่างจังหวัด หนูน่าจะไป-กลับ ระหว่างบ้าน กับที่ทำงานมากกว่าอยู่หอ 55555555
.....แต่อย่าลืม ว่าพ่อกับแม่คิดถึงเรา....
นับจากวันที่มาอยู่ไกลบ้าน เวลายังไม่ถึง 1 ปี สิ่งที่พ่อแม่ให้มา คือ ความเป็นห่วง ความปรารถนาให้ลูกร่างกายแข็งแรง
และมีความสุขกับเส้นทางที่ลูกเลือก
จากนั้นเป็นต้นมา ความชัดเจนที่สุด คือ ไม่ว่าเราจะเลือกเส้นทางไหนให้ตัวเอง มีพ่อแม่อยู่ในเส้นทางนั้นเสมอ
เราออกจากบ้านเพื่อหาทางกลับบ้าน
ทุกวันนี้เรากราบชายผ้าถุงแม่ ชายโสร่งพ่อ ดินจากที่บ้านที่แม่ห่อให้ ไม่ว่าอยู่ที่แห่งใด เพียงแค่ระลึกถึงท่าน เราจะรู้สึกอบอุ่นทุกครั้ง
ขอเป็นอีกเสียงที่ยืนยันว่า การทำดีกับพ่อแม่ จะทำให้ชีวิตเรามีความสุขจริงๆค่ะ ส่วนชีวิตจะประสบความสำเร็จแค่ไหน ส่วนหนึ่งขึ้นอยู่กับตัวเราเองด้วยค่ะ
พ่อแม่เป็นกำลังใจ ตัวเองเป็นคนอ่านหนังสือและทำข้อสอบ สู้ๆนะคะทุกคน ขอให้มีความสุขกับทุกเส้นทาง ขอให้ท่านทั้งสองอยู่ให้เรามองเห็นและดูแลนานๆนะคะ
.....ฉันเอง....