ภาวะน้ำเชื้อไม่มีตัวอสุจิ (Azoospermia) หรือที่บางคนเข้าใจผิดว่าเป็น "หมัน" แท้จริงแล้วอาจไม่ใช่เสมอไป โดยภาวะนี้ยังมีแนวทางการรักษาและโอกาสมีบุตรได้ 

ภาวะน้ำเชื้อไม่มีตัวอสุจิ (Azoospermia) คืออะไร?
ภาวะน้ำเชื้อไม่มีตัวอสุจิ หมายถึง การตรวจพบว่าน้ำเชื้อของผู้ชายไม่มีตัวอสุจิเลย แม้ว่าผู้ชายคนนั้นจะมีความต้องการทางเพศและสมรรถภาพทางเพศที่เป็นปกติก็ตาม 

สาเหตุของภาวะน้ำเชื้อไม่มีตัวอสุจิ
1.ความผิดปกติในการสร้างอสุจิ: เกิดจากอัณฑะไม่สามารถสร้างอสุจิได้
2.ท่อนำอสุจิตัน: ท่อนำอสุจิที่เชื่อมระหว่างอัณฑะกับท่อปัสสาวะเกิดการอุดตัน ส่งผลให้อสุจิไม่สามารถออกมาได้

เมื่อผลการตรวจน้ำเชื้อครั้งแรกพบว่าไม่มีตัวอสุจิ แพทย์จะทำการนัดตรวจซ้ำในระยะเวลา 2-3 เดือนต่อมา เนื่องจากมีปัจจัยหลายอย่าง เช่น การเจ็บป่วย การใช้ยาบางชนิด หรือความเครียด ซึ่งสามารถส่งผลกระทบต่อการสร้างอสุจิในระยะสั้น การตรวจซ้ำนี้จึงมีความสำคัญเพื่อยืนยันผลลัพธ์ของการตรวจครั้งแรก และช่วยให้การวินิจฉัยแม่นยำยิ่งขึ้น

ทางออกสำหรับผู้ที่มีภาวะน้ำเชื้อไม่มีตัวอสุจิ
แม้จะพบว่าผู้ชายมีภาวะน้ำเชื้อไม่มีตัวอสุจิ แต่ก็ยังมีความเป็นไปได้ที่จะมีบุตรผ่านกระบวนการทางการแพทย์ที่เรียกว่า เทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ (Assisted Reproductive Technology: ART) หนึ่งในวิธีที่ใช้กันทั่วไปคือ PESA (Percutaneous Epididymal Sperm Aspiration) ซึ่งเป็นการเก็บตัวอสุจิจากท่ออสุจิ (Epididymis) โดยแพทย์จะใช้เข็มขนาดเล็กเจาะเข้าไปในท่ออสุจิเพื่อดูดเอาตัวอสุจิออกมา และนำไปผสมกับไข่ของฝ่ายหญิงในการทำอิ๊กซี่ (ICSI) เพื่อช่วยให้เกิดการปฏิสนธิ

การมีภาวะน้ำเชื้อไม่มีตัวอสุจิไม่ได้หมายความว่าคุณจะไม่มีลูกได้เลย การเข้ารับการตรวจรักษาที่ถูกต้องและทันท่วงที รวมถึงการเลือกวิธีการรักษาที่เหมาะสม สามารถช่วยเพิ่มโอกาสให้คุณและคู่ชีวิตได้มีบุตรตามที่ต้องการ

บทความโดย
พญ.ศรมน ทรงวีรธรรม 
แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการรักษาภาวะมีบุตรยาก 
ติดตามสาระดีๆได้ที่ : https://www.tiktok.com/@vfccenter?is_from_webapp=1&sender_device=pc