Mushishi คืออนิเมะที่น่าประทับใจมาก ความสงบ ความสยอง ความเศร้า ความโรแมนติก และความเหงา รวมกันอยู่ในนี้

-มูชิ ชิ หรือชื่อไทย กีฏจารย์กับอาถรรพ์แมลงพิสดาร ดัดแปลงจากมังงะในชื่อเดียวกัน โดยเป็นอนิเมะแนวดราม่าที่มีตีมพีเรียด กึ่งแฟนตาซีกึ่งชีววิทยา แม้จะดูเป็นอะไรที่เหนือจินตนาการแต่กลับเล่าเรื่องในประเด็นที่ไกล้ตัวเราและมีความเป็นมนุษย์ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องวิถีชีวิต การสูญเสียคนในครอบครัวหรือคนรัก ชะตากรรม ความเกี่ยวโยงกับธรรมชาติที่ถูกยกมาเป็นประเด็นในแต่ละตอน
-เนื้อเรื่องเกี่ยวข้องกับสิ่งลี้ลับที่อาศัยอยู่ทั่วไปในธรรมชาติ ไม่ว่าป่าเขา แม่น้ำ ก้อนเมฆ ลม ไฟ หรือแม้แต่ในร่างกายของสิ่งมีชีวิตก็ตาม ซึ่งเรียกเจ้าสิ่งนี้ว่า มูชิ โดยมันไม่ใช่ทั้งสิ่งมีชีวิตและไม่มีชีวิต แต่มีอิทธิพลต่อเหตุการณ์เหนือธรรมชาติหรือโรคร้ายต่างๆ มูชินั้นมีหลากหลายชนิดนับไม่ถ้วนรูปร่างต่างกันไปบ้างคล้ายพืชบ้างคล้ายสัตว์บ้างคล้ายอากาศธาตุ บางชนิดก็อันตรายมากบางชนิดก็อาจเป็นประโยชน์ บางชนิดก็ยากที่จะบอก มันมีรูปแบบเกินกว่าที่คนปกติจะสังเกตได้ น้อยคนที่จะมองเห็นมัน พูดง่ายๆว่าเหมือนกับเป็นพวกภูติ
-ตัวเอกของเราชื่อว่า กิงโกะ ชายปริศนาผู้มีผมสีขาวนัยน์ตาสีเขียวมรกต สวมใส่เสื้อผ้าดูมินิมอลทันสมัยแปลกตากว่าคนอื่นในเรื่อง เขามีความสามารถในการรับรู้และโต้ตอบกับมูชิ ในฐานะผู้เชี่ยวชาญในสาขานี้ที่เรียกกันว่า มูชิ ชิ ซึ่งในเรื่องจะมีอยู่หลายคนแต่กระจัดกระจายไปในท้องที่ต่างๆ กิงโกะเขาเลี้ยงชีพด้วยการเดินทางไปทั่วทุกหนแห่งเพื่อขจัดปัดเป่ามูชิ ให้เปรียบเทียบก็คงจะเหมือนกับเป็นหมอผีผสมกับหมอยาหรือนักวิทยาศาสตร์ โดยอุทิศเวลาเพื่อช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากผลกระทบของมูชิ ทำให้ต้องเข้าไปเจอกับผู้คนหลากหลายแบบและปัญหาต่างๆอยู่ตลอด 
-แต่ละตอนจะสรุปเป็นเรื่องราวในตัวเอง ตัวละครที่ปรากฏในแต่ละตอนไม่ได้เชื่อมโยงถึงกันนัก อาจมีเพียงสามถึงสี่ตัวละครเท่านั้นที่มีบทในตอนอื่นๆ
-แม้ว่า กิงโกะมีความเชี่ยวชาญเรื่องมูชิ แต่ก็ไม่ใช่ว่าสามารถช่วยเหลือผู้คนได้ทุกตอน บางกรณีที่เขาไม่สามารถช่วยคนที่เขาพบได้อย่างเพียงพอ นี่เป็นเพียงภาพสะท้อนของธรรมชาติของชีวิตที่คาดเดาไม่ได้
-กิงโกะนั้นมีคำสาปติดตัวที่ทำให้เขาไม่สามารถอยู่ในที่เดียวเป็นระยะเวลานานๆได้ เพราะตัวเขาเองดึงดูดพวกมูชิ หากเขาต้องอยู่ในสถานที่แห่งใดแห่งหนึ่งเป็นเวลานานเกินไป อาจเป็นอันตรายต่อผู้คนในบริเวณใกล้เคียงได้ ดังนั้นเค้าต้องเดินทางอยู่ตลอด ไม่สามารถลงหลักปักฐานหรือมีครอบครัวแบบคนปกติ
-การบอกเล่าเหตุการณ์เหนือธรรมชาติมากมายนั้นช่างน่าหลงใหลยิ่งนัก ทั้งครีเอทพิษดาร แม้ว่าการเล่าเรื่องจะดำเนินไปอย่างช้าๆสบายๆ แต่ก็เต็มไปด้วยอารมณ์ที่หลากหลาย
-ความรู้สึกของผมหลังจากที่ได้ดูจนจบไปคือชอบมากๆ มันเป็นบรรยากาศที่หาได้ยากในอนิเมะทั่วไป การเล่าเรื่องที่สโลว์เบิร์นเกือบง่วงแต่ดันมีปริศนาน่าติดตามจนหยุดดูไม่ได้เหมือนตอนที่ผมดู Breaking Bad ที่ต่อให้เล่าช้าก็ดูเพลิน แต่ละตอนมีจังหวะการเล่าที่ต่างกันไป บางทีก็เส้นตรง บางทีก็สลับแบบหนังของซาโตชิคง บางตอนก็หักมุม บางตอนเหงาเศร้าน้ำตาซึม บางตอนตัดไปสยองขวัญจนตื่นเต้น บางตอนก็โรแมนติกชวนฝัน
-ด้านคุณค่าก็มีทั้งปรัชญาข้อคิดสอนใจแทบทุกตอน เรียกได้ว่าดูแล้วไม่รู้สึกเสียเวลาเลย
-งานภาพที่สวยแบบธรรมชาติ แบ็คกราวด์มันดูละเอียดพิถีพิถัน มีความอาร์ท บ้างก็แปลกเหนือจินตนาการ การเล่นสีแสงเงาที่สวยเกือบระดับฉายโรงทุกตอน ให้ยกตัวอย่างง่ายๆ นี่มันคือซีรีย์อนิเมะที่มีงานภาพสวยเทียบเท่าหนังการ์ตูนจิบลิ
-แต่ละตอนจะมีดนตรีประกอบเฉพาะตัว ทั้งเพราะและสื่ออารมณ์ของตอนนั้นๆ ได้อย่างดี
-อนิเมะมูชิชินี้ค่อนข้างเก่า คือตั้งแต่ปี 2005 และมีอีกซีซั่นตอนปี 2014 โดยเป็นที่รู้จักไม่มากเพราะช่องทางในการดูค่อนข้างน้อย มัน Underrated และต้องบอกอีกอย่างว่ามันอาจมีความเฉพาะกลุ่มและไม่ได้เหมาะกับทุกคน แต่เวลามีการพูดถึงหรือจัดอันดับอนิเมะที่ดีสุดที่ถูกสร้างขึ้นมาก็มักจะเห็นเรื่องนี้ติดอยู่ในลิสท์อยู่บ่อยๆ โดยคะแนนบน IMDB ถึง 8.5/10 
-ส่วนคะแนนภาพรวมที่ผมจะให้เรื่องนี้คือ 9.5/10 คงมีเรื่องให้ตินิดเดียวตรงที่หน้าตาทรงผมตัวละครที่ไม่ใช่ตัวหลักมันอาจดูคล้ายกันไปนิด 
-เรื่องนี้ยังมีให้รับชมฟรีหนึ่งซีซั่นแบบซับไทยบน BiliBili นะครับ โดยเรื่องนี้มีลิขสิทธิ์แท้ด้วย ซึ่งปกติบน BiliBili จะมีอนิเมะไม่ถูกลิขสิทธิ์ซะเยอะ ถือเป็นโอกาสที่ดีถ้าใครอยากลองดู  
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่