สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 5
การ "สมัครใจเสียชีวิต" ในทางสากลก็คือการ "การุณยฆาต" (Euthanasia) ถือเป็นเรื่องถูกกฎหมายใน 9 ประเทศได้แก่ ....
- เนเธอร์แลนด์ (ตั้งแต่ปี 2002)
- เบลเยียม (ตั้งแต่ปี 2002)
- ลักเซมเบิร์ก (ตั้งแต่ปี 2009)
- โคลอมเบีย (ตั้งแต่ปี 2015)
- แคนาดา (ตั้งแต่ปี 2016)
- ออสเตรเลีย (ตั้งแต่ปี 2019)
- สเปน (ตั้งแต่ปี 2021)
- นิวซีแลนด์ (ตั้งแต่ปี 2021)
- เอกวาดอร์ (ตั้งแต่ปี 2024)
และการการุณยฆาต นั้น จะต้องทำในโรงพยาบาลด้วย 2 วิธีครับ
1. ผู้ตายทำด้วยตนเอง ก็คือให้ผู้ตายดื่มยาด้วยตนเองเท่านั้น ซึ่งทางโรงพยาบาลจะเตรียมยาให้เพียงอย่างเดียว ส่วนมากจะเป็นยา Pentobarbital ซึ่งจะไปหยุดกระแสประสาทในสมองทั้งหมด ทำให้หยุดหายใจ และหัวใจหยุดเต้น
2. แพทย์ทำให้ ก็คือแพทย์จะให้ยาสลบก่อน หรืออาจให้ยาคลายความวิตกกังวล หลังจากนั้นจะให้ยาสงบประสาทแบบ overdose เกิน 10 - 15 เท่าทำให้โคม่าและสมองหยุดทำงาน หรือแพทย์จะใช้ยาบล็อกกล้ามเนื้อทำให้กล้ามเนื้อลายทั้งหมดเป็นอัมพาต (หัวใจหยุดเต้น)
กฎหมายแบบนี้ในประเทศไทย ส่วนตัวแล้วผมคิดว่าไม่มีทางเกิดขึ้นได้เลยครับ เพราะแนวคิดของคนไทยต่างจากพวกตะวันตกเยอะ คือไม่ได้ใช้คำว่าโลกสวยหรอกนะแต่แนวคิดแบบนี้มันค่อนข้างจะ "นอกกรอบ" มากเกินไปสำหรับธรรมเนียมประเพณีของไทย
- เนเธอร์แลนด์ (ตั้งแต่ปี 2002)
- เบลเยียม (ตั้งแต่ปี 2002)
- ลักเซมเบิร์ก (ตั้งแต่ปี 2009)
- โคลอมเบีย (ตั้งแต่ปี 2015)
- แคนาดา (ตั้งแต่ปี 2016)
- ออสเตรเลีย (ตั้งแต่ปี 2019)
- สเปน (ตั้งแต่ปี 2021)
- นิวซีแลนด์ (ตั้งแต่ปี 2021)
- เอกวาดอร์ (ตั้งแต่ปี 2024)
และการการุณยฆาต นั้น จะต้องทำในโรงพยาบาลด้วย 2 วิธีครับ
1. ผู้ตายทำด้วยตนเอง ก็คือให้ผู้ตายดื่มยาด้วยตนเองเท่านั้น ซึ่งทางโรงพยาบาลจะเตรียมยาให้เพียงอย่างเดียว ส่วนมากจะเป็นยา Pentobarbital ซึ่งจะไปหยุดกระแสประสาทในสมองทั้งหมด ทำให้หยุดหายใจ และหัวใจหยุดเต้น
2. แพทย์ทำให้ ก็คือแพทย์จะให้ยาสลบก่อน หรืออาจให้ยาคลายความวิตกกังวล หลังจากนั้นจะให้ยาสงบประสาทแบบ overdose เกิน 10 - 15 เท่าทำให้โคม่าและสมองหยุดทำงาน หรือแพทย์จะใช้ยาบล็อกกล้ามเนื้อทำให้กล้ามเนื้อลายทั้งหมดเป็นอัมพาต (หัวใจหยุดเต้น)
กฎหมายแบบนี้ในประเทศไทย ส่วนตัวแล้วผมคิดว่าไม่มีทางเกิดขึ้นได้เลยครับ เพราะแนวคิดของคนไทยต่างจากพวกตะวันตกเยอะ คือไม่ได้ใช้คำว่าโลกสวยหรอกนะแต่แนวคิดแบบนี้มันค่อนข้างจะ "นอกกรอบ" มากเกินไปสำหรับธรรมเนียมประเพณีของไทย
แสดงความคิดเห็น
จะดีไหมถ้าประเทศไทยมีกฏหมายสมัครใจเสียชีวิต
แล้วถ้าหากมีกฏหมายจริงๆ ผมก็จำแหนกบุคลและข้อกำหนดได้ตามนี้
1.ผู้ป่วยซึมเศร้า ต้องยอมรับว่าโรคนี้ในช่วงหลังๆทุกคนจะได้เห็นผ่านตามามากขึ้นโดยที่ไม่รู้เลยว่าโรคนี้เกิดขึ้นกับใครบ้างและถ้าสมมุติ เราเปิดให้พวกเค้าสมัครใจที่จะจบชีวิตแบบถูกกฏหมาย ไม่เดือดร้อนใคร(ในที่นี้คือการตายของเราถ้าไปตายในห้องเช่าของใครเจ้าของห้องคือซวย) ถ้าเค้าสมัครใจมาจบชีวิต ตรงนี้เราสามารถให้เค้าพูดคุยกับจิตเภชก่อน เป็นกาาบำบัดไผในตัวแล้วสุดท้ายเค้ายังอยากที่จะจบชีวิตอยู่ เราก็ควรปล่อยให้เค้าได้ไป
2.กลุ่มโรคร้ายแรง ต้องยอมรับว่าการเป็นโรคเรื้อรังที่รักษาไม่ได้ สร้างความทรมานคนที่เป็นมาก ผมเชื่อว่าหลายคนมากที่ไม่อยากจะรักษาแล้วแต่ไปไม่ได้สักที ผมเป็นหนึ่งในนั้นที่คิดว่าวันหนึ่งถ้าต้องมานอนให้ลูกหลานรักษา เช็ดตัว เปลี่ยนแพมเพิสให้ ผมจะตัดสินใจยิงหัวตัวเอง หยุดภาระ และค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นถ้าเราตัดสินใจอยู่ แต่ถ้าเราสามารสมัครใจจบชีวิตได้เองจะดีมาก(มาต่อที่หลัง ขอพักผ่อนก่อน)