สวัสดีครับทุกคน เรื่องมีอยู่ว่าผมอาศัยอยู่กับยายพ่อแม่และน้องสองคน ตอนเด็กๆถึงวัยรุ่นเรื่องราวในบ้านก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร จนเมื่อผมถึงวัยที่จะบวชตอนอายุประมาณ20 ยายก็ตกลงจะบวชให้เพราะยายแกพอมีเงินเก็บ แกอยากเห็นชายผ้าเหลือลูกแก แต้น้าผมที่เป็นผู้ชายไม่บวชให้น้าไปได้เมียอยู่ ตจว ไม่กลับบ้านหลายปีแล้ว แกเลยอยากให้ผมบวช ทางบ้านก็ได้ไปคุยกับหลวงพ่อไว้ล่วงหน้าแล้ว ผมเองก็เตรียมตัวท่องหนังสือมนต์พิธีจนสามารถท่องได้ไปแล้ว90% และแล้วพอใกล้ถึงวันบวชประมาณอาทิตย์สองอาทิตย์ ยายเกิดบอกว่าตังค์แกหาย ไป120000 เรื่องราวเริ่มวุ่นวายยายร้องไห้เสียใจ จู่ๆแม่ผมเริ่มจุดธูป ท้าวความนิดนะครับแม่ผมชอบเรื่องทรงเจ้า ร่างทรง ชอบไปงานพิธีที่มีร่างทรงและเคยเข้าทรงให้ผมเห็นตั้งแต่ผมยังเด็ก เห็นมาเรื่อยๆ คนข้างบ้านบ้างส่วนก็รู้ว่าแม่ผมชอบเข้าทรงแต่ไม่ได้เปิดตำหนักอะไรนะ นึกจะเข้าทรงก็เข้าเอง บางทีธูปก็ไม่ต้องจุด และบางทีก็บอกตัวเองเป็นกุมารบ้าง นางไม้บ้าง เจ้าแม่กวนอิมบ้าง อะไรอีกมากมาย ตอนเด็ก ผมก็เชื่อครับว่าแม่คงมีอะไรมาเข้าจริงๆแหละ มาเข้าเรื่องต่อนะครับ พอแม่ผมจุดเสร็จปักบนหิ่งที่มีขันพานดอกไม้ที่แกพึ่งไปรับมาไม่นาน และก็นั่งลงทำเป็นเจ้าแม่เข้าร่างแล้ว ในวันนั้นมีคนมายืนมุงดูอยู่ไม่น้อยเลย เพราะบ้านผมมันเป็นชุมชนที่บ้านเรือนแออัด และพอเกิดเรื่องอะไรก็จะมามุงดูกันหลายคน และแล้วแม่นั่งหลับตาอยู่ไม่กี่วิ ลืมตาขึ้นมาแล้วชี้หน้าผม บอกว่านั่นแหละเอาเงินไป ทุกคนมองมาที่ผม ผมถามแม่ว่า ทำไมแม่ทำแบบนี้ แม่ทำแบบนี้ทำไม ยายแกก็ร้องไห้แกร้องอยู่นานแล้วล่ะ แกยิ่งร้องหนัก ผมก็ร้องผมบอกว่าผมไม่ได้เอาไป ส่วนใครจะเชื่อว่าผมเอาไปไหมอันนั้นผมว่าคนส่วนมากก็คงเชื่อแหละเพราะเขาคงคิดว่าลูกจะบวชอยู่แล้วคงไม่มีแม่คนไหนมาใส่ร้ายลูกหรอก หลังจากนั้นยายก็ไปยกเลิกงานบวชกับหลวงพ่อ ยายแกก็ยังมีเงินอีกก้อนนะแต่แกคงไม่มีใจที่จะบวชผมแล้ว ผมเลยไม่ได้บวช พ่อผมเสียใจมากเพราะเห็นในความตั้งใจของผมเห็นว่าผมตั้งใจที่อยากจะบวชท่องหนังสือมนต์ได้เกือบหมดภายในเวลา3วัน พ่อยังบอกตอนเขาบวชกว่าจะจำได้หมดเกือบเดือน พ่อผมบอกกับผมว่าพ่อไม่เชื่อหรอกว่าเอ็งจะเป็นคนทำ ถ้าพ่อร่างกายดีๆพ่อจะบอกว่าเขาเอาเงินไปเองแล้วยอมติดคุกเลยเพื่อที่จะไม่ให้ใครมองผมไม่ดี พ่อผมเป็นคนอ้วนมากๆ แต่เเกไม่เคยไปตรวจโรคอะไรที รพ เลย แกเสียใจ แกซื้อหาซื้อเลขด้วยเงินทั้งหมดที่แกมีอยู่หลายพัน เพื่อหวังจะถูก เขาบอกถ้าถูกจะจัดงานให้หมดเลย มันไม่ใช่เรื่องง่ายหรอกแต่พ่อผมก็หวังเล็กๆกับทางนี้ สุดท้ายก็ไม่ถูกครับ หลังจากนั้นไม่กี่วันประมาณ1อาทิตย์ พ่อผมเริ่มมีอาการไอเนื่องขากสูบบุหรี่มาก คงเครียดและคิดมากเรื่องที่ผมไม่ได้บวชด้วยคงสูบหนักกว่าเดิม ไอจนมีเลือดออกจากคอ ผมเลยให้พ่อไปหาหมอ พ่อนอน รพ อยู่สามวันผมก็ไปหาแกตลอด มีอยู่วันนึงพ่อเหมือนสั่งเสียผมไว้ว่า เอ็งไม่ต้องสนใจใครแค่คอยซื้อของกินขนมให้น้องคนเล็กที่อายุ4ขวบ มีลูกหลงมาครับ น้องสาวผม16 ผม20 น้องคนเล็ก4ขวบ พออยู่ รพ ได้สามวันบ่นอยากกลับบ้าน ตอนเเรกผมคิดว่าพ่อคงดีขึ้นแล้ว เพราะหมอก็ไม่ได้พูดอะไร พอกลับมาบ้านแล้วพ่อก็ไม่ได้ออกไปวิ่งวินแล้ว แต่ผมยังคงต้องออกไปวิ่งวินอยู่ หลังจากนั้นไม่ถึงอาทิตย์ครับ หลังจากที่พ่อผมให้ออกไปรับลูกค้าประจำของแก ผมออกไปหลังจากเสร็จธุระรับลูกค้าให้แก ที่บ้านโทรมาบอกว่าพ่อไม่หายใจแล้ว ผมรีบเข้าบ้านมาร้องไห้มาตลอดทาง มาถึงบ้านเจอพ่อนอนอยู่คนมาดูเต็มบ้านผมร้องลั่นไม่อายใครผมกอดพ่อผมอยู่แบบนี้น ไม่ให้ใครมาจับแม้กระทั่ง ปอเต็กตึ๊งมา ยังต้องมาดึงตัวผมออก ผมเสียใจมากกับเหตุการณ์ที่พ่อจากไป แกคงมีโรคอยู่แล้วล่ะ แต่มันทรุดหนักตรงที่มีเรื่องที่เกิดจนผมไม่ได้บวชให้เครียดเข้าไปอีก สุดท้ายผมต้องบวชทั้งน้ำตา โดยญาติฝ่ายพ่อเป็นคนจัดงานพ่อ และงานบวชผม ญาติทางพ่อไม่มีใครเชื่อแม้แต่คนเดียวว่าผมจะเป็นคนเอาเงินไป ผมเก็บเรื่องราวนี้มา14ปี เรื่องเกิดตอนผมอายุ20 ตอนนี้ผมจะ34แล้ว มันยังคงติดยังคงดังอยู่ในหัว มันไม่เคยลืม ว่าแม่ทำไมถึงทำกับผมแบบนี้ ผมไม่อยากจะพูดอะไรเกี่ยวกับแม่มากผมบอกได้แค่ว่าแม่ผม ไม่เหมือนกับแม่ของอื่ื่น ครั้งนึงตอน4-5ขวบ ผมก็ยังจำได้ ว่าผมเคยวิ่งเข้าไปกอดแม่ทางด้านหลังแต่แกสบัดผมเกือบล้ม หลังจากวันนั้นผมไม่กล้ากอดแกอีกเลย หลังจากเกิดเรื่องนั้น พ่อก็เสีย บ้านก็ไม่ค่อยสงบสุขอีกต่อไป ยายผมเริ่มบ่นเงินหายอยู่บ่อยๆ ทะเลาะกันด่ากัน สุดท้ายก็หาเจอ หายแล้วเจอๆๆๆ เป็นร้อยรอบ จนทำให้ผมและน้องๆ อยู่กันไม่ค่อยเป็นสุขเลย คนข้างบ้านก็เอาเรื่องผมไปคุย มีอยู่บ้านนึงที่ติดกันแกก็แก่แล้วแหละ บ้านแกมีลูกเยอะ ตกเย็นมากก็จะมานั่งพูดถึงเรื่องคนนู้นบ่างคนนี้บ้าง บ้านผมก็โดนพูดถึง เป็นร้อยเป็นพันรอบ ผมได้ยินพูดถึงผมกับน้องผมเป็นร้อยครั้ง เมื่อเร็วมานี้ผมพึ่งออกไปตอบโต้มา ทะเลาะเถียงด่ากันอยู่พักนึง เพราะผมทนมาหลายร้อยครั้งแล้ว และก็คงเป็นครั้งเดียวที่ผมจะโต้ตอบ เพราะไม่อยากทะเลาะด้วย ถ้าพูดขนาดนั้นยังไม่หยุดนินทาก็คงแก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว บ้านผมไม่เคยสงบสุขได้นานเลยครับ ยังดีผมยังมีคนที่พอจะทำให้มีความสุข ที่1เลยคือแฟนผม มีน้องชาย มีหลานชายหลานสาวอย่างละ1 ที่พอเป็นความสุขผม แต่ถึงอย่างไรผมก็ไม่อยากอยู่ที่นี่เลย แต่ก็เป็นห่วงหลานๆกับน้องชาย เลยไปไหนไม่ได้ แหนผมผมก็ยังไม่ได้อยู่ด้วยกันแค่นัดเจอกันในวันที่เขาหยุด และตัวผมก็ไม่มีเงินเก็บพอที่จะซื้อบ้านเป็นหลักแหล่งได้ เนื่องจากต้องดูแลส่งเสียงทั้งแม่เเละน้องตั้งแต่พ่อเสียไป น้องผมก็พึ่งทำงานได้ปีเดียว ป่วยเป็นฝีคัณทะสูตร สองรอบ พักรอบละ40วัน เลยต่างคนยังไม่มีเงินเก็บพอที่จะออกไปจากตรงนี้ได้ แต่ถ้าจะดิ้นรนหาก็ไปได้แหละ แต่หลานคงต้องอยู่กับน้องสาวผม ตังติดพันกันอยู่เลยต้องทนกันต่อไป ยายผมอาบน้ำเปลี่ยนชุดเมื่อไหร่ เรื่องก็จะเกิดเพราะไม่รู้ว่าเอาเงินไปวางไว้ไหน หาไม่เจอ ก็มานั่งร้องไห้พูดว่าใครเอาเงินไปเอามาคืน บอกก็ไม่เคยฟังเลยว่าวางไว้ไหนแล้วลืมจะโทษแต่คนในบ้านอย่างเดียว แล้วพอเกิดเรื่องแบบนี้พวกข้างบ้านก็ชอบเหลือเกิน มันได้ยินบ้านผมเถียงกัน บางทียังไม่ทันรู้เลยว่าเรื่องอะไร มันกระซิบกันเเล้ว กระซิบดังด้วย จนล่าสุดผมทนไม่ไหวแหละ เลยออกไปตอบโต้มา ผมอยู่อย่างระแวง ไม่ค่อยมีความสุขเลย ไม่อยากเจออะไรแบบนี้เลย แต่ปัญหานี้ยังคงเป็นอยู่เรื่อง อาทิตละ3-4ครั้ง หรือมากกว่านั้น ยายก็ไม่เคยยอมรับเลยว่าวางแล้วลืม พอพวกผมช่วยหากันจนเจอ ก็บอกว่าพวกผมเอามาวางคืน เป็นแบบนี้ตลอด จนคนแถวบ้านมองว่าผมกับน้องเป็นตัวอะไรไม่รู้ แล้วคนแถวบ้านผมนี้นะ ถ้าใครเถียงผู้ให้หรือปู่ย่าตายายเข้าตีว่าชั่วเลวทันที เขายังเคยบอกกับผมว่าผิดถูกก็ห้ามเถียงผู้ใหญ่ แต่ผมทนไม่ได้ทุกครั้งหรอกครับ ถ้าผมตั้งหลักได้ ผมจะไปจากที่นี่ครับ จะเอาน้องชายกับหลานไปด้วย ส่วนค่าใช้จ่ายหลานจะให้แม่มันส่งให้ ถ้าผมทำแบบนี้เพื่อนๆว่าผิดถูกประการใดครับแนะนำผมด้วยครับ ใครมีแนวคิดดีๆชี้ทางสว่างให้ด้วยนะครับ ขอบคุณทุกคนที่อ่านจนจบนะครับ ที่จริงมีรายละเอียดมากกว่านี้แต่ผมเอาที่เนื้อๆมาครับ ถ้าผมพิมพ์วนไปมาหรือมีอะไรผิดพลาดจนเข้าใจยาก ผมต้องขออภัยทุกคนด้วยนะครับ🙏🙏🙏
ใครเคยโดนกล่าวหาว่าเป็นขโมยในบ้านบ้างครับ แล้วจัดการกับปัญหายังไงกันครับ