ประวัติศาสตร์การต่อสู้ จากความขัดแย้งทางการเมือง เราทราบกันดี ว่าตลอดระยะเวลาอันยาวนาน จะเป็นการต่อสู้ระหว่างมวลชน2สี คือสีแดง กับสีเหลือง จนนายใหญ่สีแดงต้องหนีคดีไปต่างแดน ปล่อยให้มวลชนแดงต่อสู้ตามลำพัง จนล้มตายเสียชีวิตไปจำนวนมาก รวมทั้งทหารที่มาปราบปราม จนถึงจุดหนึ่งมวลชนแดงอยู่ในสภาพจนตรอก หมดมุกโดยสิ้นเชิง เพราะเป็นที่รู้กันว่าเขาต่อสู้เพื่อคนคนเดียว ไม่ได้ต่อสู้กับความอยุติธรรมแต่อย่างใด หลังจากนั้นไม่นาน ก็เกิดกลุ่มเยาวชนที่รวมกลุ่มกัน มาจากโซเชียล ที่ใช้สัญลักษณ์3นิ้ว ต่อต้านเผด็จการและสถาบัน มีการจัดตั้งแกนนำขึ้น พร้อมกับมีนักการเมืองรุ่นใหม่สนับสนุน ใช้ชื่อว่าอนาคตใหม่ ขณะนั้นถือว่าการก่อกำเนิดของพลังสีส้ม ได้แสดงเต็มรูปแบบแล้ว มวลชนแดงจำนวนมาก เปลี่ยนมาเป็นสีส้ม ที่การต่อสู้เพื่อนายใหญ่ดูมีอนาคตกว่า โดยลึกๆรู้สึกได้ว่า ส้มก็คืออาวุธอันใหม่ที่นายใหญ่สร้างสรรค์มา เพียงแต่ส้มรุ่นใหม่ไม่รู้ว่าตนเป็น เป็นแค่แดงรุ่นเก่ากลายพันธุ์ สิ่งที่นายใหญ่เป็นผู้คิดค้น เพื่อให้ตนกลับมามีอำนาจอีกรอบ มีผู้ก่อตั้งพรรคส้มไปรับงานมาอีกที ไปรับหลักการที่นายใหญ่วางแผนมา พร้อมๆกับตกลงเรื่องค่าใช้จ่าย แต่ต้องไม่ให้ใครรู้ว่า นี่คือแผนการอันใหม่ที่จัดตั้งขึ้นเพื่อให้นายใหญ่ได้กลับบ้าน นายใหญ่ใช้มุกใหม่ โดยสร้างภาพคนรุ่นใหม่ เด็กๆ เยาวชน ไม่เอาเผด็จการและศักดินาทุกอย่างในชาติ แผนการทุกอย่างถือได้ว่าคิดค้น และทำการบ้านมาหมดแล้ว ส้มในระดับแกนนำจะรู้ว่าตนเกิดมาเพื่อทำอะไร แต่นักการเมือง และมวลชนระดับล่างๆไม่น่าจะรู้ เพราะไม่รู้ว่าวิวัฒนาการต่อสู้เป็นมาอย่างไร แหล่งเงินทุนมาจากไหน ใครไปแอบคบหากัน ปัญหาที่สำคัญของนายใหญ่ตอนนี้ คือส้มมีพลังเกินควบคุม หันกลับมาทำร้ายตัวเอง เหมือนไฟที่วางเพลิงเผาบ้านตัวเอง แต่ดับเองไม่ได้ และบอกให้ใครรู้ก็ไม่ได้ว่าเป็นคนวางเพลิง กินไม่เข้า คายไม่ออก แต่ก็มีข้อดีในด้านตกกระไดพลอยโจร ที่กลุ่มอำนาจเก่าแก่ที่เกรงกลัวส้มจะมาเป็นใหญ่ ต้องอาศัยความร่วมมือกับนายใหญ่ มาต่อสู้กับพลังอำนาจส้ม เพราะต่างฝ่ายก็ไม่อยากเสียอำนาจที่ผูกขาดมายาวนาน น่าจะเป็นส่วนหนึ่งที่นายใหญ่ได้กลับบ้านแบบเท่ห์ๆสมดังตั้งใจ แถมยังสามารถกดส้มให้เป็นได้แค่ฝ่ายค้าน เพราะสามารถสั่งให้พรรคนี้บ้าล้มเจ้าไปได้เรื่อยๆ แล้วก็จะต้องถูกยุบพรรคอีกหลายๆรอบ กลายเป็นพรรคอนาคตหมดอีกไม่นาน เพราะความเป็นจริงผู้ก่อตั้งแค่ตั้งใจตามนายใหญ่ต้องการเท่านั้น ไม่คิดว่ามันจะมีอนาคตมาจนถึงจุดนี้อยู่แล้ว เพราะรับงานมาแค่นั้น แต่ก็ไม่สามารถบอกใครได้เหมือนกัน ว่าที่ทำๆกันไปนั้น มันเกินความต้องการไปเยอะแล้ว คงต้องดูกันว่าฉากละครทางการเมืองที่นายใหญ่สร้างมานั้น มันจะจบเช่นไร