2567 คนไทยส่วนใหญ่แอนตี้ประกันสุขภาพ มันมีข้อเสียเปรียบมากกว่าประโยชน์ที่ได้รับ จริงไหม

บางคนก็บอกว่าเหมือนจ่ายเบี้ยต่อปี แบบทิ้งเงินไปเล่นๆ เป็นสิบๆปี

บางคนจ่ายมา 20 ปีพอจ่ายตามแผนหมด ป่วยแอทมิดทีนึง หมดไป 5-6 ล้าน
ป่วยครั้งเดียวโดนบอกเลิกสัญญา โดนยกเลิกกรมธรรม์ก็มีเยอะแยะ

หรือพออายุมากขึ้น เข้าวัยเกษียณ ก็โดนปรับเบี้ยแพงๆ ต่อปีเป็น 100-200% จากเดิม
จากจ่ายปีละ 50,000 เป็น 70,000-80,000+ อะไรแบบนี้
เหมือนโดนกดดันให้จ่ายไม่ไหว แล้วบอกเลิกสัญญาไปในที่สุด 

เพราะเหตุผลนี้หรือไม่ สาเหตุที่ทำให้คนส่วนใหญ่มองว่ามันไม่คุ้มที่จะทำประกันสุขภาพหรือเปล่า
จ่ายเบี้ยต่อปีครึ่งแสน พอป่วยบ่อย ป่วยหนักๆที ก็โดนยกเลิก ไม่รับต่อ

สุดท้ายเหมือนเอาเงินให้บริษัทประกันเอาไปลงทุนมากกว่า
แก้ไขข้อความเมื่อ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 7
การรักษา โดยได้การคุ้มครองจากประกันสังคม ไม่ว่าจะ ม.33/ม.39

อาจจะมีค่าใช้จ่ายส่วนต่างบ้างเล็กน้อย การตรวจหาสาเหตุผมจะใช้บริการคลินิกพิเศษนอกเวลา
เสียแค่ค่าตรวจวินิจฉัย ค่ายาไม่เสียสักบาท แถมหมอที่ตรวจให้ก็เป็นหมอเฉพาะทาง ที่ทำงานใน รพ.เอกชน คนเดียวกันเลย

ยังไงก็มองว่าประกันสังคมที่ดูแลโดยรัฐ ยังไงก็ดีกว่าบริษัทประกันสุขภาพหรือประกันชีวิต

เพราะบริษัทรู้อยู่แล้ว หวังผลกำไร อะไรที่เสี่ยงขาดทุนก็ต้องรีบตัดออก
เคลมบ่อย ป่วยบ่อย ขี้โรค ก็เริ่มทักท้วง จับผิด ถ้าเป็นมะเร็งก็เบิกได้ 1-2 ครั้ง จากนั้นยกเลิกกรมธรรม์
คนใกล้ตัวเจอมาหลายคน พอเป็นคนขี้โรค จะโดนปฎิบัติอีกแบบทันที ต่างกับตอนไม่ป่วย ไม่เคลม

พอแก่ใกล้หง่อม ก็มาขอปรับเบี้ยเพิ่ม
ถ้าส่งเบี้ยไม่ไหว ตามที่เรียกไป ก็ไม่มีประโยชน์อะไรที่ต้องคุ้มครอง

พอหมดประโยชน์ ก็เขี่ยทิ้ง
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 4
คนขายประกัน พยายามพูดว่า ทุกคนต้องป่วย ยังไงก็ควรซื้อประกัน เป็นการประกันความเสี่ยง

ตามทฤษฎี ทุกอย่าง



แต่สิ่งที่คนซื้อประกัน กลัวก็คือ จ่ายเบี้ย ไปแล้ว แต่พอถึงเวลาเคลม

…เคลมไม่ได้ เคลมยาก

ซึ่งตรงนี้ คนขายประกัน ไม่เคยพูดถึง

.
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่