สวัสดีครับคือจริงๆ โพสนี้เป็นโพสแรก และผมไม่เคยใช้พันทิปมาก่อน ถ้าแท็กผิดขอโทษไว้ล่วงหน้าเลยครับ ผมก็ไม่ได้อยากรู้สึกแบบนี้เท่าไรเลย เพราะจริงๆ บุคคลที่เป็นมะเร็งคือน้องสาวของพ่อผมเอง
เริ่มเรื่องคืออาของผมตรวจพบเป็นมะเร็งปอดแล้วทุกวันนี้ลามไปที่สมอง เป็นมาเกือบประมาณ 2 ปี ตอนแรกก็ใช้ยามุ่งเป้าราคาประมาณ 30,000 บาทต่อเดือน แต่พอปัจจุบันหลังจากทานยาตัวแรกมานาน ก็มีอาการดื้อยา เลยต้องเปลี่ยนเป็นตัวยาที่ราคาสูงขึ้น ผมไม่แน่ใจว่าเท่าไร เท่าที่ทราบน่าจะประมาณ 60,000 - 80,000 บาทต่อเดือน คือจริงๆ หมอแนะนำให้ทำคีโม แต่อาผมเค้าก็บอกว่ากลัว เลยไม่อยากทำ ทีนี้ด้วยทางครอบครัวอาแกไม่ได้มีลูก ทำธุรกิจกับแฟนแกแค่ 2 คน แล้วแกคงไม่มีกำลังทรัพย์เท่าสมัยก่อน และบ้านผมกับบ้านแกอยู่ใกล้กัน พ่อผมจึงมักต้องเป็นที่พึ่งของแก
เรื่องของเรื่องคือแกเริ่มมาที่บ้านผมบ่อย มาร้องไห้กับพ่อแม่ผมว่าอาการแย่ขึ้น ยาก็แพง และอีกสารพัดเรื่องที่แกมาพูดเกี่ยวกับตัวแก ด้วยพ่อผมเป็นคนใจอ่อน ขี้สงสาร แรกๆ พ่อก็ช่วยนิดหน่อย จนหลังๆ อามาร้องไห้บ่อยขึ้น พ่อเลยพูดว่าจะช่วยเดือนละแสน ซึ่งผมไม่สบายใจและไม่ได้เห็นด้วยเท่าไร พ่อผมตอนนี้แกอายุ 70 กว่าเคยเป็นพนักงานบริษัทข้ามชาติมาหลายปี แกมีเงินเก็บ แต่ตัวแกเองและแม่ก็มีปัญหาสุขภาพค่อนข้างเยอะ แต่พ่อและแม่ผมแกประหยัด และแกก็ไม่ค่อยใช้จ่ายอะไร ซึ่งจริงๆ ผมอยากให้แกนำเงินไปใช้ให้แกมีความสุขกับชีวิตเกษียณของแก
เรื่องมันเริ่มหนักขึ้นตรง น้องชายผมป่วยเป็นโรคแพ้ภูมิ น้องผมมีงานที่มั่นคง และรายได้อยู่ได้ แต่วันก่อนที่น้องไปหาหมอน้องใช้บัตรเสริมของพ่อจ่ายค่ารักษาไป 3,000 บาท เพราะน้องลืมโทรศัพท์และกระเป๋าสตางค์ไป แต่มีบัตรใบนี้เสียบอยู่ในกระเป๋าคาดอก ปรากฏว่าพอมียอดนี้มา แม่ผมก็มาบ่นน้อง ซึ่งผมรู้อยู่แล้วว่าลึกๆ แม่ผมไม่ค่อยโอเคหรอกที่เราจะต้องไปช่วยอาทุกเดือน แต่ก็พูดอะไรไม่ได้ เพราะปกติสมัยก่อนพ่อผมแกคือคนหารายได้หลักของบ้าน คือผมรู้สึกว่าจริงๆ ครอบครัวผมไม่ได้จำเป็นต้องมาทะเลาะกัน หรือต้องมาอะไรแบบนี้เลย ถ้าบ้าอาผมเค้ารักษาตามความสามารถที่ตัวเองจ่ายไหว นี่เหมือนแม่ผม แกต้องมานั่งพะวงและแบกรับค่าใช้จ่ายบ้านอา ซึ่งผมหงุดหงิดมากๆ และทำให้ผมไม่ได้รู้สึกอยากไปพบอาเหมือนเดิมทั้งที่บ้านใกล้เคียงกัน
ในขณะเดียวกันสามีของอาผม เวลาไปไหน งานรวมญาติปกติบ้านผม กับญาติอีกบ้านนึงจะสลับกันจ่าย แต่บ้านอาผมไม่เคยจ่ายเลยตั้งแต่ผมจำความได้ หรือบางทีเวลาแกพาผมไปไหนตอนเด็กๆ ก๊จะพูดย้ำอยู่นั่นว่าพาไปกินอะไรแพงมาก เพื่อให้พ่อแม่ผมได้ยิน ที่ผมมารู้สึกเพราะก่อนหน้านี้ผมและญาติไปเชงเม้ง และเสร็จแล้วก็ไปทานข้าวต่อ พ่อผมก็เป็นคนเลี้ยงข้าวทุกคนอยู่ดี แต่สามีอาผมแกก็สั่งแบบตายอดตายอยากมาจากไหนไม่รู้ สั่งหลายอย่าง เลือกปะไรแพงๆ ทั้งที่ถ้าต้องจ่ายเองเค้าก็จะไม่กินแบบนี้
ผมเบื่อมากครับ และบางทีซึ่งผมไม่ได้อยากคิด แต่ก็อดคิดไม่ได้ ผมอยากให้อาผมจากโลกนี้ไปเลย จะได้ไม่ต้องเดือดร้อนครอบครัวผม คือรู้สึกไม่ดีนะครับที่ตัวเองรู้สึกแบบนี้ แต่มันแว่บเข้ามาในหัวบ่อยมากๆ
**** Updated เพิ่มเติมรายละเอียดตามความเห็น 55 ที่น้องผมมาตอบเพิ่มเลยครับ มันมีเหตุผลเยอะมาก ทำไมที่บ้านนอกจากคุณพ่อ คนอื่นๆ ในบ้านถึงไม่อยากช่วย ส่วนตัวผมทำธุรกิจอยู่ต่างประเทศครับ ผมรับรู้ถึงความไม่สบายใจของคุณแม่และน้องๆ มาตลอด ผมเต็มใจที่จะส่งเงินดูแลพ่อแม่ผม แต่กับญาติมันมีรายละเอียดตามที่น้องผมบอกเลย
ซึ่งผมเข้าใจนะครับที่หลายๆ คนบอกมันคือเงินของพ่อ แต่มันคือเงินของแม่ผมด้วยที่แม่ผมช่วยกันทำมา ซึ่งแม่ผมไม่ได้เห็นด้วยกับการที่จะต้องช่วยเหลือไปเรื่อยๆ ในจำนวนเงินที่มากขนาดนี้ เพราะทั้งคุณพ่อและคุณแม่ต่างมีโรคประจำตัวที่ต้องใช้เงินรักษาอย่างต่อเนื่องเช่นกัน และแม่ผมมองว่าเค้าทำกันมากับพ่อ เพื่อไม่เป็นภาระลูกหลาน และยังมีค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่ทางคุณแม่และครอบครัวต้องคอยจ่ายให้บ้านอา และญาติๆ คนอื่น ผมไม่พอใจที่ตัวอาไม่เอาทรัพย์สมบัติตัวเองไปขาย ลดขนาดที่อยู่อาศัยลง หรือถ้ากิจการไปต่อไม่ได้ก็ควรปรับเปลี่ยนหรือขายไป รวมทั้งมีพี่น้องของทางปู่ผมที่ยังมีชีวิตอยู่ก็แนะนำให้อารักษาตามสิทธิ์ประกันสังคม แต่อาก็ไม่เอา และรวมทั้งคุณหมอเจ้าของไข้ก็เคยแนะนำให้อาผมทำคีโม แทนการใช้ยามุ่งเป้าซึ่งจะมีราคาถูกมากกว่า แต่อาผมก็ไม่อยากทำเพราะกลัวตัวเองจะโทรม
ผมขอบคุณทุกความคิดเห็นในทุกมุมมองนะครับ แต่ผมแค่รู้สึกว่า คนเราจะต้องทำทุกอย่างตามใจและไปเป็นภาระคนอื่นขนาดนี้เลยหรอ
**** Updated 2 จากที่หลายคนพูดถึงมรดกว่าพ่อผมได้มรดกเยอะสุดรึเปล่า และทำไมพ่อถึงให้เงินอา ผมได้คุยกับพ่อมาตามนี้ครับ
เค้าบอกว่าอามาขอ แล้วอาร้องไห้เลยไม่รู้จะทำยังไง เลยตอบตกลงไป ซึ่งพ่อก็ไม่ทันคิดตอนนั้นว่าทำไมอาไม่ขายตึกที่เป็นมรดกมา บ้านผมไม่ใช่กงสี ไม่ได้มีธุรกิจมาตั้งแต่รุ่นปู่ มรดกจากรุ่นปู่ มีตึกแถว 10 ห้อง ที่ดิน 7 ผืน 2 และพี่น้องพ่อ 5 คนก็ได้ส่วนแบ่งตึกแถวคนละ 2 ห้อง ที่ดินคนละผืน ซึ่งมูลค่าใกล้เคียงกัน ส่วนที่ดินอีก 2 ผืนปล่อยเช่า และก็แบ่งค่าเช่าเท่ากันมาเกีอบ 20 ปีแล้ว พ่อผมเค้าตกใจและทำอะไรไม่ถูกเพราะน้องมาร้องไห้ เลยตกลงไป แต่ตอนนี้พ่อน่าจะไปคฺยกับอาแล้วให้ขายตึกไป หรือจะมาขายฝากไว้ที่พ่อผมก็ได้ ซึ่งรอบก่อนตอนอามาขอเงินพ่อเคยพูดไปแล้ว แต่อาบอกว่าถ้ารักษาหาย เค้าก็อยากเอามาใช้ประโยชน์ทำธุรกิจ แต่รอบนี้พ่อรู้ว่าแม่ไม่ค่อยโอเค คงต้องคุยกับอาให้เข้าใจจริงจังแล้วครับ แต่ก็ไม่รู้ว่าทางอาจะว่าอย่างไร ยังไงผมก็ขอบคุณทุกท่านอีกครั้งครับ สำหรับทุกความเห็น
อาเป็นมะเร็งแล้วมาเดือดร้อนครอบครัวเรา
เริ่มเรื่องคืออาของผมตรวจพบเป็นมะเร็งปอดแล้วทุกวันนี้ลามไปที่สมอง เป็นมาเกือบประมาณ 2 ปี ตอนแรกก็ใช้ยามุ่งเป้าราคาประมาณ 30,000 บาทต่อเดือน แต่พอปัจจุบันหลังจากทานยาตัวแรกมานาน ก็มีอาการดื้อยา เลยต้องเปลี่ยนเป็นตัวยาที่ราคาสูงขึ้น ผมไม่แน่ใจว่าเท่าไร เท่าที่ทราบน่าจะประมาณ 60,000 - 80,000 บาทต่อเดือน คือจริงๆ หมอแนะนำให้ทำคีโม แต่อาผมเค้าก็บอกว่ากลัว เลยไม่อยากทำ ทีนี้ด้วยทางครอบครัวอาแกไม่ได้มีลูก ทำธุรกิจกับแฟนแกแค่ 2 คน แล้วแกคงไม่มีกำลังทรัพย์เท่าสมัยก่อน และบ้านผมกับบ้านแกอยู่ใกล้กัน พ่อผมจึงมักต้องเป็นที่พึ่งของแก
เรื่องของเรื่องคือแกเริ่มมาที่บ้านผมบ่อย มาร้องไห้กับพ่อแม่ผมว่าอาการแย่ขึ้น ยาก็แพง และอีกสารพัดเรื่องที่แกมาพูดเกี่ยวกับตัวแก ด้วยพ่อผมเป็นคนใจอ่อน ขี้สงสาร แรกๆ พ่อก็ช่วยนิดหน่อย จนหลังๆ อามาร้องไห้บ่อยขึ้น พ่อเลยพูดว่าจะช่วยเดือนละแสน ซึ่งผมไม่สบายใจและไม่ได้เห็นด้วยเท่าไร พ่อผมตอนนี้แกอายุ 70 กว่าเคยเป็นพนักงานบริษัทข้ามชาติมาหลายปี แกมีเงินเก็บ แต่ตัวแกเองและแม่ก็มีปัญหาสุขภาพค่อนข้างเยอะ แต่พ่อและแม่ผมแกประหยัด และแกก็ไม่ค่อยใช้จ่ายอะไร ซึ่งจริงๆ ผมอยากให้แกนำเงินไปใช้ให้แกมีความสุขกับชีวิตเกษียณของแก
เรื่องมันเริ่มหนักขึ้นตรง น้องชายผมป่วยเป็นโรคแพ้ภูมิ น้องผมมีงานที่มั่นคง และรายได้อยู่ได้ แต่วันก่อนที่น้องไปหาหมอน้องใช้บัตรเสริมของพ่อจ่ายค่ารักษาไป 3,000 บาท เพราะน้องลืมโทรศัพท์และกระเป๋าสตางค์ไป แต่มีบัตรใบนี้เสียบอยู่ในกระเป๋าคาดอก ปรากฏว่าพอมียอดนี้มา แม่ผมก็มาบ่นน้อง ซึ่งผมรู้อยู่แล้วว่าลึกๆ แม่ผมไม่ค่อยโอเคหรอกที่เราจะต้องไปช่วยอาทุกเดือน แต่ก็พูดอะไรไม่ได้ เพราะปกติสมัยก่อนพ่อผมแกคือคนหารายได้หลักของบ้าน คือผมรู้สึกว่าจริงๆ ครอบครัวผมไม่ได้จำเป็นต้องมาทะเลาะกัน หรือต้องมาอะไรแบบนี้เลย ถ้าบ้าอาผมเค้ารักษาตามความสามารถที่ตัวเองจ่ายไหว นี่เหมือนแม่ผม แกต้องมานั่งพะวงและแบกรับค่าใช้จ่ายบ้านอา ซึ่งผมหงุดหงิดมากๆ และทำให้ผมไม่ได้รู้สึกอยากไปพบอาเหมือนเดิมทั้งที่บ้านใกล้เคียงกัน
ในขณะเดียวกันสามีของอาผม เวลาไปไหน งานรวมญาติปกติบ้านผม กับญาติอีกบ้านนึงจะสลับกันจ่าย แต่บ้านอาผมไม่เคยจ่ายเลยตั้งแต่ผมจำความได้ หรือบางทีเวลาแกพาผมไปไหนตอนเด็กๆ ก๊จะพูดย้ำอยู่นั่นว่าพาไปกินอะไรแพงมาก เพื่อให้พ่อแม่ผมได้ยิน ที่ผมมารู้สึกเพราะก่อนหน้านี้ผมและญาติไปเชงเม้ง และเสร็จแล้วก็ไปทานข้าวต่อ พ่อผมก็เป็นคนเลี้ยงข้าวทุกคนอยู่ดี แต่สามีอาผมแกก็สั่งแบบตายอดตายอยากมาจากไหนไม่รู้ สั่งหลายอย่าง เลือกปะไรแพงๆ ทั้งที่ถ้าต้องจ่ายเองเค้าก็จะไม่กินแบบนี้
ผมเบื่อมากครับ และบางทีซึ่งผมไม่ได้อยากคิด แต่ก็อดคิดไม่ได้ ผมอยากให้อาผมจากโลกนี้ไปเลย จะได้ไม่ต้องเดือดร้อนครอบครัวผม คือรู้สึกไม่ดีนะครับที่ตัวเองรู้สึกแบบนี้ แต่มันแว่บเข้ามาในหัวบ่อยมากๆ
**** Updated เพิ่มเติมรายละเอียดตามความเห็น 55 ที่น้องผมมาตอบเพิ่มเลยครับ มันมีเหตุผลเยอะมาก ทำไมที่บ้านนอกจากคุณพ่อ คนอื่นๆ ในบ้านถึงไม่อยากช่วย ส่วนตัวผมทำธุรกิจอยู่ต่างประเทศครับ ผมรับรู้ถึงความไม่สบายใจของคุณแม่และน้องๆ มาตลอด ผมเต็มใจที่จะส่งเงินดูแลพ่อแม่ผม แต่กับญาติมันมีรายละเอียดตามที่น้องผมบอกเลย
ซึ่งผมเข้าใจนะครับที่หลายๆ คนบอกมันคือเงินของพ่อ แต่มันคือเงินของแม่ผมด้วยที่แม่ผมช่วยกันทำมา ซึ่งแม่ผมไม่ได้เห็นด้วยกับการที่จะต้องช่วยเหลือไปเรื่อยๆ ในจำนวนเงินที่มากขนาดนี้ เพราะทั้งคุณพ่อและคุณแม่ต่างมีโรคประจำตัวที่ต้องใช้เงินรักษาอย่างต่อเนื่องเช่นกัน และแม่ผมมองว่าเค้าทำกันมากับพ่อ เพื่อไม่เป็นภาระลูกหลาน และยังมีค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่ทางคุณแม่และครอบครัวต้องคอยจ่ายให้บ้านอา และญาติๆ คนอื่น ผมไม่พอใจที่ตัวอาไม่เอาทรัพย์สมบัติตัวเองไปขาย ลดขนาดที่อยู่อาศัยลง หรือถ้ากิจการไปต่อไม่ได้ก็ควรปรับเปลี่ยนหรือขายไป รวมทั้งมีพี่น้องของทางปู่ผมที่ยังมีชีวิตอยู่ก็แนะนำให้อารักษาตามสิทธิ์ประกันสังคม แต่อาก็ไม่เอา และรวมทั้งคุณหมอเจ้าของไข้ก็เคยแนะนำให้อาผมทำคีโม แทนการใช้ยามุ่งเป้าซึ่งจะมีราคาถูกมากกว่า แต่อาผมก็ไม่อยากทำเพราะกลัวตัวเองจะโทรม
ผมขอบคุณทุกความคิดเห็นในทุกมุมมองนะครับ แต่ผมแค่รู้สึกว่า คนเราจะต้องทำทุกอย่างตามใจและไปเป็นภาระคนอื่นขนาดนี้เลยหรอ
**** Updated 2 จากที่หลายคนพูดถึงมรดกว่าพ่อผมได้มรดกเยอะสุดรึเปล่า และทำไมพ่อถึงให้เงินอา ผมได้คุยกับพ่อมาตามนี้ครับ
เค้าบอกว่าอามาขอ แล้วอาร้องไห้เลยไม่รู้จะทำยังไง เลยตอบตกลงไป ซึ่งพ่อก็ไม่ทันคิดตอนนั้นว่าทำไมอาไม่ขายตึกที่เป็นมรดกมา บ้านผมไม่ใช่กงสี ไม่ได้มีธุรกิจมาตั้งแต่รุ่นปู่ มรดกจากรุ่นปู่ มีตึกแถว 10 ห้อง ที่ดิน 7 ผืน 2 และพี่น้องพ่อ 5 คนก็ได้ส่วนแบ่งตึกแถวคนละ 2 ห้อง ที่ดินคนละผืน ซึ่งมูลค่าใกล้เคียงกัน ส่วนที่ดินอีก 2 ผืนปล่อยเช่า และก็แบ่งค่าเช่าเท่ากันมาเกีอบ 20 ปีแล้ว พ่อผมเค้าตกใจและทำอะไรไม่ถูกเพราะน้องมาร้องไห้ เลยตกลงไป แต่ตอนนี้พ่อน่าจะไปคฺยกับอาแล้วให้ขายตึกไป หรือจะมาขายฝากไว้ที่พ่อผมก็ได้ ซึ่งรอบก่อนตอนอามาขอเงินพ่อเคยพูดไปแล้ว แต่อาบอกว่าถ้ารักษาหาย เค้าก็อยากเอามาใช้ประโยชน์ทำธุรกิจ แต่รอบนี้พ่อรู้ว่าแม่ไม่ค่อยโอเค คงต้องคุยกับอาให้เข้าใจจริงจังแล้วครับ แต่ก็ไม่รู้ว่าทางอาจะว่าอย่างไร ยังไงผมก็ขอบคุณทุกท่านอีกครั้งครับ สำหรับทุกความเห็น