บก.สำนักข่าวชายขอบ วิจารณ์ น้ำท่วมเชียงราย ระบบสื่อสาร-แจ้งเตือนห่วย ประชาชนเคว้ง
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_9408564

 
บก.สำนักข่าวชายขอบ วิจารณ์ น้ำท่วมเชียงราย ระบบสื่อสาร-แจ้งเตือนห่วย ประชาชนเคว้ง ไร้ข้อมูล ไร้คำตอบ ต้องหาเองในสื่อสังคมออนไลน์

วันที่ 12 ก.ย.2567 นายภาสกร จำลองราช บก.สำนักข่าวชายขอบ โพสต์ข้อความผ่านทางเฟซบุ๊ก Paskorn Jumlongrach ถึงสถานการณ์น้ำท่วมใน จ.เชียงราย ความว่า
 
เคว้งคว้าง – ผมติดอยู่ในตัวเมืองเชียงราย เมื่อคืนกลับบ้านที่อยู่อีกฟาก ของแม่น้ำกกไม่ได้ ถ้าจะข้ามต้องอ้อมไปไกลเลยหาที่นอนในเมือง

เช่นเดียวกับคนในเมือง ที่จะไปสนามบินหรือไปอำเภอตอนบนเชียงราย ก็ไม่สามารถทำได้ง่าย ที่สำคัญคือเราไม่รู้ว่าจะสอบถาม ข้อมูลข่าวสารล่าสุดได้จากที่ไหน นอกจากหาในสื่อสังคมออนไลน์
 
มีคนตกอยู่ในสถานการณ์เช่นเดียวกับผมอยู่เป็นจำนวนมาก ขณะที่เราลุ้นระทึกว่าน้ำถึงไหนแล้ว
จะท่วมถึงบ้านเราหรือไม่ ไม่มีหน่วยงานรัฐโดยเฉพาะจังหวัด อธิบายให้ประชาชนร่วมหาทางออกเลย
ระบบการสื่อสารที่เชื่อมโยงกับประชาชนห่วยจริงๆ
 
ใครจะข้ามฟากไปทางตอนเหนือจะไปข้ามได้สะพานไหน ? สะพานไหนมีบริการเรือรับข้ามฟากบ้าง?
สะพานไหนรถใหญ่ข้ามได้บ้าง? สะพานที่รถเล็กวิ่งได้ต้องอ้อมไปที่อำเภอไหน? เด็กนักเรียนที่อยู่หอจะกลับไปหาพ่อแม่ต่างอำเภอต้อนบนต้องทำอย่าง? คำถามเหล่านี้ไม่มีแหล่งที่หาคำตอบ
 
ยังไม่รวมเรื่องการขอความช่วยเหลือต่างๆ ประชาชนพึ่งใครได้บ้าง? คนที่ติดค้างตามบ้านในรอบนอก
อีกมากมายแจ้งได้ที่ไหน? ภัยพิบัติเป็นเรื่องหนึ่ง แต่ระบบแจ้งเตือน-ช่วยเหลือ-เยียวยา ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง
 
ภาพโดย Kitti Treeraj บริเวณสะพานเกาะลอยเมื่อวันที่ 11 กย.67

https://www.facebook.com/paskorn.jumlongrach
https://www.facebook.com/kitti.treeraj 
 

---

 
พิษยางิ เฝ้าระวังใกล้ชิด 6 อำเภอ น้ำโขงพุ่งสูง คาดเอ่อล้นตลิ่ง ท่วมหลายจุด ปักธงเหลือง เตือนปชช.
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_9408660

หนองคาย พิษยางิ เฝ้าระวังใกล้ชิด 6 อำเภอ น้ำโขงพุ่งสูง คาดเอ่อล้นตลิ่ง ท่วมหลายจุด เทศบาลเมือง ปักธงเหลือง แจ้งเตือนประชาชน
 
12 ก.ย. 67 – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระดับน้ำโขงช่วงที่ไหลผ่านจังหวัดหนองคาย วัดที่ส่วนอุทกวิทยาหนองคาย วัดได้ 11.85 เมตร เพิ่มขึ้นจากเมื่อวานนี้ตอนเช้า 1.13 เมตร ต่ำกว่าตลิ่ง 35 เซนติเมตร ปริมาณน้ำฝนวัดได้ 50.7 เมตร

ซึ่งจากการประเมินสถานการณ์มวลน้ำจากตอนเหนือ ประกอบกับฝนที่ตกหนักและการปล่อยน้ำออกของเขื่อนไซยะบุรี จะส่งผลให้ระดับน้ำโขงเพิ่มขึ้นในวันที่ 13 ก.ย.67 อีกเกือบ 2 เมตร จะทำให้ระดับน้ำโขงอยู่ที่ 13.70 เมตร เป็นระดับที่ล้นตลิ่งในหลายจุด พื้นที่ติดรอบน้ำโขงใน 6 อำเภอจังหวัดหนองคาย ต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด เทศบาลเมืองหนองคายได้ปักธงเหลืองแจ้งเตือนประชาชนให้เตรียมพร้อมรับมือ เตรียมอพยพขนย้ายข้าวของขึ้นที่สูง ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยติดเตียง เด็กเล็ก ผู้พิการให้เตรียมการล่วงหน้า

ส่วนของชุมชนดอนเขียว เขตเทศบาลเมืองท่าบ่อ น้ำโขงได้ไหลเข้าพื้นที่ ท่วมบ้านเรือนประชาชนหลายหลังแล้ว ต้องพากันอพยพไปอยู่ในที่ปลอดภัยตามจุดที่ทางการจัดไว้ให้ ส่วนพื้นที่ทางการเกษตรก็ถูกน้ำท่วมซ้ำสอง ซึ่งเมื่อสองสัปดาห์ก่อนที่น้ำโขงหนุนสูงก็ท่วมพื้นที่การเกษตรยังไม่คลี่คลาย ก็ถูกน้ำท่วมซ้ำ ทำให้พืชผลทางการเกษตรที่ปลูกไว้เสียหายเน่าตายทั้งหมด

---

ปิยบุตร เรียกร้องพท. โน้มน้าว ส.ส.ตัวเองไปขึ้นศาล คดีตากใบ ยันจำเลย ไม่ได้คุ้มกันเหมือนผู้ต้องหา  https://www.matichon.co.th/politics/news_4786000

ปิยบุตร เรียกร้องพท. โน้มน้าว ส.ส.ตัวเองไปขึ้นศาล คดีตากใบ ยันจำเลย ไม่ได้คุ้มกันเหมือนผู้ต้องหา  
 
เมื่อวันที่ 12 กันยายน 2567 นายปิยบุตร แสงกนกกุล อดีตส.ส.บัญชีรายชื่อ เลขาธิการคณะก้าวหน้า ได้โพสต์ผ่านเฟสบุ๊กว่า 

กรณีที่วันนี้มีการถกเถียงกันในสภาผู้แทนราษฎรเรื่อง พล.อ.พิศาล วัฒนวงศ์คีรี จำเลยในคดีตากใบ
 
ผู้แทนราษฎรบางคนน่าจะเข้าใจผิด และสับสนระหว่าง กรณี ส.ส.ที่เป็นผู้ต้องหาในคดีอาญา กับ ส.ส.ที่เป็นจำเลยในคดีอาญา
กรณีที่ ส.ส.เป็นผู้ต้องหา รัฐธรรมนูญ มาตรา 125 ให้ความคุ้มกันไว้เด็ดขาดในระหว่างสมัยประชุม เว้นแต่สภาจะมีมติอนุญาต ซึ่งโดยธรรมเนียมปฏิบัติที่ผ่านมา สภาจะไม่อนุญาต
 
กรณีที่ ส.ส.เป็นจำเลยในคดีอาญา มาตรา 125 วรรคสี่ เขียนไว้ชัดเจนว่า ศาลจะพิจารณาคดีอาญา ส.ส.นั้นในสมัยประชุมก็ได้ แต่ต้องไม่กระทบกับการประชุมสภา
 
เมื่อ พล.อ.พิศาล ส.ส.พรรคเพื่อไทย อดีตแม่ทัพภาค 4 ในกรณีตากใบ เป็นจำเลยในคดีนี้ ไม่ใช่ผู้ต้องหา ดังนั้น จึงไม่มีความคุ้มกันใดๆ ศาลพิจารณาคดีได้เลย มิใช่เรื่องที่ศาลต้องทำหนังสือมาขอสภาให้ส่งตัว มิใช่เรื่องที่ประธานสภาต้องใช้ดุลพินิจ มิใช่เรื่องที่ประชุมจะมีมติแต่อย่างใด ขอเพียงแต่อย่าไปนัดวันมาศาลให้ตรงกับวันประชุมสภาเท่านั้น
 
การมาเรียกร้องกับที่ประชุมสภา และประธานสภา ให้ส่งตัว พล.อ.พิศาล ไปขึ้นศาล จึงผิดฝาผิดตัว คนละเรื่อง
ที่ถูกต้อง คือ เรียกร้องไปที่ตัว พล.อ.พิศาล ให้ไปขึ้นศาลตามนัดหมาย
 
ที่ถูกต้อง คือ เรียกร้องไปที่หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กรรมการบริหารพรรคเพื่อไทย ให้ช่วยกันโน้มน้าวขอร้องให้ พล.อ.พิศาล ซึ่งเป็น ส.ส.และสมาชิกพรรคเพื่อไทย ไปขึ้นศาล
 
ทั้งหมด ก็เพื่อให้กระบวนการยุติธรรมคดีตากใบ เดินหน้าต่อไปได้ ไม่ปล่อยให้เกิดการพ้นผิดลอยนวล โดยอาศัยเทคนิคทางกฎหมาย ให้หมดอายุความในกลางเดือนตุลาคมปีนี้

https://www.facebook.com/PiyabutrOfficial/posts/pfbid02xQvycCbLz92emLVqDeoYDacAMLoTqLZ7NG4xhf47uiNyRTL4C93tAZdZj9Qz6Xghl