๑. เริ่มจากศีลอบรมสมาธิ โดยมากมักจะข้ามข้อนี้กระโดดไปที่สมาธิอบรมปัญญาเลย (อาจจะเป็นเพราะด้วยความไม่ทราบ)
พระผู้มีพระภาคเสด็จประทับ ณ พระตำหนักหลวงในอัมพลัฏฐิกาแม้นั้น
ทรงกระทำธรรมีกถาอันนี้แหละเป็นอันมากแก่พวกภิกษุว่า อย่างนี้ศีล อย่างนี้สมาธิ
อย่างนี้ปัญญา สมาธิอันศีลอบรมแล้ว ย่อมมีผลใหญ่ มีอานิสงส์ใหญ่ ปัญญาอันสมาธิ
อบรมแล้ว ย่อมมีผลใหญ่ มีอานิสงส์ใหญ่ จิตอันปัญญาอบรมแล้ว ย่อมหลุดพ้นจาก
อาสวะโดยชอบ คือกามาสวะ ภวาสวะ อวิชชาสวะ ฯ
ศีลเป็นอาภรณ์คือเครื่องประดับอันประเสริฐ
เพชรนิลจินดาและอาภรณ์อันมีค่า มิใช่เครื่องประดับอันประเสริฐ
เพราะไม่อาจทำกาย วาจา ใจ ของผู้ประดับให้งดงามได้
Credit. พระสีลเถระองค์อรหันต์
การไม่ทำความชั่วทั้งปวง การทำความดีให้เพรียบพร้อม
การชำระจิตของตนให้บริสุทธิ์ผ่องใส นี้เป็นคำสอนของพระพุทธเจ้าทั้งหลาย
๒. ขอเรียงวิปัสสนาญาณ(ที่คุยกันเล่นๆ) ตามความเข้าใจของข้าพเจ้าใหม่ดังนี้
(ญาณที่ควรรู้ที่...1 2 3)
1.ศีลที่เป็นกุศล มีอวิปปฏิสารเป็นผล มีอวิปปฏิสารเป็นอานิสงส์ ฯ
2. อวิปปฏิสารมีปราโมทย์เป็นผล มีปราโมทย์เป็นอานิสงส์ ฯ
3. ปราโมทย์มีปีติเป็นผล มีปีติเป็นอานิสงส์ ฯ
4. ปีติมีปัสสัทธิเป็นผล มีปัสสัทธิเป็นอานิสงส์ ฯ
5. ปัสสัทธิมีสุขเป็นผล มีสุขเป็นอานิสงส์ ฯ
6. สุขมีสมาธิเป็นผล มีสมาธิเป็นอานิสงส์ ฯ
7. สมาธิมียถาภูตญาณทัสสนะเป็นผล มียถาภูตญาณทัสสนะเป็นอานิสงส์ ฯ
8. ยถาภูตญาณทัสสนะมีนิพพิทาวิราคะเป็นผล มีนิพพิทาวิราคะเป็นอานิสงส์ ฯ
9. นิพพิทาวิราคะมีวิมุตติญาณทัสสนะเป็นผล มีวิมุตติญาณทัสสนะเป็นอานิสงส์
ดูกรอานนท์ ศีลที่เป็นกุศลย่อมถึงอรหัตโดยลำดับ
ด้วยประการดังนี้แล ฯ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ใส่ข้อความhttps://84000.org/tipitaka/book/v.php?B=24&A=0&Z=45
ดูกรอานนท์ ศีลที่เป็นกุศล มีอวิปปฏิสารเป็นผล มีอวิป-
*ปฏิสารเป็นอานิสงส์ อวิปปฏิสารมีปราโมทย์เป็นผล มีปราโมทย์เป็นอานิสงส์
ปราโมทย์มีปีติเป็นผล มีปีติเป็นอานิสงส์ ปีติมีปัสสัทธิเป็นผล มีปัสสัทธิเป็น
อานิสงส์ ปัสสัทธิมีสุขเป็นผล มีสุขเป็นอานิสงส์ สุขมีสมาธิเป็นผล มีสมาธิ
เป็นอานิสงส์ สมาธิมียถาภูตญาณทัสสนะเป็นผล มียถาภูตญาณทัสสนะ
เป็นอานิสงส์ ยถาภูตญาณทัสสนะ มีนิพพิทาวิราคะเป็นผล มีนิพพิทาวิราคะเป็น
อานิสงส์ นิพพิทาวิราคะมีวิมุตติญาณทัสสนะเป็นผล มีวิมุตติญาณทัสสนะเป็น
อานิสงส์ ด้วยประการดังนี้ ดูกรอานนท์ ศีลที่เป็นกุศลย่อมถึงอรหัตโดยลำดับ
ด้วยประการดังนี้แล ฯ
๓. วิปัสสนาญาณ ตามพระไตรปิฏก มีดังนี้
[๑๓๑] ภิกษุนั้นเมื่อจิตเป็นสมาธิบริสุทธิ์ผ่องแผ้ว ไม่มีกิเลส ปราศจากอุปกิเลส
อ่อน ควรแก่การงาน ตั้งมั่น ไม่หวั่นไหวอย่างนี้ ย่อมโน้มน้อมจิตไปเพื่อญาณทัสนะ ๑- เธอ
ย่อมรู้ชัดอย่างนี้ว่า กายของเรานี้แล มีรูปประกอบด้วยมหาภูต ๒- ๔ เกิดแต่มารดาบิดา เติบโต
ขึ้นด้วยข้าวสุกและขนมสดไม่เที่ยง ต้องอบ ต้องนวดฟั้น มีอันทำลายและกระจัดกระจายเป็น
ธรรมดาและวิญญาณของเรานี้ ก็อาศัยอยู่ในกายนี้ เนื่องอยู่ในกายนี้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ใส่ข้อความhttps://84000.org/tipitaka/read/?9/131
๔ . หรือ ตามดังนี้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ใส่ข้อความ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ใส่ข้อความhttps://84000.org/tipitaka/read/m_siri.php?B=31&siri=88
ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ย่อมพร่ำ
สอนอย่างนี้ว่า ท่านจงตรึกอย่างนี้ อย่าตรึกอย่างนั้น จงทำในใจอย่างนี้ อย่าทำในใจอย่างนั้น
จงละสิ่งนี้ จงเข้าถึงสิ่งนี้อยู่เถิด
(พยายามอยู่ในลู่ในทางเอาไว้)
วิปัสสนาญาน
ทรงกระทำธรรมีกถาอันนี้แหละเป็นอันมากแก่พวกภิกษุว่า อย่างนี้ศีล อย่างนี้สมาธิ
อย่างนี้ปัญญา สมาธิอันศีลอบรมแล้ว ย่อมมีผลใหญ่ มีอานิสงส์ใหญ่ ปัญญาอันสมาธิ
อบรมแล้ว ย่อมมีผลใหญ่ มีอานิสงส์ใหญ่ จิตอันปัญญาอบรมแล้ว ย่อมหลุดพ้นจาก
อาสวะโดยชอบ คือกามาสวะ ภวาสวะ อวิชชาสวะ ฯ
1.ศีลที่เป็นกุศล มีอวิปปฏิสารเป็นผล มีอวิปปฏิสารเป็นอานิสงส์ ฯ
2. อวิปปฏิสารมีปราโมทย์เป็นผล มีปราโมทย์เป็นอานิสงส์ ฯ
3. ปราโมทย์มีปีติเป็นผล มีปีติเป็นอานิสงส์ ฯ
4. ปีติมีปัสสัทธิเป็นผล มีปัสสัทธิเป็นอานิสงส์ ฯ
5. ปัสสัทธิมีสุขเป็นผล มีสุขเป็นอานิสงส์ ฯ
6. สุขมีสมาธิเป็นผล มีสมาธิเป็นอานิสงส์ ฯ
7. สมาธิมียถาภูตญาณทัสสนะเป็นผล มียถาภูตญาณทัสสนะเป็นอานิสงส์ ฯ
8. ยถาภูตญาณทัสสนะมีนิพพิทาวิราคะเป็นผล มีนิพพิทาวิราคะเป็นอานิสงส์ ฯ
9. นิพพิทาวิราคะมีวิมุตติญาณทัสสนะเป็นผล มีวิมุตติญาณทัสสนะเป็นอานิสงส์
ด้วยประการดังนี้แล ฯ
*ปฏิสารเป็นอานิสงส์ อวิปปฏิสารมีปราโมทย์เป็นผล มีปราโมทย์เป็นอานิสงส์
ปราโมทย์มีปีติเป็นผล มีปีติเป็นอานิสงส์ ปีติมีปัสสัทธิเป็นผล มีปัสสัทธิเป็น
อานิสงส์ ปัสสัทธิมีสุขเป็นผล มีสุขเป็นอานิสงส์ สุขมีสมาธิเป็นผล มีสมาธิ
เป็นอานิสงส์ สมาธิมียถาภูตญาณทัสสนะเป็นผล มียถาภูตญาณทัสสนะ
เป็นอานิสงส์ ยถาภูตญาณทัสสนะ มีนิพพิทาวิราคะเป็นผล มีนิพพิทาวิราคะเป็น
อานิสงส์ นิพพิทาวิราคะมีวิมุตติญาณทัสสนะเป็นผล มีวิมุตติญาณทัสสนะเป็น
อานิสงส์ ด้วยประการดังนี้ ดูกรอานนท์ ศีลที่เป็นกุศลย่อมถึงอรหัตโดยลำดับ
ด้วยประการดังนี้แล ฯ
อ่อน ควรแก่การงาน ตั้งมั่น ไม่หวั่นไหวอย่างนี้ ย่อมโน้มน้อมจิตไปเพื่อญาณทัสนะ ๑- เธอ
ย่อมรู้ชัดอย่างนี้ว่า กายของเรานี้แล มีรูปประกอบด้วยมหาภูต ๒- ๔ เกิดแต่มารดาบิดา เติบโต
ขึ้นด้วยข้าวสุกและขนมสดไม่เที่ยง ต้องอบ ต้องนวดฟั้น มีอันทำลายและกระจัดกระจายเป็น
ธรรมดาและวิญญาณของเรานี้ ก็อาศัยอยู่ในกายนี้ เนื่องอยู่ในกายนี้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
สอนอย่างนี้ว่า ท่านจงตรึกอย่างนี้ อย่าตรึกอย่างนั้น จงทำในใจอย่างนี้ อย่าทำในใจอย่างนั้น
จงละสิ่งนี้ จงเข้าถึงสิ่งนี้อยู่เถิด
(พยายามอยู่ในลู่ในทางเอาไว้)