พวกมันจะแกล้งตายหรือไม่ก็ทำให้ตัวเองมีกลิ่นเหม็น

เมื่อพูดถึงเรื่องความรัก ผู้ชายมักจะไม่รู้เรื่องเลย ถามผู้หญิงคนไหนก็ได้ เธอจะเล่าให้คุณฟังถึงวิธีการสุดบ้าที่เธอใช้ในการปฏิเสธคู่รักที่มีแนวโน้มจะเป็นคู่รัก ผู้ชายไม่ค่อยเก่งในการคาดเดาว่าผู้หญิงไม่สนใจตนเองหรือไม่

มาเดินทางเข้าสู่ป่าและค้นพบสิ่งต่างๆ ไปด้วยกันครับ

เรื่องเพศของผู้หญิงในป่า
การผสมพันธุ์ในป่าเป็นกระบวนการที่ต้องพยายามค้นหาคู่ครองที่เหมาะสมที่สุด การวิวัฒนาการดำเนินไปเป็นช่วงๆ หลายชั่วอายุคน ดังนั้น หากตัวเมียต้องการลูกที่ประสบความสำเร็จ มันจะพยายามจับคู่กับตัวผู้ที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ น่าเสียดายที่ตัวผู้ที่ไม่สามารถสืบพันธุ์ได้ก็ต้องการความรักเช่นเดียวกันกับในโลกมนุษย์

รายงานล่าสุดจากมหาวิทยาลัยเอ็กเซเตอร์ศึกษาถึงวิธีการที่ตัวเมียในสายพันธุ์ต่างๆ แสดง "คุณสมบัติทางเพศ" ในอาณาจักรสัตว์ ตัวผู้มักจะแสดงลวดลายที่สวยงามกว่าตัวเมีย เช่น สิงโตมีแผงคอขนาดใหญ่ หรือนกยูงตัวผู้ที่มีหางยาวสวยเป็นพวง ลองเปรียบเทียบกับนกยูงตัวเมียซึ่งเป็นนกสีน้ำตาลหม่นๆ : https://www.sciencedirect.com/science/article/abs/pii/S0003347216000634

ทำไมผู้ชายต้องอวดความสวยงามเพื่อดึงดูดคู่ครองในขณะที่ผู้หญิงไม่ต้องทำ? งานวิจัยนี้เสนอแนวคิดที่น่าสนใจ: การถูกมองว่าเหนือกว่าทางเพศไม่ได้ทำให้สัตว์เพศเมียส่วนใหญ่มีข้อได้เปรียบที่สำคัญ แต่กลับทำให้ชีวิตของพวกมันอยู่ยากขึ้นด้วยการถูกดึงดูดความสนใจจากตัวผู้ที่คลั่งไคล้ในเรื่องเพศ

การร้องเรียกในป่า
การล่วงละเมิดทางเพศไม่เกิดแค่กับในโลกมนุษย์เพียงเท่านั้น แต่เป็นปัญหาร้ายแรงในอาณาจักรสัตว์เช่นกัน
ในช่วงฤดูผสมพันธุ์ ฟีโรโมนของช้างตัวเมียจะตอบสนองตัวผู้มากเพิ่มขึ้น ช้างตัวเมียจะลงเอยด้วยการวิ่งหนีให้เร็วที่สุด วิธีนี้ช่วยให้ช้างตัวเมียสามารถเลือกคู่ครองที่มีร่างกายแข็งแรงได้ ขณะเดียวกันก็หลีกเลี่ยงคู่ครองที่ไม่พึงประสงค์ได้

เมื่อพิจารณาถึงเรื่องนี้แล้ว ก็สมเหตุสมผลที่สัตว์เพศเมียจะไม่วิวัฒนาการให้มีลักษณะสีสันที่น่าดึงดูด พวกมันไม่ต้องการความรักอีกต่อไป
ในความเป็นจริง สัตว์เพศเมียที่ประสบความสำเร็จอย่างแท้จริงคือสัตว์ที่พัฒนากลยุทธ์ในการหลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่พึงประสงค์

กลยุทธ์ทางเพศมากมายของสัตว์เพศเมีย
ปลาหางนกยูงตัวผู้ จะรังแกตัวเมียเมื่อวางไข่ (ปลาหางนกยูงเป็นปลาที่มีการผสมพันธุ์หลายตัว/ซึ่งหมายความว่าตัวเมียจะยอมรับอสุจิจากคู่ผสมพันธุ์หลายตัว) แต่ปลาหางนกยูงตัวเมียจะเลือกคู่ที่ตนชอบมากกว่า ซึ่งการทำเช่นนี้จะยากขึ้นในช่วงฤดูแล้ง เนื่องจากปลาอาจถูกดักจับรวมกันในแอ่งน้ำเล็กๆ เป็นเวลาหลายเดือน ทำให้หลีกเลี่ยงปลาตัวผู้ที่จะล่วงละเมิดทางเพศได้ยาก : https://www.livescience.com/52012-guppies-swim-differently-sexual-harassment.html

การศึกษาวิจัยหนึ่งพบว่า ปลาหางนกยูงตัวเมียที่ถูกคุกคามทางเพศบ่อยครั้งจะมีทักษะการว่ายน้ำที่เก่งขึ้น เมื่อเวลาผ่านไป จะทำให้มีปลาตัวเมียที่ว่ายน้ำได้เร็วมากขึ้น ซึ่งเหมาะกับการหลีกเลี่ยงนักล่าอีกด้วย (ธรรมชาติสร้างให้พวกมันเลี้ยงดูลูกด้วย จึงต้องให้ตัวเมียมีสิทธิ์อยู่รอดได้ดีกว่า)

แมลงปอตัวเมียมีวิธีการของตัวเองในการหลีกเลี่ยงความสนใจจากผู้ชายที่ไม่พึงประสงค์
แมลงปอเหยี่ยวทุ่งจะผสมพันธุ์ไข่ของมันผ่านการสัมผัสทางเพศเพียงครั้งเดียว
การมีเพศสัมพันธ์อีกครั้ง อาจทำร้ายร่างกายและลูกของมันได้ ต่างจากแมลงปอสายพันธุ์อื่น แมลงปอตัวผู้เหยี่ยวทุ่งจะไม่อยู่เพื่อปกป้องคู่ของมันหลังจากมีเพศสัมพันธ์แล้ว ทำให้ตัวเมียตกอยู่ในอันตราย

เพื่อปกป้องตัวเอง แมลงปอตัวเมียที่ตั้งครรภ์จะใช้มาตรการที่สิ้นหวังเมื่อถูกตัวผู้ที่หื่นกระหายไล่ตาม แมลงปอตัวเมียจะหยุดกระพือปีกและดิ่งลงจากที่สูงโดยแกล้งตายจนกว่าตัวผู้จะหมดความสนใจ เมื่อแมลงปอตัวผู้หายไปแล้ว ตัวเมียจะบินหนีไปยังที่ปลอดภัย : https://www.newscientist.com/article/2129185-female-dragonflies-fake-sudden-death-to-avoid-male-advances/

ผีเสื้อบางชนิดได้พัฒนาสารเคมีเพื่อป้องกันการผสมพันธุ์ที่ไม่พึงประสงค์ หลังจากผสมพันธุ์แล้ว ผีเสื้อสีขาวที่มีเส้นสีเขียวจะปล่อยสารเคมีที่เรียกว่าเมทิลซาลิไซเลต ซึ่งจะขับไล่ตัวผู้ในบริเวณนั้นอย่างรุนแรง ซึ่งคล้ายกับสเปรย์พริกไทยธรรมชาติ ที่น่าสนใจคือ สารเคมีนี้จะถูกส่งไปยังตัวเมียโดยตัวผู้คู่อื่นระหว่างผสมพันธุ์ด้วย : https://royalsocietypublishing.org/doi/10.1098/rspb.2000.1138

ทั้งหมดนี้ก็เพื่อบอกว่าความรักในป่านั้นช่างรุนแรงเหลือเกิน ไม่ว่านักการศึกษาเรื่องเพศจะเชื่ออย่างไร นกหรือผึ้งก็มีชีวิตที่ง่ายดายเช่นนั้น แน่นอนว่าสัตว์เพศเมียไม่ต้องกังวลว่าแฟนเก่าของพวกมันจะคอยสะกดรอยตามพวกมันบนเฟสบุ๊ค แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าพวกมันจะไม่จัดการกับตัวผู้ที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยเพียงเพราะตัวผู้แค่อยากสืบพันธุ์ตามที่ธรรมชาติกำหนดมาแค่นั้น