สวัสดีค่ะ
เกริ่นก่อนว่าเจ้าของกระทู้มีประสบการณ์ผ่าคลอดสองรอบ ตอน 4 ปีที่แล้ว และ 8 ปีที่แล้ว อยากจะแชร์ประสบการณ์ของตัวเองไว้ให้กับแม่ๆที่กำลังตั้งครรภ์เตรียมคลอดสมาชิกตัวน้อยไว้ค่ะ จะได้รู้ขั้นตอนและเตรียมตัวเตรียมใจต้อนรับสมาชิกใหม่ตัวเล็กในครอบครัวล่วงหน้า
เจ้าของกระทู้คลอดที่โรงพยาบาลเอกชน แพคเกจผ่าคลอด 4 วัน 3 คืน นัดฤกษ์คลอดระบุวันกับเลือกเวลาสะดวกเป็นช่วงเช้าเวลาไหนก็ได้ไว้กับคุณหมอ เพื่อทำการจองห้องผ่าคลอดและห้องพักไว้ค่ะ
ก่อนวันคลอด
เตรียมความพร้อม เตรียมกระเป๋าของใช้สำหรับหิ้วไปโรงพยาบาล ประกอบด้วย ชุดคุณแม่เอาไว้ใส่ตอนออกจากโรงพยาบาลและของใช้ส่วนตัว
ของสมาชิกตัวน้อย - จะมีแพมเพิส ของใช้เด็กแรกเกิด และชุดเด็กแรกเกิด ผ้าห่อตัว (ในแพคเกจคลอดมีให้แล้ว เจ้าของกระทู้เลยไม่ได้เตรียมไปด้วยค่ะ) กับคาร์ซีทตอนพาลูกนั่งรถกลับบ้าน
วันนัดผ่าคลอด
เจ้าของกระทู้คลอดโรงพยาบาลเอกชน นัดฤกษ์คลอดสะดวกช่วงเช้าเวลาประมาณ 9 โมง ทางโรงพยาบาลเลยให้แอดมิทเตรียมตัวตั้งแต่ตอนกลางคืนคืนก่อนวันนัดคลอด เวลานัดแอดมิทที่โรงพยาบาลประมาณ 3 ทุ่ม จากนั้นเปลี่ยนใส่ชุดของทางโรงพยาบาล แนะนำให้คุณแม่อาบน้ำสระผมให้เรียบร้อยไปเลยร่างกายจะได้สดชื่น เพราะหลังจากนั้นการสระผมจะยากนิดหน่อยให้สระไว้ก่อนเลย
Day1: ช่วงเช้ามืดประมาณตีห้าถึงหกโมงเช้า พยาบาลจะเข้ามาที่ห้องเพื่อเตรียมตัวคุณแม่ ถึงแม้จะผ่าคลอดทางหน้าท้องแต่พยาบาลจะทำความสะอาดและกำจัดขนที่อวัยวะเพศหญิงเตรียมไว้ด้วย พร้อมกับใส่ท่อปัสสาวะ ช่วงเวลาประมาณ 7 โมงเช้า ก่อนถึงเวลาคลอดประมาณ 2 ชั่วโมง พยาบาลและบุรุษพยาบาลจะนำเตียงนอนมารับที่ห้อง เรานอนไปบนเตียงนอนและเข็นไปที่ห้องฉุกเฉินเพื่อพบกับวิสัญญีแพทย์ ทำการฉีดยาชาโดยให้เรานอนตัวคดก้มกอดเข่าเหมือนตัวกุ้ง และวิสัญญีแพทย์จะทำการฉีดยาชาเข้าไปตรงแถวกระดูกสันหลังเพื่อให้ยาชาออกฤทธิ์ครึ่งล่างเพื่อทำการเตรียมผ่าคลอด
แล้วก็ถึงเวลาเข้าห้องผ่าตัด คุณหมอ พยาบาลและวิสัญญีแพทย์เข้าร่วมสังเกตอาการของเราตลอดเวลาระหว่างการผ่าตัด มีผ้ากั้นช่วงช่วงหน้าอกเพราะฉะนั้นเราจะมองไม่เห็นการผ่าตัด แต่จะได้ยินเสียงหรือขั้นตอนทุกขั้นตอน คุณหมอสูตินารีจะสอบถามเป็นระยะถึงความชาว่ามีความรู้สึกเจ็บปวดหรือเปล่า จากนั้นก็จะเริ่มลงมือผ่าตัดค่ะตอนนั้นจะรู้สึกเหมือนท้องโดนโยกเยกสักพักแล้วก็ได้ยินเสียงเด็กร้องออกมา
พยาบาลจะขาน วันที่เวลา เพศ น้ำหนักตัว ความยาว เพื่อทำการบันทึก และคุณแม่ก็จะได้ยินด้วย โมเมนต์นั้นคือน้ำตาปริ่มๆเลย ดีใจที่ทุกอย่างผ่านไปได้ด้วยดี จากนั้นคุณหมอทำการเย็บปิดแผลหน้าท้อง พยาบาลจะนำสมาชิกตัวน้อยมาพบคุณแม่ก่อนแล้วนำเด็กไปห้องแรกคลอด
เสร็จแล้วพยาบาลจะเข็นเตียงพาเราไปรอที่ห้องพักฟื้นเพื่อให้คลายฤทธิ์ยาสลบก่อนกลับเข้าห้องพัก ระหว่างคุณแม่พักฟื้น พยาบาลจะตามคุณพ่อไปดูสมาชิกตัวน้อยที่ห้องแรกคลอด
หลังจากฤทธิ์ยาสลบเริ่มคลาย พยาบาลและบุรุษพยาบาลเข็นเตียงนอนและพาตัวเรากลับไปนอนที่ห้องพัก เพื่อพักฟื้นในห้องพักต่อ ร่างกายยังมีฤทธิ์ยาสลบเหลืออยู่ เลยจะมีความรู้สึกง่วงและหลับเป็นระยะจนถึงช่วงเวลาเย็น คุณหมอจ่ายยาแก้ปวดเพื่อบรรเทาอาการปวดร่วมกับน้ำเกลือระหว่างนั้น กับยังทานอาหารไม่ได้
ช่วงค่ำพยาบาลจะเข้ามาตรวจเช็คอุณหภูมิร่างกาย วัดความดัน และทำการนวดคลึงหน้าท้องมดลูกเพื่อให้มดลูกเข้าอู่ อยากบอกว่าตอนพยาบาลคลึงนี่เจ็บมากกกก ขั้นตอนนี้คุณแม่ทุกคนต้องใจสู้อดทนนะคะ ระหว่างนั้นเราจะนอนราบที่เตียงอย่างเดียวเลยค่ะไม่ได้ลุกไปไหนพร้อมกับมีสายปัสสาวะและสายน้ำเกลือติดที่ตัวตลอด คืนแรก พยาบาลจะเข้ามานวดให้มดลูกเข้าอู่พร้อมตรวจชีพจรและวัดไข้เป็นช่วงๆ
Day2: ตื่นเช้ามาอีกวัน น้ำเกลือพอใกล้หมดถุง เจ้าของกระทู้ขอพยาบาลถอดสายปัสสาวะกับสายน้ำเกลือออกเพื่อที่จะได้เริ่มลุกเดินขยับตัว ทางโรงพยาบาลจะมีสายรัดหน้าท้องใส่ไว้สำหรับช่วยพยุงหน้าท้องและลดการเจ็บแผล คุณแม่ใส่ไว้ตลอดเวลาเลยนะคะ ช่วยลดอาการปวดได้ดีเลย
*** จุดนี้อยากให้คุณแม่เข้มแข็งพยายามลุกเดินให้ได้ แผลอาจจะทำให้เวลาลุกเดินหรือเข้าห้องน้ำเจ็บบ้าง แต่จะช่วยให้แผลผ่าตัดที่หน้าท้องสมานและหายเร็วขึ้น ***
คุณแม่เริ่มทานอาหารได้ช่วงเที่ยงหรือช่วงเย็นของวันนี้ ส่วนพยาบาลจะพาสมาชิกตัวน้อยมาอยู่กับพ่อแม่ที่ห้องพักช่วงเช้าและช่วงบ่ายทั้งวันเลย มีเข้าเต้าทุก 3 ชั่วโมง และช่วงเย็นพยาบาลจะพาสมาชิกตัวน้อยกลับไปที่ห้องแรกคลอด และพามาเข้าเต้าที่ห้องพักทุก 3 ชั่วโมง สรุปคือ....คุณแม่ไม่ได้พักเลยค่ะตั้งแต่คลอดในโรงพยาบาล เพราะฉะนั้นก่อนคลอด เตรียมตัวตั้งรับนอนพักผ่อนให้เยอะๆไว้ก่อนเลยค่ะ
Day3: กิจกรรมเหมือนวันที่ 2 สมาชิกตัวน้อยมาอยู่กับพ่อแม่ที่ห้องพักช่วงเช้าและช่วงบ่ายทั้งวันเลย มีเข้าเต้าทุก 3 ชั่วโมง เพิ่มเติมคือ ห้องแรกคลอดจะมีคลาสพยาบาลสอนเรื่องการอาบน้ำและให้ความรู้เรื่องการดูแลทารกแรกเกิด มีทั้งสอบภาคปฏิบัติและสอบข้อเขียน ช่วงกลางคืนตัวเล็กมาเข้าเต้าที่ห้องพักทุก 3 ชั่วโมง
Day4: เตรียมตัวออกจากโรงพยาบาล แนะนำให้ออกช่วงก่อนเที่ยงนะคะ พร้อมก็เก็บของเตรียมกลับบ้านได้เลย ถึงบ้านจะได้มีเวลาเตรียมตัวและไม่ฉุกละหุกสำหรับคุณพ่อคุณแม่มือใหม่ค่ะ
หลังคลอดออกจากโรงพยาบาล
ห้ามยกของหนัก และแนะนำให้สวมสายรัดหน้าท้องใส่ไว้ตลอดเพื่อให้ช่วยพยุงหน้าท้องและลดการเจ็บแผล แผลผ่าคลอดจะเจ็บและหายช่วงเวลาแล้วแต่คุณแม่แต่ละคน อย่างของเจ้าของกระทู้ ท้องแรกใช้เวลาประมาณ 1 เดือนถึงจะหายเจ็บแผลอาการดีขึ้น ส่วนท้องสองหลังจาก 1 สัปดาห์ก็หายเจ็บแผลอาการดีขึ้น (แผลผ่าตัดที่หน้าท้อง ความยาวประมาณ 10 เซนติเมตร)
จบแล้วค่ะ หวังว่าข้อมูลนี้จะเป็นประโยชน์สำหรับคุณแม่ที่กำลังจะผ่าคลอดหรือวางแผนคลอดแบบผ่าคลอดนะคะ
บอกเล่าแชร์ประสบการณ์ผ่าคลอด...สำหรับคุณแม่มือใหม่ที่กำลังจะผ่าคลอดหรือวางแผนคลอดแบบผ่าคลอด
เกริ่นก่อนว่าเจ้าของกระทู้มีประสบการณ์ผ่าคลอดสองรอบ ตอน 4 ปีที่แล้ว และ 8 ปีที่แล้ว อยากจะแชร์ประสบการณ์ของตัวเองไว้ให้กับแม่ๆที่กำลังตั้งครรภ์เตรียมคลอดสมาชิกตัวน้อยไว้ค่ะ จะได้รู้ขั้นตอนและเตรียมตัวเตรียมใจต้อนรับสมาชิกใหม่ตัวเล็กในครอบครัวล่วงหน้า
เจ้าของกระทู้คลอดที่โรงพยาบาลเอกชน แพคเกจผ่าคลอด 4 วัน 3 คืน นัดฤกษ์คลอดระบุวันกับเลือกเวลาสะดวกเป็นช่วงเช้าเวลาไหนก็ได้ไว้กับคุณหมอ เพื่อทำการจองห้องผ่าคลอดและห้องพักไว้ค่ะ
ก่อนวันคลอด
เตรียมความพร้อม เตรียมกระเป๋าของใช้สำหรับหิ้วไปโรงพยาบาล ประกอบด้วย ชุดคุณแม่เอาไว้ใส่ตอนออกจากโรงพยาบาลและของใช้ส่วนตัว
ของสมาชิกตัวน้อย - จะมีแพมเพิส ของใช้เด็กแรกเกิด และชุดเด็กแรกเกิด ผ้าห่อตัว (ในแพคเกจคลอดมีให้แล้ว เจ้าของกระทู้เลยไม่ได้เตรียมไปด้วยค่ะ) กับคาร์ซีทตอนพาลูกนั่งรถกลับบ้าน
วันนัดผ่าคลอด
เจ้าของกระทู้คลอดโรงพยาบาลเอกชน นัดฤกษ์คลอดสะดวกช่วงเช้าเวลาประมาณ 9 โมง ทางโรงพยาบาลเลยให้แอดมิทเตรียมตัวตั้งแต่ตอนกลางคืนคืนก่อนวันนัดคลอด เวลานัดแอดมิทที่โรงพยาบาลประมาณ 3 ทุ่ม จากนั้นเปลี่ยนใส่ชุดของทางโรงพยาบาล แนะนำให้คุณแม่อาบน้ำสระผมให้เรียบร้อยไปเลยร่างกายจะได้สดชื่น เพราะหลังจากนั้นการสระผมจะยากนิดหน่อยให้สระไว้ก่อนเลย
Day1: ช่วงเช้ามืดประมาณตีห้าถึงหกโมงเช้า พยาบาลจะเข้ามาที่ห้องเพื่อเตรียมตัวคุณแม่ ถึงแม้จะผ่าคลอดทางหน้าท้องแต่พยาบาลจะทำความสะอาดและกำจัดขนที่อวัยวะเพศหญิงเตรียมไว้ด้วย พร้อมกับใส่ท่อปัสสาวะ ช่วงเวลาประมาณ 7 โมงเช้า ก่อนถึงเวลาคลอดประมาณ 2 ชั่วโมง พยาบาลและบุรุษพยาบาลจะนำเตียงนอนมารับที่ห้อง เรานอนไปบนเตียงนอนและเข็นไปที่ห้องฉุกเฉินเพื่อพบกับวิสัญญีแพทย์ ทำการฉีดยาชาโดยให้เรานอนตัวคดก้มกอดเข่าเหมือนตัวกุ้ง และวิสัญญีแพทย์จะทำการฉีดยาชาเข้าไปตรงแถวกระดูกสันหลังเพื่อให้ยาชาออกฤทธิ์ครึ่งล่างเพื่อทำการเตรียมผ่าคลอด
แล้วก็ถึงเวลาเข้าห้องผ่าตัด คุณหมอ พยาบาลและวิสัญญีแพทย์เข้าร่วมสังเกตอาการของเราตลอดเวลาระหว่างการผ่าตัด มีผ้ากั้นช่วงช่วงหน้าอกเพราะฉะนั้นเราจะมองไม่เห็นการผ่าตัด แต่จะได้ยินเสียงหรือขั้นตอนทุกขั้นตอน คุณหมอสูตินารีจะสอบถามเป็นระยะถึงความชาว่ามีความรู้สึกเจ็บปวดหรือเปล่า จากนั้นก็จะเริ่มลงมือผ่าตัดค่ะตอนนั้นจะรู้สึกเหมือนท้องโดนโยกเยกสักพักแล้วก็ได้ยินเสียงเด็กร้องออกมา
พยาบาลจะขาน วันที่เวลา เพศ น้ำหนักตัว ความยาว เพื่อทำการบันทึก และคุณแม่ก็จะได้ยินด้วย โมเมนต์นั้นคือน้ำตาปริ่มๆเลย ดีใจที่ทุกอย่างผ่านไปได้ด้วยดี จากนั้นคุณหมอทำการเย็บปิดแผลหน้าท้อง พยาบาลจะนำสมาชิกตัวน้อยมาพบคุณแม่ก่อนแล้วนำเด็กไปห้องแรกคลอด
เสร็จแล้วพยาบาลจะเข็นเตียงพาเราไปรอที่ห้องพักฟื้นเพื่อให้คลายฤทธิ์ยาสลบก่อนกลับเข้าห้องพัก ระหว่างคุณแม่พักฟื้น พยาบาลจะตามคุณพ่อไปดูสมาชิกตัวน้อยที่ห้องแรกคลอด
หลังจากฤทธิ์ยาสลบเริ่มคลาย พยาบาลและบุรุษพยาบาลเข็นเตียงนอนและพาตัวเรากลับไปนอนที่ห้องพัก เพื่อพักฟื้นในห้องพักต่อ ร่างกายยังมีฤทธิ์ยาสลบเหลืออยู่ เลยจะมีความรู้สึกง่วงและหลับเป็นระยะจนถึงช่วงเวลาเย็น คุณหมอจ่ายยาแก้ปวดเพื่อบรรเทาอาการปวดร่วมกับน้ำเกลือระหว่างนั้น กับยังทานอาหารไม่ได้
ช่วงค่ำพยาบาลจะเข้ามาตรวจเช็คอุณหภูมิร่างกาย วัดความดัน และทำการนวดคลึงหน้าท้องมดลูกเพื่อให้มดลูกเข้าอู่ อยากบอกว่าตอนพยาบาลคลึงนี่เจ็บมากกกก ขั้นตอนนี้คุณแม่ทุกคนต้องใจสู้อดทนนะคะ ระหว่างนั้นเราจะนอนราบที่เตียงอย่างเดียวเลยค่ะไม่ได้ลุกไปไหนพร้อมกับมีสายปัสสาวะและสายน้ำเกลือติดที่ตัวตลอด คืนแรก พยาบาลจะเข้ามานวดให้มดลูกเข้าอู่พร้อมตรวจชีพจรและวัดไข้เป็นช่วงๆ
Day2: ตื่นเช้ามาอีกวัน น้ำเกลือพอใกล้หมดถุง เจ้าของกระทู้ขอพยาบาลถอดสายปัสสาวะกับสายน้ำเกลือออกเพื่อที่จะได้เริ่มลุกเดินขยับตัว ทางโรงพยาบาลจะมีสายรัดหน้าท้องใส่ไว้สำหรับช่วยพยุงหน้าท้องและลดการเจ็บแผล คุณแม่ใส่ไว้ตลอดเวลาเลยนะคะ ช่วยลดอาการปวดได้ดีเลย
*** จุดนี้อยากให้คุณแม่เข้มแข็งพยายามลุกเดินให้ได้ แผลอาจจะทำให้เวลาลุกเดินหรือเข้าห้องน้ำเจ็บบ้าง แต่จะช่วยให้แผลผ่าตัดที่หน้าท้องสมานและหายเร็วขึ้น ***
คุณแม่เริ่มทานอาหารได้ช่วงเที่ยงหรือช่วงเย็นของวันนี้ ส่วนพยาบาลจะพาสมาชิกตัวน้อยมาอยู่กับพ่อแม่ที่ห้องพักช่วงเช้าและช่วงบ่ายทั้งวันเลย มีเข้าเต้าทุก 3 ชั่วโมง และช่วงเย็นพยาบาลจะพาสมาชิกตัวน้อยกลับไปที่ห้องแรกคลอด และพามาเข้าเต้าที่ห้องพักทุก 3 ชั่วโมง สรุปคือ....คุณแม่ไม่ได้พักเลยค่ะตั้งแต่คลอดในโรงพยาบาล เพราะฉะนั้นก่อนคลอด เตรียมตัวตั้งรับนอนพักผ่อนให้เยอะๆไว้ก่อนเลยค่ะ
Day3: กิจกรรมเหมือนวันที่ 2 สมาชิกตัวน้อยมาอยู่กับพ่อแม่ที่ห้องพักช่วงเช้าและช่วงบ่ายทั้งวันเลย มีเข้าเต้าทุก 3 ชั่วโมง เพิ่มเติมคือ ห้องแรกคลอดจะมีคลาสพยาบาลสอนเรื่องการอาบน้ำและให้ความรู้เรื่องการดูแลทารกแรกเกิด มีทั้งสอบภาคปฏิบัติและสอบข้อเขียน ช่วงกลางคืนตัวเล็กมาเข้าเต้าที่ห้องพักทุก 3 ชั่วโมง
Day4: เตรียมตัวออกจากโรงพยาบาล แนะนำให้ออกช่วงก่อนเที่ยงนะคะ พร้อมก็เก็บของเตรียมกลับบ้านได้เลย ถึงบ้านจะได้มีเวลาเตรียมตัวและไม่ฉุกละหุกสำหรับคุณพ่อคุณแม่มือใหม่ค่ะ
หลังคลอดออกจากโรงพยาบาล
ห้ามยกของหนัก และแนะนำให้สวมสายรัดหน้าท้องใส่ไว้ตลอดเพื่อให้ช่วยพยุงหน้าท้องและลดการเจ็บแผล แผลผ่าคลอดจะเจ็บและหายช่วงเวลาแล้วแต่คุณแม่แต่ละคน อย่างของเจ้าของกระทู้ ท้องแรกใช้เวลาประมาณ 1 เดือนถึงจะหายเจ็บแผลอาการดีขึ้น ส่วนท้องสองหลังจาก 1 สัปดาห์ก็หายเจ็บแผลอาการดีขึ้น (แผลผ่าตัดที่หน้าท้อง ความยาวประมาณ 10 เซนติเมตร)
จบแล้วค่ะ หวังว่าข้อมูลนี้จะเป็นประโยชน์สำหรับคุณแม่ที่กำลังจะผ่าคลอดหรือวางแผนคลอดแบบผ่าคลอดนะคะ