.
.
ลูกไฮยีน่า ที่ Kruger National Park
© Shannon Wild/Wildscreen Exchange
.
.
.
Life of Hyenas/Let's get to know them
.
.
คนเรามักจะมองว่า ไฮยีน่า
เป็นสัตว์ที่ชั่วร้าย ขี้ขลาด และน่าเกลียด
และมักถูกเข้าใจผิดว่าเป็นสัตว์ประเภทอื่น
พวกมันเป็นมากกว่าสัตว์กินซาก
มีลักษณะและพฤติกรรมที่น่าสนใจ
ซึ่งช่วยสร้างสมดุลที่ซับซ้อนให้กับธรรมชาติ
ข้อเท็จจริงที่น่าสนใจ 10 อย่างเกี่ยวกับไฮยีน่า
ซึ่งอาจทำให้เปลี่ยนความคิดเกี่ยวกับ
สัตว์ที่ฉลาดและรักครอบครัวเหล่านี้ได้
.
.
.
1. ไม่ใช่แมวหรือหมา
พวกมันมักถูกจัดประเภทผิดพลาด
จัดเป็นหมาหรือแมว ในยุคอดีต
แต่จริง ๆ แล้วพวกมันอยู่ในวงศ์
Hyaenidae
ความสับสนนี้เกิดขึ้น เพราะไฮยีน่า
มีลักษณะที่เหมือนกับทั้งแมวและหมา
สัตว์ในอันดับ
Carnivora ได้แก่
แมว สุนัข หมี และอื่น ๆ
แต่ไฮยีน่าอยู่ในวงศ์ Hyaenidae ในอันดับนี้
ซึ่งแตกต่างจากสุนัข วงศ์
Canidae
และแมว วงศ์
Felidae
แม้ว่าไฮยีน่าจะมีลักษณะภายใน
และลักษณะภายนอกที่คล้ายคลึงกับหมา
แต่ในทางพันธุกรรมและอนุกรมวิธานแล้ว
ไฮยีน่ามีความสัมพันธ์ทางวิวัฒนาการ
ที่ใกล้เคียงคล้ายกับแมว
มากกว่าคล้ายกับหมา
.
.
.
2. มี 4 สายพันธุ์
ไฮยีน่าจัดอยู่ในวงศ์ Hyaenidae
ที่แตกต่างกัน 4 สายพันธุ์ ได้แก่
ไฮยีน่าจุด
Crocuta crocuta
ไฮยีน่าสีน้ำตาล
Parahyaena brunnea
ไฮยีน่าลาย
Hyaena hyaena
และอาดโวลฟ์
Proteles cristata
ไฮยีน่าแต่ละสายพันธุ์มีลักษณะ
และถิ่นที่อยู่อาศัยที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว
พบได้ในภูมิภาคต่าง ๆ ทั่วแอฟริกา
และบางส่วนของเอเชีย
ในแทนซาเนีย ไฮยีน่าจุดพบได้บ่อยที่สุด
โดยได้รับการยอมรับจากขนที่มีจุด
โครงสร้างที่แข็งแรง และขากรรไกรที่แข็งแรง
แทนซาเนียยังเป็นถิ่นทึ่อยู่ของไฮยีน่าสีน้ำตาล
และไฮยีน่าลาย แม้ว่าจะพบได้น้อยกว่าก็ตาม
3. อยู่กันเป็นฝูง
ไฮยีน่าแสดงพฤติกรรมทางสังคม
ที่ซับซ้อนและอาศัยอยู่ในฝูง
ที่มีโครงสร้างชัดเจนที่เรียกว่า ฝูง
ไฮยีน่าลายจุดมีพฤติกรรมที่น่าสนใจมาก
พวกมันอาศัยอยู่ในสังคมที่มี
แม่เป็นใหญ่
โดยตัวเมียจะมีบทบาทโดดเด่นในลำดับชั้น
ลำดับชั้นมักจะกำหนดโดยแม่เป็นใหญ่
ซึ่งดูแลกิจกรรมล่าสัตว์/ผสมพันธุ์ภายในฝูง
ไฮยีน่าให้กำเนิดลูกในถ้ำรวม ครั้งละ 1-3 ตัว
และลูกจะได้รับการดูแลโดยฝูง
น้ำนมแม่จะมีโปรตีนสูงกว่าสัตว์ชนิดอื่น
ลูกไฮยีน่าจึงเติบโตได้อย่างรวดเร็ว
.
.
.
4. เสียงหัวเราะไม่ใช่เสียงสนุกสนาน
ไฮยีน่าสื่อสารกันโดยใช้เสียงที่หลากหลาย
เสียงที่เป็นเอกลักษณ์ที่สุดเสียงหนึ่ง
คือ เสียงหัวเราะอันเป็นเอกลักษณ์
ซึ่งมักเข้าใจผิดว่าเป็นเสียงสนุกสนาน
แต่ในความเป็นจริง เสียงนี้ทำหน้าที่
เป็นช่องทางการสื่อสารระหว่างสมาชิกในฝูง
เสียงหัวเราะของไฮยีน่ามักจะเป็นเรื่อง
ความกระวนกระวายหรือการโจมตี
ไฮยีน่าสื่อสารระหว่างกัน
โดยใช้กลิ่นเป็นเครื่องหมาย
โดยใช้ต่อมกลิ่นเพื่อส่งกลิ่น
กลิ่นเหล่านี้ช่วยกำหนดอาณาเขต
ถ่ายทอดข้อมูลทางสังคม
และช่วยระบุตัวตนของฝูง
..
.
.
5. นักล่าที่มีทักษะ
พวกมันมักถูกเข้าใจผิดว่าเป็นสัตว์กินซาก
แต่พวกมันเป็นนักล่าที่มีทักษะ
และนักล่าที่ชำนาญ ตัวอย่างเช่น
ไฮยีน่าลายจุดเป็นที่รู้จักเรื่อง
ความสามารถในการล่าเหยื่อ
แม้แต่สัตว์ที่มีขนาดใหญ่กว่าตัวมันมาก
โดยใช้เทคนิคการล่าแบบร่วมมือกันเป็นฝูง
เพื่อหลบเลี่ยงอันตรายและล้อมกันล่าเหยื่อ
ไฮยีน่ามีบทบาทสำคัญต่อระบบนิเวศ
โดยทำหน้าที่เป็นทีมทำความสะอาดธรรมชาติ
พฤติกรรมการกินซากของพวกมัน
ช่วยรักษาสมดุลของระบบนิเวศ
โดยลดจำนวนซากสัตว์
ช่วยป้องกันการแพร่กระจายของโรค
พวกมันมีส่วนสนับสนุนห่วงโซ่อาหาร
ทั้งในฐานะผู้ล่าและสัตว์กินซาก
.
.
.
6. ขากรรไกรที่ทรงพลังมาก
ด้วยขากรรไกรที่แข็งแรง/แรงกัดที่เหลือเชื่อ
สามารถบดกระดูกได้อย่างยอดเยี่ยม
ฟันที่ทรงพลังทำให้สามารถหัก
และกินกระดูกได้โดยง่าย
ลักษณะนัที่ทำให้พวกมันแตกต่าง
จากสัตว์กินเนื้อชนิดอื่น ๆ
ไฮยีน่าสามารถกินซากสัตว์
ได้เกือบหมดทั้งตัวรวมถึงกระดูกด้วย
ช่วยให้ดูดซึมสารอาหาร
ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ไฮยีน่ามีแรงกัดที่รุนแรงที่สุด
ชนิดหนึ่งในอาณาจักรสัตว์
โดยมีแรงกัดมากกว่า 1,100 ปอนด์/ตารางนิ้ว
เมื่อเปรียบเทียบกับ สิงโต
มีแรงกัดเพียง 650 ปอนด์/ตารางนิ้ว
แม้ว่าจะมีขนาดใหญ่กว่าไฮยีน่าถึง 2 เท่า
.
.
.
7. กินเพ (ทุกอย่าง)
ไฮยีน่าเป็นสัตว์ที่กินอาหารตามโอกาส
และสามารถปรับตัวให้เข้ากับแหล่งอาหารได้
แม้ว่าพวกมันจะเป็นนักล่าที่เก่งกาจ
แต่พวกมันยังหาอาหารอื่นกินเองอีกด้วย
อาหารของพวกมันมีหลากหลายประเภท
สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมขนาดใหญ่และขนาดเล็ก
เช่น วิลเดอบีสต์ แอนทีโลป ม้าลาย และควาย
ไฮยีน่าเป็นฝูงนักล่าที่พบเห็นได้บ่อยที่สุด
อัตราการล่าที่สำเร็จ 66-90%
ทั้งยังกินซากสัตว์ที่นักล่าตัวอื่นทิ้งไว้
แต่ส่วนมากมักจะขโมย/แย่งชิงจากสิงโต
ไฮยีน่ายังล่าสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมขนาดเล็ก
เช่น กระต่าย หนู และนกอีกด้วย
ซากสัตว์และการกินซากสัตว์
ไฮยีน่าเป็นสัตว์กินซากที่รู้จักกันดี
พวกมันมักจะกินซากสัตว์ที่ตายแล้ว
ซึ่งหาได้จากประสาทรับกลิ่นที่ไวต่อกลิ่น
พวกมันสามารถหักกระดูกได้
ทำให้สามารถสกัดไขกระดูก
และกินส่วนต่าง ๆ ของซากสัตว์
ที่นักล่าตัวอื่นทำไม่ได้
แมลงและสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กอื่น ๆ
ในบางกรณี โดยเฉพาะไฮยีน่าสายพันธุ์เล็ก
พืชผักผลไม้ แม้ว่าจะเป็นสัตว์กินเนื้อเป็นหลัก
แต่มีรายงานว่าไฮยีน่ากินพืชผุกผลไม้บางชนิด
โดยเฉพาะในช่วงที่อาหารขาดแคลน
ขยะจากคน ในพื้นที่ใกล้ที่อยู่อาศัยของคน
ไฮยีน่าบางครั้งจะกินขยะหรือของเสียของคน
แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการปรับตัว
ให้เข้ากับสภาพแวดล้อม/แหล่งอาหารต่าง ๆ
ศัตรูไฮยีน่า
ภัยคุกคามหลักของไฮยีน่าในป่า
คือ สิงโต ทั้งสองสายพันธุ์นี้มักแข่งขันกัน
เพื่ออาหารและอาณาเขตโดยตรง
สัตว์นักล่าขนาดใหญ่ชนิดอื่น ๆ เช่น
เสือดาวและจระเข้
ถือเป็นความเสี่ยงสำหรับไฮยีน่าเช่นกัน
8. ทนถึกเป็นพิเศษ
ไฮยีน่าขึ้นชื่อในเรื่องความอดทน/ทนถึก
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อต้องเดินทางล่าสัตว์
ความอดทนไล่ล่าเหยื่อได้เป็นเวลานาน
ซึ่งแตกต่างจากสัตว์นักล่าชนิดอื่น ๆ
ที่อาศัยความเร็วและความประหลาดใจ
ไฮยีน่าใช้กลยุทธ์การล่าเหยื่อด้วยความอดทน
ซึ่งเกี่ยวข้องกับการวิ่งไล่เหยื่อเป็นระยะไกล
จนกว่าเหยื่อจะหมดแรง ลัมลง
ความเร็วในการวิ่ง 60 กิโลเมตร/ชั่วโมง
ความอดทนอันน่าทึ่งของไฮยีน่า
เกิดจากการปรับตัวทางสรีรวิทยาหลายอย่าง
มีระบบหายใจที่มีประสิทธิภาพสูง
เส้นใยกล้ามเนื้อที่หดตัวช้า
ถูกสร้างมาเพื่อกิจกรรมระยะยาว
และโครงสร้างร่างกายของพวกมัน
ทำให้การเดินกะโผลกกะเผลก
ซึ่งช่วยประหยัดพลังงานในการเดิน/วิ่ง
.
.
.
9. ไม่ได้อาศัยอยู่ในทุ่งหญ้าสะวันนาเท่านั้น
โดยทั่วไปไฮยีน่าจะอาศัยอยู่ที่
ทุ่งหญ้าสะวันนาและทุ่งหญ้าในแอฟริกา
แต่พวกมันก็เจริญเติบโตได้
ในสภาพแวดล้อมที่หลากหลาย
รวมถึงแหล่งที่อยู่อาศัยต่าง ๆ
ทั่วแอฟริกาและบางส่วนของเอเชีย
ไฮยีนาบางสายพันธุ์ เช่น ไฮยีนาสีน้ำตาล
มีความสามารถในการปรับตัวให้เข้ากับ
สภาพแวดล้อมที่แห้งแล้งได้ดี
รวมถึงพื้นที่กึ่งทะเลทราย
นอกจากนี้ยังพบได้ในพื้นที่ภูเขา เช่น
ที่ราบสูงเอธิโอเปีย
ไฮยีนาเริ่มมีให้เห็นมากขึ้นในเขตเมือง
นอกจากนี้ยังพบได้ในป่าและป่าไม้ด้วย
.
.
.
10. ตัวเมียมีองคชาตเทียม
ไฮยีนาลายจุดตัวเมียมีลักษณะ
ทางกายวิภาคเฉพาะตัวคือ
การองคชาตเทียม pseudo-penis
โครงสร้างนี้ไม่ใช่องคชาตจริง ๆ
แต่เป็นคลิตอริสที่ยาวซึ่งมีขนาด
และรูปร่างใกล้เคียงกับองคชาตของตัวผู้มาก
พวกมันเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม
เพียงชนิดเดียวที่สามารถผสมพันธุ์
ปัสสาวะ และคลอดบุตรผ่านทาง
ช่องคลอดที่คล้ายกับองคชาต
ตัวเมียยังสามารถแข็งตัวได้ด้วยซ้ำ
มีทฤษฎีหลายประการที่อธิบายว่า
ทำไมพวกมันจึงมีลักษณะเช่นนี้
อาจเป็นรูปแบบของการส่งสัญญาณ
การยอมจำนนหรือการประนีประนอม
อาจทำให้ไฮยีนาตัวเมีย
ควบคุมการผสมพันธุ์ได้มากขึ้น
เพราะโครงสร้างนี้ทำให้ตัวผู้
จะสามารถผสมพันธุ์ได้
ก็ต่อเมื่อตัวเมียให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่
หรืออาจเป็นผลข้างเคียงจากการ
มีระดับ
แอนโดรเจน (ฮอร์โมนเพศผู้)
ในร่างกายมีระดับสูงมาก
.
เรียบเรียง/ที่มา
https://tinyurl.com/2p997s3a
https://tinyurl.com/4drmrykd
.
.
.
© Sinosphere 漢字文化圈
.
ไฮยีน่า (鬣狗) Hyenas
เคยมีอยู่ในจีนยุคโบราณ
หลังจากสิ้นสุดยุคน้ำแข็ง
เมื่อราว 10,000 ปีก่อน
ฝูงไฮยีน่าค่อย ๆ สูญพันธุ์หายไปจากจีน
แต่ยังมีฝูงไฮยีน่าเหลืออยู่ในจีนเพียงไม่กี่ตัว
จนกระทั่งถึงยุคอารยธรรม
ไฮยีน่าสร้างด้วยทองสำริดของจีน
จึงมีต้นแบบมาจากไฮยีน่า
สร้างขึ้นในสมัยราชวงศ์โจวตะวันตก
(1,046 - 771 ปีก่อนคริสตกาล)
.
.
.
© Will Clothier
.
.
.
© Axel Hunnicutt
.
.
.
© Axel Hunnicutt
.
.
.
ไฮยีน่าตัวเมียขนาดองคชาติเทียมเล็กกว่า
กับตัวเมียที่ขนาดองคชาติเทียมใหญ่กว่า
© Axel Hunnicutt
.
.
ไฮยีน่า Hyenas
.
ลูกไฮยีน่า ที่ Kruger National Park
© Shannon Wild/Wildscreen Exchange
.
.
.
Life of Hyenas/Let's get to know them
.
.
คนเรามักจะมองว่า ไฮยีน่า
เป็นสัตว์ที่ชั่วร้าย ขี้ขลาด และน่าเกลียด
และมักถูกเข้าใจผิดว่าเป็นสัตว์ประเภทอื่น
พวกมันเป็นมากกว่าสัตว์กินซาก
มีลักษณะและพฤติกรรมที่น่าสนใจ
ซึ่งช่วยสร้างสมดุลที่ซับซ้อนให้กับธรรมชาติ
ข้อเท็จจริงที่น่าสนใจ 10 อย่างเกี่ยวกับไฮยีน่า
ซึ่งอาจทำให้เปลี่ยนความคิดเกี่ยวกับ
สัตว์ที่ฉลาดและรักครอบครัวเหล่านี้ได้
.
.
1. ไม่ใช่แมวหรือหมา
พวกมันมักถูกจัดประเภทผิดพลาด
จัดเป็นหมาหรือแมว ในยุคอดีต
แต่จริง ๆ แล้วพวกมันอยู่ในวงศ์ Hyaenidae
ความสับสนนี้เกิดขึ้น เพราะไฮยีน่า
มีลักษณะที่เหมือนกับทั้งแมวและหมา
สัตว์ในอันดับ Carnivora ได้แก่
แมว สุนัข หมี และอื่น ๆ
แต่ไฮยีน่าอยู่ในวงศ์ Hyaenidae ในอันดับนี้
ซึ่งแตกต่างจากสุนัข วงศ์ Canidae
และแมว วงศ์ Felidae
แม้ว่าไฮยีน่าจะมีลักษณะภายใน
และลักษณะภายนอกที่คล้ายคลึงกับหมา
แต่ในทางพันธุกรรมและอนุกรมวิธานแล้ว
ไฮยีน่ามีความสัมพันธ์ทางวิวัฒนาการ
ที่ใกล้เคียงคล้ายกับแมว
มากกว่าคล้ายกับหมา
.
.
2. มี 4 สายพันธุ์
ไฮยีน่าจัดอยู่ในวงศ์ Hyaenidae
ที่แตกต่างกัน 4 สายพันธุ์ ได้แก่
ไฮยีน่าจุด Crocuta crocuta
ไฮยีน่าสีน้ำตาล Parahyaena brunnea
ไฮยีน่าลาย Hyaena hyaena
และอาดโวลฟ์ Proteles cristata
ไฮยีน่าแต่ละสายพันธุ์มีลักษณะ
และถิ่นที่อยู่อาศัยที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว
พบได้ในภูมิภาคต่าง ๆ ทั่วแอฟริกา
และบางส่วนของเอเชีย
ในแทนซาเนีย ไฮยีน่าจุดพบได้บ่อยที่สุด
โดยได้รับการยอมรับจากขนที่มีจุด
โครงสร้างที่แข็งแรง และขากรรไกรที่แข็งแรง
แทนซาเนียยังเป็นถิ่นทึ่อยู่ของไฮยีน่าสีน้ำตาล
และไฮยีน่าลาย แม้ว่าจะพบได้น้อยกว่าก็ตาม
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
3. อยู่กันเป็นฝูง
ไฮยีน่าแสดงพฤติกรรมทางสังคม
ที่ซับซ้อนและอาศัยอยู่ในฝูง
ที่มีโครงสร้างชัดเจนที่เรียกว่า ฝูง
ไฮยีน่าลายจุดมีพฤติกรรมที่น่าสนใจมาก
พวกมันอาศัยอยู่ในสังคมที่มี แม่เป็นใหญ่
โดยตัวเมียจะมีบทบาทโดดเด่นในลำดับชั้น
ลำดับชั้นมักจะกำหนดโดยแม่เป็นใหญ่
ซึ่งดูแลกิจกรรมล่าสัตว์/ผสมพันธุ์ภายในฝูง
ไฮยีน่าให้กำเนิดลูกในถ้ำรวม ครั้งละ 1-3 ตัว
และลูกจะได้รับการดูแลโดยฝูง
น้ำนมแม่จะมีโปรตีนสูงกว่าสัตว์ชนิดอื่น
ลูกไฮยีน่าจึงเติบโตได้อย่างรวดเร็ว
.
.
4. เสียงหัวเราะไม่ใช่เสียงสนุกสนาน
ไฮยีน่าสื่อสารกันโดยใช้เสียงที่หลากหลาย
เสียงที่เป็นเอกลักษณ์ที่สุดเสียงหนึ่ง
คือ เสียงหัวเราะอันเป็นเอกลักษณ์
ซึ่งมักเข้าใจผิดว่าเป็นเสียงสนุกสนาน
แต่ในความเป็นจริง เสียงนี้ทำหน้าที่
เป็นช่องทางการสื่อสารระหว่างสมาชิกในฝูง
เสียงหัวเราะของไฮยีน่ามักจะเป็นเรื่อง
ความกระวนกระวายหรือการโจมตี
ไฮยีน่าสื่อสารระหว่างกัน
โดยใช้กลิ่นเป็นเครื่องหมาย
โดยใช้ต่อมกลิ่นเพื่อส่งกลิ่น
กลิ่นเหล่านี้ช่วยกำหนดอาณาเขต
ถ่ายทอดข้อมูลทางสังคม
และช่วยระบุตัวตนของฝูง
.
.
5. นักล่าที่มีทักษะ
พวกมันมักถูกเข้าใจผิดว่าเป็นสัตว์กินซาก
แต่พวกมันเป็นนักล่าที่มีทักษะ
และนักล่าที่ชำนาญ ตัวอย่างเช่น
ไฮยีน่าลายจุดเป็นที่รู้จักเรื่อง
ความสามารถในการล่าเหยื่อ
แม้แต่สัตว์ที่มีขนาดใหญ่กว่าตัวมันมาก
โดยใช้เทคนิคการล่าแบบร่วมมือกันเป็นฝูง
เพื่อหลบเลี่ยงอันตรายและล้อมกันล่าเหยื่อ
ไฮยีน่ามีบทบาทสำคัญต่อระบบนิเวศ
โดยทำหน้าที่เป็นทีมทำความสะอาดธรรมชาติ
พฤติกรรมการกินซากของพวกมัน
ช่วยรักษาสมดุลของระบบนิเวศ
โดยลดจำนวนซากสัตว์
ช่วยป้องกันการแพร่กระจายของโรค
พวกมันมีส่วนสนับสนุนห่วงโซ่อาหาร
ทั้งในฐานะผู้ล่าและสัตว์กินซาก
.
.
6. ขากรรไกรที่ทรงพลังมาก
ด้วยขากรรไกรที่แข็งแรง/แรงกัดที่เหลือเชื่อ
สามารถบดกระดูกได้อย่างยอดเยี่ยม
ฟันที่ทรงพลังทำให้สามารถหัก
และกินกระดูกได้โดยง่าย
ลักษณะนัที่ทำให้พวกมันแตกต่าง
จากสัตว์กินเนื้อชนิดอื่น ๆ
ไฮยีน่าสามารถกินซากสัตว์
ได้เกือบหมดทั้งตัวรวมถึงกระดูกด้วย
ช่วยให้ดูดซึมสารอาหาร
ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ไฮยีน่ามีแรงกัดที่รุนแรงที่สุด
ชนิดหนึ่งในอาณาจักรสัตว์
โดยมีแรงกัดมากกว่า 1,100 ปอนด์/ตารางนิ้ว
เมื่อเปรียบเทียบกับ สิงโต
มีแรงกัดเพียง 650 ปอนด์/ตารางนิ้ว
แม้ว่าจะมีขนาดใหญ่กว่าไฮยีน่าถึง 2 เท่า
.
.
7. กินเพ (ทุกอย่าง)
ไฮยีน่าเป็นสัตว์ที่กินอาหารตามโอกาส
และสามารถปรับตัวให้เข้ากับแหล่งอาหารได้
แม้ว่าพวกมันจะเป็นนักล่าที่เก่งกาจ
แต่พวกมันยังหาอาหารอื่นกินเองอีกด้วย
อาหารของพวกมันมีหลากหลายประเภท
สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมขนาดใหญ่และขนาดเล็ก
เช่น วิลเดอบีสต์ แอนทีโลป ม้าลาย และควาย
ไฮยีน่าเป็นฝูงนักล่าที่พบเห็นได้บ่อยที่สุด
อัตราการล่าที่สำเร็จ 66-90%
ทั้งยังกินซากสัตว์ที่นักล่าตัวอื่นทิ้งไว้
แต่ส่วนมากมักจะขโมย/แย่งชิงจากสิงโต
ไฮยีน่ายังล่าสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมขนาดเล็ก
เช่น กระต่าย หนู และนกอีกด้วย
ซากสัตว์และการกินซากสัตว์
ไฮยีน่าเป็นสัตว์กินซากที่รู้จักกันดี
พวกมันมักจะกินซากสัตว์ที่ตายแล้ว
ซึ่งหาได้จากประสาทรับกลิ่นที่ไวต่อกลิ่น
พวกมันสามารถหักกระดูกได้
ทำให้สามารถสกัดไขกระดูก
และกินส่วนต่าง ๆ ของซากสัตว์
ที่นักล่าตัวอื่นทำไม่ได้
แมลงและสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กอื่น ๆ
ในบางกรณี โดยเฉพาะไฮยีน่าสายพันธุ์เล็ก
พืชผักผลไม้ แม้ว่าจะเป็นสัตว์กินเนื้อเป็นหลัก
แต่มีรายงานว่าไฮยีน่ากินพืชผุกผลไม้บางชนิด
โดยเฉพาะในช่วงที่อาหารขาดแคลน
ขยะจากคน ในพื้นที่ใกล้ที่อยู่อาศัยของคน
ไฮยีน่าบางครั้งจะกินขยะหรือของเสียของคน
แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการปรับตัว
ให้เข้ากับสภาพแวดล้อม/แหล่งอาหารต่าง ๆ
ศัตรูไฮยีน่า
ภัยคุกคามหลักของไฮยีน่าในป่า
คือ สิงโต ทั้งสองสายพันธุ์นี้มักแข่งขันกัน
เพื่ออาหารและอาณาเขตโดยตรง
สัตว์นักล่าขนาดใหญ่ชนิดอื่น ๆ เช่น
เสือดาวและจระเข้
ถือเป็นความเสี่ยงสำหรับไฮยีน่าเช่นกัน
.
สิงโตเกือบเสียท่าฝูงไฮยีน่า
.
.
Lion Trapped by Clan of Hyenas
| Dynasties | BBC Earth
.
.
.
8. ทนถึกเป็นพิเศษ
ไฮยีน่าขึ้นชื่อในเรื่องความอดทน/ทนถึก
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อต้องเดินทางล่าสัตว์
ความอดทนไล่ล่าเหยื่อได้เป็นเวลานาน
ซึ่งแตกต่างจากสัตว์นักล่าชนิดอื่น ๆ
ที่อาศัยความเร็วและความประหลาดใจ
ไฮยีน่าใช้กลยุทธ์การล่าเหยื่อด้วยความอดทน
ซึ่งเกี่ยวข้องกับการวิ่งไล่เหยื่อเป็นระยะไกล
จนกว่าเหยื่อจะหมดแรง ลัมลง
ความเร็วในการวิ่ง 60 กิโลเมตร/ชั่วโมง
ความอดทนอันน่าทึ่งของไฮยีน่า
เกิดจากการปรับตัวทางสรีรวิทยาหลายอย่าง
มีระบบหายใจที่มีประสิทธิภาพสูง
เส้นใยกล้ามเนื้อที่หดตัวช้า
ถูกสร้างมาเพื่อกิจกรรมระยะยาว
และโครงสร้างร่างกายของพวกมัน
ทำให้การเดินกะโผลกกะเผลก
ซึ่งช่วยประหยัดพลังงานในการเดิน/วิ่ง
.
.
9. ไม่ได้อาศัยอยู่ในทุ่งหญ้าสะวันนาเท่านั้น
โดยทั่วไปไฮยีน่าจะอาศัยอยู่ที่
ทุ่งหญ้าสะวันนาและทุ่งหญ้าในแอฟริกา
แต่พวกมันก็เจริญเติบโตได้
ในสภาพแวดล้อมที่หลากหลาย
รวมถึงแหล่งที่อยู่อาศัยต่าง ๆ
ทั่วแอฟริกาและบางส่วนของเอเชีย
ไฮยีนาบางสายพันธุ์ เช่น ไฮยีนาสีน้ำตาล
มีความสามารถในการปรับตัวให้เข้ากับ
สภาพแวดล้อมที่แห้งแล้งได้ดี
รวมถึงพื้นที่กึ่งทะเลทราย
นอกจากนี้ยังพบได้ในพื้นที่ภูเขา เช่น
ที่ราบสูงเอธิโอเปีย
ไฮยีนาเริ่มมีให้เห็นมากขึ้นในเขตเมือง
นอกจากนี้ยังพบได้ในป่าและป่าไม้ด้วย
.
.
10. ตัวเมียมีองคชาตเทียม
ไฮยีนาลายจุดตัวเมียมีลักษณะ
ทางกายวิภาคเฉพาะตัวคือ
การองคชาตเทียม pseudo-penis
โครงสร้างนี้ไม่ใช่องคชาตจริง ๆ
แต่เป็นคลิตอริสที่ยาวซึ่งมีขนาด
และรูปร่างใกล้เคียงกับองคชาตของตัวผู้มาก
พวกมันเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม
เพียงชนิดเดียวที่สามารถผสมพันธุ์
ปัสสาวะ และคลอดบุตรผ่านทาง
ช่องคลอดที่คล้ายกับองคชาต
ตัวเมียยังสามารถแข็งตัวได้ด้วยซ้ำ
มีทฤษฎีหลายประการที่อธิบายว่า
ทำไมพวกมันจึงมีลักษณะเช่นนี้
อาจเป็นรูปแบบของการส่งสัญญาณ
การยอมจำนนหรือการประนีประนอม
อาจทำให้ไฮยีนาตัวเมีย
ควบคุมการผสมพันธุ์ได้มากขึ้น
เพราะโครงสร้างนี้ทำให้ตัวผู้
จะสามารถผสมพันธุ์ได้
ก็ต่อเมื่อตัวเมียให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่
หรืออาจเป็นผลข้างเคียงจากการ
มีระดับ แอนโดรเจน (ฮอร์โมนเพศผู้)
ในร่างกายมีระดับสูงมาก
.
เรียบเรียง/ที่มา
https://tinyurl.com/2p997s3a
https://tinyurl.com/4drmrykd
.
.
© Sinosphere 漢字文化圈
.
ไฮยีน่า (鬣狗) Hyenas
เคยมีอยู่ในจีนยุคโบราณ
หลังจากสิ้นสุดยุคน้ำแข็ง
เมื่อราว 10,000 ปีก่อน
ฝูงไฮยีน่าค่อย ๆ สูญพันธุ์หายไปจากจีน
แต่ยังมีฝูงไฮยีน่าเหลืออยู่ในจีนเพียงไม่กี่ตัว
จนกระทั่งถึงยุคอารยธรรม
ไฮยีน่าสร้างด้วยทองสำริดของจีน
จึงมีต้นแบบมาจากไฮยีน่า
สร้างขึ้นในสมัยราชวงศ์โจวตะวันตก
(1,046 - 771 ปีก่อนคริสตกาล)
.
.
© Will Clothier
.
.
.
© Axel Hunnicutt
.
.
.
© Axel Hunnicutt
.
.
.
ไฮยีน่าตัวเมียขนาดองคชาติเทียมเล็กกว่า
กับตัวเมียที่ขนาดองคชาติเทียมใหญ่กว่า
© Axel Hunnicutt
.
.