เมื่อสัตว์เลี้ยงที่เรารักตายจากไป...

กระทู้สนทนา
เมื่อวานเมื่อวันที่ 25 สิงหาคม พ.ศ 2567 เวลา15:10 หมาที่เรารักได้ตายจากไปค่ะ น้องมีอายุเกือบ16ปีแล้ว เป็นพันธ์ชิสุเพศผู้ น้องมีอาการตาต้อ มีโรคเกี่ยวกับปอด เพราะน้องค่อนข้างหายใจหอบถี่ แถมน้ำหนักตัวเยอะด้วย ในคืนก่อนที่น้องจะเสียน้องไม่ยอมนอนค่ะ ปกติน้องมักจะตื่นมากลางดึกแล้วร้อง แต่คืนนั้นน้องนั่งนิ่งๆไม่ยอมนอนทั้งคืน ข้าวกับขนมที่ปกติจะกินหมดประจำก็กินนิดเดียว ก่อนที่น้องจะเสียคุณยายเรานำอาหารแท่งที่เค้าชอบกินประจำให้เขากิน เขาก็กินไปเราจึงนำน้ำมาให้เขาทาน จากนั้นสักพักเขาก็มาหนุนขายายเราค่ะ หนุนไปได้สักพักเขาก็ถ่ายออกมา ซึ่งก็ถือเป็นเรื่องปกติในบ้านเราแล้วที่เขาถ่ายในบ้าน เพราะเป็นหมาแก่ แต่คราวนี้เหมือนน้องมีอาการเบ่งไม่ออกด้วยทำให้บางส่วนที่ถ่ายไม่หมดยังอยู่ หลังจากทำความสะอาดตรงส่วนนั้นอยู่ๆเขาก็ นอนแหมะลงไปแล้วไม่หายใจเลยค่ะ แต่เขายังคงหายใจรัวรินอยู่ คุณยายกับเราเลยลูบหัวเขาแล้วบอกว่าไม่ต้องห่วงนะ จะไปก็ไปเลยนะ อย่าทุกข์ทรมานนะ จากนั้นเขาก็กระตุกเบาๆอยู่สองสามครั้งก่อนจะแน่นิ่งไปเลยค่ะ หลังจากนั้นเราก็นั่งกอดเขาแล้วร้องไห้อยู่อย่างนั้นจนถึงตอนหกโมงที่ต้องนำน้องลงไปฝังแถวหน้าบ้าน เขาเป็นหมาที่โตมากับเราค่ะ อยู่ด้วยกันตั้งแต่ประถมจนตอนนี้เราจะเรียนจบมหาลัยแล้ว ถึงแม้บ้านเราจะไม่ได้รับเขามาเลี้ยงเพราะความเต็มใจเท่าไหรในตอนแรก (เขาเป็นหมาของพระที่สนิทที่เขาเสียชีวิตไปค่ะ ทางญาติฝั่งพระเขาไม่เลี้ยง บ้านเราจึงต้องนำเขามาเลี้ยงแทน) แต่เขาก็เป็นหมาที่ผูกพันกับบ้านเรามากๆค่ะ ถึงแม้เราจะไม่รู้สาเหตุว่าเขาเป็นอะไรถึงเสีย แต่ก็คิดว่าน่าจะเป็นเพราะอาการชราค่ะ ก่อนนำไปฝังเราเลยบอกเขาไปว่า ถ้าการเกิดใหม่หรือปาฏิหาริย์มีจริงก็ขอให้เขามาอยู่กับเราอีกค่ะ ส่วนใหญ่แล้วในบ้านจะมียายกับเราที่ผูกพันกับน้องมากที่สุดค่ะ เรามักจะมีนิสัยที่ชอบเรียกชื่อน้องแบบไม่มีเหตุผลด้วยค่ะ พอถึงเมื่อวานพอเรียกขึ้นมาก็รู้สึกเศร้าทุกรอบ เรารักเขาเหมือนเขาเป็นน้องชายของเราคนหนึ่ง เมื่อเช้านี้ตื่นมาเรายังมองหาเขาเลยค่ะ เพราะปกติเวลาตื่นมาจะเจอเขานอนอยู่ข้างๆเราเสมอ เรากับยายมักจะอยู่ชั้นล่างของบ้านค่ะ สมาชิกที่เหลือส่วนใหญ่จะอยู่กันด้านบนบ้าน หลังจากที่ฝังน้องไปบ้านตรงส่วนล่างก็เงียบจริงๆค่ะ ในปกติมักจะมีเสียงเขาร้อง หรือเสียงบ่นของยายที่บ่นเขา อะไรต่างๆ แต่มันไม่มีเลยค่ะ เราไม่ชินกับความรู้สึกแบบนี้จริงๆ แต่ก็ต้องทำใจยอมรับ บางคนบอกว่าสัตว์เลี้ยงเป็นแค่ส่วนหนึ่งในชีวิตของเรา แต่สำหรับเขา เราคือโลกทั้งใบของเขา แต่สำหรับเราแล้วเขาคือโลกใบนึงของเราเช่นเดียวกันค่ะ ความจริงแล้ว เราก็เตรียมใจมาตั้งแต่แรกแล้วว่าเขาน่าจะต้องไปในปีนี้ แต่การไปของเขามันกระทันหันจริงๆค่ะ ไม่ถึง10นาทีด้วยซ้ำ  ไม่มีสัญญาณอะไรบอกเลย พอหลับตาลง ภาพน้องในเหตุการ์ณนั้นก็ฉายขึ้นมาในหัวซ้ำๆ เราร้องไห้ตั้งแต่ตอนที่เขาเสียไปจนถึงตอนนี้ก็ยังร้องไห้เลยค่ะ555 แต่เขาคงอยากจะให้เรามีความสุขมากกว่า บางคนบอกว่าที่เขาไม่ยอมไปเพราะเขาห่วงเรากับยายค่ะ แต่พอลูบหัวแล้วบอกน้องไปแบบนั้น ทำให้เขาเลยจากไปอย่างสงบ เราคิดถึงเขามากๆเลยค่ะ ถึงแม้จะดีใจที่เขาไม่ต้องทรมานและจากไป แต่ลึกๆในใจมันก็เสียใจมากๆค่ะ เมื่อคืนวันก่อนเรายังคิดว่าอย่างน้อย ถ้าเค้าะไปก็อยากให้เขาดูใบปริญญาของเราก่อนไป แต่เขาก็คงสู้เต็มที่แล้วจริงๆค่ะ เราได้แต่ชมเขาว่าเขาเก่งมากจริงๆ ที่อยู่มาถึงขนาดนี้ บ้านเราอาจจะไม่ได้มีเงินเยอะมากถึงขนาดพาเขาไปรักษาได้เต็มที่ แล้วบ้านเราก็พยายามอย่างสุดความสามารถในการมอบความรักและดูแลเขาแล้วจริงๆค่ะ  ค่ารักษาในคลินิคเอกชนค่อนข้างแพงมาก ตอนที่เราพาน้องไปหาในคลินิคอนามัยรัฐบาล เขาก็บอกให้ปล่อยไปค่ะ เพราะน้องเองก็อายุเยอะแล้ว  

สุดท้ายนี้เราอยากฟังเรื่องราว ความทรงจำดีๆ หรือประสบการ์ณของคนที่เคยสูญเสียสัตว์เลี้ยงที่รักไปเหมือนกันกับเราค่ะ หากเพื่อนๆชาวพันทิปอยากแบ่งปัน ระบาย หรือแชร์กัน ก็สามารถมาแชร์กันได้เลยนะคะ^^
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่