สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 17
ไม่เกี่ยวครับ ผมจะตอบให้ง่ายๆ
ถ้าเด็กจบใหม่ 400K คน ข้าราชการเปิดรับ 50K ตำแหน่ง แปลว่า
350K จะตกงาน สะสมไปปีที่ 2
ปีที่ 2 ทุกคนพร้อมคิดว่าอยากได้ข้าราชการ แต่ก็ยังเปิดรับแค่ 50K ตำแหน่ง เมื่อรวมกับเด็กจบใหม่อีก 400K แปลว่า
350K ปีที่แล้ว + 350K ปีใหม่ = จะมีโอกาศที่มีคนสอบไม่ผ่านสะสมสูง 700K
ปีที่ 3 ผมพูดเหมอืนเดิมเลย
700K+350K = 1.05
1.05+0.35K = 1.4 ล้าน
คุณเห็นไหมว่านี่คืออะไร มันก็คือปัญหา คนว่างงานนั่นแหละครับ ไม่เกี่ยว่าจะเอกชน หรือ ข้าราชการ หรือ เศรษฐกิจ ถ้าแกไม่ได้เข้าใจตัวเลขแบบนี้เลยนะ แปลว่าแกไม่ได้เก่ง
มันจะสะสมเหมือนดอกเบี้ยทบต้น ไปจนกว่าใครจะรู้ความจริงก็ท้อแท้แล้วไม่สอบแม้มแล้ว สอบไปก็คนแข่งขันเป็นล้านเลยหรอพี่
มันไม่มีคนกว่า 30 ล้านคนที่สามารถ เป็นข้าราชการได้ทุกคนแต่แรกแล้วอะครับ แต่คนตรงนี้เขาหนีมาเจอทางตันต่างหาก หรือ ก็คือยอมทิ้งอนาคตทางอื่น แล้วมาตบตีแย่งชิงตำแหน่งข้าราชการแทนที่มีจำนวนจำกัดไม่เพียงพอต่อคนวัยทำงานทุกคน
มันอธิบายเหมือนเวลา เราอุปทานหมู่ วิ่งมากักตุนอาหารตบตีแย่งชิงซื้ออาหารจำนวนมาก หลายล้านคนในเวลาเดียวกัน แต่สินค้าหรือตำแหน่งข้าราชการยังคงมีจำนวนเท่าเดิมเสมอมา ผลิตได้เท่าเดิม ให้ได้เท่าเดิม จ่ายไหวเท่าเดิม คนก็จะอดอยากมากขึ้นเรื่อยๆ จากสินค้าที่ไม่เคยเพียงพอต่อความต้องการแต่แรก
บริษัทเล็กใหญ่ปิดตัวเพราะคนแห่ลาออกสอบข้าราชการกันหมด ไม่มีลูกจ้าง นายจ้างก็อยู่ไม่ได้ พอนายจ้างอยู่ไม่ได้ เงินภาษีก็ไม่มี แล้วไหนอะเงินเดือนข้าราชการ คือ มันจะ chain combo ไปจนทุกคนซวยหมดนี่แหละ หลักเศรษฐศาสตร์ง่ายๆ
แปลว่ามันจะเกิดสิ่งที่ ขาดตลาดอย่างรุนแรงแน่ๆ และ สิ่งที่ผมอธิบายผ่านตัวเลขธรรมดา มันก็แค่คนตกงานกว่า 10 ล้านคน เพียงเพราะหลงเชื่อว่ามันกำลังแย่ ต้องรีบไปสอบกันเร็ว แต่การว่างงาน 10 ล้านคนมันแย่สะยิ่งกว่าอีกครับ เหมือนเรากลับไปสู่ 15-20 ปีก่อนที่เราบ่นกันเรื่องหางานไม่ได้ เพราะแค่คำว่าเรียนไม่จบ
ทั้งที่รัฐบาลประกาศมาว่า อยากให้ตลาดแรงงานเอกชนพัฒนาตัวเอง ดึงการจ้างงานจากนายทุนมาเข้าประเทศ ให้เขามาจ้างงานเราเยอะๆ แต่เราดันคิดตรงกันข้าม คือ ไม่พัฒนา ลาออกแล้วไปทำอย่างอื่น ฝรั่งบอกไหนหละแรงงานของผม ไหนหละนักลงทุนที่ไปสัญญากับเขาว่าจะผลิตแรงงานมีคุณภาพให้เพียงพอ ไปจ้างชาติอื่นดีกว่า
มันสร้างความน่ากลัวได้ขนาดไหนหละครับจริงปะ ปัญหาเล็กๆ แต่สร้างความน่ากลัวระดับภัยพิบัติเศรษฐกิจ ถ้าอุปทานหมู่เกิดขึ้นมาแบบปลอมๆ จากข่าวเล็กๆ จากคนที่ไม่รู้อะไรเลยพูดไปเรื่อย ใช่แล้วครับมันคือความเข้าใจผิดของคนกลุ่มเล็ก แล้วเอามาขยี้ให้คนกลุ่มใหญ่เชื่อว่ากำลังแย่แล้วพาคนกลุ่มใหญ่เชื่อว่ามันแย่ แล้วทำให้ตลาดเสียสมดลทันที
แล้วถ้าไม่เก่ง แล้วทำตัวขี้เกียจ หวังเงินเดือน 50K-100K ท่องเอาไว้นะครับ เขาไม่ได้จ้างงานคุณมาเพื่อทำงานเก็บขยะในราคาค่าตัว 100K คุณต้องเก่ง และ ขยันให้ได้มากกว่าคนอื่นเยอะขึ้น
เราต้องแยก เอกชนออกเป็น เอกชนขนาดเล็ก ขนาดกลาง และ ขนาดใหญ่ เหมือน SME เล็ก กลาง ใหญ่ แล้วคุณจะรู้ว่า แต่ละชนชั้นมีปัญหาคนละเรื่องกันเลยครับ
หลายคนที่คิดว่าเอกชนไม่มั่นคงอะมั่วครับ ถ้าเราคิดแบบเหมารวมว่าทุกคนที่ทำงานเอกชน ก็คือ เอกชนคิดแบบนี้พลาดรุนแรงมาก บางคนแค่เรียนจบตรงสาย คิดแบบเหมือนสมัยพ่อแม่บอก จบหมอดีนะลูก ก็เรียนอะอดทนเรียน จบมาก็ได้เป็นหมอไม่เห็นซวยเลย
ทุนการศึกษาอะครับ ถ้าใช้มันเป็นจริงๆ จะรู้ว่า มันเหมือนใบการันตีการจ้างงานเลยแหละ แค่เรียนจบก็ได้งานแล้วครับ ดังนั้น เอกชนกว่า 200-300K ที่ต้องการนักศึกษาไว้ใช้งาน มันก็จะพอดีกับความต้องการบางส่วน
แล้วอีก 50K จะนั่งบ่นตัดพ้อแล้วมาไซโคชาวบ้านว่า โวะตกงาน เครียด ไม่มีโอกาศเลย นั่นนู่นนี่ พวกเนี้ยเหมือนพวกไม่รู้โลกอะไรเลยแล้วมาหาว่า โลกรังแกฉัน
แล้วผมถามเลยเรียนจบอะไรมาหละ อ่อ วิทยาลัย TIKTOK จบ ม.6 ก็ไม่เรียนต่อแล้ว เรียนจบมหาลัยที่ตลาดงานไม่ต้องการ คือ ตอบแค่เนี้ยก็รู้แล้วว่า วุฒิไม่ถึง เรียนในสิ่งที่คนไม่ต้องการ มันก็ต้องตกงานปะ?? งั้นก็ไปเรียนต่อสิหาเงินทุนเรียนต่อ การเรียนบางคนเรียน ป.ตรี ใหม่อีกใบในวัย 30 ด้วยซ้ำครับ เรียนออนไลน์ก็มี เรียนเทียบโทย้ายสายงานก็มี
การศึกษามีอิสระโคตรๆ แต่กลับมาบอกว่า โลกโหดร้าย แก!! มันยึดติดกับค่านิยมตัวเองต่างหาก ไปเปิดโลกสะสมัยนี้เรียนออนไลน์ฟรีบนเน็ตสร้างโปรไฟล์ยังทำงานสาย IT ระดับล่างสุดได้เลยครับ โลกมันไปขนาดนี้แล้ว ถ้าสายวิชาชีพอื่นก็อาจจะซวยหน่อย เพราะคลาสออนไลน์สอนผ่าตัดออนไลน์ หรือ ลงเสาเข็มออนไลน์ไม่มี ต้องเรียนปฏิบัติผ่านมหาลัย
วิศวะ นักบิน หมอ นักบัญชีเก่งๆ นักวิทย์เก่งๆ มันต้องเรียนมหาลัยจริงๆ เพราะมันไม่มี อุปกรณ์ครับ ควรเอาตัวเองไปอยู่ในที่ ที่ใช่ และ ที่ควร ไม่ใช่เอาตัวเองไปจมปรักอยู่กับสิ่งที่ไร้ค่ากับชีวิตหรือเปล่า?? ไม่งั้นนักธุรกิจเรียนบริหารธุรกิจเรียน MBA เรียน NIDA ต่อทำไม หรือ ไปเรียนสายเชฟเรียนสอบแข่งขัน มาแข่งขันรายการ master chef ทำไม??
คนที่ดูรายการอาหารคุณจะเห็น คนจากอาชีพอื่นเปลี่ยนใจเรียนต่อสายอาหาร เพราะสายอาหารไม่ได้ใช้วุฒิการศึกษาครับ เห็นยัง?? โลกมีอิสระเสรีให้คุณเลือกเยอะแยะ
แต่กลับไปเลือกยึดติดกับมุมมองเดิมๆ จะมาโทษโลกโหดร้าย ลองไปดูฝรั่งดู หาซื้อ 3d printer เครื่องทำหมวกเก๋ๆ ทำป้ายเหล็ก ทำงานผ่าน internet เขาไปไกลแล้วครับ เขาทำอาชีพออนไลน์กันแบบเยอะมาก!! แล้วผมเห็นเลยนะ
คนไทยหลายคนก็จะไปเม้นตอบว่า สนใจค่ะ สนใจค่ะ รู้นะว่ามันเป็นบอท แต่คนส่วนมากอ่านข้ามครับ ธุรกิจพวกนั้นทำได้จริง ได้เงิน ได้อาชีพจริง ไม่งั้นมันไม่ทำหรอก แต่เราไม่สนใจจะลงดีเทลศึกษาเอง ไม่ยอมอ่านหนังสือเองก็ช่วยไม่ได้
คุณจะรู้ว่า สายงานเอกชนการเงินเดือน 40K ก่อนอายุ 35 ไม่ใช่เรื่องยากแล้วด้วยซ้ำไปในยุคที่คนยังเอาแต่ตั้งคำถามว่า ห๊ะ บริษัทไหนวะ เขาไม่บอกคุณหรอกครับ 555 ก็เหมือนกับนักลงทุนที่ไม่บอกว่าเราซื้อหุ้นอะไร ทำธุรกิจอะไร เขาจงใจให้คุณไปหาคำตอบเอาเอง!!
ทุกวันนี้ใครพูดอิ้งคล่องบ้างหละ ใครเรียนแคลคูลัส ใครถนัดสายวิทยาศาสตร์จ๋าแบบโชวน์การทดลองวิทยาศาสตร์ได้บ้างหละ?? คำตอบคือน้อยโคตรครับ
คนไทยเป็นคนที่ขี้เกียจเป็นพื้นฐาน และ ไม่ค่อยขยันอ่านหนังสือ ดูได้จากสมัยเรียนเลยแค่เจอวิชายากๆ คือ ไม่เอาแล้วไม่อยากเรียน นั่นแหละมันจะสะท้อนภาพความลำบากของตัวเองในวันนี้ครับ ไม่อยากเรียนภาษาอังกฤษ พอวันนี้หลายคนต้องใช้ภาษาอังกฤษ ก็แทบจะทำอะไรไม่ได้ไม่อยากเรียน อยากดูละคร ดูซีรีย์ นอนเฉยๆ
สุดท้ายชีวิตไม่ไหว ก็ไปอ่านหนังสือสอบข้าราชการ เอ้า แล้วทำไมไม่ขยันอ่านหนังสือตอนยังเป็นเด็กหละ ตอนที่พ่อแม่ยังให้เราแค่เรียนหนังสือไปวันๆ
คนไม่เก่งเขายังแบ่งเวลาไปอ่านหนังสือเลยถึงจะอายุ 30 ปีแล้วก็ตาม อ่านท่องคำศัพท์วันละนิดวันละหน่อย ลองพูดลองจาไปเรื่อยๆ นั่นแหละเขาไม่ได้ทำเรื่องยากกัน
คนไทยยังเอาแต่ยึดติด ชีวิตสบาย อยากถูกหวยแล้วรวยเลย ไม่ทำงานทำการก็ได้เงิน อยากทำงานน้อยๆ ได้เงินเดือนเยอะๆ เชิญคิดแบบนี้แล้วสอบแข่งขันกับข้าราชการไปเหอะ
เอกชนอันดับบนๆ ไม่เอาคนแบบนี้เข้าทำงานกับบริษัทแน่นอน แล้วเด็กจบใหม่กว่า 100K เขาทำได้กันหมดครับ แค่ตั้งใจเรียนภาษาอังกฤษเพิ่มอีกแค่สัก 1 วิชาเท่านั้น
เพราะเอกชนจะรู้ดีว่า ถ้าคิดว่าสายงานตัวเองในประเทศมันน้อย งั้นเราก็เพิ่มโอกาศจากสายงานต่างชาติไปด้วยครับ หรือ ถ้าไปได้สวยนะ ออกจากประเทศเฮงซวยนี้ไปเลยก็ได้
แต่ผมคงไม่ออกนะ ขอทำงานอยู่ไทย แต่รับเงินเดือนแบบต่างชาติ แล้วใช้ชีวิตสุขสบายแบบนั้นดีกว่า เอกชนคิดงี้กันครับตำแหน่งบนๆ ไม่งั้นไม่ส่งเรียนใช้ทุนการศึกษา ส่งเรียนนอก เรียนอินเตอร์กันหรอกครับ แค่เรียนไหวเรียนให้จบ เรียนให้ถูกสาย
แค่ลงทุน 2 ล้านก็ได้ทำงานระดับ 50-60K แล้วครับ จริ้ง ทำงาน 50-60K อะทำงานสัก 8 ปีก็หาเงิน 2 ล้านได้แล้วถ้าประหยัดอดออมหน่อย ทำไมถึงคิดง่าย
มันคิดเหมือนคนเรียนโทอะแล้วหวังอัพเงินเดือน 5000-10000 ตามวุฒิ ถ้าเรียนไหวมีเวลา ลงทุนหาเงินเรียนต่อ 300-400K สูงอยู่สำหรับค่าเทอม
ได้เงินเพิ่มมา 5000 ทำงานแบบนี้ 5 ปี ก็ได้เงินค่าเทอมคืนแล้วครับ แถมได้วุฒิ phD ที่เหลือคือกำไรแล้ว
ส่วนพวกที่ส่งลูกเรียนแพง เขาไมไ่ด้ส่งเรียนมั่วซั่วนะ สมมุติถ้าตั้งใจส่งหมออาจจะใช้ทุน 2 ล้าน ถ้าลูกไปได้เงินเดือนถึง 50K ก่อนก็ได้ แค่ทำงาน + OT คนจบหมอถึงอยู่แล้วครับ
50K ทำงาน 12 เดือน เวลา 8 ปี = 50000 * 12 * 8 = 4.8 ล้านเงินที่หาได้ เห็นไหมจ่าย 2 ล้านหาได้เยอะกว่ากี่เท่า นี่แหละครับสิ่งที่คนจนไม่รู้ แล้วก็ไม่เข้าใจกันสักทีในยุคนี้
แล้วคิดว่า เอกชนกำลังแย่ มันแย่แค่พวกเอกชนต๊อกต๋อยเลยนะ แต่เอกชนกลางๆ บนๆ คือ กินเงินหอมๆ อร่อยๆ จุกๆ แล้วก็ยังมีความต้องการคนเก่งอยู่เพราะคนมาได้มันน้อยจริงๆ ขนาดสายงานเราก็ยังมองหาคนเก่ง คนมีความสามารถมากพอด้วย
เหมือนกับที่คนนึงพูดในข่าวอะ ประเทศไทยต้องการคนฉลาด คนเก่ง วิศวะ วิทยาศตร์ เพื่อพัฒนาประเทศ ไม่ใช่คนเก็บขยะ ไม่ใช่คนทั่วไป พนักงานบัญชี เดี๋ยว AI ก็ทำงานแทนได้ในสักวัน มันก็เลิกจ้างแล้ว
ดังนั้นเขาจะสอนกันเลยว่า ถ้าจะเลือกเส้นทางชีวิต ก็ควรเลือกอาชีพที่ตกงานยากที่สุด หรือ มีโอกาศต่อยอดสูงที่สุด
ซึ่งคนไทยมันไม่เรียนกันครับ มันเรียนนิเทศน์ เรียนมหาลัยอะไรก็ได้ จะได้ไม่น้อยหน้าหลานป้าข้างบ้าน ขอให้จบกลัวน้อยหน้าคนอื่นกลัวไม่มีปริญญา นั่นแหละปัญหา
เอกชนกลางๆ บนๆ ไม่ค่อยมีคนเก่งเพียงพอทำงานครับ ยังมีฝรั่งมองหาคนเก่งๆ อีกเยอะแล้วเขาพร้อมเสนอให้จริง แต่ต้องมาให้ถึง พยายามให้ถึง เรียนให้ถึง ต้องลงทุนกับการศึกษา แต่ทำไงได้ ไม่ขยันอ่านหนังสือก็ช่วยไม่ได้นะ มันไม่มีทางลัด มันก็เหมือนสอบภาษาอังกฤษไม่ผ่าน แล้วใครเขาจะจ้างจริงไหม??
ตำแหน่งงานระดับ 80K เป็นต้นไป ทุกคนต้องพูด ENG ได้อย่างน้อยในระดับพอจะ communicate เบื้องต้นได้ ฟัง อ่าน เขียน ระดับแท๊กซี่คุยกับชาวต่างชาติได้ระดับนึง มันไม่ได้ขอเยอะเลยนะสำหรับบางสายงาน ขนาด taxi ยังทำได้ แล้วเราเรียนสูงกว่าเขาอีกนะ
เรื่องปรับเงินเดือนผมให้มองงี้นะ ถ้าเราเงินเดือน 80K ผมยังอัพเงินเดือนอยู่ปีละ 2% = 3k แปลว่า เงินจะมีเยอะขึ้นจนกว่าจะตัน หรือ ฝาก PVD เยอะหน่อยได้สมทบเยอะ แปลว่า
เราจะได้อัพเงินเดือนกันทุกปีครับ นั่นคือสาเหตุที่ทำไมมันดูรวยเวอร์เลย ในขณะที่อาชีพอื่น แทบไม่ได้หวังอัพเงินเดือนกันเลย บริษัทที่เขาแคร์คนมีความสามารถอะครับ เขาปรับเงินให้กันเองตามค่าครองชีพก่อนได้เลยไม่รอนโยบาย ปรับให้ก่อนข้าราชการจะได้ด้วย ^^ สมัยนี้มันไม่เหมือนสมัยก่อน หรือ ภาพจำเหมือนที่หลายคนคิดเพราะคนเก่งต้องรักษาเอาไว้ อย่าให้หายถ้าหายแล้วจะไม่กลับมาทำงานด้วยกันอีก มันจะกา red flag ใส่เลย
มีแต่คนมาถึงเท่านั้นจะเห็นครับ คนมาไม่ถึงจะเข้าใจผิดไปเรื่อยๆ ตามที่ internet discredit เอกชน มีน้องๆ เก่งๆ ทำได้กันเยอะเลยสมัยเนี้ย แอบสปอย จริงๆ เขาทำงาน wfh หนะ ไม่ได้เลิกจ้างทุกคนนะ
ลองพิจารณาเองครับว่าอะไรดีกับชีวิตตัวเอง หรือ อยากทำอะไร อะไรจริงหรือข่าวปลอมลองศึกษาเองดู หรือ ไม่ก็มาให้เห็นดูเองแล้วจะรู้เอง
แต่ถ้าให้สปอย อยากรวยก็อย่าคิดแบบที่คนอื่นคิด ถ้าคนอื่นคิดแล้วพาชีวิตไปจน เราก็จะจนไปกับคนพวกนี้ เขาถึงสอนกันไงตั้งแต่ในอดีตจนถึงปัจจุบัน
อยากรวยก็ต้องไปหาคนรวยๆ คบค้าสมาคมเรียนรู้ด้วยกัน เราถึงจะรู้ว่า คนรวยทำไงถึงรวย ไม่ใช่ไปเรียนรู้จากคนที่จนกว่าเราหรือไปอยู่กับเอกชนที่จนกว่าเยอะมากๆ
ไปเรียนจากพนักงานขนส่งธรรมดา เราก็จะจนและได้ชีวิตแบบพนักงานขนส่งธรรมดา เห็นไหมครับหลักฐานมันชัดขนาดนี้ ถ้าเราอยากได้ชีวิตแบบไหนก็จงทำตัวเองให้อยู่กับคนแบบนั้นให้ได้
หรือถ้าอย่างสอบข้าราชการอะ ถ้าหลายคนนับ 1 ล้านคนไปแย่งกระจายสอบ เห็นมะเราก็จะเสี่ยงไม่ได้สอบไม่ผ่านเยอะ นั่นแหละ อุปสงค์ อุปทาน ถ้าเราไปทำตามคนหมู่มาก มันจะเฟ้อ การที่มันเฟ้อ มันจะไม่ดีก็ระวังเอาไว้ เพราะถ้าทุ่มเทไปมาก เวลาพัฒนาส่วนอื่นมันก็จะหายไปด้วยเสมอ
เพราะคนเราอาจจะไม่เก่งแบบเหยียบเรือสองรำได้ มันอาจจะต้องเลือกสักทางเลย
เอกชนใช้แค่หลักการนี้แค่นั้นในการพัฒนาตัวเอง จริ้ง มันไม่ได้มีความลับคร
ถ้าเด็กจบใหม่ 400K คน ข้าราชการเปิดรับ 50K ตำแหน่ง แปลว่า
350K จะตกงาน สะสมไปปีที่ 2
ปีที่ 2 ทุกคนพร้อมคิดว่าอยากได้ข้าราชการ แต่ก็ยังเปิดรับแค่ 50K ตำแหน่ง เมื่อรวมกับเด็กจบใหม่อีก 400K แปลว่า
350K ปีที่แล้ว + 350K ปีใหม่ = จะมีโอกาศที่มีคนสอบไม่ผ่านสะสมสูง 700K
ปีที่ 3 ผมพูดเหมอืนเดิมเลย
700K+350K = 1.05
1.05+0.35K = 1.4 ล้าน
คุณเห็นไหมว่านี่คืออะไร มันก็คือปัญหา คนว่างงานนั่นแหละครับ ไม่เกี่ยว่าจะเอกชน หรือ ข้าราชการ หรือ เศรษฐกิจ ถ้าแกไม่ได้เข้าใจตัวเลขแบบนี้เลยนะ แปลว่าแกไม่ได้เก่ง
มันจะสะสมเหมือนดอกเบี้ยทบต้น ไปจนกว่าใครจะรู้ความจริงก็ท้อแท้แล้วไม่สอบแม้มแล้ว สอบไปก็คนแข่งขันเป็นล้านเลยหรอพี่
มันไม่มีคนกว่า 30 ล้านคนที่สามารถ เป็นข้าราชการได้ทุกคนแต่แรกแล้วอะครับ แต่คนตรงนี้เขาหนีมาเจอทางตันต่างหาก หรือ ก็คือยอมทิ้งอนาคตทางอื่น แล้วมาตบตีแย่งชิงตำแหน่งข้าราชการแทนที่มีจำนวนจำกัดไม่เพียงพอต่อคนวัยทำงานทุกคน
มันอธิบายเหมือนเวลา เราอุปทานหมู่ วิ่งมากักตุนอาหารตบตีแย่งชิงซื้ออาหารจำนวนมาก หลายล้านคนในเวลาเดียวกัน แต่สินค้าหรือตำแหน่งข้าราชการยังคงมีจำนวนเท่าเดิมเสมอมา ผลิตได้เท่าเดิม ให้ได้เท่าเดิม จ่ายไหวเท่าเดิม คนก็จะอดอยากมากขึ้นเรื่อยๆ จากสินค้าที่ไม่เคยเพียงพอต่อความต้องการแต่แรก
บริษัทเล็กใหญ่ปิดตัวเพราะคนแห่ลาออกสอบข้าราชการกันหมด ไม่มีลูกจ้าง นายจ้างก็อยู่ไม่ได้ พอนายจ้างอยู่ไม่ได้ เงินภาษีก็ไม่มี แล้วไหนอะเงินเดือนข้าราชการ คือ มันจะ chain combo ไปจนทุกคนซวยหมดนี่แหละ หลักเศรษฐศาสตร์ง่ายๆ
แปลว่ามันจะเกิดสิ่งที่ ขาดตลาดอย่างรุนแรงแน่ๆ และ สิ่งที่ผมอธิบายผ่านตัวเลขธรรมดา มันก็แค่คนตกงานกว่า 10 ล้านคน เพียงเพราะหลงเชื่อว่ามันกำลังแย่ ต้องรีบไปสอบกันเร็ว แต่การว่างงาน 10 ล้านคนมันแย่สะยิ่งกว่าอีกครับ เหมือนเรากลับไปสู่ 15-20 ปีก่อนที่เราบ่นกันเรื่องหางานไม่ได้ เพราะแค่คำว่าเรียนไม่จบ
ทั้งที่รัฐบาลประกาศมาว่า อยากให้ตลาดแรงงานเอกชนพัฒนาตัวเอง ดึงการจ้างงานจากนายทุนมาเข้าประเทศ ให้เขามาจ้างงานเราเยอะๆ แต่เราดันคิดตรงกันข้าม คือ ไม่พัฒนา ลาออกแล้วไปทำอย่างอื่น ฝรั่งบอกไหนหละแรงงานของผม ไหนหละนักลงทุนที่ไปสัญญากับเขาว่าจะผลิตแรงงานมีคุณภาพให้เพียงพอ ไปจ้างชาติอื่นดีกว่า
มันสร้างความน่ากลัวได้ขนาดไหนหละครับจริงปะ ปัญหาเล็กๆ แต่สร้างความน่ากลัวระดับภัยพิบัติเศรษฐกิจ ถ้าอุปทานหมู่เกิดขึ้นมาแบบปลอมๆ จากข่าวเล็กๆ จากคนที่ไม่รู้อะไรเลยพูดไปเรื่อย ใช่แล้วครับมันคือความเข้าใจผิดของคนกลุ่มเล็ก แล้วเอามาขยี้ให้คนกลุ่มใหญ่เชื่อว่ากำลังแย่แล้วพาคนกลุ่มใหญ่เชื่อว่ามันแย่ แล้วทำให้ตลาดเสียสมดลทันที
แล้วถ้าไม่เก่ง แล้วทำตัวขี้เกียจ หวังเงินเดือน 50K-100K ท่องเอาไว้นะครับ เขาไม่ได้จ้างงานคุณมาเพื่อทำงานเก็บขยะในราคาค่าตัว 100K คุณต้องเก่ง และ ขยันให้ได้มากกว่าคนอื่นเยอะขึ้น
เราต้องแยก เอกชนออกเป็น เอกชนขนาดเล็ก ขนาดกลาง และ ขนาดใหญ่ เหมือน SME เล็ก กลาง ใหญ่ แล้วคุณจะรู้ว่า แต่ละชนชั้นมีปัญหาคนละเรื่องกันเลยครับ
หลายคนที่คิดว่าเอกชนไม่มั่นคงอะมั่วครับ ถ้าเราคิดแบบเหมารวมว่าทุกคนที่ทำงานเอกชน ก็คือ เอกชนคิดแบบนี้พลาดรุนแรงมาก บางคนแค่เรียนจบตรงสาย คิดแบบเหมือนสมัยพ่อแม่บอก จบหมอดีนะลูก ก็เรียนอะอดทนเรียน จบมาก็ได้เป็นหมอไม่เห็นซวยเลย
ทุนการศึกษาอะครับ ถ้าใช้มันเป็นจริงๆ จะรู้ว่า มันเหมือนใบการันตีการจ้างงานเลยแหละ แค่เรียนจบก็ได้งานแล้วครับ ดังนั้น เอกชนกว่า 200-300K ที่ต้องการนักศึกษาไว้ใช้งาน มันก็จะพอดีกับความต้องการบางส่วน
แล้วอีก 50K จะนั่งบ่นตัดพ้อแล้วมาไซโคชาวบ้านว่า โวะตกงาน เครียด ไม่มีโอกาศเลย นั่นนู่นนี่ พวกเนี้ยเหมือนพวกไม่รู้โลกอะไรเลยแล้วมาหาว่า โลกรังแกฉัน
แล้วผมถามเลยเรียนจบอะไรมาหละ อ่อ วิทยาลัย TIKTOK จบ ม.6 ก็ไม่เรียนต่อแล้ว เรียนจบมหาลัยที่ตลาดงานไม่ต้องการ คือ ตอบแค่เนี้ยก็รู้แล้วว่า วุฒิไม่ถึง เรียนในสิ่งที่คนไม่ต้องการ มันก็ต้องตกงานปะ?? งั้นก็ไปเรียนต่อสิหาเงินทุนเรียนต่อ การเรียนบางคนเรียน ป.ตรี ใหม่อีกใบในวัย 30 ด้วยซ้ำครับ เรียนออนไลน์ก็มี เรียนเทียบโทย้ายสายงานก็มี
การศึกษามีอิสระโคตรๆ แต่กลับมาบอกว่า โลกโหดร้าย แก!! มันยึดติดกับค่านิยมตัวเองต่างหาก ไปเปิดโลกสะสมัยนี้เรียนออนไลน์ฟรีบนเน็ตสร้างโปรไฟล์ยังทำงานสาย IT ระดับล่างสุดได้เลยครับ โลกมันไปขนาดนี้แล้ว ถ้าสายวิชาชีพอื่นก็อาจจะซวยหน่อย เพราะคลาสออนไลน์สอนผ่าตัดออนไลน์ หรือ ลงเสาเข็มออนไลน์ไม่มี ต้องเรียนปฏิบัติผ่านมหาลัย
วิศวะ นักบิน หมอ นักบัญชีเก่งๆ นักวิทย์เก่งๆ มันต้องเรียนมหาลัยจริงๆ เพราะมันไม่มี อุปกรณ์ครับ ควรเอาตัวเองไปอยู่ในที่ ที่ใช่ และ ที่ควร ไม่ใช่เอาตัวเองไปจมปรักอยู่กับสิ่งที่ไร้ค่ากับชีวิตหรือเปล่า?? ไม่งั้นนักธุรกิจเรียนบริหารธุรกิจเรียน MBA เรียน NIDA ต่อทำไม หรือ ไปเรียนสายเชฟเรียนสอบแข่งขัน มาแข่งขันรายการ master chef ทำไม??
คนที่ดูรายการอาหารคุณจะเห็น คนจากอาชีพอื่นเปลี่ยนใจเรียนต่อสายอาหาร เพราะสายอาหารไม่ได้ใช้วุฒิการศึกษาครับ เห็นยัง?? โลกมีอิสระเสรีให้คุณเลือกเยอะแยะ
แต่กลับไปเลือกยึดติดกับมุมมองเดิมๆ จะมาโทษโลกโหดร้าย ลองไปดูฝรั่งดู หาซื้อ 3d printer เครื่องทำหมวกเก๋ๆ ทำป้ายเหล็ก ทำงานผ่าน internet เขาไปไกลแล้วครับ เขาทำอาชีพออนไลน์กันแบบเยอะมาก!! แล้วผมเห็นเลยนะ
คนไทยหลายคนก็จะไปเม้นตอบว่า สนใจค่ะ สนใจค่ะ รู้นะว่ามันเป็นบอท แต่คนส่วนมากอ่านข้ามครับ ธุรกิจพวกนั้นทำได้จริง ได้เงิน ได้อาชีพจริง ไม่งั้นมันไม่ทำหรอก แต่เราไม่สนใจจะลงดีเทลศึกษาเอง ไม่ยอมอ่านหนังสือเองก็ช่วยไม่ได้
คุณจะรู้ว่า สายงานเอกชนการเงินเดือน 40K ก่อนอายุ 35 ไม่ใช่เรื่องยากแล้วด้วยซ้ำไปในยุคที่คนยังเอาแต่ตั้งคำถามว่า ห๊ะ บริษัทไหนวะ เขาไม่บอกคุณหรอกครับ 555 ก็เหมือนกับนักลงทุนที่ไม่บอกว่าเราซื้อหุ้นอะไร ทำธุรกิจอะไร เขาจงใจให้คุณไปหาคำตอบเอาเอง!!
ทุกวันนี้ใครพูดอิ้งคล่องบ้างหละ ใครเรียนแคลคูลัส ใครถนัดสายวิทยาศาสตร์จ๋าแบบโชวน์การทดลองวิทยาศาสตร์ได้บ้างหละ?? คำตอบคือน้อยโคตรครับ
คนไทยเป็นคนที่ขี้เกียจเป็นพื้นฐาน และ ไม่ค่อยขยันอ่านหนังสือ ดูได้จากสมัยเรียนเลยแค่เจอวิชายากๆ คือ ไม่เอาแล้วไม่อยากเรียน นั่นแหละมันจะสะท้อนภาพความลำบากของตัวเองในวันนี้ครับ ไม่อยากเรียนภาษาอังกฤษ พอวันนี้หลายคนต้องใช้ภาษาอังกฤษ ก็แทบจะทำอะไรไม่ได้ไม่อยากเรียน อยากดูละคร ดูซีรีย์ นอนเฉยๆ
สุดท้ายชีวิตไม่ไหว ก็ไปอ่านหนังสือสอบข้าราชการ เอ้า แล้วทำไมไม่ขยันอ่านหนังสือตอนยังเป็นเด็กหละ ตอนที่พ่อแม่ยังให้เราแค่เรียนหนังสือไปวันๆ
คนไม่เก่งเขายังแบ่งเวลาไปอ่านหนังสือเลยถึงจะอายุ 30 ปีแล้วก็ตาม อ่านท่องคำศัพท์วันละนิดวันละหน่อย ลองพูดลองจาไปเรื่อยๆ นั่นแหละเขาไม่ได้ทำเรื่องยากกัน
คนไทยยังเอาแต่ยึดติด ชีวิตสบาย อยากถูกหวยแล้วรวยเลย ไม่ทำงานทำการก็ได้เงิน อยากทำงานน้อยๆ ได้เงินเดือนเยอะๆ เชิญคิดแบบนี้แล้วสอบแข่งขันกับข้าราชการไปเหอะ
เอกชนอันดับบนๆ ไม่เอาคนแบบนี้เข้าทำงานกับบริษัทแน่นอน แล้วเด็กจบใหม่กว่า 100K เขาทำได้กันหมดครับ แค่ตั้งใจเรียนภาษาอังกฤษเพิ่มอีกแค่สัก 1 วิชาเท่านั้น
เพราะเอกชนจะรู้ดีว่า ถ้าคิดว่าสายงานตัวเองในประเทศมันน้อย งั้นเราก็เพิ่มโอกาศจากสายงานต่างชาติไปด้วยครับ หรือ ถ้าไปได้สวยนะ ออกจากประเทศเฮงซวยนี้ไปเลยก็ได้
แต่ผมคงไม่ออกนะ ขอทำงานอยู่ไทย แต่รับเงินเดือนแบบต่างชาติ แล้วใช้ชีวิตสุขสบายแบบนั้นดีกว่า เอกชนคิดงี้กันครับตำแหน่งบนๆ ไม่งั้นไม่ส่งเรียนใช้ทุนการศึกษา ส่งเรียนนอก เรียนอินเตอร์กันหรอกครับ แค่เรียนไหวเรียนให้จบ เรียนให้ถูกสาย
แค่ลงทุน 2 ล้านก็ได้ทำงานระดับ 50-60K แล้วครับ จริ้ง ทำงาน 50-60K อะทำงานสัก 8 ปีก็หาเงิน 2 ล้านได้แล้วถ้าประหยัดอดออมหน่อย ทำไมถึงคิดง่าย
มันคิดเหมือนคนเรียนโทอะแล้วหวังอัพเงินเดือน 5000-10000 ตามวุฒิ ถ้าเรียนไหวมีเวลา ลงทุนหาเงินเรียนต่อ 300-400K สูงอยู่สำหรับค่าเทอม
ได้เงินเพิ่มมา 5000 ทำงานแบบนี้ 5 ปี ก็ได้เงินค่าเทอมคืนแล้วครับ แถมได้วุฒิ phD ที่เหลือคือกำไรแล้ว
ส่วนพวกที่ส่งลูกเรียนแพง เขาไมไ่ด้ส่งเรียนมั่วซั่วนะ สมมุติถ้าตั้งใจส่งหมออาจจะใช้ทุน 2 ล้าน ถ้าลูกไปได้เงินเดือนถึง 50K ก่อนก็ได้ แค่ทำงาน + OT คนจบหมอถึงอยู่แล้วครับ
50K ทำงาน 12 เดือน เวลา 8 ปี = 50000 * 12 * 8 = 4.8 ล้านเงินที่หาได้ เห็นไหมจ่าย 2 ล้านหาได้เยอะกว่ากี่เท่า นี่แหละครับสิ่งที่คนจนไม่รู้ แล้วก็ไม่เข้าใจกันสักทีในยุคนี้
แล้วคิดว่า เอกชนกำลังแย่ มันแย่แค่พวกเอกชนต๊อกต๋อยเลยนะ แต่เอกชนกลางๆ บนๆ คือ กินเงินหอมๆ อร่อยๆ จุกๆ แล้วก็ยังมีความต้องการคนเก่งอยู่เพราะคนมาได้มันน้อยจริงๆ ขนาดสายงานเราก็ยังมองหาคนเก่ง คนมีความสามารถมากพอด้วย
เหมือนกับที่คนนึงพูดในข่าวอะ ประเทศไทยต้องการคนฉลาด คนเก่ง วิศวะ วิทยาศตร์ เพื่อพัฒนาประเทศ ไม่ใช่คนเก็บขยะ ไม่ใช่คนทั่วไป พนักงานบัญชี เดี๋ยว AI ก็ทำงานแทนได้ในสักวัน มันก็เลิกจ้างแล้ว
ดังนั้นเขาจะสอนกันเลยว่า ถ้าจะเลือกเส้นทางชีวิต ก็ควรเลือกอาชีพที่ตกงานยากที่สุด หรือ มีโอกาศต่อยอดสูงที่สุด
ซึ่งคนไทยมันไม่เรียนกันครับ มันเรียนนิเทศน์ เรียนมหาลัยอะไรก็ได้ จะได้ไม่น้อยหน้าหลานป้าข้างบ้าน ขอให้จบกลัวน้อยหน้าคนอื่นกลัวไม่มีปริญญา นั่นแหละปัญหา
เอกชนกลางๆ บนๆ ไม่ค่อยมีคนเก่งเพียงพอทำงานครับ ยังมีฝรั่งมองหาคนเก่งๆ อีกเยอะแล้วเขาพร้อมเสนอให้จริง แต่ต้องมาให้ถึง พยายามให้ถึง เรียนให้ถึง ต้องลงทุนกับการศึกษา แต่ทำไงได้ ไม่ขยันอ่านหนังสือก็ช่วยไม่ได้นะ มันไม่มีทางลัด มันก็เหมือนสอบภาษาอังกฤษไม่ผ่าน แล้วใครเขาจะจ้างจริงไหม??
ตำแหน่งงานระดับ 80K เป็นต้นไป ทุกคนต้องพูด ENG ได้อย่างน้อยในระดับพอจะ communicate เบื้องต้นได้ ฟัง อ่าน เขียน ระดับแท๊กซี่คุยกับชาวต่างชาติได้ระดับนึง มันไม่ได้ขอเยอะเลยนะสำหรับบางสายงาน ขนาด taxi ยังทำได้ แล้วเราเรียนสูงกว่าเขาอีกนะ
เรื่องปรับเงินเดือนผมให้มองงี้นะ ถ้าเราเงินเดือน 80K ผมยังอัพเงินเดือนอยู่ปีละ 2% = 3k แปลว่า เงินจะมีเยอะขึ้นจนกว่าจะตัน หรือ ฝาก PVD เยอะหน่อยได้สมทบเยอะ แปลว่า
เราจะได้อัพเงินเดือนกันทุกปีครับ นั่นคือสาเหตุที่ทำไมมันดูรวยเวอร์เลย ในขณะที่อาชีพอื่น แทบไม่ได้หวังอัพเงินเดือนกันเลย บริษัทที่เขาแคร์คนมีความสามารถอะครับ เขาปรับเงินให้กันเองตามค่าครองชีพก่อนได้เลยไม่รอนโยบาย ปรับให้ก่อนข้าราชการจะได้ด้วย ^^ สมัยนี้มันไม่เหมือนสมัยก่อน หรือ ภาพจำเหมือนที่หลายคนคิดเพราะคนเก่งต้องรักษาเอาไว้ อย่าให้หายถ้าหายแล้วจะไม่กลับมาทำงานด้วยกันอีก มันจะกา red flag ใส่เลย
มีแต่คนมาถึงเท่านั้นจะเห็นครับ คนมาไม่ถึงจะเข้าใจผิดไปเรื่อยๆ ตามที่ internet discredit เอกชน มีน้องๆ เก่งๆ ทำได้กันเยอะเลยสมัยเนี้ย แอบสปอย จริงๆ เขาทำงาน wfh หนะ ไม่ได้เลิกจ้างทุกคนนะ
ลองพิจารณาเองครับว่าอะไรดีกับชีวิตตัวเอง หรือ อยากทำอะไร อะไรจริงหรือข่าวปลอมลองศึกษาเองดู หรือ ไม่ก็มาให้เห็นดูเองแล้วจะรู้เอง
แต่ถ้าให้สปอย อยากรวยก็อย่าคิดแบบที่คนอื่นคิด ถ้าคนอื่นคิดแล้วพาชีวิตไปจน เราก็จะจนไปกับคนพวกนี้ เขาถึงสอนกันไงตั้งแต่ในอดีตจนถึงปัจจุบัน
อยากรวยก็ต้องไปหาคนรวยๆ คบค้าสมาคมเรียนรู้ด้วยกัน เราถึงจะรู้ว่า คนรวยทำไงถึงรวย ไม่ใช่ไปเรียนรู้จากคนที่จนกว่าเราหรือไปอยู่กับเอกชนที่จนกว่าเยอะมากๆ
ไปเรียนจากพนักงานขนส่งธรรมดา เราก็จะจนและได้ชีวิตแบบพนักงานขนส่งธรรมดา เห็นไหมครับหลักฐานมันชัดขนาดนี้ ถ้าเราอยากได้ชีวิตแบบไหนก็จงทำตัวเองให้อยู่กับคนแบบนั้นให้ได้
หรือถ้าอย่างสอบข้าราชการอะ ถ้าหลายคนนับ 1 ล้านคนไปแย่งกระจายสอบ เห็นมะเราก็จะเสี่ยงไม่ได้สอบไม่ผ่านเยอะ นั่นแหละ อุปสงค์ อุปทาน ถ้าเราไปทำตามคนหมู่มาก มันจะเฟ้อ การที่มันเฟ้อ มันจะไม่ดีก็ระวังเอาไว้ เพราะถ้าทุ่มเทไปมาก เวลาพัฒนาส่วนอื่นมันก็จะหายไปด้วยเสมอ
เพราะคนเราอาจจะไม่เก่งแบบเหยียบเรือสองรำได้ มันอาจจะต้องเลือกสักทางเลย
เอกชนใช้แค่หลักการนี้แค่นั้นในการพัฒนาตัวเอง จริ้ง มันไม่ได้มีความลับคร
แสดงความคิดเห็น
เห็นคนเริ่มมาสอบภาค ก กพ กันเยอะขึ้น เศรษฐกิจไทยภาคเอกชน เริ่มวิกฤตใช่หรือไม่ ?