ไทยเป็น1ในเป้าหมายหลักของแบรนด์อาหารจีนเพราะคนไทยไม่เก่งและไม่ขยัน

“ไทยเป็น1ในเป้าหมายหลักของแบรนด์อาหารจีนเพราะคนไทยไม่เก่งและไม่ขยัน ”
  
   ทำไมมันเป็นแบบนั้น?

   พอดีฟังคุณต่อPenguinพูดเรื่องนี้แล้วรู้สึกว่ามันเป็นมุมมองที่มีประโยชน์ เลยอยากเอามาแบ่งปันซักหน่อยครับ

จากช่วงนึงในคลิปที่ว่า

“ผมมีโอกาสได้คุยกับตัวแทนของกลุ่มทุนจีน เราก็คุยกันตรงๆเลยว่าทำไมประเทศไทยกลายเป็นตัวเลือกอันดับแรกๆของผู้ประกอบการจีนทั้งเจ้าเล็กเจ้าใหญ่ เค้าบอกว่าในตลาดร้านอาหารที่ประเทศจีน เค้าจะมีงานสัมมนาผู้ประกอบการร้านอาหารในแต่ละมณฑลของเค้าทุกเดือน เพื่อแชร์ประสบการณ์และสร้างคอนเน็คชั่นส์ซึ่งกันและกัน  

   ในสัมมนาเค้าบอกว่า ไทยเป็น1ในเป้าหมายหลักของแบรนด์อาหารจีนเพราะคนไทยไม่เก่งและไม่ขยัน ….

    ฟังแล้วจุกเลย ผมก็ถามว่าทำไมคิดว่าคนไทยไม่เก่งแล้วไม่ขยัน?

  เค้าบอกอย่างแรกก็คือถ้าคุณสังเกตุแบรนด์จีนที่เข้ามาตีตลาดไทย เค้าไม่ได้มาด้วยรสชาติที่ดีที่สุด เค้ามาด้วยระบบที่แข็งแรง ฉะนั้นเค้าวางระบบตั้งแต่ระบบบุคคล ระบบจัดซื้อ เค้าต้องนำเข้าวัตถุดิบจากจีน ใช้เทคโนโลยี ทุกอย่างเค้าวางระบบหมดเลย ถ้าเรากลับไปดูแบรนด์จีนทั้งหลายเนี่ย มีหลักเป็นหลาย พันสาขาหรือเป็นหมื่นสาขาหมดเลย ในขณะที่ประเทศไทยแบรนด์ที่มีเกิน 100 สาขานับนิ้วได้เลย และเราไม่เคยเห็นแบรนด์ไทยไปตีตลาดต่างประเทศได้เลย มากที่สุดในตลาดตอนนี้น่าจะเป็นเอ็มเคมั้ง ที่ไปขยายอยู่ที่ญี่ปุ่นหลายสิบสาขา แล้วแบรนด์อื่นมันไม่มี แต่จีนหรือประเทศอื่นๆไปตีตลาดหมดแล้ว ประเทศไทยเก่งแต่การทำอาหาร แต่ไม่ได้เก่งธุรกิจร้านอาหาร แต่คนจีนเวลาเค้าคิดจะทำธุรกิจอะไร เค้าจะคิดถึงอย่างแรกคือBusiness modelก่อน เค้าไม่ได้คิดถึงว่าจะทำอาหารอะไรให้อร่อยที่สุด เค้าคิดว่าจะทำอาหารแบบไหนที่เขาสามารถสเกลได้ ไม่จำเป็นจะต้องฝากชีวิตไว้กับเชฟใดคนหนึ่ง…. “

  
    จริงๆปัญหาเรื่อง”ระบบ“นี่คือปัญหาใหญ่ที่สุดของประเทศเราเลยก็ว่าได้ คือมันไล่มาตั้งแต่ภาครัฐลงมาจนถึงปชชในทุกระดับชั้นเลย  

  จากที่ผมมีโอกาสได้ทำงานกับคนจีนในช่วงหลังๆมานี้ จะเห็นว่าปชชเค้าจะถูกสอนให้มีระบบความคิด ที่เป็นขั้นเป็นตอน มีเหตุมีผล และ เรียกลำดับความสำคัญเป็นหมด เรียกได้ว่าไล่ตั้งแต่เด็กเสริฟ พนักงานทำความสะอาดหรือพนักงานร้านสะดวกซื้อขึ้นไปเลย คือจะไม่ค่อยเจออาการแบบ “เอ้ะ ทำแบบนี้แบบนั้นไปทำไมวะ?”

   แต่ไทยเรามักจะมีธรรมชาติในการทำงานและใช้ชีวิตแบบ มั่วๆลุยๆไปก่อน เจอปัญหาทีก็แก้ที เราไม่ค่อยมีระบบความคิดแบบที่มีการวางแผนล่วงหน้าที่ดีเท่าไหร่

   ตอนนี้ทุกคนรู้ว่าเศรษฐกิจแย่แค่ไหน ทุกฝ่ายรู้ แต่ครั้นเราจะมาเอาแต่ตีโพยตีพายกับสิ่งรอบข้างอย่างเดียว ผมว่ามันก็เสียเวลาชีวิตโดยไม่ได้อะไรขึ้นมาเท่าไหร่ แต่ถ้าเราตื่นรู้ก่อน และปรับเปลี่ยนชีวิตตัวเอง ตั้งแต่ชุดความคิดเราเองก่อน

   คือแก้ไข“ระบบความคิด”ตัวเอง ให้มันเป็น“ระบบความคิดที่แข็งแรง”

แก้สิ่งรอบข้างมันยาก ก็แก้ที่ตัวเองไปก่อนครับ แก้ได้ก่อนก็รอดก่อนนะ

ปล การเมืองแย่ ทุนกินรวบเยอะ ยุคนี้คงไม่มีใครไม่รู้ครับ  อยากด่า ด่าไป แต่เราจะด่าแล้วพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้นไปด้วย หรือ ด่าแล้วทำตัวเช้าชามเย็นชามแบบที่ผ่านๆมา เราเป็นคนเลือกเองทั้งนั้นครับ

https://www.facebook.com/share/H66iQoDhFqaKCHTj/?mibextid=WC7FNe

อ่านแล้วจุกๆ แต่เถียงไม่ออก เลยแชร์มาแบ่งอ่าน
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่