เรื่องสั้น ชุด "ฝัน STory" ตอน เรือนอาถรรพ์ (โดย จ๊ะ เสือไบ)

๒๒
เรือนอาถรรพ์

     ข้าพเจ้าต้องขออภัยอย่างยิ่งที่ทิ้งช่วงในการเขียน “ฝันสตอรี่” นี้นานมาก หลังจากข้าพเจ้าเขียนมันไว้ครั้งล่าสุดในเรื่อง “นอนเฝ้าทรัพย์” ข้าพเจ้าก็ไม่มีฝันใดๆอันสลักสำคัญพอจักลิขิตเป็นลายลักษณ์อักษรเลย กระทั่งราตรีวันที่ ๘ สิงหาคม ๒๕๖๗ ซึ่งข้าพเจ้าได้ฝันถึงเรื่องราวเกี่ยวกับบ้านหลังหนึ่ง
หากท่านเคยอ่านนิยายหรือชมภาพยนตร์มาบ้าง ท่านคงรู้สึกเสียอารมณ์ไม่น้อยเลยเทียว เกลือกว่าภาพยนตร์หรือนิยายที่ท่านกำลังทัศนาอยู่นั้น เกิดมีอ้ายอีคนไหนมาเปิดเผยเรื่องราวสำคัญเสียดื้อๆ พาลให้ท่านไม่มีอารมณ์จักทัศนาภาพยนตร์หรือนิยายเรื่องนั้นต่อ 
ที่ข้าพเจ้ากล่าวเช่นนั้นเพราะข้าพเจ้าจักเปิดเผยเรื่องราวสำคัญของฝันเรื่องนี้ว่า อันข้าพเจ้าเองได้พบกับมรณกรรมอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่ก็มิใช่ว่าหลังจากข้าพเจ้าในความฝันถึงแก่กรรมไปแล้วนั้น เรื่องราวในความฝันจักจบลง ยังมีเรื่องราวอันชวนปวดเศียรเวียนเกล้าธำรงต่อไป
มีบ้านหลังหนึ่งตั้งอยู่ในหมู่บ้านที่ชื่อว่า “ไสนุ่น” ในตำบล  ควนชุม อำเภอร่อนพิบูลย์ จังหวัดนครศรีธรรมราช บ้านหลังนี้สร้างขึ้นตั้งแต่ปลายสมัยรัชกาลที่ ๕ มีลักษณะเป็นเรือนขนมปังขิง หลังคาเป็นสามเหลี่ยมหน้าจั่ว ตัวคฤหาสน์แห่งนี้มีสองชั้น ชั้นล่างจะเป็นปูนเปลือยที่ไม่ได้แต้มสีใดๆ ส่วนชั้นบนจักเป็นไม้ทั้งหมด 
     ไม้ดังกล่าวนั้นเป็นไม้สัก ถูกทาด้วยสีน้ำมันสีน้ำตาลแดง อนึ่งเคหาสน์แห่งนี้มีหลังคาสีเขียว หน้าต่างของอาคารนั้นเป็นลักษณะบานเกล็ดไม้ทาสีน้ำมันสีน้ำตาลแดง ส่วนบันไดที่เชื่อมระหว่างชั้น ๑ และชั้น ๒ ไม่ว่าจะเป็นขั้นบันไดหรือราวบันไดนั้น ก็ทำด้วยไม้สักทั้งหมด โดยที่บันไดนั้นทาสีน้ำมันสีน้ำตาลดำคล้ายกับเครื่องดื่ม CoCa Cola 
พื้นบ้านชั้น๑ ถูกปูด้วยคอนกรีตหนึ่งชั้น แล้วทับด้วยไม้ปาร์เกต์อีกชั้น ในขณะที่ชั้นสองซึ่งข้าพเจ้ากล่าวไปแล้วว่าทำด้วยไม้ทั้งหมด แน่นอนว่าพื้นบ้านนั้นย่อมเป็นพื้นไม้ปาร์เกต์ที่ทาสีน้ำมันสีตาลแดง
เรือนโบราณแห่งนี้ไม่มีห้องน้ำภายใน หากจักเข้าห้องน้ำนั้นคงต้องไปเข้าที่สวนข้างบ้านโดยขุดหลุมฝังกลบ และหากจักอาบน้ำก็ต้องเดินไปตักน้ำจากบ่อน้ำข้างบ้าน ส่วนน้ำที่ใช้บริโภคนั้น ก็ดื่มจากโอ่งขนาดยักษ์ซึ่งรองน้ำฝนไว้ดื่มกิน  
บ้านหลังนี้เป็นบ้านของหญิงผู้มีอันจะกินคนหนึ่ง ชื่อว่านางเหี้ยม  สตรีผู้นี้สร้างบ้านขึ้นจากน้ำพักน้ำแรงของตน จากการที่เป็นเศรษฐีบ่อกุ้งในนครศรีธรรมราช โดยสร้างขึ้นราวพุทธศักราช ๒๔๕๐
     นางเหี้ยมเป็นสตรีผิวคล้ำ ใบหน้าเหลี่ยมคางหมู หน้าผากโค้ง  คิ้วทรงสูง ตาสองชั้นแต่เล็กแลลอย ขนตาสั้น มีหูใบเล็กและติ่งหูบาง จมูกเรียวเล็กแลสันจมูกบาง ร่องจมูกแคบ ริมฝีปากบาง ปากมีลักษณะเป็นปากนก ไว้ผมหยักศกยาวประคอคล้ายผมทรงนักเรียนหญิง สีผมของนางเหี้ยมนั้นเป็นดอกเลาด้วยอายุอานามที่มากพอสมควรแล้ว นางเหี้ยมเป็นสตรีที่ค่อนข้างเตี้ย มีส่วนสูงเพียง ๑๔๘ เซนติเมตร น้ำหนักเพียง ๓๐ กิโลกรัมเท่านั้น     
      ภายหลังจากการสร้างเรือนหลังนี้ วันหนึ่งขณะที่แกกำลังเดินอยู่หน้าบ้าน บังเอิญว่ามีเกวียนเทียมควายซึ่งมีควายตัวหนึ่งดุร้ายบ้าคลั่ง มันวิ่งมาอย่างเร็วจี๋พร้อมเกวียนเปล่าที่ปราศจากเจ้าของ ควายบ้าตัวนั้นวิ่งลากเกวียนมาจนกระทั่งถึงบ้านของนางเหี้ยม  มันวิ่งมาหานางเหี้ยมในทันที ทำให้แกล้มลง แลทั้งควายทั้งเกวียนนั้นก็ทับร่างนางเหี้ยมจนแหลก ทำให้เจ้าของบ้านเสียชีวิตคาที่ หากแต่วิญญาณนั้นยังคงวนเวียนอยู่รอบบ้าน ไม่ไปผุดไปเกิดสักที จากรุ่นสู่รุ่น สืบต่อกันมา
 
 
     หลังมรณกรรมของนางเหี้ยม  ปรากฏว่านางมี้ สตรีผู้มีศักดิ์เป็นญาติกับนางเหี้ยมนั้น ได้เข้ามาครอบครองบ้านหลังนี้ต่อ ทว่าแกครอบครองได้สี่ปีเท่านั้น วาระการเป็นเจ้าของก็ต้องเปลี่ยนมือ
นางมี้เป็นหญิงสาววัยสามสิบ ใบหน้าวงรีรูปไข่ หน้าผากกว้างดั่งภูผายอดดอย ผิวขาวผุดผ่องเฉกเช่นปุยนุ่น เส้นผมหนาและหยักศก ไว้ผมสีดำเทียมกลางหลัง คิ้วบางแต่โก่งสูง หางคิ้วชี้ขึ้น แกเป็นคนเบ้าตาลึก ตานั้นกลมโต ขนตายาว ใบหูยาน ติ่งหูสั้นจนเหมือนเป็นคนไม่มีติ่งหู จมูกค่อนข้างโต ปีกจมูกกว้างแต่ดั้งจมูกหัก ร่องจมูกตื้น ริมฝีปากหนาทั้งบนและล่าง ปากเหมือนดังเสี้ยวดวงแข คางแหลม มีส่วนสูง ๑๕๗ เซนติเมตร น้ำหนัก ๔๔ กิโลกรัม        
วันหนึ่งขณะที่แกกำลังเดินอยู่ในบ้านเพื่อไปทำกับข้าวในห้องครัว วิญญาณของนางเหี้ยมเจ้าของเรือนก็เกิดเฮี้ยนขึ้นมา เลยบันดาลให้นางมี้นั้นเป็นลมหมดสติ ล้มลงจนศีรษะฟาดพื้นไม้ปาร์เกต์ในบ้านหลังนั้น แล้วสิ้นใจในทันที จากนั้นนางเหี้ยมจึงเข้าสิงร่างนางมี้ และอยู่ในร่างของนางมี้สืบต่อมาจนร่างนั้นสิ้นอายุขัย ในราวพุทธศักราช ๒๕๐๐
 
 
     ผู้ที่มาสืบทอดเรือนไม้หลังเก่านี้แทนนางมี้ คือนางดวงดาว ลูกสาวของนางมี้ โดยนับว่าแกนั้นได้ครอบครองบ้านหลังนี้ได้ยาวนานนับ ๓๐ ปี เผอิญว่าด้วยความเฮี้ยนของทั้งวิญญาณนางเหี้ยม  รวมถึงวิญญาณนางมี้ผู้เป็นมารดา ซึ่งบัดนี้ได้กลายเป็นวิญญาณร้ายปราศจากคุณความดีด้วยเพราะวิญญาณนางเหี้ยมครอบงำ ได้บันดาลให้นางดวงดาวถึงแก่ความตายในเวลาต่อมา
    นางดวงดาวเป็นสตรีที่มีใบหน้ากลม หน้าผากสูงดั่งยอดดอย ผมบางหยักศกสีดำ ผมของนางดวงดาวถูกตัดสั้นคล้ายทรงผมของบุรุษเพศ คิ้วบางหางคิ้วชี้ขึ้น ตาสองชั้น ตาเล็กหางตาเชิดขึ้น ขนตางอนแต่หุบ หูเหลี่ยม ใบหูยาน ติ่งหูบาง สันจมูกเป็นคม ดั้งไม่หัก จมูกเหมือนลูกชมพู่ขนาดพอดีไม่ใหญ่หรือเล็กเกินไป แต่จัดว่าแกเป็นคนที่มีปีกจมูกกว้าง ร่องจมูกยาว ริมฝีปากแดงระเรื่อโดยที่ริมฝีปากบนจักบางกว่าริมฝีปากล่าง แกเป็นคนที่มีริมฝีปากล่างห้อยเล็กน้อยแต่ไม่ถึงขั้นอัปลักษณ์ คางมน เป็นคนร่างค่อนข้างสูงแลผอม แกสูง ๑๖๕ เซนติเมตร น้ำหนัก ๔๘ กิโลกรัม มีผิวสีน้ำผึ้ง 
มรณกรรมของนางดวงดาวเกิดขึ้นเมื่อแกเดินไปตัดกล้วยน้ำว้าที่ข้างเรือนหลังนั้น เผอิญว่าอิทธิฤทธิ์ของวิญญาณมารดาบันดาลให้มีแมงมุมแม่หม้ายดำตัวใหญ่ซึ่งคลานมาจากในซอกกล้วยเครือนั้น แมงมุมร้ายได้กัดเข้าที่คอของนางดวงดาวเข้าอย่างจัง แล้วไม่นานนางดวงดาวก็ถึงแก่กรรม ปิดฉาก ๓๐ ปีในการครอบครองบ้านหลังนั้น
     อย่างไรก็ตาม ในช่วงที่ป้าดวงดาวได้เข้ามาอาศัยในบ้านหลังนี้ แกได้สร้างห้องส้วมคอห่านขึ้นเพื่อความสะดวกสบายในการทำธุระหนักเบา  โดยเป็นอาคารเล็กๆหลังบ้าน ลักษณะของอาคารนั้นก่ออิฐบล็อกสี่ด้านไม่ฉาบปูนและทาสี ทั้งยังใช้หลังคากระเบื้องสีขาวคลุมไว้กันฝน นำคอนกรีตมาละเลงเป็นพื้นห้องน้ำ ไม่มีการปูกระเบื้องแต่อย่างใด พร้อมกันนั้นยังติดตั้งส้วมคอห่านสีน้ำเงิน และก่ออิฐฉาบปูนเป็นบ่อน้ำเล็กๆสี่เหลี่ยมเพื่อใช้ขันตักน้ำราด กอปรกับในพุทธศักราช ๒๕๒๓ ไฟฟ้าเริ่มเข้ามาในหมู่บ้านไสนุ่น ป้าดวงดาวจึงซื้อเครื่องสูบน้ำเพื่อสูบน้ำจากในบ่อไหลเข้ามาที่ห้องน้ำได้โดยตรง และไม่เสียเพลาหรือกำลังเพื่อไปตักน้ำในบ่อน้ำอีกแล้ว อนึ่งน้ำประปานั้นกว่าจักมาถึงหมู่บ้านไสนุ่นก็เกือบ ๔๐ ปีให้หลัง ฉันนั้นตั้งแต่ยุคป้าดวงดาวเป็นต้นไปนั้น แม้มีไฟฟ้าใช้แล้วก็จริง แต่ยังคงใช้น้ำบ่อบาดาลอยู่เรื่อยมา  
 
...
 
     ราวพุทธศักราช ๒๕๓๐ ข้าพเจ้าในความฝันก็ได้มาครอบครองบ้านหลังนี้ต่อจากนางดวงดาว โดยข้าพเจ้ามีศักดิ์เป็นหลานของป้าดวงดาว ได้เข้าครอบครองบ้านหลังนี้เพียง ๑๒ ปีเท่านั้น มรณกรรมก็มาเยือนข้าพเจ้าในทันที ด้วยฤทธิ์เดชของวิญญาณสามตน ทั้งวิญญาณของนางเหี้ยม  นางมี้ แลวิญญาณของป้าดวงดาวซึ่งกลายเป็นวิญญาณร้ายไปหลังมรณกรรม 
ข้าพเจ้าในความฝันก็ดูไม่แตกต่างจากความจริงสักเท่าไหร่นัก เป็นชายผิวขาวรูปร่างสูงแต่อ้วน สูง ๑๘๐ เซนติเมตร น้ำหนัก ๑๑๐ กิโลกรัม ใบหน้ารูปไข่ เส้นผมบาง ผมดำหยักศกถูกปล่อยไว้ให้ยาวประบ่า หน้าผากโค้ง คิ้วค่อนข้างหนา ลักษณะของปลายคิ้วจักหนากว่าส่วนหัวของคิ้ว ตาสองชั้น ดวงตาเล็ก ตาซ้ายกับขวาไม่เท่ากัน ตาปรือ ขนตาบาง ดั้งจมูกหัก จมูกเหมือนชมพู่ลูกเล็กๆเหยียดตรง ร่องจมูกกว้างและยาว ใบหูค่อนข้างยาน ติ่งหูย้อยดูคล้ายหูของพระพุทธรูป ริมฝีปากหนาทั้งบนแลล่าง ปากเป็นกระจับ ฟันเหยิน คางมน   
วันหนึ่งขณะที่ข้าพเจ้าอยู่ในบ้าน เผอิญว่าหลอดไฟในบ้านเสียหลอดนั้นมันเป็นหลอดไส้ ข้าพเจ้าตัดสินใจจักเปลี่ยนหลอดไฟทั้งชุด จากหลอดไส้เก่าๆโบราณ ให้เป็นหลอดนีออน โดยที่ข้าพเจ้าสับสะพานไฟเรียบร้อยแล้ว แต่ในขณะที่ข้าพเจ้ากำลังติดตั้งรางไฟสำหรับใส่หลอดนีออนอยู่นั้น วิญญาณร้ายนามว่าดวงดาวก็บันดาลให้สะพานไฟซึ่งถูกสับลงเพื่อตัดกระแสไฟฟ้า ก็เลื่อนขึ้นมาจนกระแสไฟฟ้าเดินได้สะดวก ยังผลให้ข้าพเจ้าถูกไฟช็อตจนเสียชีวิตคาที่ 
     ข้าพเจ้ารู้สึกเหมือนตนได้ผล็อยหลับไป แล้วเมื่อตื่นขึ้นมาก็พบว่าข้าพเจ้าเห็นร่างอันไร้วิญญาณของตนนอนแนบกับพื้น กลับกลายเป็นว่าข้าพเจ้าครอบครองบ้านนี้ได้ถึงพุทธศักราช ๒๕๔๒ เท่านั้น
 
             …     
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่