Shein VS Temu ทำไมพี่เขาตีกัน? สรุปคำแฉยับเกมหักเหลี่ยมโหดอีคอมเมิร์ซจีน
2 ยักษ์ใหญ่แห่งวงการชอปปิ้งออนไลน์ “ขีอิน” (Shein) และ “เทมู” (Temu) กำลังฟัดกันนัว ข้อพิพาททางกฎหมายของทั้งคู่ขยายวงกว้างลุกลามใหญ่โต ฝ่าย Shein ได้ยื่นฟ้องคดีใหญ่กล่าวหาว่า Temu เป็นธุรกิจผิดกฎหมาย โดยโยนข้อหาทั้ง “ฉ้อโกง ขโมยความลับทางการค้า ละเมิดสิทธิทรัพย์สินทางปัญญา” และทั้งหมดนี้อาจเริ่มมาจากการติดสินบน
แน่นอนว่า Temu ปฏิเสธข้อกล่าวหานี้อย่างหนักแน่น โดยเฉพาะข้อหาที่ Shein ชี้ว่าแม้ Temu จะทำตัวให้ดูเหมือนเป็นตลาดหรือ marketplace แต่แท้จริงแล้ว Temu คือมือที่ควบคุมกิจกรรมทั้งหมดของผู้ขาย เพราะ Temu บังคับให้ผู้ขายกำหนดว่าสามารถลงรายการสินค้าใด และขายได้ในราคาใด
Shein บอกว่าการกระทำนี้ของ Temu กระตุ้นให้ผู้ขายละเมิดสิทธิของผู้อื่น และถึงแม้ว่าผู้ขายได้ยอมรับว่ามีการละเมิด หรือไปลอกเลียนบริษัทใดมา แต่ Temu ก็ป้องกันไม่ให้มีการลบสินค้าออกจากเว็บไซต์
***ทำทุกวิถีทาง
คดีนี้ไม่ใช่การปะทะกันครั้งแรกระหว่าง Shein และ Temu ก่อนหน้านี้ Temu กล่าวหา Shein ว่าบังคับให้บริษัทตัดความสัมพันธ์กับซัปพลายเออร์ของตัวเอง แต่ Shein เถียงกลับว่า Temu ต่างหากที่เป็นผู้จ่ายเงินให้ผู้สร้างเนื้อหาโซเชียลมีเดีย เพื่อใช้ข้อความเท็จ จนทำให้เกิดความเข้าใจผิดเกี่ยวกับ Shein
Temu เคยกล่าวหา Shein ว่าบังคับให้บริษัทตัดความสัมพันธ์กับซัปพลายเออร์ของตัวเอง
นอกจากนี้ Shein ยังวิพากษ์วิจารณ์นโยบายกำหนดราคาต่ำสุดขีด ที่ก้าวร้าวรุนแรงของ Temu ว่า Temu ใช้ทุกวิถีทางที่จำเป็น เพื่อให้ได้ราคาเหล่านี้
หนึ่งในวิถีทางนั้นคือการขโมยความลับทางการค้า เพื่อแย่งชิงส่วนแบ่งการตลาด ตามข้อกล่าวหาของ Shein ระบุว่า Temu กำลังเดินแผนขโมยความลับทางการค้า โดยเฉพาะข้อมูลราคาภายใน ขณะเดียวกันก็พยายามหลอกลวงลูกค้าโดยแอบอ้างเป็น Shein บน Twitter ร่วมกับการใช้เครื่องหมายการค้าของ Shein ในโฆษณา Google ด้วย
เบ็ดเสร็จแล้ว Shein พบว่า Temu ยอมสูญเงินเฉลี่ย 30 ดอลลาร์ หรือประมาณ 1,000 บาทต่อทุกการสั่งซื้อ เพียงเพื่อให้ตัวเองสามารถรักษาส่วนแบ่งการตลาดไว้
***อนาคตใครชนะ?
ไม่ว่าใครจะชนะคดี เชื่อว่ามีโอกาสสูงที่ผลของคดีความของยักษ์อีคอมเมิร์ซสัญชาติจีนจะนำไปสู่การพัฒนาที่สำคัญของวงการซื้อขายสินค้าออนไลน์
พัฒนาการนี้อาจจะเป็นตัวกำหนดอนาคตของภาคค้าปลีกออนไลน์ ซึ่งเป็นตลาดที่จะมีการแข่งขันกันอย่างดุเดือดต่อไป
Shein ชี้ว่าแม้ Temu จะทำตัวให้ดูเหมือนเป็นตลาดหรือ marketplace แต่แท้จริงแล้ว Temu คือมือที่ควบคุมกิจกรรมทั้งหมดของผู้ขาย
นอกจากนี้ อีกแนวโน้มที่เห็นได้ชัดที่สุดคือบริษัทอีคอมเมิร์ซอาจจะยังคงขยายผลต่อสู้คดีทางกฎหมาย และติดตามการอุทธรณ์อย่างใกล้ชิดต่อไป แม้ว่าคดีความจะสิ้นสุดลงแล้วก็ตาม
และที่สำคัญคือ ระหว่างสู้คดีไป ก็ขายของไปพลางๆ แบบไม่จ่ายภาษีให้ประเทศไทย รวมถึงอีกหลายประเทศที่ทำอะไรไม่ได้เลย
ข่าวจาก : MGR Online
https://mgronline.com/cyberbiz/detail/9670000077256
Shein VS Temu ทำไมพี่เขาตีกัน? สรุปคำแฉยับเกมหักเหลี่ยมโหดอีคอมเมิร์ซจีน
Shein VS Temu ทำไมพี่เขาตีกัน? สรุปคำแฉยับเกมหักเหลี่ยมโหดอีคอมเมิร์ซจีน
2 ยักษ์ใหญ่แห่งวงการชอปปิ้งออนไลน์ “ขีอิน” (Shein) และ “เทมู” (Temu) กำลังฟัดกันนัว ข้อพิพาททางกฎหมายของทั้งคู่ขยายวงกว้างลุกลามใหญ่โต ฝ่าย Shein ได้ยื่นฟ้องคดีใหญ่กล่าวหาว่า Temu เป็นธุรกิจผิดกฎหมาย โดยโยนข้อหาทั้ง “ฉ้อโกง ขโมยความลับทางการค้า ละเมิดสิทธิทรัพย์สินทางปัญญา” และทั้งหมดนี้อาจเริ่มมาจากการติดสินบน
แน่นอนว่า Temu ปฏิเสธข้อกล่าวหานี้อย่างหนักแน่น โดยเฉพาะข้อหาที่ Shein ชี้ว่าแม้ Temu จะทำตัวให้ดูเหมือนเป็นตลาดหรือ marketplace แต่แท้จริงแล้ว Temu คือมือที่ควบคุมกิจกรรมทั้งหมดของผู้ขาย เพราะ Temu บังคับให้ผู้ขายกำหนดว่าสามารถลงรายการสินค้าใด และขายได้ในราคาใด
Shein บอกว่าการกระทำนี้ของ Temu กระตุ้นให้ผู้ขายละเมิดสิทธิของผู้อื่น และถึงแม้ว่าผู้ขายได้ยอมรับว่ามีการละเมิด หรือไปลอกเลียนบริษัทใดมา แต่ Temu ก็ป้องกันไม่ให้มีการลบสินค้าออกจากเว็บไซต์
***ทำทุกวิถีทาง
คดีนี้ไม่ใช่การปะทะกันครั้งแรกระหว่าง Shein และ Temu ก่อนหน้านี้ Temu กล่าวหา Shein ว่าบังคับให้บริษัทตัดความสัมพันธ์กับซัปพลายเออร์ของตัวเอง แต่ Shein เถียงกลับว่า Temu ต่างหากที่เป็นผู้จ่ายเงินให้ผู้สร้างเนื้อหาโซเชียลมีเดีย เพื่อใช้ข้อความเท็จ จนทำให้เกิดความเข้าใจผิดเกี่ยวกับ Shein
Temu เคยกล่าวหา Shein ว่าบังคับให้บริษัทตัดความสัมพันธ์กับซัปพลายเออร์ของตัวเอง
นอกจากนี้ Shein ยังวิพากษ์วิจารณ์นโยบายกำหนดราคาต่ำสุดขีด ที่ก้าวร้าวรุนแรงของ Temu ว่า Temu ใช้ทุกวิถีทางที่จำเป็น เพื่อให้ได้ราคาเหล่านี้
หนึ่งในวิถีทางนั้นคือการขโมยความลับทางการค้า เพื่อแย่งชิงส่วนแบ่งการตลาด ตามข้อกล่าวหาของ Shein ระบุว่า Temu กำลังเดินแผนขโมยความลับทางการค้า โดยเฉพาะข้อมูลราคาภายใน ขณะเดียวกันก็พยายามหลอกลวงลูกค้าโดยแอบอ้างเป็น Shein บน Twitter ร่วมกับการใช้เครื่องหมายการค้าของ Shein ในโฆษณา Google ด้วย
เบ็ดเสร็จแล้ว Shein พบว่า Temu ยอมสูญเงินเฉลี่ย 30 ดอลลาร์ หรือประมาณ 1,000 บาทต่อทุกการสั่งซื้อ เพียงเพื่อให้ตัวเองสามารถรักษาส่วนแบ่งการตลาดไว้
***อนาคตใครชนะ?
ไม่ว่าใครจะชนะคดี เชื่อว่ามีโอกาสสูงที่ผลของคดีความของยักษ์อีคอมเมิร์ซสัญชาติจีนจะนำไปสู่การพัฒนาที่สำคัญของวงการซื้อขายสินค้าออนไลน์
พัฒนาการนี้อาจจะเป็นตัวกำหนดอนาคตของภาคค้าปลีกออนไลน์ ซึ่งเป็นตลาดที่จะมีการแข่งขันกันอย่างดุเดือดต่อไป
Shein ชี้ว่าแม้ Temu จะทำตัวให้ดูเหมือนเป็นตลาดหรือ marketplace แต่แท้จริงแล้ว Temu คือมือที่ควบคุมกิจกรรมทั้งหมดของผู้ขาย
นอกจากนี้ อีกแนวโน้มที่เห็นได้ชัดที่สุดคือบริษัทอีคอมเมิร์ซอาจจะยังคงขยายผลต่อสู้คดีทางกฎหมาย และติดตามการอุทธรณ์อย่างใกล้ชิดต่อไป แม้ว่าคดีความจะสิ้นสุดลงแล้วก็ตาม
และที่สำคัญคือ ระหว่างสู้คดีไป ก็ขายของไปพลางๆ แบบไม่จ่ายภาษีให้ประเทศไทย รวมถึงอีกหลายประเทศที่ทำอะไรไม่ได้เลย
ข่าวจาก : MGR Online
https://mgronline.com/cyberbiz/detail/9670000077256