มหาราชา ช่างตัดผมในเมือง เขาเดินทางมายังสถานีตำรวจเพื่อแจ้งความของหายชิ้นนึง
แต่เจ้าหน้าที่ไม่ยอมตามหาของชิ้นนั้นให้กับเขา หนำซ้ำยังกล่าวหาว่าเขาเป็นบ้ามากวนประสาทตำรวจอีกต่างหาก.
เป็นใครก็ไม่เชื่อ แต่มันก็น่าสงสัยเหลือเกิน เพราะของหายที่มหาราชาอยากให้ตามหานั่นก็คือ ถังขยะ 1 ใบ
Maharaja เป็นภาพยนตร์แอ็คชั่นระทึกขวัญภาษาทมิฬ กำกับโดย Nithilan Swaminathan
เขียนบทร่วมกับ Raam Murali นี่คือผลงานเรื่องที่สองของ Nithilan หลังแจ้งเกิดกับหนังแนวเดียวกันนี้มาแล้ว
อย่าง Kurangu Bommai เมื่อปี 2017 และเว้นระยะยาวถึง 7 ปีเลยทีเดียว ก่อนงานชิ้นที่ 2 จะสู่สายตาแฟนหนังอีกครั้ง
และกลับมาทั้งทีก็ยิ่งใหญ่สมการรอคอย Maharaja ประสบความสำเร็จอย่างมากในบ็อกซ์ออฟฟิศ
นับเป็นภาพยนตร์ทมิฬที่ทำรายได้เปิดตัวสุดสัปดาห์สูงสุดในปีนี้
และขณะนี้ก็กลายเป็นภาพยนตร์ทมิฬที่ทำรายได้สูงสุดอันดับสามของปี 2024 อีกด้วย
(อันดับ 1 เป็น Indian 2 และที่ 2 คือ Raayan เรื่องนี้คือน่าดูแบบสุดๆ)
นำแสดงโดย วีเจย์ เศธุปาธี สุดยอดนักแสดงชาวอินเดียใต้ รับบทเรื่องไหนก็ระดับสุดยอดทั้งนั้น
เมื่อปี 2023 ก็ได้ร่วมงานกับมหาเทพบอลลีวู้ดอย่าง Shah Rukh Khan ในหนังเรื่อง Jawan
ในบทของตัวร้าย อิทธิพลมืดกุมอำนาจแทบจะไปถึงรัฐบาลของประเทศ แต่มาในเรื่องนี้ วีเจย์กลับมาในบทถนัดของเขาอีกครั้ง..
เป็นชาวบ้านธรรมดาๆที่พบกับความทุกข์ใจเมื่อเขาต้องสูญเสียของรักของตน และนี่คือหนังเรื่อง 50 ในชีวิตการแสดงของวีเจย์พอดี
ใครที่เป็นแฟนหนังอินเดียใต้ (ทมิฬ.. มลยาฬัม เตลูกู) ที่ผมเคยรีวิวไปหลายเรื่อง คงพอจะทราบถึงแนวของหนังแถบนี้
ว่าเค้ามักจะนำเสนอเรื่องราวของคนธรรมดาๆ บ้านๆ ที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม ก่อให้เกิดความดราม่าทั้งหลายที่ตามมา
ทั้งจากผู้มีอิทธิพลในท้องถิ่น (นักการเมือง) ไม่ก็เจอตำรวจกังฉินทำร้ายร่างกาย
พระเอกของเราก็ต้องกัดฟันสู้กับอุปสรรคต่างๆให้ได้ แฟนหนังอินเดียใต้ชอบแบบนี้ เพราะมันเข้าถึงง่าย ตรงกับชีวิตจริงดี
เรื่องบทก็เช่นกัน มันมีเสน่ห์และโดดเด่นแทบทุกเรื่อง คือกดสุ่มมาเลยไม่ว่าเรื่องไหนดีงามทั้งนั้น
Maharaja ที่ผมจะว่าไว้ในตอนนี้ก็เช่นกัน
(คนละเรื่องกับ Maharaj นะครับ อันนั้นหนังฮินดี ชื่อเรื่องคล้ายกัน แถมออกมาชนในระยะเวลาใกล้เคียงกันอีกต่างหาก)
โดยหนังแนวนี้เอ่ยเรื่องย่ออะไรมากแทบไม่ได้เลย เพราะว่ามันจะเหมือนการสปอยล์ทันที
ด้วยเวลากว่า 140 นาที ดูเหมือนจะยาวนะครับถ้าไม่เคยชมหนังอินเดียมาก่อน แต่นี่ล่ะครับเหมาะสมมากแล้ว
เพราะเมื่อคุณได้เริ่มดู เวลาทุกอย่างมันจะผ่านไปไวมาก ไม่มีสักช่วงเลยก็ดูเยิ่นเย้อ เวิ่นเว้ออะไรให้เสียอารมณ์
การที่คนคนนึงตามหาถังขยะ 1 ใบ ทำไมถังใบนี้ถึงมีความหมายมากกับชีวิตของเขาขนาดนั้น เพราะอะไรกัน
ด้วยการเขียนบทระดับอัจฉริยะ ประกอบกับจุดเด่นที่สุดของเรื่องนี้ก็คือการวางลำดับเวลาของเหตุการณ์ที่เหนือชั้น
ทำให้เราเหมือนเดินตามพระเอกของเราในการตามล่าหาผู้ร้ายที่เอาถังใบนี้ไป
ผมเชื่อว่าเมื่อคุณดูไปสักพัก คุณอาจจะเริ่มสับสนเพราะมันจะมีพาร์ทเรื่องราวของคนบางคนที่โผล่ขึ้นมาแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย
แต่สุดท้าย ทุกอย่างจะร้อยเรียงไปเป็นเส้นเดียวกัน นำไปสู่บทสรุปสุดท้าย
คุณจะได้เห็นฉากการล้างแค้นที่สะกดตัวเองจนแทบหยุดหายใจ คือมันสะใจมากกกก.. แต่ก็โหดมากเช่นกัน
ในระดับที่เด็กเล็กๆไม่ควรชม (ถ้าให้ผมจัดเรตอ่ะนะ) เพราะมันมีความรุนแรงมากๆ ในหลายฉาก
แม้ว่าช่วงต้นๆ เรื่องจะมีความพยายามจะใส่คอมมาดี้มาบ้าง แต่ก็ไม่ทำให้อรรถรสโดยรวมของเรื่องเปลี่ยนไป
มันคือหนังที่แสดงความเลวร้ายของมนุษย์ออกมาได้มากจริงๆ...
คนทุกคนต่อให้ร้ายขนาดไหน ย่อมต้องมีคนรักหรือผู้ที่เป็นที่รักกันทั้งนั้น.. เพียงแค่เราอาจไม่เห็นอีกด้านของตัวเขา..
พ่อพระในเบื้องหน้าอาจเป็นมหาโจรที่ฆ่ามาแล้วไม่รู้จะกี่ศพ ใครจะเป็นจะตายไม่สน
ขอเพียงแค่ทำทุกอย่างเพื่อประโยชน์ของตนเองเท่านั้นเป็นพอ คือขาดมโนธรรมและสามัญสำนึกตัวเองทำคนอื่นได้
แต่ห้ามไม่ให้ใครทำตัวเองและพวกพ้อง คือเป็นพวกเอาแต่ใจ ไม่มีเหตุผลแล้ว
ดีใจจังที่กระแสหนังอินเดียจุดติดขึ้นมาอีกหลังจากผ่านเรื่องคังคุไบมาได้ ก็เริ่มนิ่งไป
จริงๆแล้ว หนังอินเดียมีอีกหลายเรื่องมากๆที่ดีงามทั้งนั้น ผมเตรียมไว้ราว 30 กว่าเรื่องล่ะ จะค่อยๆทยอยลงให้ได้อ่านกัน
บทคือหัวใจของหนัง ถ้าบทมันดี มันก็ทำให้คนอยากดู สนใจ และหนังอินเดียใต้เขาก็ประสบความสำเร็จในจุดนี้เป็นที่เรียบร้อย
เรื่องมหาราชานี้ก็เช่นกัน คือผมเน้นอินเดียใต้ (ทมิฬ.. มลยาฬัม เตลูกู) มากกว่าบอลลีวู้ด เพราะหนังเค้าบทดีกว่า แน่นกว่า
ดีซะจนบอลลีวู้ดเอง ต้องเอาหนังของฝั่งอินเดียใต้ไปรีเมคหลายต่อหลายเรื่อง ไว้รอติดตามที่ผมจะนำมารีวิวได้เลย
พิมพ์แล้วมันยิ่งคันมือ แต่ถ้าหลุดอะไรไปดูไม่สนุก เอาเป็นว่าลองชมเถอะครับ แล้วคุณจะรู้ว่าถังขยะใบเดียวนี้มันมีค่ากับเขาแค่ไหน ..
ตอนจบมันสรุปทุกสิ่งทุกอย่างออกมาได้ดีเหลือเกิน มีครบทุกอารมณ์ สะเทือนใจ สาแก่ใจ สาสมใจ ..
และคุณจะไม่มีวันลืมชายคนนี้ที่ชื่อว่า มหาราชา....
=== ทิ้งท้ายครับ หนังที่ดีสำหรับตัวเรา แน่นอนว่าอาจจะไม่ได้ดีและไม่ได้ถูกใจสำหรับใคร
ซึ่งอยู่ที่ความชอบของแต่ละบุคคล ภาพยนตร์ก็เหมือนอาหารล่ะครับ อยู่ที่เราเลือกที่จะอยากชิมรสชาติแบบไหนเท่านั้นเอง ===
== Maharaja (2024) ช่างตัดผม.. ตามหาถังขยะที่หายไป... ==
มหาราชา ช่างตัดผมในเมือง เขาเดินทางมายังสถานีตำรวจเพื่อแจ้งความของหายชิ้นนึง
แต่เจ้าหน้าที่ไม่ยอมตามหาของชิ้นนั้นให้กับเขา หนำซ้ำยังกล่าวหาว่าเขาเป็นบ้ามากวนประสาทตำรวจอีกต่างหาก.
เป็นใครก็ไม่เชื่อ แต่มันก็น่าสงสัยเหลือเกิน เพราะของหายที่มหาราชาอยากให้ตามหานั่นก็คือ ถังขยะ 1 ใบ
Maharaja เป็นภาพยนตร์แอ็คชั่นระทึกขวัญภาษาทมิฬ กำกับโดย Nithilan Swaminathan
เขียนบทร่วมกับ Raam Murali นี่คือผลงานเรื่องที่สองของ Nithilan หลังแจ้งเกิดกับหนังแนวเดียวกันนี้มาแล้ว
อย่าง Kurangu Bommai เมื่อปี 2017 และเว้นระยะยาวถึง 7 ปีเลยทีเดียว ก่อนงานชิ้นที่ 2 จะสู่สายตาแฟนหนังอีกครั้ง
และกลับมาทั้งทีก็ยิ่งใหญ่สมการรอคอย Maharaja ประสบความสำเร็จอย่างมากในบ็อกซ์ออฟฟิศ
นับเป็นภาพยนตร์ทมิฬที่ทำรายได้เปิดตัวสุดสัปดาห์สูงสุดในปีนี้
และขณะนี้ก็กลายเป็นภาพยนตร์ทมิฬที่ทำรายได้สูงสุดอันดับสามของปี 2024 อีกด้วย
(อันดับ 1 เป็น Indian 2 และที่ 2 คือ Raayan เรื่องนี้คือน่าดูแบบสุดๆ)
นำแสดงโดย วีเจย์ เศธุปาธี สุดยอดนักแสดงชาวอินเดียใต้ รับบทเรื่องไหนก็ระดับสุดยอดทั้งนั้น
เมื่อปี 2023 ก็ได้ร่วมงานกับมหาเทพบอลลีวู้ดอย่าง Shah Rukh Khan ในหนังเรื่อง Jawan
ในบทของตัวร้าย อิทธิพลมืดกุมอำนาจแทบจะไปถึงรัฐบาลของประเทศ แต่มาในเรื่องนี้ วีเจย์กลับมาในบทถนัดของเขาอีกครั้ง..
เป็นชาวบ้านธรรมดาๆที่พบกับความทุกข์ใจเมื่อเขาต้องสูญเสียของรักของตน และนี่คือหนังเรื่อง 50 ในชีวิตการแสดงของวีเจย์พอดี
ใครที่เป็นแฟนหนังอินเดียใต้ (ทมิฬ.. มลยาฬัม เตลูกู) ที่ผมเคยรีวิวไปหลายเรื่อง คงพอจะทราบถึงแนวของหนังแถบนี้
ว่าเค้ามักจะนำเสนอเรื่องราวของคนธรรมดาๆ บ้านๆ ที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม ก่อให้เกิดความดราม่าทั้งหลายที่ตามมา
ทั้งจากผู้มีอิทธิพลในท้องถิ่น (นักการเมือง) ไม่ก็เจอตำรวจกังฉินทำร้ายร่างกาย
พระเอกของเราก็ต้องกัดฟันสู้กับอุปสรรคต่างๆให้ได้ แฟนหนังอินเดียใต้ชอบแบบนี้ เพราะมันเข้าถึงง่าย ตรงกับชีวิตจริงดี
เรื่องบทก็เช่นกัน มันมีเสน่ห์และโดดเด่นแทบทุกเรื่อง คือกดสุ่มมาเลยไม่ว่าเรื่องไหนดีงามทั้งนั้น
Maharaja ที่ผมจะว่าไว้ในตอนนี้ก็เช่นกัน
(คนละเรื่องกับ Maharaj นะครับ อันนั้นหนังฮินดี ชื่อเรื่องคล้ายกัน แถมออกมาชนในระยะเวลาใกล้เคียงกันอีกต่างหาก)
โดยหนังแนวนี้เอ่ยเรื่องย่ออะไรมากแทบไม่ได้เลย เพราะว่ามันจะเหมือนการสปอยล์ทันที
ด้วยเวลากว่า 140 นาที ดูเหมือนจะยาวนะครับถ้าไม่เคยชมหนังอินเดียมาก่อน แต่นี่ล่ะครับเหมาะสมมากแล้ว
เพราะเมื่อคุณได้เริ่มดู เวลาทุกอย่างมันจะผ่านไปไวมาก ไม่มีสักช่วงเลยก็ดูเยิ่นเย้อ เวิ่นเว้ออะไรให้เสียอารมณ์
การที่คนคนนึงตามหาถังขยะ 1 ใบ ทำไมถังใบนี้ถึงมีความหมายมากกับชีวิตของเขาขนาดนั้น เพราะอะไรกัน
ด้วยการเขียนบทระดับอัจฉริยะ ประกอบกับจุดเด่นที่สุดของเรื่องนี้ก็คือการวางลำดับเวลาของเหตุการณ์ที่เหนือชั้น
ทำให้เราเหมือนเดินตามพระเอกของเราในการตามล่าหาผู้ร้ายที่เอาถังใบนี้ไป
ผมเชื่อว่าเมื่อคุณดูไปสักพัก คุณอาจจะเริ่มสับสนเพราะมันจะมีพาร์ทเรื่องราวของคนบางคนที่โผล่ขึ้นมาแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย
แต่สุดท้าย ทุกอย่างจะร้อยเรียงไปเป็นเส้นเดียวกัน นำไปสู่บทสรุปสุดท้าย
คุณจะได้เห็นฉากการล้างแค้นที่สะกดตัวเองจนแทบหยุดหายใจ คือมันสะใจมากกกก.. แต่ก็โหดมากเช่นกัน
ในระดับที่เด็กเล็กๆไม่ควรชม (ถ้าให้ผมจัดเรตอ่ะนะ) เพราะมันมีความรุนแรงมากๆ ในหลายฉาก
แม้ว่าช่วงต้นๆ เรื่องจะมีความพยายามจะใส่คอมมาดี้มาบ้าง แต่ก็ไม่ทำให้อรรถรสโดยรวมของเรื่องเปลี่ยนไป
มันคือหนังที่แสดงความเลวร้ายของมนุษย์ออกมาได้มากจริงๆ...
คนทุกคนต่อให้ร้ายขนาดไหน ย่อมต้องมีคนรักหรือผู้ที่เป็นที่รักกันทั้งนั้น.. เพียงแค่เราอาจไม่เห็นอีกด้านของตัวเขา..
พ่อพระในเบื้องหน้าอาจเป็นมหาโจรที่ฆ่ามาแล้วไม่รู้จะกี่ศพ ใครจะเป็นจะตายไม่สน
ขอเพียงแค่ทำทุกอย่างเพื่อประโยชน์ของตนเองเท่านั้นเป็นพอ คือขาดมโนธรรมและสามัญสำนึกตัวเองทำคนอื่นได้
แต่ห้ามไม่ให้ใครทำตัวเองและพวกพ้อง คือเป็นพวกเอาแต่ใจ ไม่มีเหตุผลแล้ว
ดีใจจังที่กระแสหนังอินเดียจุดติดขึ้นมาอีกหลังจากผ่านเรื่องคังคุไบมาได้ ก็เริ่มนิ่งไป
จริงๆแล้ว หนังอินเดียมีอีกหลายเรื่องมากๆที่ดีงามทั้งนั้น ผมเตรียมไว้ราว 30 กว่าเรื่องล่ะ จะค่อยๆทยอยลงให้ได้อ่านกัน
บทคือหัวใจของหนัง ถ้าบทมันดี มันก็ทำให้คนอยากดู สนใจ และหนังอินเดียใต้เขาก็ประสบความสำเร็จในจุดนี้เป็นที่เรียบร้อย
เรื่องมหาราชานี้ก็เช่นกัน คือผมเน้นอินเดียใต้ (ทมิฬ.. มลยาฬัม เตลูกู) มากกว่าบอลลีวู้ด เพราะหนังเค้าบทดีกว่า แน่นกว่า
ดีซะจนบอลลีวู้ดเอง ต้องเอาหนังของฝั่งอินเดียใต้ไปรีเมคหลายต่อหลายเรื่อง ไว้รอติดตามที่ผมจะนำมารีวิวได้เลย
พิมพ์แล้วมันยิ่งคันมือ แต่ถ้าหลุดอะไรไปดูไม่สนุก เอาเป็นว่าลองชมเถอะครับ แล้วคุณจะรู้ว่าถังขยะใบเดียวนี้มันมีค่ากับเขาแค่ไหน ..
ตอนจบมันสรุปทุกสิ่งทุกอย่างออกมาได้ดีเหลือเกิน มีครบทุกอารมณ์ สะเทือนใจ สาแก่ใจ สาสมใจ ..
และคุณจะไม่มีวันลืมชายคนนี้ที่ชื่อว่า มหาราชา....
=== ทิ้งท้ายครับ หนังที่ดีสำหรับตัวเรา แน่นอนว่าอาจจะไม่ได้ดีและไม่ได้ถูกใจสำหรับใคร
ซึ่งอยู่ที่ความชอบของแต่ละบุคคล ภาพยนตร์ก็เหมือนอาหารล่ะครับ อยู่ที่เราเลือกที่จะอยากชิมรสชาติแบบไหนเท่านั้นเอง ===