สวัสดีค่ะ วันนี้เราจะมาแชร์ขั้นตอนการขอวีซ่าสำหรับนักเรียนปริญญา(ตรี)ของไต้หวัน ฉบับดำเนินการเองค่ะ

เอกสารที่ต้องเตรียมในการยื่นวีซ่าทั้งหมดมีดังนี้ เอกสารยื่นขอวีซ่านักเรียน (ไปศึกษาต่อในระดับปริญญา)
ทั้งนี้ควรดูอัพเดตเอกสารตามที่สำนักงานเศรษฐกิจและวัฒนธรรมไทเป ประจำประเทศไทยกำหนดด้วยนะคะ

ขอแบ่งขั้นตอนเป็นทั้งหมด 3 ขั้นตอนหลักๆดังนี้
ขั้นตอนที่ 1 ต้องนำเอกสารไปรับรองนิติกรณ์จากประเทศต้นทางที่ออกเอกสาร เช่น เราอาศัยอยู่เชียงใหม่ เราต้องเอาเอกสารไปรับรองที่กงสุลประจำจังหวัด ซึ่งเป็นที่ตั้งเดียวกับตอนที่เราไปทำเล่ม Passport 

และเอกสารรูปแบบภาษาอังกฤษที่ต้องนำไปรับรองมี 3 ฉบับจริง ดังนี้
-หลักฐานการศึกษาขั้นสูงสุด เช่น หนังสือรับรองการเรียนจบหลักสูตร(ที่มีตราปั้มของสถาบันการศึกษา) หรือหนังสือรับรองวุฒิการศึกษา หรือปริญญาบัตร (Diploma)
-ผลการศึกษา จากสถาบันการศึกษา (Transcript)
-ผลตรวจสุขภาพ ภายใน 3 เดือนนับจากวันที่ออก ซึ่งต้องออกโดย*โรงพยาบาลที่ระบุ 28 แห่งเท่านั้น
***เราตรวจสุขภาพที่โรงพยาบาลเชียงใหม่ราม ตอนนั้นต้อง print แบบฟอร์มตรวจสุขภาพ ไปให้โรงพยาบาลด้วยค่ะ ซึ่งค่าใช้จ่ายจะอยู่ที่ประมาณ 2,500-3,000 บาท
เราต้องฉีดวัคซีนหัดเยอรมันเพิ่ม เพราะเราไม่มีสมุดวัคซีนตอนเด็กหรือหลักฐานการฉีดก่อนหน้า เมื่อฉีดไปแล้วโรงพยาบาลจะออกเอกสารรับรองการฉีดวัคซีนให้ค่ะ
และเราแนะนำว่าควรบอกให้หมอที่ตรวจเราเซ็นรับรองเอกสารให้ทุกหน้าค่ะ เพราะตอนที่เราไปยื่น หน้าไหนที่ไม่ได้เซ็นทางนิติกรณ์จะไม่สามารถรับรองให้ได้ในส่วนนี้ ของเรายื่นที่เชียงใหม่ และทางนิติกรณ์แจ้งเรามาแบบนั้นค่ะ***

จากนั้นแนะนำให้จองคิวออนไลน์สำหรับการไปยื่นเอกสารรับรองผ่านจองคิวออนไลน์สำหรับงานรับรองนิติกรณ์เอกสาร
ตัวเราเองเลือกยื่นแบบไม่ด่วน ฉบับละ 200 บาท(200x3 = 600บาท)
ยื่นก่อนบ่ายสองโมง รอ 2 วันทำการ (ยื่นวันพุธเช้า ได้รับวันศุกร์)                                
แต่หากต้องการด่วนต้องจ่ายเพิ่มคูณสองจะได้รับเอกสารภายในวันนั้นเลย

ขั้นตอนที่ 2 การรับรองนิติกรณ์จาก Taiwan Representative Office ในประเทศต้นทางที่ออกเอกสาร ในส่วนนี้และการยื่นวีซ่า                                            จะต้องไปยื่นที่ตั้งสำนักงานเศรษฐกิจและวัฒนธรรมไทเป
ต้องนำเอกสาร 3 ฉบับจริง ได้แก่ -หลักฐานการศึกษาขั้นสูงสุด (Diploma)
                                               -ผลการศึกษา จากสถาบันการศึกษา (Transcript)
                                               -ผลตรวจสุขภายใน 3 เดือนนับจากวันที่ออก
ที่ผ่านการรับรองนิติกรณ์จากกงสุลภายในประเทศแล้วไปรับรองต่อ และควรprint แบบฟอร์มคำร้องรับรองเอกสาร พร้อมกรอกข้อมูลให้เรียบร้อย

***ตอนที่เราไปยื่นรับรองเอกสารเจ้าหน้าที่ได้ขอใบตอบรับจากมหาลัยฉบับสำเนา(ถ่ายเอกสาร) ของเราไปเป็นหลักฐานเพิ่มด้วย 
เราจึงอยากขอแนะนำว่าเอกสารทุกฉบับที่เราจะเตรียมไปยื่นขอวีซ่าต้องสำเนาเอกสารอย่างละ 1 ชุด
เว้นแต่ใบตอบรับจากมหาลัยที่ต้องสำเนา 2 ฉบับ และสำเนาบัตรประชาชน สำเนาpassport อย่างน้อย 3 ฉบับ
การรับรองนี้เรายื่นแบบไม่ด่วน ฉบับละ 510 บาท (510x3 =1530 บาท)
ยื่นได้เฉพาะวันจันทร์-ศุกร์ ตั้งแต่ 9-11.30 น. รอ 3-4 วันทำการ (ยื่นวันจันทร์เช้า ได้รับวันศุกร์)
เราแนะนำว่าไม่ต้องยื่นแบบด่วนก็ได้นะคะ เพราะราคาค่อนข้างแพง แต่จะบอกในขั้นตอนถัดไปว่ามีวิธีไหนที่เราใช้***

ขั้นตอนที่ 3 การยื่นขอวีซ่า ในขั้นตอนนี้ขอย้ำเรื่องการเตรียมเอกสารฉบับจริงและฉบับสำเนาให้ครบถ้วนมาจากที่บ้าน
พร้อมกับต้องprintและกรอกแบบฟอร์ม Online Visa Application Form

***ตอนนั้นเรากะว่าทุกอย่างจะแล้วเสร็จภายใน 5 วันที่เราไป แต่ไม่เลยย ห้าวันผ่านไป เราไปถึงตั้งแต่เขายังไม่เปิด เพราะเราต้องกลับไฟล์ทบ่ายโมง
เมื่อเราไปรับเอกสารจากขั้นตอนสองที่ยื่นรับรองไป 3 ฉบับจริง
ในวันเดียวนั้นเองเราต้องทำเวลาโดยนำเอกสาร 3 ฉบับจริงที่ได้รับคืน ไปต่อแถวในตึกนั้น เพื่อสำเนาเอกสาร แล้วจึงจะไปยื่นวีซ่าต่อได้ 

ส่วนของการยื่นวีซ่าก็จะใช้เอกสารทั้งหมดที่ระบุให้เตรียมมา ยื่นให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ หากไม่มีอะไรผิดพลาด หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่จะคืนเอกสารฉบับจริงทั้งหมด และเก็บเอกสารฉบับสำเนาทั้งหมด รวมถึงเล่ม passport ของเราไป 
เราเลือกแบบไม่ด่วนอีกเช่นกัน จ่ายไป 2,200 บาท แต่ๆยังไม่จบบบ จ่ายเงินเสร็จแล้วเราจะได้ใบเสร็จมา

ต้องเอาไปยื่นให้กับร้านที่จะมารับเล่มวีซ่าแทนเรา เพราะ ยื่นวีซ่าไปแล้วต้องรออีก 5-7 วันทำการ ทำให้เราไม่สามารถอยู่รอรับเองได้ 
ร้านก็ตั้งอยู่ใกล้ๆ ซอยถัดไปเลยค่ะ จ่ายค่ารับเล่มแทนอีก 300 บาท วันที่ร้านจะส่งเล่มให้ เขาจะโทรมาแจ้งตามข้อมูลที่ให้เขาไป และจะทำการส่งแบบ ems มาให้ เรารอ 1วัน ก็ได้รับเล่มคืนแล้วค่ะ***

ปล.ขอเพิ่มเติมอีกเล็กน้อยเรื่อง หลักฐานทางการเงิน ตอนที่เรายื่นวีซ่า เจ้าหน้าที่บอกกับเราว่าหลักฐานทางการเงินของเราไม่อัพเดต แต่เขาจะยึดตามใบรับรองทุนเป็นหลัก เขาบอกถ้าไม่ผ่านจะโทรหาและเราต้องไปยื่นหลักฐานใหม่ ซึ่งเรายื่นเป็น bank certificate ที่ออกตอนเดือนเจ็ด แต่เรายื่นขอวีซ่าตอนเดือนแปด ดังนั้นเราจึงอยากแนะนำว่าถ้าจะใช้ bank certificate ควรไปขอธนาคารช่วงใกล้ๆจะยื่นวีซ่าดีกว่า จะได้ไม่ต้องลุ้นว่าจะต้องกลับไปยื่นเอกสารอีกรอบไหม
และสำหรับใครที่ยังไม่แน่ใจว่า bank certificate ต่างกับ statement ยังไงเราจะแปะให้ ตามนี้เลยค่ะ ต่างกันยังไงน้อ


สุดท้ายนี้ หากมีคำถามเพิ่มเติมเราแนะนำให้สอบถามได้ที่ ไลน์ @TTedu หรือ ถามสำนักงานเศรษฐกิจและวัฒนธรรมไทเปโดยตรงได้เลยค่ะ