สวัสดีครับทุกท่าน วันนี้ผมจะมาพูดเกี่ยวกับการขอวีซ่าไต้หวัน เพื่อไปเรียนต่อระดับปริญญา (ตรี/โท/เอก) ด้วยตัวเองนะครับ
ก่อนอื่นต้องเกริ่นก่อนว่า ตัวผมเองจบจากวิศวะ จุฬา กำลังจะไปเรียนต่อ ป.โท ที่ National Taiwan University (國立台灣大學) นะครับ เลยต้องขอวีซ่าเพื่อที่จะเรียนที่โน่นเป็นเวลา 2 ปี
เอกสารที่ต้องใช้ยื่นวีซ่าทั้งหมด ให้ยึดตามประกาศของสำนักงานเศรษฐกิจและวัฒนธรรมไทเป ประจำประเทศไทย เท่านั้น!!! ตามลิงก์ที่แสดงเวลาไว้ตรงนี้เลยจ้า:
เอกสารยื่นขอวีซ่านักเรียน-ไปศึกษาต่อในระดับปริญญา
หรือไปที่
https://www.roc-taiwan.org/th_th/cat/26.html
แล้วกดเข้าไปที่ "เอกสารยื่นขอวีซ่านักเรียน (ไปศึกษาต่อในระดับปริญญา)"
เสร็จปุ๊บ จะเห็นว่า ขั้นตอนการขอวีซ่า ต่าง ๆ นา ๆ จะเป็นขั้นตอนประมาณนี้
1. ไปกรอกข้อมูลออนไลน์ที่เว็บไซต์
https://visawebapp.boca.gov.tw/BOCA_EVISA/home.do
กรอกข้อมูลเป็นภาษาอังกฤษให้เรียบร้อย คำถามที่อาจจะน่าเป็นห่วง เช่น
1) พวกคำถามที่เป็นคนที่สามารถติดต่อได้ที่ไต้หวัน ก็อาจขอ contact ของเพื่อนหรือรุ่นพี่สักคนที่เรียนอยู่ไต้หวันก่อนแล้ว หรืออาจเป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายวิเทศสัมพันธ์ของมหาวิทยาลัยที่กำลังจะไปเรียนก็ได้ หรือถ้าไม่มีจริง ๆ ก็อาจเขียนไปเลยว่า N/A
2) ที่อยู่ที่ไต้หวัน ถ้ายังไม่มี กรอกที่อยู่กับชื่อของมหาวิทยาลัยที่กำลังจะไปเรียนเลยจ้า
กรอกเสร็จปุ๊บ ปริ้นท์ใบออกมาเลยจ้า จะจด Application No. เก็บไว้ด้วยก็ดีเหมือนกัน ใบ VISA APPLICATION FORM นี้จะมีสองหน้านะคับ
2. ไปถ่ายรูปถ่าย 2 นิ้ว (ไม่ใช่ 2 x 2 นิ้ว!!! นะคับ เป็นรูปสองนิ้วแบบรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าเลยจ้า) ทั้งหมดสองใบ "พื้นหลังสีขาว!!!" แนบไปด้วยจ้า
3. จดหมายตอบรับจากมหาวิทยาลัยที่เรากำลังจะไปเรียน ฉบับจริง 1 ชุด และฉบับสำเนา 1 ชุด ใบนี้ทาง ม. จะส่งมาให้ที่บ้านเราก่อนที่เราจะไปไต้หวันอยู่แล้ว อันนี้เก็บไว้ดี ๆ ด้วยนะครับ ใช้ต่ออีกยาวเลย
4. แผนการศึกษา 1 ชุด อันนี้เราไปปริ้นท์ study plan ที่เราเคยส่งตอนสมัครเข้าเรียนได้เลยจ้า หรือ ถ้าตอนสมัครเรียนเค้าไม่ได้ขอ study plan เรา เราจะใช้ statement of purpose ตอนที่เราสมัครแทนก็ได้เหมือนกัน
*** สำหรับเอกสารข้อที่ 5, 6, 7 จะขอพูดรวมกัน เพราะว่าต้องเอาไปรับรองนิติกรณ์เอกสาร
5. ใบเกรด (transcript) ภาษาอังกฤษ!!! ตัวจริง 1 ชุด สำเนา 1 ชุด
6. ใบจบ (diploma) ภาษาอังกฤษ!!! ตัวจริง 1 ชุด สำเนา 1 ชุด แนะนำให้ใช้ใบรับรองว่าเราจบ (เช่น ของจุฬาจะเป็น จท.26 หรือ จท.27) ไม่จำเป็นต้องใช้ใบปริญญา
7. ใบรับรองแพทย์ที่มาจากโรงพยาบาลที่ระบุ 28 แห่งเท่านั้นตามลิงก์
https://www.taiwanembassy.org/th/post/10548.html
แนะนำว่า เผื่อเวลาไว้เลยประมาณ 3-4 วันในการได้ใบรับรองแพทย์นี้มา
เช่น ถ้าไปตรวจที่ รพ.จุฬา ให้เอาบัตร ปชช. กับพาสฟอร์ต ไปด้วย วันที่ไปตรวจวันแรกเค้าจะเก็บอจุจาระและเลือดไปตรวจ รออีกประมาณสามถึงสี่วัน เค้าจะเรียกเรากลับไปรับผลอีกรอบ บางทีอาจจะมีการต้องฉีดวัคซีนเพื่อกระตุ้นภูมิฯ ด้วย
(เรื่องรับรองนิติกรณ์เอกสาร เดี๋ยวไปพูดอีกทีด้านหลังหลัง list เอกสารทั้งหมด)
8. ผลการสอบภาษาอังกฤษ เช่น ถ้าสอบ TOEFL ก็ login เข้าไปในระบบที่ตัวเองเคยสอบ แล้วก็ปริ้นท์ใบผลออกมาเลยจ้า ทั้งตัวจริงทั้งสำเนา ใช้แบบนี้เหมือนกัน
9. หลักฐานทางการเงิน อันนี้ไปขอ statement ธนาคารไปเลย จบ ๆ
10. บัตรประชาชนตัวจริง และสำเนา
11. ทะเบียนบ้านตัวจริง และสำเนา
12. พาสฟอร์ตตัวจริง และสำเนา (ใบเว็บไซต์เขียนว่าเหลืออายุไม่น้อยกว่า 6 เดือน แต่เอาจริง ๆ คือ ถ้าจะไปเรียนต่อยาว ๆ ก็ไปทำพาสปอร์ตใหม่ 10 ปีไปเลยจ้า เพราะวีซ่าที่เขาให้มาจะถูกแปะลงบนหน้าพาสปอร์ตนั้นของเรา ถ้าพาสปอร์ตเราที่มีวีซ่าไต้หวันหมดอายุ เราจะต้องไปรับรองเอกสารที่กรมการกงสุลอีกว่าพาสปอร์ตเก่าเราเป็นของเราจริง ๆ วุ่นวายไปอีก เพราะฉะนั้น!!! ไปทำพาสปอร์ตให้อายุยืนว่าเวลาที่เราจะอยู่ไต้หวันแน่ ๆ ดีกว่าจ้ะ)
13. ตั๋วเครื่องบิน (ถ้ำมี)
*** ข้อ 14, 15 ผู้เขียนไม่รู้จริง ๆ ใครที่มีปัญหาเรื่องนี้ต้องไปศึกษาเองนะคับว่าทำยังไง (คิดอะไรไม่ออก โทร. ไป สำนักงานเศรษฐกิจและวัฒนธรรมไทเป ชัวร์สุด!!!)
14. ใบเปลี่ยนชื่อ-สกุล (ในกรณีที่มีการเปลี่ยนชื่อหรือเปลี่ยนนามสกุล)
15. หากผู้เรียนอายุไม่ถึง 20 ปีบริบูรณ์ จะต้องมีเอกสารยินยอมจำกผู้ปกครอง อนุญาตให้ไปเรียนต่างประเทศ (ขอเอกสาร
เป็นภาษาไทยได้ที่สำนักงานเขต/อำเภอ)
16. สุดท้าย เงิน 2200 (เงินสดเท่านั้น) เตรียมไปด้วยนะจ๊ะ
เอาหล่ะ แต่ก่อนที่เราจะไปทำวีซ่าตอนสุดท้าย เรื่องที่ยุ่งยากที่สุดนั่นก็คือ เอกสารข้อที่ 5, 6, 7 ที่ต้องเอาไป "รับรองนิติกรณ์เอกสาร"
การรับรองนิติกรณ์ ต้องทำ *สองขั้นตอน* คือ
1. ไปรับรองที่กรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ
ขั้นนี้ "แนะนำให้จองคิวล่วงหน้า แบบ ล่วงหน้าจริง ๆ" เพราะคิวเต็มไว จองโหด
อย่าหวัง walk in!!! เพราะว่าเค้าจะเก็บ walk in ไว้สำหรับคนที่ด่วนจริง ๆ เท่านั้น (เช่น ตั๋วเครื่องบินจะไปสัปดาห์นั้นแล้ว หรือมีใบคิวมาจากสถานทูต) ซึ่ง อย่าไป walk in เลยจ้า
จองคิวออนไลน์เท่านั้น ที่
https://qlegal.consular.go.th/
แนะนำให้จองช่วงวันจันทร์ คิวว่างจะเยอะ (เทคนิคแพรวพราวจริง ๆ 555)
เก็บ qr code กับ email ที่กงสุลส่งมา แล้วไปตามนัดที่จองไว้
ค่าธรรมเนียม แบบด่วน ชุดละ 400 บาท วันนั้นได้เอกสารเลย (ไม่ว่าจะจองคิวเช้าหรือบ่าย) แบบปกติ ชุดละ 200 บาท รอไป 3 วันราชการ
ถ้าเป็นนิติกรณ์ภาษาอังกฤษ **จองแบบด่วนได้** เพราะฉะนั้น เอกสารข้อที่ 5, 6 แนะนำให้ขอเป็นภาษาอังกฤษ (ส่วนใบรับรองแพทย์เป็นภาษาอังกฤษอยู่แล้ว) และก็แนะนำให้รับรองตัวจริงไปเลย ไม่ต้องให้เค้ารับรองตัวสำเนา จะได้ไม่ยุ่งยาก
วันที่ไป อย่าลืม เอา บัตร ปชช. ไปด้วย และก็เอาพาสฟอร์ตไปเผื่อด้วยก็ดีนะ
ส่วนใครที่ให้ผู้ปกครองไปยื่นแทน อันนี้ต้องไปดูเรื่องหนังสือมอบอำนาจด้วยนะ อันนี้ผู้เขียนไม่รู้จริง ๆ ไปดูเพิ่มเติมเองนะค้าบ
2. เอาเอกสารที่รับรองที่กรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศแล้ว ไปรับรองต่อที่ สำนักงานเศรษฐกิจและวัฒนธรรมไทเป ประจำประเทศไทย
***ขั้นตอนนี้ ไม่ใช่ขั้นตอนเดียวกันกับที่ขอวีซ่า***
เอาเอกสาร ข้อที่ 5, 6, 7 ที่ได้รับรองที่กรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ ไปสำเนาเลยจ้า ถ้าตราประทับรับรองอยู่หน้าหลังก็สำเนาหน้าหลังไปเลยจ้ะ (อย่าไปสำเนาที่ปลายทางนะครับ คิวยาวเว่อร์) จากนั้น เอาทั้งตัวจริง ทั้งสำเนา ไปรับรองต่อที่ สำนักงานเศรษฐกิจและวัฒนธรรมไทเป ประจำประเทศไทย
เอกสารที่ต้องเตรียมเพิ่มเติม คือ บัตร ปชช. หรือพาสปอร์ต และก็ ตอนที่พี่ไปรับรอง เค้าขอดูจดหมายตอบรับจากมหาวิทยาลัยที่เรากำลังจะไปเรียนด้วย เพราะฉะนั้นเอาไปเผื่อไว้ก็ดีจ้า
ตอนเข้าไปที่หน้าเคาท์เตอร์แล้ว ก่อนจะถึงคิวเรา อย่าลืม กรองคำร้องขอรับรองเอกสารด้วยนะครับ (จะมีใบให้เขียนที่โต๊ะด้านหน้าประตูทางเข้าห้องเลย) +++
ขอแบบธรรมดา 510 บาท ได้ภายใน 4 วันทำการ แบบด่วน 770 บาท ได้ภายใน 2 วันทำการ (เงินสดนะจ้า อย่าลืมพกเงินสดไปด้วยจ้า)
ละก็ สำนักงานเศรษฐกิจและวัฒนธรรมไทเป จะเปิดแค่วันธรรมดา ตอน 9.00 - 11.30 น. เท่านั้น อย่าไปผิดเวลานะครับ ไกลมาก TT
เสร็จทุกอย่างที่กล่าวมาข้างต้น เมื่อได้เอกสาร 5, 6, 7 ที่รับรองจากทั้ง กรมการกงสุล และ สำนักงานเศรษฐกิจและวัฒนธรรมไทเป แล้ว เราก็เอาเอกสารทั้งหมดทั้งมวลไปยื่นวีซ่าต่อที่เดิม (สำนักงานเศรษฐกิจและวัฒนธรรมไทเป) ในวันที่เรารับเอกสาร 5, 6, 7 ได้เลยจ้า
ตอนที่ทำวีซ่า เอกสารตัวจริงทุกอย่างจะได้คืน ยกเว้น พาสปอร์ต ที่เค้าจะคืนให้เราในวันรับวีซ่า
ถ้าไม่มีปัญหาอะไร วีซ่าจะได้ภายในสามวันทำการ แล้วเราก็กลับไปรับวีซ่าที่ สำนักงานเศรษฐกิจและวัฒนธรรมไทเป ได้เลย เป็นอันเสร็จพิธี
ถ้ามีข้อสงสัยอะไรก็ทักหลังไมค์ได้นะครับ แต่ชัวร์สุด คือ โทร.ไปที่ สำนักงานเศรษฐกิจและวัฒนธรรมไทเป ตอบชัดเจนที่สุด 555
สัพเพเหระ
-1- แนะนำว่าอย่าขอใบรับรองแพทย์ล่วงหน้ามากเกินไป เพราะใบรับรองแพทย์นี้มีอายุแค่สามเดือน ถ้าทางมหาวิทยาลัยไต้หวันต้องการใบรับรองแพทย์นี้ไปใช้ต่อแต่ใบมันหมดอายุแล้ว อาจจะมีปัญหาได้
-2- สำหรับนิสิตที่จบจุฬาแล้วต้องใช้ใบจบหลังเรียนจบ แต่ตอนนั้นสภามหาวิทยาลัยยังไม่รับรอง (ยังเป็น จท.27 ไม่ใช่ จท.26) ให้เอา จท.27 ไปยื่นได้เลยจ้า
รีวิว ขอวีซ่าไต้หวัน ประเภทนักเรียนปริญญา แบบละเอียดสุดๆ ง่ายๆ จบไว ยื่นเอง ได้ชัวร์
ก่อนอื่นต้องเกริ่นก่อนว่า ตัวผมเองจบจากวิศวะ จุฬา กำลังจะไปเรียนต่อ ป.โท ที่ National Taiwan University (國立台灣大學) นะครับ เลยต้องขอวีซ่าเพื่อที่จะเรียนที่โน่นเป็นเวลา 2 ปี
เอกสารที่ต้องใช้ยื่นวีซ่าทั้งหมด ให้ยึดตามประกาศของสำนักงานเศรษฐกิจและวัฒนธรรมไทเป ประจำประเทศไทย เท่านั้น!!! ตามลิงก์ที่แสดงเวลาไว้ตรงนี้เลยจ้า:
เอกสารยื่นขอวีซ่านักเรียน-ไปศึกษาต่อในระดับปริญญา
หรือไปที่
https://www.roc-taiwan.org/th_th/cat/26.html
แล้วกดเข้าไปที่ "เอกสารยื่นขอวีซ่านักเรียน (ไปศึกษาต่อในระดับปริญญา)"
เสร็จปุ๊บ จะเห็นว่า ขั้นตอนการขอวีซ่า ต่าง ๆ นา ๆ จะเป็นขั้นตอนประมาณนี้
1. ไปกรอกข้อมูลออนไลน์ที่เว็บไซต์ https://visawebapp.boca.gov.tw/BOCA_EVISA/home.do
กรอกข้อมูลเป็นภาษาอังกฤษให้เรียบร้อย คำถามที่อาจจะน่าเป็นห่วง เช่น
1) พวกคำถามที่เป็นคนที่สามารถติดต่อได้ที่ไต้หวัน ก็อาจขอ contact ของเพื่อนหรือรุ่นพี่สักคนที่เรียนอยู่ไต้หวันก่อนแล้ว หรืออาจเป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายวิเทศสัมพันธ์ของมหาวิทยาลัยที่กำลังจะไปเรียนก็ได้ หรือถ้าไม่มีจริง ๆ ก็อาจเขียนไปเลยว่า N/A
2) ที่อยู่ที่ไต้หวัน ถ้ายังไม่มี กรอกที่อยู่กับชื่อของมหาวิทยาลัยที่กำลังจะไปเรียนเลยจ้า
กรอกเสร็จปุ๊บ ปริ้นท์ใบออกมาเลยจ้า จะจด Application No. เก็บไว้ด้วยก็ดีเหมือนกัน ใบ VISA APPLICATION FORM นี้จะมีสองหน้านะคับ
2. ไปถ่ายรูปถ่าย 2 นิ้ว (ไม่ใช่ 2 x 2 นิ้ว!!! นะคับ เป็นรูปสองนิ้วแบบรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าเลยจ้า) ทั้งหมดสองใบ "พื้นหลังสีขาว!!!" แนบไปด้วยจ้า
3. จดหมายตอบรับจากมหาวิทยาลัยที่เรากำลังจะไปเรียน ฉบับจริง 1 ชุด และฉบับสำเนา 1 ชุด ใบนี้ทาง ม. จะส่งมาให้ที่บ้านเราก่อนที่เราจะไปไต้หวันอยู่แล้ว อันนี้เก็บไว้ดี ๆ ด้วยนะครับ ใช้ต่ออีกยาวเลย
4. แผนการศึกษา 1 ชุด อันนี้เราไปปริ้นท์ study plan ที่เราเคยส่งตอนสมัครเข้าเรียนได้เลยจ้า หรือ ถ้าตอนสมัครเรียนเค้าไม่ได้ขอ study plan เรา เราจะใช้ statement of purpose ตอนที่เราสมัครแทนก็ได้เหมือนกัน
*** สำหรับเอกสารข้อที่ 5, 6, 7 จะขอพูดรวมกัน เพราะว่าต้องเอาไปรับรองนิติกรณ์เอกสาร
5. ใบเกรด (transcript) ภาษาอังกฤษ!!! ตัวจริง 1 ชุด สำเนา 1 ชุด
6. ใบจบ (diploma) ภาษาอังกฤษ!!! ตัวจริง 1 ชุด สำเนา 1 ชุด แนะนำให้ใช้ใบรับรองว่าเราจบ (เช่น ของจุฬาจะเป็น จท.26 หรือ จท.27) ไม่จำเป็นต้องใช้ใบปริญญา
7. ใบรับรองแพทย์ที่มาจากโรงพยาบาลที่ระบุ 28 แห่งเท่านั้นตามลิงก์ https://www.taiwanembassy.org/th/post/10548.html
แนะนำว่า เผื่อเวลาไว้เลยประมาณ 3-4 วันในการได้ใบรับรองแพทย์นี้มา
เช่น ถ้าไปตรวจที่ รพ.จุฬา ให้เอาบัตร ปชช. กับพาสฟอร์ต ไปด้วย วันที่ไปตรวจวันแรกเค้าจะเก็บอจุจาระและเลือดไปตรวจ รออีกประมาณสามถึงสี่วัน เค้าจะเรียกเรากลับไปรับผลอีกรอบ บางทีอาจจะมีการต้องฉีดวัคซีนเพื่อกระตุ้นภูมิฯ ด้วย
(เรื่องรับรองนิติกรณ์เอกสาร เดี๋ยวไปพูดอีกทีด้านหลังหลัง list เอกสารทั้งหมด)
8. ผลการสอบภาษาอังกฤษ เช่น ถ้าสอบ TOEFL ก็ login เข้าไปในระบบที่ตัวเองเคยสอบ แล้วก็ปริ้นท์ใบผลออกมาเลยจ้า ทั้งตัวจริงทั้งสำเนา ใช้แบบนี้เหมือนกัน
9. หลักฐานทางการเงิน อันนี้ไปขอ statement ธนาคารไปเลย จบ ๆ
10. บัตรประชาชนตัวจริง และสำเนา
11. ทะเบียนบ้านตัวจริง และสำเนา
12. พาสฟอร์ตตัวจริง และสำเนา (ใบเว็บไซต์เขียนว่าเหลืออายุไม่น้อยกว่า 6 เดือน แต่เอาจริง ๆ คือ ถ้าจะไปเรียนต่อยาว ๆ ก็ไปทำพาสปอร์ตใหม่ 10 ปีไปเลยจ้า เพราะวีซ่าที่เขาให้มาจะถูกแปะลงบนหน้าพาสปอร์ตนั้นของเรา ถ้าพาสปอร์ตเราที่มีวีซ่าไต้หวันหมดอายุ เราจะต้องไปรับรองเอกสารที่กรมการกงสุลอีกว่าพาสปอร์ตเก่าเราเป็นของเราจริง ๆ วุ่นวายไปอีก เพราะฉะนั้น!!! ไปทำพาสปอร์ตให้อายุยืนว่าเวลาที่เราจะอยู่ไต้หวันแน่ ๆ ดีกว่าจ้ะ)
13. ตั๋วเครื่องบิน (ถ้ำมี)
*** ข้อ 14, 15 ผู้เขียนไม่รู้จริง ๆ ใครที่มีปัญหาเรื่องนี้ต้องไปศึกษาเองนะคับว่าทำยังไง (คิดอะไรไม่ออก โทร. ไป สำนักงานเศรษฐกิจและวัฒนธรรมไทเป ชัวร์สุด!!!)
14. ใบเปลี่ยนชื่อ-สกุล (ในกรณีที่มีการเปลี่ยนชื่อหรือเปลี่ยนนามสกุล)
15. หากผู้เรียนอายุไม่ถึง 20 ปีบริบูรณ์ จะต้องมีเอกสารยินยอมจำกผู้ปกครอง อนุญาตให้ไปเรียนต่างประเทศ (ขอเอกสาร
เป็นภาษาไทยได้ที่สำนักงานเขต/อำเภอ)
16. สุดท้าย เงิน 2200 (เงินสดเท่านั้น) เตรียมไปด้วยนะจ๊ะ
เอาหล่ะ แต่ก่อนที่เราจะไปทำวีซ่าตอนสุดท้าย เรื่องที่ยุ่งยากที่สุดนั่นก็คือ เอกสารข้อที่ 5, 6, 7 ที่ต้องเอาไป "รับรองนิติกรณ์เอกสาร"
การรับรองนิติกรณ์ ต้องทำ *สองขั้นตอน* คือ
1. ไปรับรองที่กรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ
ขั้นนี้ "แนะนำให้จองคิวล่วงหน้า แบบ ล่วงหน้าจริง ๆ" เพราะคิวเต็มไว จองโหด
อย่าหวัง walk in!!! เพราะว่าเค้าจะเก็บ walk in ไว้สำหรับคนที่ด่วนจริง ๆ เท่านั้น (เช่น ตั๋วเครื่องบินจะไปสัปดาห์นั้นแล้ว หรือมีใบคิวมาจากสถานทูต) ซึ่ง อย่าไป walk in เลยจ้า
จองคิวออนไลน์เท่านั้น ที่ https://qlegal.consular.go.th/
แนะนำให้จองช่วงวันจันทร์ คิวว่างจะเยอะ (เทคนิคแพรวพราวจริง ๆ 555)
เก็บ qr code กับ email ที่กงสุลส่งมา แล้วไปตามนัดที่จองไว้
ค่าธรรมเนียม แบบด่วน ชุดละ 400 บาท วันนั้นได้เอกสารเลย (ไม่ว่าจะจองคิวเช้าหรือบ่าย) แบบปกติ ชุดละ 200 บาท รอไป 3 วันราชการ
ถ้าเป็นนิติกรณ์ภาษาอังกฤษ **จองแบบด่วนได้** เพราะฉะนั้น เอกสารข้อที่ 5, 6 แนะนำให้ขอเป็นภาษาอังกฤษ (ส่วนใบรับรองแพทย์เป็นภาษาอังกฤษอยู่แล้ว) และก็แนะนำให้รับรองตัวจริงไปเลย ไม่ต้องให้เค้ารับรองตัวสำเนา จะได้ไม่ยุ่งยาก
วันที่ไป อย่าลืม เอา บัตร ปชช. ไปด้วย และก็เอาพาสฟอร์ตไปเผื่อด้วยก็ดีนะ
ส่วนใครที่ให้ผู้ปกครองไปยื่นแทน อันนี้ต้องไปดูเรื่องหนังสือมอบอำนาจด้วยนะ อันนี้ผู้เขียนไม่รู้จริง ๆ ไปดูเพิ่มเติมเองนะค้าบ
2. เอาเอกสารที่รับรองที่กรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศแล้ว ไปรับรองต่อที่ สำนักงานเศรษฐกิจและวัฒนธรรมไทเป ประจำประเทศไทย
***ขั้นตอนนี้ ไม่ใช่ขั้นตอนเดียวกันกับที่ขอวีซ่า***
เอาเอกสาร ข้อที่ 5, 6, 7 ที่ได้รับรองที่กรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ ไปสำเนาเลยจ้า ถ้าตราประทับรับรองอยู่หน้าหลังก็สำเนาหน้าหลังไปเลยจ้ะ (อย่าไปสำเนาที่ปลายทางนะครับ คิวยาวเว่อร์) จากนั้น เอาทั้งตัวจริง ทั้งสำเนา ไปรับรองต่อที่ สำนักงานเศรษฐกิจและวัฒนธรรมไทเป ประจำประเทศไทย
เอกสารที่ต้องเตรียมเพิ่มเติม คือ บัตร ปชช. หรือพาสปอร์ต และก็ ตอนที่พี่ไปรับรอง เค้าขอดูจดหมายตอบรับจากมหาวิทยาลัยที่เรากำลังจะไปเรียนด้วย เพราะฉะนั้นเอาไปเผื่อไว้ก็ดีจ้า
ตอนเข้าไปที่หน้าเคาท์เตอร์แล้ว ก่อนจะถึงคิวเรา อย่าลืม กรองคำร้องขอรับรองเอกสารด้วยนะครับ (จะมีใบให้เขียนที่โต๊ะด้านหน้าประตูทางเข้าห้องเลย) +++
ขอแบบธรรมดา 510 บาท ได้ภายใน 4 วันทำการ แบบด่วน 770 บาท ได้ภายใน 2 วันทำการ (เงินสดนะจ้า อย่าลืมพกเงินสดไปด้วยจ้า)
ละก็ สำนักงานเศรษฐกิจและวัฒนธรรมไทเป จะเปิดแค่วันธรรมดา ตอน 9.00 - 11.30 น. เท่านั้น อย่าไปผิดเวลานะครับ ไกลมาก TT
เสร็จทุกอย่างที่กล่าวมาข้างต้น เมื่อได้เอกสาร 5, 6, 7 ที่รับรองจากทั้ง กรมการกงสุล และ สำนักงานเศรษฐกิจและวัฒนธรรมไทเป แล้ว เราก็เอาเอกสารทั้งหมดทั้งมวลไปยื่นวีซ่าต่อที่เดิม (สำนักงานเศรษฐกิจและวัฒนธรรมไทเป) ในวันที่เรารับเอกสาร 5, 6, 7 ได้เลยจ้า
ตอนที่ทำวีซ่า เอกสารตัวจริงทุกอย่างจะได้คืน ยกเว้น พาสปอร์ต ที่เค้าจะคืนให้เราในวันรับวีซ่า
ถ้าไม่มีปัญหาอะไร วีซ่าจะได้ภายในสามวันทำการ แล้วเราก็กลับไปรับวีซ่าที่ สำนักงานเศรษฐกิจและวัฒนธรรมไทเป ได้เลย เป็นอันเสร็จพิธี
ถ้ามีข้อสงสัยอะไรก็ทักหลังไมค์ได้นะครับ แต่ชัวร์สุด คือ โทร.ไปที่ สำนักงานเศรษฐกิจและวัฒนธรรมไทเป ตอบชัดเจนที่สุด 555
สัพเพเหระ
-1- แนะนำว่าอย่าขอใบรับรองแพทย์ล่วงหน้ามากเกินไป เพราะใบรับรองแพทย์นี้มีอายุแค่สามเดือน ถ้าทางมหาวิทยาลัยไต้หวันต้องการใบรับรองแพทย์นี้ไปใช้ต่อแต่ใบมันหมดอายุแล้ว อาจจะมีปัญหาได้
-2- สำหรับนิสิตที่จบจุฬาแล้วต้องใช้ใบจบหลังเรียนจบ แต่ตอนนั้นสภามหาวิทยาลัยยังไม่รับรอง (ยังเป็น จท.27 ไม่ใช่ จท.26) ให้เอา จท.27 ไปยื่นได้เลยจ้า