สรุป"อนัตตา"ภายในห้านาที และเห็นอนัตตาอย่างชัดเจนแจ่มแจ้ง

อนัตตา:
กฎธรรมชาติอย่างหนึ่งเป็นหลักคำสอนหนึ่งในศาสนาพุทธที่ว่า ไม่ว่าพืช,สัตว์,คน,สิ่งไม่มีชีวิต ทุกสิ่งล้วนเป็นสิ่งที่เหตุปัจจัยปรุงแต่งขึ้นมา ไม่ใช่ของเรา ไม่เป็นเรา ไม่ใช่ตัวตนของเรา เป็นหลักความสัมพันธ์ระหว่างเหตุ-ปัจจัย เป็นหลักความสัมพันธ์กันในสิ่งที่มาเป็นเหตุ-ผลกัน ไม่อยู่ในอำนาจของผู้ใดไม่ว่าใครจึงไม่เป็นไปตามใจผู้ใดปรารถนาเลยไม่ว่าใคร

อนัตตา:
ร่างกายที่มาประกอบเป็นตัวเรานี่เป็นเพียงธาตุ4ที่มาประชุมกัน เมื่อเห็นร่างกายโดยความเป็นธาตุ4ที่มาประชุมรวมกัน ความสำคัญว่าเป็นสัตว์,บุคคล,ตัวตนย่อมไม่มีหลงเหลือ เป็นสักว่าก้อนธาตุ4หรือองค์ประกอบแยกย่อยต่างๆหลายๆส่วนที่มาประชุมรวมกันเป็นตัวตนขึ้นมา การเกิดขึ้นพร้อมแห่งธรรมทั้งหลายเพราะอาศัยกัน การที่สิ่งทั้งหลายอาศัยกันจึงเกิดมีขึ้น เป็นหลักที่ว่าทุกสิ่งล้วนสัมพันธ์กันเป็นเหตุเป็นปัจจัยซึ่งกันและกัน ตัวตนจึงเป็นสักว่ากระแสการปรุงแต่งของเหตุปัจจัยที่มีอยู่ในธรรมชาติที่มาเป็นเหตุเป็นปัจจัยกันทำหน้าที่จนเกิดมีตัวตน(มารยา)ขึ้นมา แท้จริงเป็นสักว่าสภาวธรรมที่เป็นไปเองล้วนๆ ไม่มีสัตว์ บุคคล ตัวตนที่เกิดขึ้น เป็นสักว่าปรากฏการณ์ธรรมชาติที่เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไปเท่านั้น เป็นเพียงสภาวธรรมที่ถูกปรุงแต่งขึ้นมา จึงปรากฏความไม่สมบูรณ์ในตัว เช่น ใบไม้ในต้นเดียวกันแต่ละใบมีสีเขียวไม่สม่ำเสมอกันและใบมีขนาดที่ไม่สมมาตร-เท่ากันทุกใบ,ผิวหนังไม่เรียบเนียนเสมอกัน มองด้วยตาเปล่าไม่เห็น มีแต่ร่างกายที่ปรากฏทั้งความเกิดขึ้น ทั้งความสลายไป ก็สิ่งที่ปรากฏทั้งความเกิดขึ้น ทั้งความสลายไป ย่อมจะกล่าวได้อย่างนี้ว่าอัตตาของเราปรากฏทั้งความเกิดขึ้น ทั้งความสลายไป ฉะนั้นข้อที่ผู้ใดจะพึงกล่าวว่า ร่างกายเป็นอัตตาดังนี้จึงเป็นไปไม่ได้ ร่างกายจึงเป็นอนัตตา ร่างกายมีความแปรปรวนเป็นธรรมดาเปลี่ยนไปตามเหตุเสมอ ถูกบีบคั้นให้สลายอยู่เนืองๆต้านทานไม่ได้ มีความสลายไปเป็นธรรมดาดับไปในที่สุด แม้แต่พระพุทธเจ้าก็ไม่มีข้อยกเว้น จึงทรงดับขันธปรินิพพาน สมดังเมื่อครั้งพระพุทธเจ้าทรงแสดงพระปฐมเทศนาในวันอาสาฬหบูชา มีผู้ได้ดวงตาเห็นธรรมเป็นพระอริยบุคคลเป็นองค์แรกในพระพุทธศาสนาคือท่านพระอัญญาโกณฑัญญะ ธรรมจักษุอันปราศจากธุลี ปราศจากมลทินได้เกิดแก่ท่านพระอัญญาโกณฑัญญะว่า "สิ่งใดสิ่งหนึ่งมีความเกิดขึ้นเป็นธรรมดา สิ่งนั้นทั้งปวงมีความดับไปเป็นธรรมดา" ร่างกายจึงเป็น"อนัตตา"เพราะไม่เป็นไปตาม"อาณัติ"ผู้ใดไม่ว่าใคร (อาณัติแปลว่าอำนาจในอันที่จะสั่งบังคับ)

ประโยชน์ของอนัตตา:
(1)ดังพระพุทธพจน์ตอนหนึ่งมีว่าผู้ได้อนัตตสัญญาย่อมบรรลุนิพพานอันถอนเสียได้ซึ่งอัสมิมานะในปัจจุบันทีเดียว (อัสมิมานะแปลว่าความถือตน)
(2)ด้วยพระผู้มีพระภาคทรงหวังประโยชน์ ใคร่จะโปรดเวไนยชนผู้ตกอยู่ในอัตตคาหะ (ความยึดถือว่าเป็นตน) ในขันธ์ทั้ง5โดยไม่แยกกัน ให้หลุดพ้นจากอัตตคาหะด้วย (ให้) เห็นโดยกระจายกลุ่มก้อนออกไป (ข้อมูล คัมภีร์วิสุทธิมรรคหน้า799)
(3)ละสังโยชน์ข้อที่1สักกายทิฏฐิ=ความเห็นผิดว่าเป็นอัตตาของตน (สังโยชน์แปลว่ากิเลสที่ผูกคนไว้กับวัฏสงสาร)
(4)ละสัญญาวิปลาสว่าเป็นอัตตาในสิ่งที่เป็นอนัตตา
(5)ละสัสสตทิฏฐิ-ความเห็นว่าอัตตาและโลกเที่ยง
(6)ความไม่ยึดติดจะเกิดจากปัญญาที่เห็นว่าทุกสิ่งล้วนเป็นไปตามเหตุตามปัจจัย (ข้อมูล รายการทีวีสามเณรปลูกปัญญาธรรม พระอาจารย์ชยสาโร)
(7)พุทธสุภาษิตหมวดอนัตตา "คนเขลาคิดว่าเรามีบุตร เรามีทรัพย์ เขาจึงเดือดร้อน ที่แท้ตนของตนก็ไม่มี จะมีบุตร มีทรัพย์มาแต่ไหนเล่า"
(8)พุทธสุภาษิตหมวดอนัตตา "ทุกข์เท่านั้นเกิดขึ้น ทุกข์ย่อมตั้งอยู่และเสื่อมไป นอกจากทุกข์ไม่มีอะไรเกิด นอกจากทุกข์ไม่มีอะไรดับ" ความทุกข์ก็ไม่เที่ยงเป็นทุกข์เป็นอนัตตา จะกลัวทุกข์กันทำไม?
(9)อนัตตลักขณสูตร-พระพุทธเจ้าทรงมุ่งสอนให้พิจารณาเห็นความเป็นอนัตตาในร่างกาย ซึ่งเป็นความจริงที่มีอยู่เป็นอยู่ แต่คนทั่วไปไม่รู้ไม่เห็นอนัตตา โดยความหมายคือ ไม่ใช่ตัวตน,ไม่เป็นไปในอำนาจหรือไม่อาจสั่งการให้เป็นไปอย่างที่ใจต้องการได้ ความจริงของร่างกายเป็นอย่างหนึ่ง แต่คนทั้งหลายอยากให้เป็นอีกอย่างหนึ่ง เมื่อความจริงไม่เป็นดังที่เราต้องการจึงทำให้เราเป็นทุกข์ รูปร่างกายมีความแก่ มีความเจ็บไข้ มีความเสื่อมโทรมเป็นธรรมดา แต่เราต้องการให้มันไม่แก่ ไม่เจ็บ ไม่เสื่อมโทรม พอมันแก่มันเจ็บมันเสื่อมโทรมจึงเป็นทุกข์ ทุกข์เพราะไม่ยอมรับความจริง ทุกข์เพราะไม่รู้อนัตตา ถ้าเรารู้จักอนัตตา ยอมรับอนัตตาได้ ใจเราก็เป็นอิสระไม่ทุกข์ (ข้อมูล บทอนัตตลักขณสูตร เว็บไซต์สำนักพิมพ์เลี่ยงเชียง)
(10)อนัตตลักขณสูตร-ภิกษุทั้งหลาย อริยสาวกผู้ได้สดับ เห็นอยู่อย่างนี้ ย่อมเบื่อหน่ายแม้ในรูป ย่อมเบื่อหน่ายแม้ในเวทนา ย่อมเบื่อหน่ายแม้ในสัญญา ย่อมเบื่อหน่ายแม้ในสังขาร ย่อมเบื่อหน่ายแม้ในวิญญาณ เมื่อเบื่อหน่าย ย่อมคลายกำหนัด เพราะคลายกำหนัด จิตย่อมหลุดพ้น เมื่อจิตหลุดพ้นแล้ว ย่อมมีญาณว่าหลุดพ้นแล้ว อริยสาวกย่อมรู้ชัดว่า ชาติสิ้นแล้ว พรหมจรรย์ได้อยู่จบแล้ว กิจที่ควรทำได้ทำเสร็จแล้ว กิจอื่นเพื่อความเป็นอย่างนี้มิได้มี พระผู้มีพระภาคได้ตรัสอนัตตลักขณสูตรนี้แล้ว ภิกษุปัญจวัคคีย์ก็มีใจยินดีชื่นชมภาษิตของพระผู้มีพระภาค เมื่อพระพุทธองค์ตรัสเวยยากรณ์นี้อยู่ จิตของภิกษุปัญจวัคคีย์ก็หลุดพ้นจากอาสวะทั้งหลายเพราะไม่ถือมั่น ครั้งนั้น มีพระอรหันต์ในโลก6รูป (ข้อมูล พระไตรปิฎกเล่มที่4มหาวรรคภาค1 อนัตตลักขณสูตร)
(11)ให้ทาน100ครั้งอานิสงส์ไม่เท่ารักษาศีล1ครั้ง รักษาศีล100ครั้งอานิสงส์ไม่เท่าทำสมาธิ1ครั้ง ทำสมาธิ100ครั้งอานิสงส์ไม่เท่าภาวนา(วิปัสสนาเห็นอนัตตา)1ครั้ง

ปุจฉา:
ก็ในเมื่อทุกสิ่งเป็นอนัตตาแล้ว ใครเป็นผู้สร้างกรรมและเสวยผลของกรรมเล่า?
วิสัชนา:
ผู้สร้างกรรมไม่มีและผู้เสวยผลของกรรมก็ไม่มี ธรรมล้วนๆเป็นไปอย่างเดียว นี้เป็นสัมมาทัสสนะคือความเห็นโดยชอบ (ข้อมูล คัมภีร์วิสุทธิมรรคหน้า1002)

กรณีศึกษาเรื่องอนัตตา:
พืช:
(1)ผักไฮโดรโปนิกส์ต้นเท่ากันทุกต้น เพราะสามารถควบคุมเหตุปัจจัยให้เท่ากันทุกต้นได้
(2)ผักเป็นอนัตตา 1)ผักไฮโดรโปนิกส์-ต้นใหญ่ รากเล็ก 2)ผักปลูกลงดิน-ต้นเล็ก รากใหญ่ (ข้อมูล ezgrogarden.com)
(3)ต้นไม้เป็นอนัตตา 1)ดินทราย-ต้นเล็ก,ดินร่วน-ต้นใหญ่ 2)แสงน้อย-โตช้า,แสงมาก-โตเร็ว
(4)ดอกดาวเรือง ถ้าปลูกในฤดูหนาวใช้เวลาออกดอก60วัน ถ้าปลูกในฤดูร้อนใช้เวลาออกดอก70วัน เพราะในช่วงดังกล่าวดาวเรืองจะเจริญเติบโตทางต้นดีเลยออกดอกช้าลง (ข้อมูล trathospital.go.th ดาวเรืองไฟล์.pdf)
(5)ไม้น้ำประดับตู้ปลา ปลูกในน้ำ-ใบสีแดง,ปลูกบนบก-ใบสีเขียว (ข้อมูล Youtube.com ช่องMarangMod Channel)

สัตว์:
(1)ไก่ซีพีเลี้ยงในฟาร์มน้ำหนักเท่ากันทุกตัว เพราะสามารถควบคุมเหตุปัจจัยให้เท่ากันทุกตัวได้
(2)ไก่ฟาร์มน้ำหนักมากกว่าไก่บ้าน25% เพราะเหตุปัจจัยไม่เหมือนกัน (ข้อมูล คู่มือเลี้ยงไก่CPF)
(3)ไก่เป็นอนัตตา ไก่ตอน-ตัวโต,ไก่ไม่ตอน-ตัวไม่โต
(4)อายุเมื่อแม่ไก่พันธุ์ประดู่หางดำเชียงใหม่เริ่มวางไข่ฟองแรกเป็นอนัตตา เลี้ยงในฟาร์ม-เริ่มวางไข่ฟองแรกเมื่ออายุ188วัน เลี้ยงในบ้าน-เริ่มวางไข่ฟองแรกเมื่ออายุ225วัน ต่างกัน37วัน (ข้อมูล รายงานวิจัยไก่พันธุ์ประดู่หางดำเชียงใหม่ โดย พรพิมล ใจไหวและคณะ)
(5)กุ้งเป็นอนัตตา กุ้งจะขนาดตัว50-200กรัมขึ้นกับเหตุปัจจัยดังนี้ 1)โภชนาการ 2)ความหนาแน่น 3)อุณหภูมิน้ำ 4)คุณภาพน้ำ 5)การบริหารจัดการ (ข้อมูล vikaspedia.in และ agritech.tnau.ac.in)
(6)ระยะเวลาเลี้ยงกุ้งเป็นอนัตตา กุ้งเลี้ยงแบบเชิงเดี่ยว ใช้ระยะเวลาเลี้ยง6-8เดือน กุ้งเลี้ยงแบบผสมผสาน ใช้ระยะเวลาเลี้ยง8-12เดือน (ข้อมูล vikaspedia.in และ agritech.tnau.ac.in)
(7)ระยะเวลาการฟักไข่กุ้งเป็นอนัตตา ถ้าอุณหภูมิน้ำ28°cใช้เวลา10-15วัน ถ้าอุณหภูมิน้ำ<28°cใช้เวลา21วัน (ข้อมูล vikaspedia.in และ agritech.tnau.ac.in)
(8)หอยพันธุ์หนึ่งเป็นอนัตตา ขนาดตัวสัมพันธ์กับอุณหภูมิน้ำ ถ้าอุณหภูมิน้ำ10°cจะมีขนาดตัว1ซม. ถ้าอุณหภูมิ19°cจะมีขนาดตัว10ซม.
(9)นกเพนกวินเป็นอนัตตา ส่วนสูงและน้ำหนักตัวนกเพนกวินสัมพันธ์กับอุณหภูมิ ยิ่งใกล้ขั้วโลกใต้อุณหภูมิยิ่งลดต่ำลง ส่วนสูงและน้ำหนักตัวนกเพนกวินจะยิ่งเพิ่มขึ้น เช่น นกเพนกวินในGalapagy สูง0.5ม.,หนัก2กก. นกเพนกวินในอาร์เจนตินา สูง0.7ม.,หนัก5กก. นกเพนกวินในแอนตาร์กติกา สูง1.2ม.,หนัก40กก. (ข้อมูล wikipedia.com)
(10)นกแก้วนกขุนทองจะเลียนแบบเสียงที่ได้ยิน
(11)กิ้งก่าเปลี่ยนสีให้กลมกลืนกับธรรมชาติรอบๆตัว

คน:
(1)คนเจนเดียวกันจะนิสัยเหมือนกันเพราะได้รับเหตุปัจจัยเหมือนกัน คนเจนต่างกันจะนิสัยไม่เหมือนกันเพราะได้รับเหตุปัจจัยต่างกัน 
ข้อมูลนิสัยคนเจนต่างๆ:
1)เจนเบบี้บูมเมอร์ (2489-2507) ทำงานหนัก ประหยัด มีความอดทนสูง 
2)เจนเอ็กซ์ (2508-2522) เป็นตัวของตัวเองสูง มีความคิดสร้างสรรค์ มองหาความสะดวกสบายในการใช้ชีวิต 
3)เจนวาย (2523-2540) ไม่ยึดติดกับค่านิยมเดิมๆ เน้นเติมความสุขให้ตัวเอง ชอบเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ 4)เจนแซด (2541-2555) มีความต้องการที่แน่ชัด ปรับตัวต่อสถานการณ์ต่างๆง่าย 
5)เจนอัลฟ่า (2555-ปัจจุบัน) เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี คิดนอกกรอบ ไม่ค่อยชอบทำตามกติกา ชอบใช้ชีวิตสันโดษ ใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับโซเชียลมีเดีย
(2)คนเกาหลีใต้-คนเกาหลีเหนือ เป็นฝาแฝดกันก็จริง แต่ได้รับเหตุปัจจัยไม่เหมือนกัน ทำให้คนสองคนออกมาไม่เหมือนกัน เช่น จีดีพีคนเกาหลีเหนือ-คนเกาหลีใต้ จีดีพีคนเกาหลีเหนือ21,000บาทต่อหัว จีดีพีคนเกาหลีใต้970,000บาทต่อหัว ต่างกัน46เท่า (ข้อมูล longtunman.com)
(3)ส่วนสูงเป็นอนัตตา ส่วนสูงชาย,หญิงทั่วโลกที่เกิดในปี1896-ชาย162ซม.,หญิง151ซม.,เกิดในปี1996-ชาย171ซม.,หญิง159ซม. ขึ้นอยู่กับเหตุปัจจัย 1)กรรมพันธุ์ 2)โภชนาการ(โปรตีน) 3)สุขภาพแม่และเด็ก 4)อาชีพ,ชนชั้นวรรณะทางเศรษฐกิจ,สังคม (ข้อมูล ourworldindata.org)
(4)อายุขัยเฉลี่ยเป็นอนัตตา อายุขัยเฉลี่ยชาย,หญิงทั่วโลกที่เกิดในปี1900-32ปี,เกิดในปี2021-71ปี ขึ้นอยู่กับเหตุปัจจัย 1)โภชนาการ 2)สาธารณสุข 3)เศรษฐกิจ 4)คุณภาพชีวิต(ความเป็นอยู่) 5)อายุขัยเฉลี่ยที่เพิ่มขึ้นมาจากอัตราการเสียชีวิตของเด็กแรกเกิดที่ลดลง (ข้อมูล ourworldindata.org)
(5)อัตราเจริญพันธุ์เป็นอนัตตา (จำนวนบุตรต่อคนที่ผู้หญิงหนึ่งคนมี) อัตราเจริญพันธุ์ผู้หญิงทั่วโลกในปี1900-6คน,ในปี2023-2คน ขึ้นอยู่กับเหตุปัจจัย 1)เทคโนโลยีคุมกำเนิด 2)การศึกษาของผู้หญิงที่สูงขึ้น 3)ค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงดูบุตร 4)อัตราเสียชีวิตในเด็กแรกเกิดลดลงทำให้พ่อแม่รุ่นใหม่ไม่มีลูกเยอะเผื่อลูกตาย 5)พ่อแม่รุ่นใหม่เน้นคุณภาพมากกว่าปริมาณ 6)ผู้หญิงในประเทศพัฒนาแล้วอัตราเจริญพันธุ์จะลดต่ำลง (ข้อมูล ourworldindata.org)
(6)อัตราการรู้หนังสือ,อ่านออกเขียนได้ทั่วโลก
ในปี1820-12%,ในปี2022-87%
(ข้อมูล ourworldindata.org)
(7)เปอร์เซ็นต์การนับถือศาสนาต่างๆ
1)คนเกาหลีในอเมริกานับถือศาสนาคริสต์71%,ศาสนาพุทธ6%,ไม่มีศาสนา23% 
2)คนเกาหลีในเกาหลีใต้นับถือศาสนาคริสต์29%,ศาสนาพุทธ23%,ไม่มีศาสนา46%,อื่นๆ2% ไม่รู้สาเหตุที่แน่ชัดว่าทำไมต่างกันมาก? (ข้อมูล pewresearch.org )
(8)บุคลิกท่าทางคนจีนในอเมริกา-จะยักไหล่เวลาพูดเหมือนฝรั่ง บุคลิกท่าทางคนจีนในไทย-เวลาพูดจะไม่ยักไหล่เหมือ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่