ปุพฺเพ ว สนฺนิวาเสน ปจฺจุปฺปนฺนหิเตน วา
เอวนฺต ชายเต เปม อุปฺปล ว ยโถทเก ฯ
ความรักนั้นย่อมเกิดขึ้นด้วยเหตุสองประการ คือ ด้วยการอยู่ร่วมกันในกาลก่อน ๑
ด้วยความเกื้อกูลต่อกันในปัจจุบัน ๑ เหมือนดอกอุบลเมื่อเกิดในน้ำ
ย่อมเกิดเพราะอาศัยเหตุสองประการ คือน้ำและเปือกตม ฉะนั้น
บทพุทธสุภาษิตนี้กล่าวถึงแนวคิดของความรักและความผูกพันที่เกิดขึ้นได้จากสองเหตุปัจจัยหลัก
ซึ่งสะท้อนถึงความสัมพันธ์ในชีวิตของมนุษย์
โดยเปรียบเทียบกับธรรมชาติของดอกบัวที่เจริญงอกงามจากน้ำและโคลน คำว่า "บุพเพสันนิวาส" นั้น
หมายถึงการที่คนสองคนเคยมีความผูกพันหรือเคยใช้ชีวิตร่วมกันมาในชาติปางก่อน
แนวคิดนี้สะท้อนถึงหลักการของ "กรรม" และ "สังสารวัฏ" (การเวียนว่ายตายเกิด)
ในพระพุทธศาสนา ซึ่งหมายความว่า การกระทำในชาติก่อนๆ ส่งผลมาถึงความสัมพันธ์ในชาตินี้
คนที่เราเจอและผูกพันกันในชาตินี้ อาจเคยเป็นคู่รัก เพื่อนสนิท
หรือมีความเกี่ยวข้องทางจิตวิญญาณในอดีตชาติ
ความรักที่เกิดจากบุพเพสันนิวาสจึงไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่เป็นผลจากกรรมที่เคยร่วมกันสร้างมา
ซึ่งสะท้อนความเชื่อที่ว่า กรรมดีหรือกรรมชั่วที่เราเคยทำร่วมกับคนๆ หนึ่งในอดีตชาติ
จะนำพาให้เรามาพบกันอีกในชาตินี้ ดังนั้น
ความรักในปัจจุบันจึงเป็นผลสืบเนื่องจากการเชื่อมโยงในอดีต
ที่เกิดจากความสัมพันธ์ที่มีมาแล้วในอดีตชาตินั่นเอง
ดังนั้น ความรักในมุมมองของพุทธศาสนาไม่ได้เกิดขึ้นจากความบังเอิญ
แต่มาจากผลของกรรมที่เคยทำร่วมกันในอดีตชาติ (บุพเพสันนิวาส)
และการกระทำที่เกื้อกูลต่อกันในปัจจุบัน (ปจฺจุปฺปนฺนหิเตน)
ความรักต้องการทั้งอดีตและปัจจุบันเพื่อจะเติบโต
เหมือนดอกบัวที่ต้องพึ่งพาทั้งโคลนและน้ำในการเจริญงอกงาม
ความสัมพันธ์ที่ดีจึงต้องสร้างจากทั้งสิ่งที่เรามีในอดีตและสิ่งที่เราทำในปัจจุบัน
ที่มา พระสุตตันตปิ ฎกเล่มที่ ๑๙ สุตฺต. ขุ. ชาตก (๑): เอก-จตฺตาลีสนิปาตชาตก ( ธ.บ.๒/๒๑)
จาก
https://www.facebook.com/share/YKM5Gb4ABCkCFeje/?mibextid=oFDknk
อันนี้เอามาจาก(ก็อปมาทั้งดุ้น) พระมหาท่านหนึ่ง ที่ลงในเฟซบุ๊ก รู้สึกว่าเป็นหลักธรรมที่ดู ชัดมาก
โดย เฉพาะ
"ความรักต้อง อาศัยทั้งอดีตและปัจจุบัน"
เลยอยากเอามาลงแบ่งบัน ส่งต่อคำสอน ใน pantip คนอ่านคงไม่ด่ากันนะ ><
ความรักเกิดขึ้นด้วยเหตุ 2 ประการ(ตามหลักพุทธศาสนา)
เอวนฺต ชายเต เปม อุปฺปล ว ยโถทเก ฯ
ความรักนั้นย่อมเกิดขึ้นด้วยเหตุสองประการ คือ ด้วยการอยู่ร่วมกันในกาลก่อน ๑
ด้วยความเกื้อกูลต่อกันในปัจจุบัน ๑ เหมือนดอกอุบลเมื่อเกิดในน้ำ
ย่อมเกิดเพราะอาศัยเหตุสองประการ คือน้ำและเปือกตม ฉะนั้น
บทพุทธสุภาษิตนี้กล่าวถึงแนวคิดของความรักและความผูกพันที่เกิดขึ้นได้จากสองเหตุปัจจัยหลัก
ซึ่งสะท้อนถึงความสัมพันธ์ในชีวิตของมนุษย์
โดยเปรียบเทียบกับธรรมชาติของดอกบัวที่เจริญงอกงามจากน้ำและโคลน คำว่า "บุพเพสันนิวาส" นั้น
หมายถึงการที่คนสองคนเคยมีความผูกพันหรือเคยใช้ชีวิตร่วมกันมาในชาติปางก่อน
แนวคิดนี้สะท้อนถึงหลักการของ "กรรม" และ "สังสารวัฏ" (การเวียนว่ายตายเกิด)
ในพระพุทธศาสนา ซึ่งหมายความว่า การกระทำในชาติก่อนๆ ส่งผลมาถึงความสัมพันธ์ในชาตินี้
คนที่เราเจอและผูกพันกันในชาตินี้ อาจเคยเป็นคู่รัก เพื่อนสนิท
หรือมีความเกี่ยวข้องทางจิตวิญญาณในอดีตชาติ
ความรักที่เกิดจากบุพเพสันนิวาสจึงไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่เป็นผลจากกรรมที่เคยร่วมกันสร้างมา
ซึ่งสะท้อนความเชื่อที่ว่า กรรมดีหรือกรรมชั่วที่เราเคยทำร่วมกับคนๆ หนึ่งในอดีตชาติ
จะนำพาให้เรามาพบกันอีกในชาตินี้ ดังนั้น
ความรักในปัจจุบันจึงเป็นผลสืบเนื่องจากการเชื่อมโยงในอดีต
ที่เกิดจากความสัมพันธ์ที่มีมาแล้วในอดีตชาตินั่นเอง
ดังนั้น ความรักในมุมมองของพุทธศาสนาไม่ได้เกิดขึ้นจากความบังเอิญ
แต่มาจากผลของกรรมที่เคยทำร่วมกันในอดีตชาติ (บุพเพสันนิวาส)
และการกระทำที่เกื้อกูลต่อกันในปัจจุบัน (ปจฺจุปฺปนฺนหิเตน)
ความรักต้องการทั้งอดีตและปัจจุบันเพื่อจะเติบโต
เหมือนดอกบัวที่ต้องพึ่งพาทั้งโคลนและน้ำในการเจริญงอกงาม
ความสัมพันธ์ที่ดีจึงต้องสร้างจากทั้งสิ่งที่เรามีในอดีตและสิ่งที่เราทำในปัจจุบัน
ที่มา พระสุตตันตปิ ฎกเล่มที่ ๑๙ สุตฺต. ขุ. ชาตก (๑): เอก-จตฺตาลีสนิปาตชาตก ( ธ.บ.๒/๒๑)
จาก
https://www.facebook.com/share/YKM5Gb4ABCkCFeje/?mibextid=oFDknk
อันนี้เอามาจาก(ก็อปมาทั้งดุ้น) พระมหาท่านหนึ่ง ที่ลงในเฟซบุ๊ก รู้สึกว่าเป็นหลักธรรมที่ดู ชัดมาก
โดย เฉพาะ
"ความรักต้อง อาศัยทั้งอดีตและปัจจุบัน"
เลยอยากเอามาลงแบ่งบัน ส่งต่อคำสอน ใน pantip คนอ่านคงไม่ด่ากันนะ ><