เป็นเพื่อนๆ จะทำไงแฟนตัวเองเปลี่ยนไป???

เพื่อนๆจะทำไงคะถ้าแฟนตัวเองเปลี่ยนไป ทั้งที่เเรกๆเขาบอกว่าเราเริ่มต้นกันไม่ดี??
สวัสดีค่ะผู้อ่านทุกคน อันนี้คือกระทู้แรกของเราอาจจะ งงๆหน่อยนะคะ เรามีไรอยากเล่าเเละปรึกษาทุกคนค่ะ ถือว่าเราระบายปัญหาให้ฟังนะคะ

ก่อนเเรก เราขอเเนะนำตัวละครนะคะ เราขอใช้นามสมมติว่า ริน ส่วนแฟนเราชื่อ ต๋า นะคะห่างกว่าเรา7ปี รินเป็นรุ่นน้อง เราอยู่มหาลัยส่วนพี่ต๋าทำงานเเล้วค่ะ

เริ่มแรก
รินกับต๋าเจอใน แพล็ตฟร์อมนึงค่ะ สีม่วง ที่ไว้คุยเล่นเกมกัน เราสองคนเจอกันในช่วงที่ รินกำลังคุยกับคนๆหนึ่งอยู่ 
เเล้วเหมือนว่า เรากลับมาเจอกันอีกครั้ง เราเลยถามพี่เขาว่าพี่ต๋าไม่รู้สึกเเย่เหรอที่เจอริน เขาบอกเขาชอบเรามานานเเล้ว เเค่ตอนนั้นรินมีคนคุยอยู่ พี่เขาเลยไม่กล้าเข้ามาคุย รินเลยคุยกับพี่ต๋า เพราะว่าพี่เขาคุยเเล้ว สนุกดี พี่เขาหาเรื่องชวนรินคุยมาเรื่อยๆ แลก ช่องทางติดต่อกัน ส่วนใหญ่ก็ อินสตาแกรม รุ่นรินนะคะ
.
จนมาช่วงที่ รินเริ่มรู้สึกว่าพี่เขาแปลกๆที่ ทักไอจีมาคุยกับรินทุกเย็น รินก็จ้องๆพี่เขาด้วยล่ะ ว่าจะลองคุยเล่นๆเเก้เหงาดู (ตามภาษาคนโสดนะคะ555) เพราะว่าเราก็ส่องไอจี พี่เขาโปรไฟล์ก็ไม่ได้เเย่ เเค่รู้สึกไม่ใช่ เเนวเราเท่าไหร่ ลักษณะ Body building สูง 171 ขาวๆตี๋ๆ เเต่เราก็คุยได้เพราะว่าเราไม่ได้ซีเรียสเท่าไหร่ค่ะตอนนั้น ตอนนั้นรินก็ไม่ได้มีคุยสานสัมพันธ์กับใครเลย
.
ตอนนั้นคุยได้ประมาณ1เดือน
เราเริ่มมีความรู้สึกชอบเเล้วค่ะ เราเลยเเบบตอนนั้นด้วยความที่ว่า ภูมิหลังริน ชอบโดนเรื่องสถานะคุยเเล้วไม่พัฒนา เเละคุยไปไม่มีจุดหมาย โดยส่วนตัวรินมีนิสัยที่ เป็นคนชัดเจนหมดและ จนบางคนอาจจะคิดว่ารินเป็นคนจริงจังกับทุกๆอย่าง เเค่รินเป็นคนตั้งเป้าหมายค่ะเลยชอบชัดเจนกับเป้าหมายค่ะ
กลับเข้าเรื่องนะคะ เเล้วเหมือนว่าช่วงปกติรินกับพี่ต๋า จะโทรคุยช่วงกลางคืนกัน และพิมพ์แชทคุยกันช่วงกลางคืน ก็จะแทนเค้ากับเธอกันเหมือนตอนนั้นพี่ต๋านั่งเล่นเกมอยู่ค่ะ วันนั้นเรารู้สึกตั้งคำถามตลอดวันว่าทุกวันนี้เราเป็นอะไรกัน เพราะเเบบเราไม่อยากโมเมไปคนเดียว เราเลยโทรเเละพิมพ์ไปกวนเขาตอนเล่นเกมเเบบ ช่วยบอกได้ไหมว่าทุกวันนี้ที่คุยคือต้องการไรจากความสัมพันธ์นี้ ตอนนั้นเราทำใจ50 50 ค่ะว่าพี่น้องไม่ก็ คนคุย เเค่ตอนนั้นเราบอกเลยถ้าตอบว่าพี่น้อง เราออกจากตรงนั้นเเน่ๆเพราะว่ามันเสียเวลาเรามากๆ เราพร้อมออกเเล้วไปหาสิ่งดีๆให้ตัวเองดีกว่า เเล้วเหมือนว่าเขาคิดว่าเรากดดันเขาค่ะ พี่ต๋าเลยบอกเราว่า ก็คนคุยไง รินเลยบอกว่าโอเค ได้ เพราะว่าเราจะได้ทำใจกับเวลาเเละความสัมพันธ์อันนี้ถูก แต่รินไม่ได้บอกนะคะว่ารินให้เวลากับความสัมพันธ์ครั้งนี้ 1เดือนเพื่อดู การพัฒนา ของความสัมพันธ์ครั้งนี้ 
.
มันก็ผ่านไปด้วยดีค่ะ ผ่านไป1เดือน รินกับพี่เขาตามกันตลอด ผ่านเวลาด้วยกันมา ทั้ง เราสอบติดคณะมหาลัยชื่อดังด้านศิลปะ ที่เราอยากเข้า ตอนนั้นพี่เขาก็ขอเราเป็นแฟน เเละ ตั้งสถานะชัดเจนหมดทุกอย่าง จนเราเริ่มเข้ามาเรียน เราพยายามดูเเลความสัมพันธ์อย่างดีค่ะส่วนใหญ่จะทะเลาะงอนกันตามภาษาคู่รักทั่วไป เรื่องการเเต่งกาย ไม่ก็เรื่องเวลา เพราะ รินจะใช้เวลาช่วงกลางวันเพราะตื่นไปเรียนคะ ส่วนพี่ต๋าก็จะช่วงกลางคืนค่ะเพราะต้องอ่านหนังสือบรรจุ
ด้วยความที่เราเป็นรักทางไกลค่ะ รินอยู่ภาคกลาง ส่วน พี่ต๋าอยู่ภาคเหนือ เลยไม่เคยได้เจอกันค่ะ ตอนนั้นก็คบกันมาได้ระยะเวลา 4เดือนตอนนั้น พี่ต๋าได้บินมาสอบที่กรุงเทพมาเเค่เช้าเย็นกลับ เราเลยอยากไปหาเขาค่ะ รินเลยอยากไปหาพี่ต๋ามาก บวกกับว่าเราอยากเจอเขาน่ะเนอะ เราเลยเสนอไปว่าเราอยากไปหาเขา ที่รังสิตเรายอมลงทุนเลยตอนนั้น ตอนเเรกพี่ต๋าเขาไม่อยากให้เรามาเพราะว่าเดี๋ยวก็ได้เจอกันปีใหม่ เราวางเเพลนไว้ว่าจะมาเคาดาวน์ด้วยกันที่กรุงเทพ เราอยากเจอเขาจริงๆค่ะ เพราะว่านานๆทีจะมีโอกาสได้เจอ เราก็ดื้อค่ะ รินเลยบอกพี่ต๋าว่าสอบเสร็จมาเจอกันนั่งคุยก็ได้ วันนั้นก็ได้เจอกันจริงๆค่ะ รินกับพี่เขาสูงใกล้ๆกัน รินเป็นผู้หญิงผมสั้นค่ะสาวเเว่น สูง165 ผิวขาวๆค่ะ เรานัดเจอกันที่ร้านกาเเฟใกล้สนามสอบ ตอนนั้นเจอกันเรามีความสุขมากๆเลยค่ะ ตอนนั้นคิดว่าพี่เขาเป็นคนเเรกของเราทุกๆอย่าง ทั้งจูบเเรกเเละ จับมือกับคนรักครั้งเเรกค่ะ ช่วงนั้นเป็นช่วงที่รินมีความสุขมากๆจนกระทั่ง ช่วงเทอม2ค่ะ
.
ช่วงนั้นรินกลายเป็นโรคซึมเศร้า เพราะเรื่องคนที่บ้าน บวกกับเรื่องรอบตัว(ขอไม่เจาะรายละเอียดนะคะ) 
รินเป็นโรคนี้ เหมือนโลกของรินพังทลายไปหมดเลยค่ะ ทั้งที่เป็นคนร่าเริงกับเป็นคนเก็บตัว ไม่มีกระจิตกระใจทำอะไร เหมือนว่าทุกอย่างดับสลายเเล้ว กลางคืนรินไม่สามารถอยู่คนเดียวได้ต้องไปหาเพื่อนตลอด มันทรมานจริงๆค่ะ น้ำหนักเราลดมา 15 กิโล เพราะกินยาต้านค่ะ ตอนนั้น พี่ต๋าเขาพยายามที่จะหาเวลามาดูเเลเรา คนข้างกายเราสำคัญจริงๆค่ะ รินกล้ายืนยันเลย ตอนนั้นรินกับเขาทะเลาะ กัน รินก็ทำร้ายตัวเองค่ะ จนรอยเเผลนั้นติดตัวมาถึงทุกวันนี้
เขาพยามเข้าใจเราใจเย็นกับรินมาก เก่งมากๆ เพราะรินก็พยายามสู้ค่ะ ตอนนั้นเพื่อให้ความสัมพันธ์ เราเเละคนรอบข้างไปกันต่อ
.
จนผ่านมาปีใหม่รินกับพี่เขาก็ไปเที่ยวใช้ชีวิตกันมีความสุขดีค่ะ จนกลับมาช่วงนั้นพี่ต๋าได้ย้ายมาทำงานที่กรุงเทพค่ะ เเละเหมือนรินกลับบ้านค่ะ ตอนนั้นฉลองครบรอบ10 เดือน รินกะจะเซอร์ไพรพี่ต๋า รินเสียตังซื้อเค้ก ซื้อขนมให้ ไปเพื่อเราหวังว่าเขาจะชอบริน เลยโกหกเขาว่าเดี๋ยวเเวะมาหาพี่เขา เเล้วเรากลับ แต่ที่จริงรินอยากอยู่กับเขาเเล้วค่อยกลับค่ะ เพราะด้วยความที่ว่า เราอยากใช้เวลาอยู่กับเขา เหตุการณ์นี้รินจำขึ้นใจ(เหตุการณ์นี้อาจจะเซนซิทีฟสำหรับคนที่อ่านหน่อยนะคะ) รินมาถึงหน้าซอยเพื่อที่จะไม่ให้เขาสงสัยเพราะของรินเยอะมากโดยที่รินบอกว่า เดี๋ยวรินไปหานะเตรียมล่วงหน้าว่าจะไปหาที่ห้องเเล้วเดี๋ยวกลับ รินเลยทักไปหาพี่ต๋าว่า รินอยู่หน้าซอยเดี๋ยวรินเข้าไปหาที่ห้องเองเเล้วให้พี่ต๋าลงมารับ รินเลยเดินเข้าซอยไประยะทาประมาณ 1.5 กิโลค่ะ โดยช่วงนั้น เดือน มิถุนายน เเดดเปรี๊ยง เเต่ใจเราสู้ว่า เขาต้องดีใจเเน่ๆ จนรินมาถึงห้องเขา
.
ตอนนั้นเราสองคน ถึงห้องค่ะ พี่ต๋าเลยขอตัวไปอ่านหนังสือ
ส่วนเราไปเตรียมเซอร์ไพร ในห้องน้ำ โดยที่รินจะจุดเทียน ในขนมเค้ก ถือมาเซอร์ไพร รินเลยเตรียมมาอย่างดีค่ะ เลยทำตามเเผนจุดเทียนเดินออกมาเซอร์ไพร์ เเต่สุดท้ายก็คาดหวังเก้อค่ะ 555 รีแอคของพี่เขาคือ ดุว่าเรา ขึ้นเสียงว่า รินจำได้ขึ้นใจว่า"เธอ! เห็นไหมเนี่ย! ว่าเขาไม่ให้จุดไฟ ถ้าสัญญาณมันดังขึ้นมา เธอรับผิดชอบไหวไหม?! เเล้วชื่อสัญญามันคือชื่อฉัน ถ้าเขาไล่ฉันออกฉันจะไปอยู่ไหน" ตอนนั้นเรา หน้าเสียหน้าชาไม่มีความรู้สึกใดๆอยู่เลยค่ะ ตอนนั้นคิดเเค่ว่าอยากตาย ขณะนึง แล้วเหมือนว่าเสียงเขาดึงสติ รินมาว่า "เธอจะซื้ออะไรมาเยอะเเยะ คราวหลังไม่ต้องซื้อมานะกินไม่หมด พี่ฉันก็ไม่ค่อยกิน" รินเลยเเบบว่าเราจะทำไงดี จะร้องก็เเบบไม่ได้ กลัวบรรยากาศจะเสีย รินเลยบอกว่าเอาไปแจกก็ได้เธอ เอาไปให้พี่สาวเธอก็ได้ให้เอาไปแจก นั้นล่ะค่ะเลยทำให้เรากลัวเรื่องเซอร์ไพรไปเลย จนทุกวันนี้เราไม่กล้ากลัวไปเลยค่ะ เเต่รินบอกนะคะว่ารินไม่โอเค พี่เขาเเค่บอกว่าขอโทษนะ จนตอนนั้น เราไม่ไหวเเล้วค่ะ รินเลยจองโรงเเรม พี่เขาบอกว่าเขาไม่สามารถมานอนด้วยได้นะ เพราะเดี๋ยวพี่สาวเขาไม่โอเค ตอนนั้นเราเลยกะเเค่ว่าเราอยากออกไปจากตรงนั้น รินเลยกะกินยาซึมเศร้า เเล้วซื้อเบียร์มากินในห้องโรงเเรมเมาๆไปตอนนั้นคนข้างตัวรินโทรมาเป็นห่วงรินมาก เพราะตอนนั้นรินอยู่ห้องคนเดียวค่ะ พี่เขาไม่อยู่ไปกินหมาล่ากับพี่สาว เพราะตอนนั้นรินกินอะไรไม่ลงเลย รินเลยนั้นล่ะค่ะเมา คาห้อง เเม่รินเลยโทรไปว่าเขาตามให้มาหาดูรินค่ะ เเละก็เช้าเเยกย้ายส่งรินกลับค่ะ
.
พอมาถึงช่วงรินปิดเทอมค่ะรินมีแพลนไปทำธุระทำพาสปอต ก่อนกลับบ้าน
เเล้วเหมือนว่ารินไม่ทันรถค่ะเลยไม่มีที่นอน โดยที่เขาพยายาม ที่จะให้รินกลับบ้านบอกรินนอนไม่ได้กลัวพี่สาวเขาว่า ไม่อยากนอนล่างเตียง คือตอนนั้นรินเลยบอกว่าไม่เป็นไรรินอยู่ข้างทางเนี่ยล่ะ อยู่ถึงเช้าได้ ใจรินพูดประชดมาก เเต่เเบบตอนนั้นรินไม่มีทางออกเลยค่ะ รินเลยเดินห่างออกจากเขามา ตอนนั้นรินเลยไม่อยากรับรู้ไรเลยค่ะ เหนื่อยมากเสียทั้งเเรงทั้งของทั้งเงิน จนเราจะเป็นลมทั้งที่วันนั้นเรามีอะไรกันโดยที่รินตามใจพี่เขา รินไม่ได้กินอะไรเลยค่ะทั้งวันริน เพราะเเข่งกับเวลามาก รินทรุดตัวร้องไห้หน้าขนส่ง พร้อมกับบอกในใจว่าไม่เอาอะไรเเล้ว ท้อเเล้ว สรุปรินได้ไปนอนที่ห้องเขากับพี่สาวเขาโดยที่พี่สาวเขาใจดีกับรินมากเลยค่ะ เเทบไม่มีอะไรเลย ทั้งชวนรินไปงานหนังสือด้วยชวนคุยปกติเลยค่ะวันต่อมาเขามาส่งเเยกย้ายกันกลับค่ะ
.
ในส่วนของพ่อเเม่เราตาม ภาษาค่ะเจอเเบบนั้นเลยไม่ชอบเขาไปเลยค่ะ เเต่เราไม่ได้สนใจคำพูดพวกท่านค่ะเราเลือกที่จะคบต่อ
จนมาถึงช่วงปิดเทอม รินทะเลาะกันหนักเเต่รินอยู่คนเดียวนะคะจนรินกินยาเข้าโรงพยาบาล รินกะไม่อยากอยู่เเล้วค่ะ รินเเค่คิดว่าตอนนั้นชีวิตรินไม่มีะไรเเล้ว รินก็รอดออกมาค่ะเพราะเข้าโรงพยาบาลทัน เเต่สิ่งต่อมาคือ รินกับพี่เขาเลิกกันเลือกที่จะ เเยกกัน รินก็ตามยื้อค่ะ เพราะรินไม่อยากให้เขาหายไปจริงๆ ตอนนั้นรินก็ผิดจริงๆค่ะเพราะว่าส่วนใหญ่ รินเป็นอะไรรินจะไม่ค่อยพูดออกมา เพราะไม่อยากให้อีกฝ่ายคิดมาก ประเด็นส่วนใหญ่ก็จะเก็บมาคิด คือเรื่องคำพูด การที่เขาเมินความรู้สึกเราค่ะ ทั้งที่เราไม่เคยคิดอยากจะทำเลย เพราะว่าเขาเป็นคนที่เราให้ความสำคัญกับเขามากๆ เเล้วเหมือนเรากับเขา ครบรอบ1ปีที่ครบกันเเล้วเลิกกันวันนั้นเลย ตอนนั้นรินเลยเลือกอะไรไม่ได้ค่ะนอกจากเราออกไปใช้ชีวิตเราต่อกลับไปดูเเลตัวเอง เหตุผลเลิกกันเพราะว่า พี่เขามีปัญหาที่ทำงานบวกกับว่า บาลานซ์เรื่องความสัมพันธ์ไม่ได้เลยขอเลือกตัวเองดีกว่า แต่ก็นั้นล่ะค่ะคู่กรรมก็ต้องกลับมาใช้กรรมกัน พี่เขาเลือกที่จะกลับมาโดยที่จะกลับมาในสถานะคนคุยเเต่เราโอเคค่ะเราไม่ได้คิดไรตอนนั้นเเค่คิดว่า ขอเเค่เขาอยู่กับเราก็พอ โดยที่ก่อนเเรกข้อเสนอคือ เเค่มีไรกันก็พอ ไม่ผูกมัดเเต่เราไม่โอเค ข้อเสนอกลับมาเป็นคนคุยก็โอเคค่ะ
.
โดยที่ช่วงนั้นพี่เขากลับบ้าน ช่วงสงกานต์โดยไม่ได้บอกเราจะจองตั๋วเราน้อยใจตรงที่ ทำไมเขาไม่พาเราไปรู้จักพ่อเเม่เขาเลย ทำไมเราถึงรู้สึกว่า เราเหมือนเป็นอะไรสำหรับเขา เขาเลยให้คำตอบกับเราว่าเขา กับที่บ้านเขาไม่ได้สนิทกัน เวลาจะบอกอะไรเลยไม่ค่อยอยากบอก มันเลยทำให้เราคิดเเต่ในหัวว่าทำไมตลอดเวลา พ่อกับเเม่เราเลยบอกว่าถ้าเขาจะรักเราจริงๆเขาจะพาเราไปเปิดตัวเอง โดยที่ไม่ต้องร้องขอ ต่อมาหลังจากนั้นความสัมพันธ์เราก็เเย่ลงค่ะ หลังจากย้ายที่ทำงานจากที่เคยโทรหาเรา ตอบเเชทเราไปไหนมาไหนคือเงียบหายบอกไปพักดูยูทูป เล่นเกมนานมาก รินรอได้หมดเลยนะคะ เเค่เเบบเราเริ่มสังเกตอาการ เป็นมาสักพัก เราเคยพูดบอกว่าหาเวลาคุยกันได้ไหม เขาบอกจะพยายามเเต่เหมือนเดิมค่ะ เเละจะชอบพูดไม่มีเวลาทำอะไรเลย ไม่ได้ทำอะไรเลย รินเลยรู้สึกเเย่ว่ามันมาจากเรารึเปล่า เวลารินไปหาพี่ต๋าเขาก็จะเล่นเกมดูยูทูปเเทบไม่ใช้เวลาด้วยกันเลยค่ะ จนถึงตอนนี้เราเลยเเยกกันอยู่
.
รินควรเดินหน้าหรือถอยหลังดีคะทุกคน รินพยายามไม่คิดเเล้วเเล้วเหมือนวันนั้นทำความสะอาดห้อง เจอเทียนความรู้สึกเก่าๆก็กลับมาเลยค่ะเขาบอกขอโทษ เเต่เราเเบบขอโทษเเล้วไม่คิดจะทำไรให้ดีขึ้นเลยเหรอ เราไม่เคยขออะไรเขาเลยค่ะ รินคิดเเค่ว่าจะทำยังไงให้มันกลับมาดี พยายามชวนไปทำกิจกรรมเขาก็ไม่อยากไป รินซื้อของให้บอกซื้อมาทำไม รินควรทำยังไงคะ ?? มีใครเคยเจอเเบบรินไหมคะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่