บอกเลยว่าแค่คุณถือกระดาษที่ระบุว่าเลือดมีปัญหา
โรงพยาบาลก็พร้อมที่จะปฏิบัติกับคุณเหมือนคนที่ติดเชื้อเอชฯแล้วค่ะ
แรกสุดเมื่อต้นปีเราได้รับการติดต่อจากรพ.รัฐที่เคยบริจาคเลือดให้ แจ้งว่าเลือดเรามีปัญหานะพร้อมกับให้เราเข้าไปติดต่อตรวจเลือดที่หน่วยโรคติดต่อเลย..........
คุณพยาบาลก็ถามที่มาที่ไป ก็อธิบายว่าเคสเราอาจเกิดจากเชื้อโควิดทำให้ผลเลือดมันอ่านค่าไม่ได้(ก่อนมาบริจาคเลือดตอนนั้น เราเคยติดเชื้อโควิดมาก่อน และส่วนตัวเราไม่เคยมีเพศสัมพันธ์มาก่อน) เราก็ตรวจเลือด ฟังผลตามสเต็ป
ตอนฟังผลหมอแจ้งเราว่าเลือดไม่มีปัญหา แถมยังแจ้งว่าเราสามารถบริจาคเลือดได้ตามปกติ แต่พอหลังจากนั้นเรามาติดต่อบริจาคเลือด รพ.แจ้งว่าเลือดยังขึ้น inconclusive แล้วจนท.ทั้งหลายก็พร้อมใจโบ้ยให้เป็นความผิดของนศพ.ที่ตรวจที่ยังไม่มีใบประกอบโรคศิลป์ โบ้ยให้กับคนไข้ที่ไม่รู้จักขอใบรับรองแพทย์ (ตอนนั้นเราแบบอีหยังมากเลย และเราก็มารู้ที่หลังว่ากรณีที่เลือดมีปัญหาแบบนี้ โดยปกติต้องมีการตรวจเลือดประจำสม่ำเสมอ 6 เดือน.....)
หลังจากการตรวจรพ.รัฐไม่ได้ข้อสรุป(ตรวจไป 2 รอบแล้ว และเข้าเดือนที่ 5 แล้ว....) เราเลยมาตรวจเลือดที่รพ.เอกชนอีกที่หนึ่ง
และเพราะเราลางานได้แค่ครึ่งวัน เราเลยใช้วิธีเจาะเลือดวันนี้ ฟังผลอาทิตย์หน้า ค่ะก่อนกลับบ้านได้รับจดหมายน้อย ที่ภายในอธิบายเกี่ยวกับวิธีปฏิบัติตัวของผู้ติดเชื้อเอชฯ.......
(เอิ่ม นี่ยังไม่ฟังผลนะ แค่เจาะเลือด)
และในที่สุดวันที่รอคอย....
ใช่ค่าาาาวันฟังผลหมอแจ้งว่าเลือดเราปกติ~~~
แต่!!!!! ล่าสุด (ที่เกิดขึ้นวันนี้)ไปบริจาคเลือดมา โดยเราเลือกที่จะไปบริจาคกับหน่วยงานที่ดูแลด้านนี้โดยตรง
เลือดที่เคยบริจาคครั้งที่แล้วมันมีปัญหา
เราเลยถือใบรับรองผลการตรวจเลือดไปด้วย
ตอนซักประวัติเราก็อธิบายเหตุการณ์
แต่พอลุกจะไปห้องถัดไป
คุณหมอโต๊ะตรงข้าม(ที่คงได้ยินบทสนทนาคราวๆ)ก็ตะโกนชี้ให้ไปทางออก
แต่เราเดินเข้าไปข้างใน แล้วก็ได้ยินเสียงถามไล่หลัง
"ผ่านเหรอ".......คือเรารู้สึกแย่มาก
เราเข้าใจในส่วนที่เขาระมัดระวังในงานของเขา
แต่ถ้าเขาสงสัยหรือไม่ไว้วางใจในการให้บริจาค
เขาก็ควรเดินมาคุยกับเราตรงๆ ขออ่านขอดูใบรับรองแพทย์ มาเช็คเองหรือไม่ก็ไปคุยกันไปถามกันหลังไมค์ไหม ถ้าไม่ให้ผ่านก็ค่อยรีบโทรแจ้งจนท.อีกห้อง
คือเราอดกลั้นมาเลยนะกับระยะเวลาที่ต้องคอยผลเลือด รพ.แรกไม่โอเค ไปรพ.ที่สอง บริจาคที่นี่ไม่ดี ไปบริจาคกับต้นฉบับเลยดีกว่า แต่สิ่งที่เราได้รับได้รู้สึกกลับมาเป็นความรู้สึกไม่ดีเลย
เราก็พยายามเข้าใจกระบวนว่ามันคือการทำเพื่อความปลอดภัยของบุคคลากรที่คลุกคลีด้วย เพื่อสุขภาพของผู้รับเลือด แต่คนรอบข้างที่ปฏิบัติตัวกับเรา มันทำให้เรารู้สึกว่าเราถูกตัดสินไปแล้ว....
มาบอกเล่าปสก. เลือดขึ้นค่า INCONCLUSIVE แบบงงๆ
โรงพยาบาลก็พร้อมที่จะปฏิบัติกับคุณเหมือนคนที่ติดเชื้อเอชฯแล้วค่ะ
แรกสุดเมื่อต้นปีเราได้รับการติดต่อจากรพ.รัฐที่เคยบริจาคเลือดให้ แจ้งว่าเลือดเรามีปัญหานะพร้อมกับให้เราเข้าไปติดต่อตรวจเลือดที่หน่วยโรคติดต่อเลย..........
คุณพยาบาลก็ถามที่มาที่ไป ก็อธิบายว่าเคสเราอาจเกิดจากเชื้อโควิดทำให้ผลเลือดมันอ่านค่าไม่ได้(ก่อนมาบริจาคเลือดตอนนั้น เราเคยติดเชื้อโควิดมาก่อน และส่วนตัวเราไม่เคยมีเพศสัมพันธ์มาก่อน) เราก็ตรวจเลือด ฟังผลตามสเต็ป
ตอนฟังผลหมอแจ้งเราว่าเลือดไม่มีปัญหา แถมยังแจ้งว่าเราสามารถบริจาคเลือดได้ตามปกติ แต่พอหลังจากนั้นเรามาติดต่อบริจาคเลือด รพ.แจ้งว่าเลือดยังขึ้น inconclusive แล้วจนท.ทั้งหลายก็พร้อมใจโบ้ยให้เป็นความผิดของนศพ.ที่ตรวจที่ยังไม่มีใบประกอบโรคศิลป์ โบ้ยให้กับคนไข้ที่ไม่รู้จักขอใบรับรองแพทย์ (ตอนนั้นเราแบบอีหยังมากเลย และเราก็มารู้ที่หลังว่ากรณีที่เลือดมีปัญหาแบบนี้ โดยปกติต้องมีการตรวจเลือดประจำสม่ำเสมอ 6 เดือน.....)
หลังจากการตรวจรพ.รัฐไม่ได้ข้อสรุป(ตรวจไป 2 รอบแล้ว และเข้าเดือนที่ 5 แล้ว....) เราเลยมาตรวจเลือดที่รพ.เอกชนอีกที่หนึ่ง
และเพราะเราลางานได้แค่ครึ่งวัน เราเลยใช้วิธีเจาะเลือดวันนี้ ฟังผลอาทิตย์หน้า ค่ะก่อนกลับบ้านได้รับจดหมายน้อย ที่ภายในอธิบายเกี่ยวกับวิธีปฏิบัติตัวของผู้ติดเชื้อเอชฯ.......
(เอิ่ม นี่ยังไม่ฟังผลนะ แค่เจาะเลือด)
และในที่สุดวันที่รอคอย....
ใช่ค่าาาาวันฟังผลหมอแจ้งว่าเลือดเราปกติ~~~
แต่!!!!! ล่าสุด (ที่เกิดขึ้นวันนี้)ไปบริจาคเลือดมา โดยเราเลือกที่จะไปบริจาคกับหน่วยงานที่ดูแลด้านนี้โดยตรง
เลือดที่เคยบริจาคครั้งที่แล้วมันมีปัญหา
เราเลยถือใบรับรองผลการตรวจเลือดไปด้วย
ตอนซักประวัติเราก็อธิบายเหตุการณ์
แต่พอลุกจะไปห้องถัดไป
คุณหมอโต๊ะตรงข้าม(ที่คงได้ยินบทสนทนาคราวๆ)ก็ตะโกนชี้ให้ไปทางออก
แต่เราเดินเข้าไปข้างใน แล้วก็ได้ยินเสียงถามไล่หลัง
"ผ่านเหรอ".......คือเรารู้สึกแย่มาก
เราเข้าใจในส่วนที่เขาระมัดระวังในงานของเขา
แต่ถ้าเขาสงสัยหรือไม่ไว้วางใจในการให้บริจาค
เขาก็ควรเดินมาคุยกับเราตรงๆ ขออ่านขอดูใบรับรองแพทย์ มาเช็คเองหรือไม่ก็ไปคุยกันไปถามกันหลังไมค์ไหม ถ้าไม่ให้ผ่านก็ค่อยรีบโทรแจ้งจนท.อีกห้อง
คือเราอดกลั้นมาเลยนะกับระยะเวลาที่ต้องคอยผลเลือด รพ.แรกไม่โอเค ไปรพ.ที่สอง บริจาคที่นี่ไม่ดี ไปบริจาคกับต้นฉบับเลยดีกว่า แต่สิ่งที่เราได้รับได้รู้สึกกลับมาเป็นความรู้สึกไม่ดีเลย
เราก็พยายามเข้าใจกระบวนว่ามันคือการทำเพื่อความปลอดภัยของบุคคลากรที่คลุกคลีด้วย เพื่อสุขภาพของผู้รับเลือด แต่คนรอบข้างที่ปฏิบัติตัวกับเรา มันทำให้เรารู้สึกว่าเราถูกตัดสินไปแล้ว....