เราตั้งเป็นกระทู้คำถาม เผื่อผู้มีความรู้เหมือนสิ่งที่เราเล่า เพิ่มเติมเป็นความรู้ให้ด้วยจะขอบพระคุณอย่างยิ่งค่ะ เพราะเราหาข้อมูลผลเลือดแบบเราในพันทิปไม่เจอ อีกอย่างเราอยากแชร์ประสบการณ์ แต่ไม่สามารถตั้งเป็นกระทู้สนทนาคือต้องยืนยันสมาชิกเลยทำต่อไม่เป็น
เราอายุ 30 ปี มีลูก 1 คนอายุ 5 ขวบ ตอนนี้กำลังตั้งท้องลูกคนที่ 2 ชีวิตสามีภรรยาราบรื่นมาโดยตลอด 2 ปีกว่าที่เราและสามีไม่ได้อยู่ด้วยกันจะเจอกันเฉพาะวันหยุด เพราะหน้าที่การงานเราทำให้เราต้องแยกมาอยู่อีกจังหวัดคนเดียว
เรื่องมีอยู่ว่าเราตั้งท้องลูกคนที่ 2 ก็ไปฝากครรภ์เหมือนคนท้องทั่วไป ตั้งใจฝากรพ.เอกชนแห่งหนึ่งที่ไม่ไกลจากบ้าน แต่เราประหยัดค่าใช้จ่ายโดยการตรวจเลือดจากรพ.รัฐที่เราทำงานอยู่แล้วนำผลเลือดไปให้หมอที่รพ.เอกชนดู
วันเสาร์ที่ 6 ส.ค.นำผลเลือดไปพบไปรอพบหมอที่รพ.เอกชน ผลเลือด HIV ใส่ซองขาวแยกมาเราไม่ได้เปิด เพราะมั่นใจมากว่าต้องปกติ แต่สามีเราอยากรู้เปิดดูระหว่างรอหมอเรียก ผลเลือดตรวจครั้งที่ 1 ผลเลือดเป็น บวก ครั้งที่ 2,3 ผลเลือดเป็น ลบ
สรุปผลว่า inconclusive เรากับสามีไม่เข้าใจว่าผลเลือดแบบนี้คืออะไร แต่สามีเราเครียดมากทำไมถึงมีผลเลือดบวกด้วย
ตอนพบหมอ หมอก็เหมือนแปลกใจกับผลเลือด แต่ไม่ได้อธิบายอะไรเพิ่มเติม ให้สามีเราตรวจเลือด ส่วนเราต้องรออีก 2 อาทิตย์ตรวจ HIV ซ้ำ
ตอนสามีตรวจเขาก็ใจคอไม่ดี เพราะก่อนแต่งงานเขาเป็นคนเจ้าชู้มาก(เคยใช้ชีวิตบนความเสี่ยง) แต่เราก็บอกว่าลูกคนแรกตรวจ HIV ปกตินะ ระหว่างรอผลเลือดสามีบอกนอนไม่หลับเลย ผลการตรวจของสามีออกในวันรุ่งขึ้น พบว่าปกติ เหลือแต่เราแล้วสิ
วันที่ 16 สค เราเอาผลเลือดไปให้พี่พยาบาลฝากครรภ์ที่รพ.รัฐ พอเห็นผลเลือดบอกว่าทำไมไม่มาหาพี่เขาตอนรู้ผลเลือด(เราเห็นว่าผลเลือดสามีเราปกติแล้วเลยวางใจ) แต่พี่พยาบาลซีเรียสมากเรียกเราคุยส่วนตัว อธิบายถึงผลเลือดของเราซึ่งเขาบอกว่าอาจจะเป็นเพราะโปรตีนจากลูกที่ทำให้ผลเลือดเป็นแบบนี้
ใครพอมีความรู้อธิบายเพิ่มเติมได้นะคะ พี่พยาบาลบอกเราแค่นี้) อธิบายถึงเรื่อง HIV และแนะนำให้เราไปตรวจเลือดครั้งที่ 2 ที่ศูนย์วิจัยโรคเอดส์ สภากาชาดไทย(คลินิกนิรนาม) เพราะตรวจได้ละเอียดกว่า พี่พยาบาลให้เราไปวันนั้นเลย ถามเราว่าเราไปกับใคร เราบอกว่าเราไปคนเดียว (เขาคงเป็นห่วงว่าที่เราเป็นผู้หญิงต้องไปตรวจเอดส์คนเดียว) นี้คือจุดเริ่มต้นของการต้องไปตรวจเลือดที่คลินิกนิรนาม
จากนั้นเราก็ไลน์ไปหาสามีเรา รู้สึกเศร้ามาก อารมณ์ประมาณว่าฉันจะเป็นเอดส์หรอ แต่สามีเราให้กำลังใจตลอดบอกว่า บอกว่าไม่เป็นอะไร พูดประมาณว่าถึงจะเป็นจริงๆเขาก็จะรักเราเหมือนเดิม เขาจะไม่ทิ้งเรา จะดูแลเราไปตลอด ทำเราน้ำตาไหล(ที่ไหลไม่ใช่เพราะกลัวเป็นเอดส์แต่ซึ้งกับคำพูดสามีมาก) เราบอกสามีว่าพี่พยาบาลให้ไปตรวจอีกครั้งที่คลินิกนิรนาม สามีเราไม่อยากให้ไป กลัวไม่สะอาด ที่สำคัญเขาสงสารที่เราต้องไปคนเดียว ต้องไปเผชิญเรื่องแบบนี้คนเดียว เราบอกว่าเราร้อนใจต้องรู้ให้ได้ ขอตัดสินใจไปวันนั้นเลย
การเดินทางไปด้วย BTS ลงสถานีราชดำริ เดินออกประตู 1 (สนามม้า) เดินตามทางไปเรื่อยๆ จะเจอคลินิกทางด้านซ้าย (ขึ้นวินก็ได้แต่เราอายที่ต้องบอกว่าไปคลินิกนิรนามเราเลยตัดสินใจเดิน) ตอนเราไปถึงประมาณบ่าย 2 กว่าแล้ว ยังมีคนใช้บริการ ตอนเข้าไปเราก็ทำงานหน้า งงๆ เลยมีเจ้าหน้าที่มาคุย เราก็ส่งเอกสารที่โรงพยาบาลให้มาตรวจ HIV เจ้าหน้าที่ให้กรอกข้อมูลในคอม หลังจากนั่งคอยรอเรียกคิว ระหว่างรอเราสังเกตว่าคนที่มาใช้บริการผู้ชายเป็นส่วนใหญ่ รวมถึงชายไม่จริงด้วย มีทั้งไทยและเทศ ทั้งวัยรุ่นและวัยทำงาน สักพักเจ้าหน้าที่เรียกทำบัตรรักสุขภาพ แล้วถามว่าเราจะพบที่ปรึกษาก่อนเจาะเลือดไหม
จากการการพบที่ปรึกษา ส่งผลเลือดให้เจ้าหน้าที่ดู เราถามเจ้าหน้าที่ว่าผลเลือดเราเป็น inconclusive เพราะเราตั้งครรภ์ใช่ไหม เจ้าหน้าที่บอกว่า ใช่ค่ะ ผู้หญิงที่ตั้งครรภ์หลายๆคนก็ได้ผลเลือดแบบนี้ แล้วบอกอีกว่าไม่แน่ครั้งนี้อาจได้ผลเหมือนเดิม บางคนก่อนตั้งครรภ์ตรวจเลือดก็ผลปกติ พอตั้งครรภ์ตรวจอีกครั้งผลเป็น inconclusive ก็มี บางครั้งผลเลือดแบบนี้เป็นปีๆก็มี เจ้าหน้าที่บอกว่าที่นี้จะตรวจ NAT ซึ่งจะเป็นการตรวจ DNA ในเชื้อเลย โรงพยาบาลของรัฐส่วนใหญ่ไม่มีตรวจ แต่ผลจะออกอีก 3 วัน จะมีเจ้าหน้าที่โทรไปหากรณีพบเชื้อ ถ้าไม่โทรไปแสดงว่าผลเลือดปกติ
หลังจากเจาะเลือดเสร็จ เจ้าหน้าที่ให้รอผลเลือด 1 ชม. ระหว่างรอในใจก็ภาวนาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายว่าขอให้ผลเลือดปกติ ไม่อยากให้ผลเหมือนครั้งแรกอีก (เพราะถ้าเหมือนครั้งแรกเราต้องมาลุ้นอีก3 วัน สงสัยนอนไม่หลับแน่ และต้องมาเจาะเลือดติดตามผลใหม่อีกเรื่อยๆ)
1 ชม.ผ่านไปเจ้าหน้าที่ก็เรียกพบ สรุปผลเลือด เป็น ลบ (ปกติ) เราดีใจมาก เจ้าหน้าบอกว่าผลเลือดมันต้องออกมาเป็นแบบนี้อยู่แล้ว เพราะเราไม่ได้มีภาวะเสี่ยงอะไร (ตอนแรกบอกว่าผลอาจเป็นเหมือนเดิม...ทำให้เราใจไม่ดี) ก่อนมาเรากังวล เครียดไปหมด แต่ตอนกลับเดินยิ้มออกจากคลินิกเลยค่ะ ประสบการณ์ครั้งนี้ไม่มีวันลืม สอนเราและสามีมากเลยค่ะว่าเราคงต้องใช้ชีวิตอย่างระมัดระวัง อย่าวางตัวอยู่บนความประมาท ไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐจริงๆ
ปล. วันเสาร์เรากลับไปบ้าน สามีคุยกับเราว่า ที่เขารักเราและไม่ยอมทิ้งเรา เพราะตั้งแต่เกิดเรื่องผลเลือดผิดปกติตั้งแต่วันแรก เขาบอกเราใจเย็นมากๆ เราไม่เคยว่า ไม่เคยโกรธ ไม่เคยโทษเขาเลย ทำให้เขาคิดว่าเขาต้องรักเราให้มากๆ ความรักและกำลังใจในครอบครัวเป็นสิ่งสำคัญสำหรับเรามากเลยค่ะ
มีใครเคยตรวจ HIV ที่คลินิกนิรนาม จากการตั้งครรภ์ที่มีผลเลือดผิดปกติบ้างไหมค่ะ
เราอายุ 30 ปี มีลูก 1 คนอายุ 5 ขวบ ตอนนี้กำลังตั้งท้องลูกคนที่ 2 ชีวิตสามีภรรยาราบรื่นมาโดยตลอด 2 ปีกว่าที่เราและสามีไม่ได้อยู่ด้วยกันจะเจอกันเฉพาะวันหยุด เพราะหน้าที่การงานเราทำให้เราต้องแยกมาอยู่อีกจังหวัดคนเดียว
เรื่องมีอยู่ว่าเราตั้งท้องลูกคนที่ 2 ก็ไปฝากครรภ์เหมือนคนท้องทั่วไป ตั้งใจฝากรพ.เอกชนแห่งหนึ่งที่ไม่ไกลจากบ้าน แต่เราประหยัดค่าใช้จ่ายโดยการตรวจเลือดจากรพ.รัฐที่เราทำงานอยู่แล้วนำผลเลือดไปให้หมอที่รพ.เอกชนดู
วันเสาร์ที่ 6 ส.ค.นำผลเลือดไปพบไปรอพบหมอที่รพ.เอกชน ผลเลือด HIV ใส่ซองขาวแยกมาเราไม่ได้เปิด เพราะมั่นใจมากว่าต้องปกติ แต่สามีเราอยากรู้เปิดดูระหว่างรอหมอเรียก ผลเลือดตรวจครั้งที่ 1 ผลเลือดเป็น บวก ครั้งที่ 2,3 ผลเลือดเป็น ลบ สรุปผลว่า inconclusive เรากับสามีไม่เข้าใจว่าผลเลือดแบบนี้คืออะไร แต่สามีเราเครียดมากทำไมถึงมีผลเลือดบวกด้วย
ตอนพบหมอ หมอก็เหมือนแปลกใจกับผลเลือด แต่ไม่ได้อธิบายอะไรเพิ่มเติม ให้สามีเราตรวจเลือด ส่วนเราต้องรออีก 2 อาทิตย์ตรวจ HIV ซ้ำ
ตอนสามีตรวจเขาก็ใจคอไม่ดี เพราะก่อนแต่งงานเขาเป็นคนเจ้าชู้มาก(เคยใช้ชีวิตบนความเสี่ยง) แต่เราก็บอกว่าลูกคนแรกตรวจ HIV ปกตินะ ระหว่างรอผลเลือดสามีบอกนอนไม่หลับเลย ผลการตรวจของสามีออกในวันรุ่งขึ้น พบว่าปกติ เหลือแต่เราแล้วสิ
วันที่ 16 สค เราเอาผลเลือดไปให้พี่พยาบาลฝากครรภ์ที่รพ.รัฐ พอเห็นผลเลือดบอกว่าทำไมไม่มาหาพี่เขาตอนรู้ผลเลือด(เราเห็นว่าผลเลือดสามีเราปกติแล้วเลยวางใจ) แต่พี่พยาบาลซีเรียสมากเรียกเราคุยส่วนตัว อธิบายถึงผลเลือดของเราซึ่งเขาบอกว่าอาจจะเป็นเพราะโปรตีนจากลูกที่ทำให้ผลเลือดเป็นแบบนี้ ใครพอมีความรู้อธิบายเพิ่มเติมได้นะคะ พี่พยาบาลบอกเราแค่นี้) อธิบายถึงเรื่อง HIV และแนะนำให้เราไปตรวจเลือดครั้งที่ 2 ที่ศูนย์วิจัยโรคเอดส์ สภากาชาดไทย(คลินิกนิรนาม) เพราะตรวจได้ละเอียดกว่า พี่พยาบาลให้เราไปวันนั้นเลย ถามเราว่าเราไปกับใคร เราบอกว่าเราไปคนเดียว (เขาคงเป็นห่วงว่าที่เราเป็นผู้หญิงต้องไปตรวจเอดส์คนเดียว) นี้คือจุดเริ่มต้นของการต้องไปตรวจเลือดที่คลินิกนิรนาม
จากนั้นเราก็ไลน์ไปหาสามีเรา รู้สึกเศร้ามาก อารมณ์ประมาณว่าฉันจะเป็นเอดส์หรอ แต่สามีเราให้กำลังใจตลอดบอกว่า บอกว่าไม่เป็นอะไร พูดประมาณว่าถึงจะเป็นจริงๆเขาก็จะรักเราเหมือนเดิม เขาจะไม่ทิ้งเรา จะดูแลเราไปตลอด ทำเราน้ำตาไหล(ที่ไหลไม่ใช่เพราะกลัวเป็นเอดส์แต่ซึ้งกับคำพูดสามีมาก) เราบอกสามีว่าพี่พยาบาลให้ไปตรวจอีกครั้งที่คลินิกนิรนาม สามีเราไม่อยากให้ไป กลัวไม่สะอาด ที่สำคัญเขาสงสารที่เราต้องไปคนเดียว ต้องไปเผชิญเรื่องแบบนี้คนเดียว เราบอกว่าเราร้อนใจต้องรู้ให้ได้ ขอตัดสินใจไปวันนั้นเลย
การเดินทางไปด้วย BTS ลงสถานีราชดำริ เดินออกประตู 1 (สนามม้า) เดินตามทางไปเรื่อยๆ จะเจอคลินิกทางด้านซ้าย (ขึ้นวินก็ได้แต่เราอายที่ต้องบอกว่าไปคลินิกนิรนามเราเลยตัดสินใจเดิน) ตอนเราไปถึงประมาณบ่าย 2 กว่าแล้ว ยังมีคนใช้บริการ ตอนเข้าไปเราก็ทำงานหน้า งงๆ เลยมีเจ้าหน้าที่มาคุย เราก็ส่งเอกสารที่โรงพยาบาลให้มาตรวจ HIV เจ้าหน้าที่ให้กรอกข้อมูลในคอม หลังจากนั่งคอยรอเรียกคิว ระหว่างรอเราสังเกตว่าคนที่มาใช้บริการผู้ชายเป็นส่วนใหญ่ รวมถึงชายไม่จริงด้วย มีทั้งไทยและเทศ ทั้งวัยรุ่นและวัยทำงาน สักพักเจ้าหน้าที่เรียกทำบัตรรักสุขภาพ แล้วถามว่าเราจะพบที่ปรึกษาก่อนเจาะเลือดไหม
จากการการพบที่ปรึกษา ส่งผลเลือดให้เจ้าหน้าที่ดู เราถามเจ้าหน้าที่ว่าผลเลือดเราเป็น inconclusive เพราะเราตั้งครรภ์ใช่ไหม เจ้าหน้าที่บอกว่า ใช่ค่ะ ผู้หญิงที่ตั้งครรภ์หลายๆคนก็ได้ผลเลือดแบบนี้ แล้วบอกอีกว่าไม่แน่ครั้งนี้อาจได้ผลเหมือนเดิม บางคนก่อนตั้งครรภ์ตรวจเลือดก็ผลปกติ พอตั้งครรภ์ตรวจอีกครั้งผลเป็น inconclusive ก็มี บางครั้งผลเลือดแบบนี้เป็นปีๆก็มี เจ้าหน้าที่บอกว่าที่นี้จะตรวจ NAT ซึ่งจะเป็นการตรวจ DNA ในเชื้อเลย โรงพยาบาลของรัฐส่วนใหญ่ไม่มีตรวจ แต่ผลจะออกอีก 3 วัน จะมีเจ้าหน้าที่โทรไปหากรณีพบเชื้อ ถ้าไม่โทรไปแสดงว่าผลเลือดปกติ
หลังจากเจาะเลือดเสร็จ เจ้าหน้าที่ให้รอผลเลือด 1 ชม. ระหว่างรอในใจก็ภาวนาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายว่าขอให้ผลเลือดปกติ ไม่อยากให้ผลเหมือนครั้งแรกอีก (เพราะถ้าเหมือนครั้งแรกเราต้องมาลุ้นอีก3 วัน สงสัยนอนไม่หลับแน่ และต้องมาเจาะเลือดติดตามผลใหม่อีกเรื่อยๆ)
1 ชม.ผ่านไปเจ้าหน้าที่ก็เรียกพบ สรุปผลเลือด เป็น ลบ (ปกติ) เราดีใจมาก เจ้าหน้าบอกว่าผลเลือดมันต้องออกมาเป็นแบบนี้อยู่แล้ว เพราะเราไม่ได้มีภาวะเสี่ยงอะไร (ตอนแรกบอกว่าผลอาจเป็นเหมือนเดิม...ทำให้เราใจไม่ดี) ก่อนมาเรากังวล เครียดไปหมด แต่ตอนกลับเดินยิ้มออกจากคลินิกเลยค่ะ ประสบการณ์ครั้งนี้ไม่มีวันลืม สอนเราและสามีมากเลยค่ะว่าเราคงต้องใช้ชีวิตอย่างระมัดระวัง อย่าวางตัวอยู่บนความประมาท ไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐจริงๆ
ปล. วันเสาร์เรากลับไปบ้าน สามีคุยกับเราว่า ที่เขารักเราและไม่ยอมทิ้งเรา เพราะตั้งแต่เกิดเรื่องผลเลือดผิดปกติตั้งแต่วันแรก เขาบอกเราใจเย็นมากๆ เราไม่เคยว่า ไม่เคยโกรธ ไม่เคยโทษเขาเลย ทำให้เขาคิดว่าเขาต้องรักเราให้มากๆ ความรักและกำลังใจในครอบครัวเป็นสิ่งสำคัญสำหรับเรามากเลยค่ะ