สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 13
คุณคงยังพบจิตแพทย์อยู่ใช่มั้ยครับ ผมคิดว่าคุณควรปรึกษาจิตแพทย์เรื่องนี้ครับ เค้าจะช่วยคุณได้ ถ้าเค้าเป็นจิตแพทย์ที่ไม่ได้ใช้แต่ยา แต่ใช้จิตบำบัดร่วมด้วย
ปัญหาของคุณมันสะสมมานาน จนสามีคุณไม่เห็นว่าพฤติกรรมตัวเองมันก่อปัญหา จริงๆ คุณทั้งคู่มีส่วนในปัญหานี้กันทั้งคู่ครับ ผมหวังว่าคุณเองจะสามารถยอมรับได้ ว่าคุณเองก็ปล่อยให้มันคาราคาซังมานาน ดังนั้น ไม่ต้องสนใจว่าเป็นความผิดใคร และปัญหาความสัมพันธ์จะแก้ไม่ได้ถ้าทั้งสองคนไม่ไปด้วยกัน
ถ้าคุณยังคิดจะไปต่อกับความสัมพันธ์นี้ สิ่งที่คุณควรจะสื่อสาร คือความทุกข์ที่คุณเผชิญมาหลายปีที่สามีคุณไม่สนใจคุณ แต่การสื่อสารนี้จะไม่เกิดผลและทำให้มีแต่ทะเลาะกันถ้าสามีคุณไม่เคยมองกลับมาที่ตัวเองว่าเค้าเองก็เป็นส่วนนึงของปัญหาความสัมพันธ์กับคุณ ถ้าเค้าเป็นแบบนี้ การพูดเรื่องนี้เค้าจะคิดว่าคุณกำลังโทษเค้า
เพราะความจริงคือ คนที่โทษคนอื่นและให้ตายก็ไม่ยอมรับว่าตัวเองผิดน่ะมันมีไม่น้อย ซึ่งคนพวกนี้จะไม่เคยคิดว่าตัวเองผิด และมันทำให้ไม่เคยคิดจะแก้ปัญหา เพราะปัญหาอยู่ที่คนอื่น
สิ่งที่ผมอยากถามเพื่อให้คุณลองทบทวน คือ อะไรทำให้คุณยังเลือกที่จะอยู่กับสามีคุณครับ ? ผมไม่ได้ถามเพื่อบอกให้คุณเลิกกัน อันนั้นคุณต้องพิจารณาและตัดสินใจเอง แต่จากที่คุณทนทุกข์มาหลายปี ความสัมพันธ์ที่มันเคยตอบโจทย์ชีวิตของคุณ ที่ทำให้คุณตัดสินใจแต่งงานกับสามีคุณนั้นมันยังอยู่มั้ย
ถ้าการอยู่กับสามีมันไม่ได้ตอบโจทย์ความต้องการในใจคุณแล้ว อะไรที่ทำให้คุณถึงยอมทนทุกข์กับเค้ามานานขนาดนี้ มันมีโจทย์อะไรในใจคุณ ที่ทำให้คุณยังอยู่กับเค้าครับ
ถ้าความสัมพันธ์มันไม่ตอบโจทย์ การแยกทางกันมันไม่มีอะไรผิดครับ มันเป็นเพียงทางเลือกทางหนึ่งในชีวิตที่คุณมีสิทธิ์เลือก
การที่คุณไปคุยกับคนอื่น ก็เพียงเพราะว่ามันได้ตอบโจทย์อะไรบางอย่างในใจคุณที่คุณคาดหวังจากสามีแต่เค้าไม่ได้ตอบสนองคุณ แน่นอนว่ามันไม่ใช่เรื่องที่ถูกต้องและมันเข้าใจได้ที่คุณรู้สึกผิด แต่ให้คิดว่ายังดีที่มันไม่ได้ถลำตัวลงไปมากกว่านี้ เพราะคุณจะรู้สึกผิดหนักกว่านี้ และมันก็ดีแล้วที่คุณยุติความสัมพันธ์นี้ลง แต่มันแสดงให้เห็นนะครับ ว่าโจทย์ข้อนี้ในใจคุณ (การมีคนที่ได้คุยและใช้เวลาร่วมกัน เอาใจใส่กัน) มันมีความสำคัญกับคุณมากๆ มากถึงขนาดทำให้คุณข้ามเส้นความผิดชอบชั่วดี
หวังว่าคุณจะไม่โทษตัวเองนะครับ มันไม่มีใครขาว/ดำในเรื่องนี้ ขอให้คุณทบทวนความต้องการของตัวเองให้ดีๆ ว่าคุณต้องอะไรจากความสัมพันธ์นี้ และที่มันดำเนินอยู่มันตอบโจทย์นั้นมั้ย และมันเป็นไปได้แค่ไหนหรือมีวิธีไหนที่สามีคุณจะได้เข้าใจว่าเค้าเองก็มีส่วนรับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้นครับ
ปัญหาของคุณมันสะสมมานาน จนสามีคุณไม่เห็นว่าพฤติกรรมตัวเองมันก่อปัญหา จริงๆ คุณทั้งคู่มีส่วนในปัญหานี้กันทั้งคู่ครับ ผมหวังว่าคุณเองจะสามารถยอมรับได้ ว่าคุณเองก็ปล่อยให้มันคาราคาซังมานาน ดังนั้น ไม่ต้องสนใจว่าเป็นความผิดใคร และปัญหาความสัมพันธ์จะแก้ไม่ได้ถ้าทั้งสองคนไม่ไปด้วยกัน
ถ้าคุณยังคิดจะไปต่อกับความสัมพันธ์นี้ สิ่งที่คุณควรจะสื่อสาร คือความทุกข์ที่คุณเผชิญมาหลายปีที่สามีคุณไม่สนใจคุณ แต่การสื่อสารนี้จะไม่เกิดผลและทำให้มีแต่ทะเลาะกันถ้าสามีคุณไม่เคยมองกลับมาที่ตัวเองว่าเค้าเองก็เป็นส่วนนึงของปัญหาความสัมพันธ์กับคุณ ถ้าเค้าเป็นแบบนี้ การพูดเรื่องนี้เค้าจะคิดว่าคุณกำลังโทษเค้า
เพราะความจริงคือ คนที่โทษคนอื่นและให้ตายก็ไม่ยอมรับว่าตัวเองผิดน่ะมันมีไม่น้อย ซึ่งคนพวกนี้จะไม่เคยคิดว่าตัวเองผิด และมันทำให้ไม่เคยคิดจะแก้ปัญหา เพราะปัญหาอยู่ที่คนอื่น
สิ่งที่ผมอยากถามเพื่อให้คุณลองทบทวน คือ อะไรทำให้คุณยังเลือกที่จะอยู่กับสามีคุณครับ ? ผมไม่ได้ถามเพื่อบอกให้คุณเลิกกัน อันนั้นคุณต้องพิจารณาและตัดสินใจเอง แต่จากที่คุณทนทุกข์มาหลายปี ความสัมพันธ์ที่มันเคยตอบโจทย์ชีวิตของคุณ ที่ทำให้คุณตัดสินใจแต่งงานกับสามีคุณนั้นมันยังอยู่มั้ย
ถ้าการอยู่กับสามีมันไม่ได้ตอบโจทย์ความต้องการในใจคุณแล้ว อะไรที่ทำให้คุณถึงยอมทนทุกข์กับเค้ามานานขนาดนี้ มันมีโจทย์อะไรในใจคุณ ที่ทำให้คุณยังอยู่กับเค้าครับ
ถ้าความสัมพันธ์มันไม่ตอบโจทย์ การแยกทางกันมันไม่มีอะไรผิดครับ มันเป็นเพียงทางเลือกทางหนึ่งในชีวิตที่คุณมีสิทธิ์เลือก
การที่คุณไปคุยกับคนอื่น ก็เพียงเพราะว่ามันได้ตอบโจทย์อะไรบางอย่างในใจคุณที่คุณคาดหวังจากสามีแต่เค้าไม่ได้ตอบสนองคุณ แน่นอนว่ามันไม่ใช่เรื่องที่ถูกต้องและมันเข้าใจได้ที่คุณรู้สึกผิด แต่ให้คิดว่ายังดีที่มันไม่ได้ถลำตัวลงไปมากกว่านี้ เพราะคุณจะรู้สึกผิดหนักกว่านี้ และมันก็ดีแล้วที่คุณยุติความสัมพันธ์นี้ลง แต่มันแสดงให้เห็นนะครับ ว่าโจทย์ข้อนี้ในใจคุณ (การมีคนที่ได้คุยและใช้เวลาร่วมกัน เอาใจใส่กัน) มันมีความสำคัญกับคุณมากๆ มากถึงขนาดทำให้คุณข้ามเส้นความผิดชอบชั่วดี
หวังว่าคุณจะไม่โทษตัวเองนะครับ มันไม่มีใครขาว/ดำในเรื่องนี้ ขอให้คุณทบทวนความต้องการของตัวเองให้ดีๆ ว่าคุณต้องอะไรจากความสัมพันธ์นี้ และที่มันดำเนินอยู่มันตอบโจทย์นั้นมั้ย และมันเป็นไปได้แค่ไหนหรือมีวิธีไหนที่สามีคุณจะได้เข้าใจว่าเค้าเองก็มีส่วนรับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้นครับ
แสดงความคิดเห็น
เคยทำพลาดนอกใจสามีไปคุยกับคนอื่นแก้เหงา เพราะสามีไม่มีเวลาให้
มีช่วงหนึ่ง เรามีปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพจิต (ไปพบแพทย์ วินิจฉัยว่าเราเป็นโรคซึมเศร้า, และมีอาการของโรคแพนิคร่วมด้วย) เนื่องจากเครียดกับงานและมีปัญหาเรื่องโรคประจำตัวที่เก็บไว้คนเดียว ไม่อยากเล่าให้คนในบ้านฟังเพราะกลัวคนในบ้านจะกังวลและเครียดไปกับเรา ส่วนสามี ก็ทำงาน พอกลับมาถึงบ้านก็ไม่เคยคุยกับเรา เอาแต่เล่นโทรศัพท์ ไม่เคยมานั่งทานข้าวพร้อมกับเรา ไม่เคยมานั่งคุยกับเรา บางครั้งยอมรับเลยค่ะว่ารู้สึกน้อยใจและหงุดหงิดบ้างที่เห็นเขาเป็นแบบนั้น เราไปหาหมอก็ไปคนเดียว เขาไม่เคยดูแลหรือพาเราไปเลยสักครั้ง เพราะเขาทำแต่งาน กลับบ้านมาก็อย่างที่บอกไปตอนแรกคือจับโทรศัพท์ และวางอีกทีคือตอนง่วงนอน พอตื่นมาก็แยกย้ายกันไปทำงาน กลับบ้านมาก็เจอแบบเดิม เป็นแบบนี้ทุกๆวันวนไปวนมา ตลอดระยะเวลาหลายปี เรารู้สึกเหงามากๆ รู้สึกเหมือนอยู่ตัวคนเดียว ถึงแม้ว่าจะอยู่กับสามีทุกๆวัน มันก็ไม่ได้รู้สึกว่ามีเขาอยู่ด้วยจริงๆ จนวันหนึ่ง เราพบกับผู้ชายคนหนึ่ง เริ่มต้นคุยกันแบบปรึกษาปัญหาชีวิต ส่วนใหญ่เราจะรับฟังปัญหาของเขา แต่พอฟังไปฟังมาสักระยะ เราเริ่มอยากระบายเรื่องของเราให้เขาฟังบ้าง สุดท้ายมันเกิดเป็นความเห็นอกเห็นใจและยอมรับเลยว่าเราก็มีความรู้สึกดีๆให้เขา แต่ไม่มีอะไรเกินเลยนอกจากเพื่อนคุย เพราะเราไม่ได้คิดจะเลิกกับสามี หรือมีใครจริงจัง พอคุยได้ไม่นาน สามีเรารู้ว่าเราคุยกับคนอื่น เขาร้องไห้เสียใจ โวยวายต่อว่าเรา ด่าว่าเรานอกใจเขา ซึ่งเราไม่เถียง เรายอมรับความผิดทุกอย่าง เราขอโทษและสัญญาว่าเราจะไม่ไปคุยกับใครอีก และสุดท้ายเราก็ไม่ได้เลิกกัน แต่ทุกวันนี้ เรารู้สึกแย่มากๆ เรารู้สึกอยากไปพบหมอเกี่ยวกับปัญหาทางสุขภาพจิตที่เป็นอยู่ เพราะสามีเราเขาพูดกรอกหู ประชดประชัน พูดแดกดันเราตลอดว่าเรานอกใจเขา บางครั้งก็ไล่ให้เราไปคบกับคนนั้น บางครั้งก็ตื่นมากลางดึกแล้วผลักเราออกไปไกลๆจากเขา เราพยายามอดทน อดกลั้นกับสิ่งที่เราเจอ เพราะเรารักสามีเรามาก หลายคนอาจจะมองว่า ถ้าเรารักสามีเรามากทำไมเราต้องไปคุยกับคนอื่น ทำไมต้องไปหาเพื่อนคุย เราอยากจะตอบจากใจเลยนะคะว่า บางครั้ง การที่เรามีใครสักคนไว้รับฟัง มันก็สามารถช่วยฮีลใจให้เรายังใช้ชีวิตต่อไปในวันพรุ้งนี้ได้นะคะ ความทุกข์ของเรา หากเราสามารถระบายหรือแบ่งปันให้ใครสักคนช่วยรับฟังและนำไปทิ้งได้บ้าง มันสามารถทำให้เราอยากมีวันพรุ้งนี้ต่อไปจริงๆ ซึ่งการกระทำพวกนี้ เราเคยคุย ปรึกษา และระบายให้สามีเราฟังแล้ว แต่เขาไม่เคยรับฟัง ไม่เคยปลอบใจหรือให้กำลังใจเราเลย เขามองว่าเราคิดมาก มันเป็นเรื่องไร้สาระ แล้วแบบนี้ เราจะทำยังไงต่อไปดีคะ เราจะอดทนต่อไป หรือจะหยุดแล้วไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ ซึ่งก็ไม่รู้ว่าจะเป็นชีวิตแบบไหนดี เราไม่รู้ว่าควรทำยังไง