รักตัวเอง’ ให้ได้ก่อนจะไป ‘รักคนอื่น’
เชื่อว่าหลายคนต้องเคยได้ยินประโยคอันแสนคลาสสิกนี้ เมื่อเรากับเพื่อนถกเถียงกันถึงเรื่องความรักไปถึงจุดหนึ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยามที่ต้องการจะมอบความรักให้ใครสักคน หรือไม่ก็เพิ่งประสบกับความล้มเหลวในเรื่องความรักมาหมาดๆ
ประเด็นที่น่าสนใจนั้นอยู่เบื้องลึกภายในประโยคนี้ ว่ามันเป็นเช่นนั้นจริงๆ ใช่ไหม ที่เราจะรักคนอื่นเป็นก็ต่อเมื่อรักตัวเองเป็นก่อน
ประโยคเงื่อนไขทำนองนี้มักจะใช้สอนใจหรือใช้ทำใจสำหรับคนที่ไม่เคยเชื่อในความรัก แต่สำหรับคนที่เคยผ่านประสบการณ์หนักๆ ในเรื่องความรักมาแล้ว ประโยคเดียวกันนี้อาจกลายเป็นบทเรียนที่ผูกมัดความคิดและทัศนคติในเรื่องความรักและความสัมพันธ์จนแทบจะดิ้นไม่หลุด พร้อมยอมจำนนให้อย่างเต็มหัวใจว่า ต่อจากนี้ไปเราจะต้องเป็นเช่นนี้เสมอ
ทั้งๆ ที่ในความเป็นจริงแล้ว ความรักเป็นความรู้สึกพิเศษที่แสนจะเรียบง่าย เวลาที่เรามองความรักเป็นเรื่องซับซ้อน นั้นก็เพราะตัวเราเองปรุงแต่งความรักให้เต็มไปด้วยส่วนผสมที่รกรุงรังเกินไป ทำให้มันมีรสชาติหวานจับใจ หรือไม่ก็ขมจนฝาดลิ้นไปเลย ความรักจึงไม่ได้เป็นเพียงความรู้สึกอย่างที่มันควรจะเป็นอีกต่อไป ด้วยเหตุผลนี้ เมื่อเราจะหาทฤษฎีใดๆ หรือคำสอนใดๆ มาอธิบายความรักก็กลับแปรเปลี่ยนไปตามปัจจัยอื่นๆ เหล่านั้นด้วยเสมอ
ความรักของแต่ละคนจึงไม่เหมือนกัน แล้วเราจะหาความเที่ยงแท้ของประโยคที่ว่า ‘รักตัวเองให้ได้ก่อนจะไปรักคนอื่น’ ได้มากน้อยแค่ไหน
คำกล่าวที่ว่า "รักตัวเองให้ได้ก่อนจะไปรักคนอื่น" เป็นคำแนะนำที่ดี แต่ไม่ใช่กฎตายตัว การรักตัวเองเป็นสิ่งสำคัญ แต่การรักคนอื่นก็เป็นสิ่งที่สำคัญเช่นกัน เราสามารถทำทั้งสองอย่างไปพร้อมๆ กันได้ โดยที่ไม่ต้องเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง
สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ การตระหนักถึงความรู้สึกของตัวเอง และพยายามที่จะดูแลตัวเองให้ดีที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการดูแลร่างกาย ออกกำลังกาย กินอาหารที่มีประโยชน์ พักผ่อนให้เพียงพอ หรือทำกิจกรรมที่ชอบ
แล้วคุณล่ะ ตีความคำว่า "รักตัวเอง" ไปในทิศทางไหนบ้าง?
อ่านเพิ่มเติม
https://becommon.co/life/heart-love-yourself-first/
จริงหรือเปล่ากับคำกล่าวที่ว่า ‘รักตัวเองให้ได้ก่อนจะไปรักคนอื่น’
เชื่อว่าหลายคนต้องเคยได้ยินประโยคอันแสนคลาสสิกนี้ เมื่อเรากับเพื่อนถกเถียงกันถึงเรื่องความรักไปถึงจุดหนึ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยามที่ต้องการจะมอบความรักให้ใครสักคน หรือไม่ก็เพิ่งประสบกับความล้มเหลวในเรื่องความรักมาหมาดๆ
ประเด็นที่น่าสนใจนั้นอยู่เบื้องลึกภายในประโยคนี้ ว่ามันเป็นเช่นนั้นจริงๆ ใช่ไหม ที่เราจะรักคนอื่นเป็นก็ต่อเมื่อรักตัวเองเป็นก่อน
ประโยคเงื่อนไขทำนองนี้มักจะใช้สอนใจหรือใช้ทำใจสำหรับคนที่ไม่เคยเชื่อในความรัก แต่สำหรับคนที่เคยผ่านประสบการณ์หนักๆ ในเรื่องความรักมาแล้ว ประโยคเดียวกันนี้อาจกลายเป็นบทเรียนที่ผูกมัดความคิดและทัศนคติในเรื่องความรักและความสัมพันธ์จนแทบจะดิ้นไม่หลุด พร้อมยอมจำนนให้อย่างเต็มหัวใจว่า ต่อจากนี้ไปเราจะต้องเป็นเช่นนี้เสมอ
ทั้งๆ ที่ในความเป็นจริงแล้ว ความรักเป็นความรู้สึกพิเศษที่แสนจะเรียบง่าย เวลาที่เรามองความรักเป็นเรื่องซับซ้อน นั้นก็เพราะตัวเราเองปรุงแต่งความรักให้เต็มไปด้วยส่วนผสมที่รกรุงรังเกินไป ทำให้มันมีรสชาติหวานจับใจ หรือไม่ก็ขมจนฝาดลิ้นไปเลย ความรักจึงไม่ได้เป็นเพียงความรู้สึกอย่างที่มันควรจะเป็นอีกต่อไป ด้วยเหตุผลนี้ เมื่อเราจะหาทฤษฎีใดๆ หรือคำสอนใดๆ มาอธิบายความรักก็กลับแปรเปลี่ยนไปตามปัจจัยอื่นๆ เหล่านั้นด้วยเสมอ
ความรักของแต่ละคนจึงไม่เหมือนกัน แล้วเราจะหาความเที่ยงแท้ของประโยคที่ว่า ‘รักตัวเองให้ได้ก่อนจะไปรักคนอื่น’ ได้มากน้อยแค่ไหน
คำกล่าวที่ว่า "รักตัวเองให้ได้ก่อนจะไปรักคนอื่น" เป็นคำแนะนำที่ดี แต่ไม่ใช่กฎตายตัว การรักตัวเองเป็นสิ่งสำคัญ แต่การรักคนอื่นก็เป็นสิ่งที่สำคัญเช่นกัน เราสามารถทำทั้งสองอย่างไปพร้อมๆ กันได้ โดยที่ไม่ต้องเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง
สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ การตระหนักถึงความรู้สึกของตัวเอง และพยายามที่จะดูแลตัวเองให้ดีที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการดูแลร่างกาย ออกกำลังกาย กินอาหารที่มีประโยชน์ พักผ่อนให้เพียงพอ หรือทำกิจกรรมที่ชอบ
แล้วคุณล่ะ ตีความคำว่า "รักตัวเอง" ไปในทิศทางไหนบ้าง?
อ่านเพิ่มเติม
https://becommon.co/life/heart-love-yourself-first/