..เมื่อวานอาแปะสนทนากับเพื่อนสมาชิกท่านหนึ่งค้างไว้เรื่องหุ้นเติบโต พอดีเมื่อคืนดึกแล้วอาแปะก็เลยไปนอนก่อนที่จะจบประเด็นสนทนานั้น เช้านี้ก็เลยถือโอกาสยกประเด็น"หุ้นเติบโต" นั้นมาตั้งเป็นกระทู้ใหม่..
...เพื่อนสมาชิกท่านว่า หุ้น DELTA เป็นหุ้นเติบโต ย่อมต้องใช้เงินลงทุนไปต่างๆนานาๆ อันเป็นธรรมดาของหุ้นเติบโต...
...ส่วนตัวอาแปะ ไม่มองเดลต้าว่าเป็นหุ้นเติบโตนะครับ แต่อาแปะมองว่าเดลต้าเป็นหุ้น"แก่วัด" คือเป็นหุ้นที่มีเหลี่ยมกับผู้ถือหุ้นมากเกินไป จะต้องมีเรื่องให้ใช้จ่ายเงินอยู่เรื่อย แต่กลับแบ่งเงินปันผลมาให้ผู้ถือหุ้นน้อยมากๆ ไม่สมกับมูลค่าสินทรัพย์และผลกำไรที่บริษัททำได้...
....ในตลาดหุ้น มีหุ้นจำนวนมากมายที่ลงทุนขยายธุรกิจไปด้วยและยังสามารถให้ผลตอบแทนน่าพอใจแก่ผู้ถือหุ้นไปด้วย ได้ในเวลาเดียวกัน หุ้นเหล่านั้นเค้าไม่อ้างเรื่องการลงทุน...นะครับ..
....ในทัศนคติของอาแปะเรื่องหุ้นเติบโตที่แท้จริง คือต้องเป็นหุ้นที่สามารถให้ดอกผลอย่างน่าชื่นใจแก่ผู้ซื้อลำดับท้ายๆ อย่างนี้อาแปะจึงเรียกว่า "หุ้นเติบโตที่แท้จริง..
...ถามว่าหุ้น DELTA คนที่ซื้อหุ้นเดลต้าลำดับท้ายๆ คือที่ยอดสูงของราคา (ดอย) ได้ปันผลเป็นที่น่าพอใจไหมครับ.?
....ร้อยทั้งร้อย คำตอบคือไม่แน่นอน ซื้อหุ้นเดลต้าที่ราคาร้อยบาท ได้ปันผล สองสลึง ใครอยากจะพอใจ ...จริงไหมครับ.?
...
ดังนี้แล้วหุ้นDELTA จึงไม่ใช่หุ้นเติบโตที่แท้จริง ...นั่นเอง..
...หุ้นเติบโตที่แท้จริง อุปมาเหมือนกับ ต้นไม้ที่ต้องให้ดอกหรือผลเมื่อโตแล้ว..
ต้นไม้บางชนิดให้ดอกหอม,สวย เป็นความสุขน่าชื่นชมแก่ผู้ซื้อลำดับท้าย..
ต้นไม้บางชนิดให้ผลเป็นความอิ่ม แก่ผู้ชื้อลำดับท้าย..
ตัวอย่างเช่นเรื่องของ มานะ มานี ปิติ ชูใจ..
.... เด็กชายมานะอยากมีตังส์ ก็เอาเม็ดเชอรี่มาเพาะในกะลา เมื่อเชอรี่โตได้สักคืบ มานะก็เอาต้นเชอรี่ไปขายให้ร้านต้นไม้ของมานี มานะได้กำไรมายี่สิบบาท..
...ต่อมา มานีก็ฟูมฟักต้นเชอรี่นี้ให้เติบโตแตกกิ่งก้านสาขาเป็นพุ่มสูงเมตรกว่า แล้วก็ขายต้นเชอรี่ในราคาขายส่งไปให้ปิติ มานีได้กำไร สองร้อยบาท..
..ต่อมาปิติซึ่งเป็นพ่อค้าต้นไม้ต่างจังหวัดก็เอาต้นเชอรี่ไปเลี้ยงต่อจนเติบโตเต็มที่พร้อมออกดอกผล แล้วก็ขายต้นเชอรี่สูงใหญ่นี้ให้ชูใจ ปิติได้กำไร สองพันบาท..
..ชูใจเป็นสาวใหญ่วัยเกษียณ ซื้อต้นเชอรี่ยักษ์มาปลูกด้วยหวังจะชื่นชมดอกและกินผลของต้นเชอรี่ ก็ได้ดั่งที่หวัง..
....จากเม็ดเชอรี่เล็กๆ ทวีเป็นเงิน ยี่สิบบาท, สองร้อยบาท,สองพันบาท และเปลี่ยนเป็นความสุขความพอใจของชูใจในที่สุด ทุกคนแฮปปี้ ไม่มีใครติดดอยราคาต้นเชอรี่ เพราะชูใจซึ่งเป็นผู้ซื้อลำดับท้ายมีความสุขจากเงินที่จ่ายลงทุนไป....นั่นเอง
..อย่างนี้คือ การเติบโตที่แท้จริง ต้นเชอรี่นี้ก็คือหุ้นเติบโตที่แท้จริง ไม่ใช่หุ้นแก่วัดธรรมดา ที่สวมรวยอ้างว่าเป็นหุ้นเติบโต...น๊ะจ๊ะ..
อมิตพุทธ..
อรุณสวัสดื ยามเช้าด้วยดอกและผลของต้นเชอรี่ในสวน..
ว่าด้วย DELTA.....อาแปะว่า หุ้นเติบโตที่แท้จริง ต้องให้ดอกผลอันเป็นที่น่าพอใจแก่ผู้ซื้อลำดับท้ายๆ...นะครับ
...เพื่อนสมาชิกท่านว่า หุ้น DELTA เป็นหุ้นเติบโต ย่อมต้องใช้เงินลงทุนไปต่างๆนานาๆ อันเป็นธรรมดาของหุ้นเติบโต...
...ส่วนตัวอาแปะ ไม่มองเดลต้าว่าเป็นหุ้นเติบโตนะครับ แต่อาแปะมองว่าเดลต้าเป็นหุ้น"แก่วัด" คือเป็นหุ้นที่มีเหลี่ยมกับผู้ถือหุ้นมากเกินไป จะต้องมีเรื่องให้ใช้จ่ายเงินอยู่เรื่อย แต่กลับแบ่งเงินปันผลมาให้ผู้ถือหุ้นน้อยมากๆ ไม่สมกับมูลค่าสินทรัพย์และผลกำไรที่บริษัททำได้...
....ในตลาดหุ้น มีหุ้นจำนวนมากมายที่ลงทุนขยายธุรกิจไปด้วยและยังสามารถให้ผลตอบแทนน่าพอใจแก่ผู้ถือหุ้นไปด้วย ได้ในเวลาเดียวกัน หุ้นเหล่านั้นเค้าไม่อ้างเรื่องการลงทุน...นะครับ..
....ในทัศนคติของอาแปะเรื่องหุ้นเติบโตที่แท้จริง คือต้องเป็นหุ้นที่สามารถให้ดอกผลอย่างน่าชื่นใจแก่ผู้ซื้อลำดับท้ายๆ อย่างนี้อาแปะจึงเรียกว่า "หุ้นเติบโตที่แท้จริง..
...ถามว่าหุ้น DELTA คนที่ซื้อหุ้นเดลต้าลำดับท้ายๆ คือที่ยอดสูงของราคา (ดอย) ได้ปันผลเป็นที่น่าพอใจไหมครับ.?
....ร้อยทั้งร้อย คำตอบคือไม่แน่นอน ซื้อหุ้นเดลต้าที่ราคาร้อยบาท ได้ปันผล สองสลึง ใครอยากจะพอใจ ...จริงไหมครับ.?
...ดังนี้แล้วหุ้นDELTA จึงไม่ใช่หุ้นเติบโตที่แท้จริง ...นั่นเอง..
...หุ้นเติบโตที่แท้จริง อุปมาเหมือนกับ ต้นไม้ที่ต้องให้ดอกหรือผลเมื่อโตแล้ว..
ต้นไม้บางชนิดให้ดอกหอม,สวย เป็นความสุขน่าชื่นชมแก่ผู้ซื้อลำดับท้าย..
ต้นไม้บางชนิดให้ผลเป็นความอิ่ม แก่ผู้ชื้อลำดับท้าย..
ตัวอย่างเช่นเรื่องของ มานะ มานี ปิติ ชูใจ..
.... เด็กชายมานะอยากมีตังส์ ก็เอาเม็ดเชอรี่มาเพาะในกะลา เมื่อเชอรี่โตได้สักคืบ มานะก็เอาต้นเชอรี่ไปขายให้ร้านต้นไม้ของมานี มานะได้กำไรมายี่สิบบาท..
...ต่อมา มานีก็ฟูมฟักต้นเชอรี่นี้ให้เติบโตแตกกิ่งก้านสาขาเป็นพุ่มสูงเมตรกว่า แล้วก็ขายต้นเชอรี่ในราคาขายส่งไปให้ปิติ มานีได้กำไร สองร้อยบาท..
..ต่อมาปิติซึ่งเป็นพ่อค้าต้นไม้ต่างจังหวัดก็เอาต้นเชอรี่ไปเลี้ยงต่อจนเติบโตเต็มที่พร้อมออกดอกผล แล้วก็ขายต้นเชอรี่สูงใหญ่นี้ให้ชูใจ ปิติได้กำไร สองพันบาท..
..ชูใจเป็นสาวใหญ่วัยเกษียณ ซื้อต้นเชอรี่ยักษ์มาปลูกด้วยหวังจะชื่นชมดอกและกินผลของต้นเชอรี่ ก็ได้ดั่งที่หวัง..
....จากเม็ดเชอรี่เล็กๆ ทวีเป็นเงิน ยี่สิบบาท, สองร้อยบาท,สองพันบาท และเปลี่ยนเป็นความสุขความพอใจของชูใจในที่สุด ทุกคนแฮปปี้ ไม่มีใครติดดอยราคาต้นเชอรี่ เพราะชูใจซึ่งเป็นผู้ซื้อลำดับท้ายมีความสุขจากเงินที่จ่ายลงทุนไป....นั่นเอง
..อย่างนี้คือ การเติบโตที่แท้จริง ต้นเชอรี่นี้ก็คือหุ้นเติบโตที่แท้จริง ไม่ใช่หุ้นแก่วัดธรรมดา ที่สวมรวยอ้างว่าเป็นหุ้นเติบโต...น๊ะจ๊ะ..
อมิตพุทธ..
อรุณสวัสดื ยามเช้าด้วยดอกและผลของต้นเชอรี่ในสวน..