ถ้าพูดถึงเกาหลี ทุกคนจะนึกถึงอะไร K-pop ซีรีส์ กิมจิ??? วันนี้เจ้าของกระทู้จะพาไปที่เที่ยวที่แปลกๆหน่อย ไปสำรวจพื้นที่ส่วนหนึ่งของการเกิดสงครามเกาหลี สงครามที่ทำให้เกาหลีต้องถูกแบ่งแยกออกเป็นสองส่วน จากการแข่งขันของชาติมหาอำนาจที่มีแนวความคิดทางการเมืองที่แตกต่างกัน โดยใช้เกาหลีเป็นตัวแทน สงครามที่คนเกาหลีต้องมารบราฆ่าฟันกันเอง รวมทั้งไปสำรวจประเทศสุดลึกลับอย่าง เกาหลีเหนือ นั่นเอง โดยครั้งนี้เจ้าของกระทู้จะเดินทางไปด้วยวิธีทัวร์ “DMZ Tour”
          ก่อนอื่นมาทำความรู้จัก เขตปลอดทหาร หรือ demilitarized zone (DMZ) กันก่อน DMZ เป็นพื้นที่ที่วัดจากเขตแบ่งแดนจริงๆของเกาหลีเหนือกับเกาหลีใต้ ซึ่งได้ตกลงกันตอนประกาศหยุดยิงกันในสงครามเกาหลี กำหนดไว้ที่เส้นละติจูดที่ 38 องศาเหนือ (เขาเรียกเส้นนี้ว่า Military Demarcation Line) เข้าไปฝั่งละ 2 กิโลเมตร ถึงแม้ชื่อจะเรียกว่า เขตปลอดทหาร แต่พื้นที่นี้เป็นพื้นที่ชายแดนที่มีการตรึงกำลังทหารของทั้งสองฝ่ายเป็นเข้มงวดสุดๆ เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในชายแดนที่มีความตึงเครียดมากที่สุดในโลก
          สำหรับในวันนี้เจ้าของกระทู้ได้ซื้อทัวร์ DMZ ไปที่เมือง Paju ซึ่งเป็นเขต DMZ มีชื่อเสียงมากที่สุด มีสถานที่ท่องเที่ยวให้ชมหลากหลายมากที่สุด ใกล้จากเมืองโซลมากๆ ใช้เวลาเดินทางไม่ถึง 1 ชั่วโมง ซึ่งการจะเข้าไปในพื้นที่ได้นั้น ต้องซื้อทัวร์ที่ได้รับอนุญาตจากทหารเกาหลีใต้เท่านั้น โดยจะเลือกซื้อทัวร์ที่เริ่มเดินทางจากโซลเลย หรือว่าเดินทางไปซื้อที่เมือง Paju ตรงบริเวณ Imjingak Park ก็ได้ ฟังดูเพื่อนๆอาจจะคิดว่าการไปเขต DMZ นั้นอันตราย แต่จริงๆแล้วมันไม่ได้อันตรายอย่างที่คิด5555 เพราะว่าทางเกาหลีใต้ทำเป็นสถานที่ท่องเที่ยวกันแบบจริงจังมากๆ แถมยังสนับสนุนให้มาเที่ยวกันเยอะๆอีก
          ภายใน DMZ tour จะพาไปชมกันหลักๆ 4 ที่ด้วยกัน ได้แก่ Imjingak Park อุโมงค์ที่ 3 หอชมวิว Dora และหมู่บ้าน Unification นอกจาก DMZ tour แล้ว สมัยก่อนยังมีอีกทัวร์หนึ่งชื่อว่า Joint security area (JSA) อยู่ที่หมู่บ้านปันมุนจอม โดยจะพาไปดูแนวเขตเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ที่ใกล้ชิดกันมากที่สุดและอาคารหลังสีฟ้า หลังที่ทุกคนรู้จักกันดีที่ตั้งคร่อมระหว่าง 2 ประเทศ ซึ่งเป็นขององค์การสหประชาชาติ ใช้ในการนัดเจรจาของทั้งสองฝ่าย เป็นเรื่องที่น่าเสียดายเพราะว่าทัวร์นี้ถูกยกเลิกไปเพราะว่า มีทหารอเมริกันที่มีชื่อว่า Travis King ได้หลบหนีเข้าไปฝั่งเกาหลีเหนือขณะที่มาเที่ยวกับทัวร์ เมื่อเดือน ก.ค. 2566 ดูเหมือนว่า JSA tour จะกลับมาเปิดใหม่ได้ แต่สุดท้ายก็ยังไม่เปิดเนื่องจากด้วยเหตุผลทางด้านความปลอดภัย รวมทั้งความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศที่แย่ลงและตึงเครียด จึงยกเลิกไปแบบไม่มีกำหนด 
          เป็นเรื่องที่น่าเสียดายมากของเจ้าของกระทู้ที่ไม่ได้ไป JSA tour แต่อย่างน้อยก็มาเกาหลีแล้วก็เลยไป DMZ tour สัมผัสเอาบรรยากาศ ได้เห็นประเทศเกาหลีเหนือจากไกลๆก็ยังดี เจ้าของกระทู้เลือกจองทัวร์ที่เริ่มจากเมืองโซล ผ่านแอป Klook ซึ่งมีให้เลือกหลายเจ้าเลยทีเดียว ราคาไม่ได้แตกต่างกันมาก ประมาณ 1,900 บาท 
          เอาล่ะเริ่มไปกันเลย ไกด์นัดพวกเราที่สถานีรถไฟ Hongik University กันตั้งแต่ 6.50 น. ไกด์ของเราชื่อ Dennis ไกด์ชาวเกาหลีใต้อารมณ์ดี พูดอังกฤษได้คล่องปรื๋อ ตลอดเส้นทางไกด์เล่าเรื่องประวัติศาสตร์เกาหลี เกร็ดเล็กเกร็ดน้อย เล่าจนไม่ให้นักท่องเที่ยวหลับตอนเช้าที่ชวนง่วงเลย55555 สาเหตุที่เฮีย Dennis นัดพวกเราแต่เช้าก็คือ ระบบการจองเพื่อเข้าไปเที่ยวในเขต DMZ เป็นแบบใครไปถึงก่อนได้เข้าก่อน และมีคนเข้าไปเที่ยวในวันหยุดเยอะมากๆ 
          สำหรับ Imjingak Park เป็นเหมือนสถานที่แรกที่คอยต้อนรับนักท่องเที่ยวที่จะมาเที่ยว DMZ ภายในจะมีร้านอาหาร ห้องน้ำ และบริเวณใกล้เคียงก็จะมีแหล่งท่องเที่ยวต่างๆที่เกี่ยวข้องกับสงครามเกาหลีให้ชมกัน ไกด์บอกว่าเราได้เข้าไปตอนเที่ยง ดังนั้นเราจะเที่ยวชมในสวน Imjingak และมีโปรแกรมเสริมระหว่างรอ โดยจะออกไปชมสะพานแขวนก่อน จากนั้นจะค่อยกลับมาตอนเที่ยง
          ภายใน Imjingak Park ก็จะมี สถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ของเกาหลี ได้แก่ The bridge of freedom เป็นสะพานที่ถูกสร้างขึ้นในสมัยสงครามเกาหลี เพื่อใช้ในการแลกเปลี่ยนเชลยศึกและทหารในสงคราม ซึ่งความหมายของ freedom ก็คือ อิสระในการกลับมาสู่ดินแดนทางใต้นั่นเอง 
          หากใครอยากได้เงินเกาหลีเหนือเป็นที่ระทึก เอ้ย! ระลึก ก็สามารถไปซื้อมาครอบครองเป็นของตัวเองได้ ส่วนตัวขอบายละกัน ราคาขายจริงแพงกว่าราคาหน้าแบ้งค์ถึง 4-5 เท่าเลย (สามารถหาซื้อในเกาหลีใต้ได้ที่นี่ที่เดียวนะจร๊ะ) 
          ระหว่างรอเข้า DMZ พวกเราได้ไปเที่ยวสะพานแขวน Gamaksan ห่างจาก Imjingak Peace Park พอสมควร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 40 นาที เมื่อมาถึงต้องเดินขึ้นเขาป่าสนอีกประมาณ 15 นาที ก็จะถึงสะพานแขนที่เชื่อมทั้ง 2 เขาเข้าด้วยกัน สามารถเดินไปชมน้ำตกที่ปลายสะพานได้ จขกท.ว่า ในหน้าร้อนเกาหลี ป่าเขียวสวยน่าเดินมาก ถึงแม้ว่าจะร้อน เหงื่อแตกซิบๆ สายเลือดคนไทยแท้อย่างจขกท. เดินได้สบายๆ
          เอาล่ะตัดกลับเข้ามาไฮไลท์สำคัญของทริปนี้ ถึงเวลาที่เราจะได้เข้าไปเขต DMZ กันสักที ก่อนเข้าไปจะต้องผ่ายด่านตรวจ มีทหารขึ้นมาที่รถ เพื่อเช็คชื่อและพาสปอร์ตว่าใบหน้าตรงกันหรือไม่ เมื่อเช็คเสร็จแล้วก็ผ่านเข้าไปในเขต DMZ ได้ 
          เมื่อข้ามสะพาน Unification แล้วสถานที่แรกที่เราแวะก็คือหอดูดาว Dora observatory เป็นหอดูดาวที่ตั้งอยู่บนเขา Dora ในวันที่อากาศแจ่มใสจะสามารถเห็นเมืองแกซองของเกาหลีเหนือ เห็นเสาธงชาติของทั้งสองชาติ และหมู่บ้าน Propaganda หมู่บ้านที่ไม่มีคนอยู่ของฝั่งเกาหลีเหนือ ทำให้ให้น่าอยู่ ชวนเชื่อให้ฝั่งเกาหลีใต้คิดว่าฝั่งเราก็มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีนะ 
โชคไม่ดีของเจ้าของกระทู้ที่อากาศไม่ค่อยดี ฝนเพิ่งหยุดตก หมอกบัง ไม่ค่อยเห็นฝั่งเกาหลีเหนือเท่าไหร่เลย ไกด์ Dennis ปลอบใจพร้อมกับเอารูปเก่าๆของวันก่อนๆมาให้ดูว่า อย่างน้อยก็ดีกว่าบางวันที่หมอกลงหนามากจนไม่เห็นอะไรมากกว่านี้อีก นึกไปก็เศร้า อุตสาห์ได้มาดูเกาหลีเหนือใกล้ๆทั้งที จขกท.คงไม่มีปัญญา ไม่กล้าไปเกาหลีเหนือแน่ๆ กลัวโดนจับไปปรับทัศนคติ55555
          เราใช้เวลาที่หอดูดาวไม่นาน ไกด์ Dennis นัดเวลาเราขึ้นรถเพื่อไปสถานที่ต่อไป จขกท.ดูเพลินไปหน่อย รีบจ้ำลงเขาเพื่อไปขึ้นรถ
          ต่อไปเราจะไปกันที่ อุโมงค์ที่ 3 หรือ The 3rd Tunnel เป็นอุโมงค์ที่ชาวเกาหลีใต้ค้นพบโดยบังเอิญ เมื่อปีค.ศ. 1978 จากการขุดเจาะของทหาร แล้วพบว่ามีน้ำผุดขึ้นมาจากรู อุโมงค์นี้เป็นหนึ่งในสี่อุโมงค์ ที่เกาหลีเหนือแอบขุดเพื่อจะเข้ามาโจมตีเมืองโซลให้ได้ แต่เกาหลีใต้ดันพบก่อน จึงหยุดการขุดไป สำหรับอุโมงค์ที่ 3 นั้น เขาบอกว่าเป็นอุโมงค์ที่ใหญ่ที่สุดในบรรดา 4 อุโมงค์ ใหญ่ขนาดที่เขาบอกว่า สามารถลำเลียงทหารได้ 30,000 คนต่อชั่วโมงเลยทีเดียว
          ก่อนเข้าไป จะต้องเก็บสัมภาระทุกอย่างใส่ล็อกเกอร์ ห้ามเอาโทรศัพท์เข้าไปด้วย จากนั้นให้ใส่หมวกแข็งลงเข้าไปในอุโมงค์ เนื่องจากถ่ายรูปไม่ได้ จขกท.ขออธิบายตามแผนที่เลย