สวัสดีค่ะทุกคน กระทู้นี้เริ่มจากการอยากแชร์ว่าเราไปที่นี่ได้ยังไง อะไรดลใจให้อยากไป ทั้งๆๆที่คนส่วนใหญ่มองว่ามันอันตราย และไม่ใช่สถานที่ที่น่าไปเลย อะไรแบบนี้.... แต่เนื่องจากการอินซีรีย์เกาหลีอย่างมากมายมหาศาลของเรา3คนนั้นนนน(จขกท.และเพื่อนอีก2คน) ส่งผลให้เกิดทริปนี้จ้าาาา5555555555555 ไปเกาครั้งนี้ไม่ไปที่อื่นโอเคค่ะ แต่ไม่ไปที่นี่ ไม่ได้เลยจริงๆๆ และด้วยการโดนเคลมมาว่าทหารที่ชายแดนเนี้ยย งานดี ดีกว่าในเมืองงอี้กก พวกเราทั้ง3คนก็ตกลงปลงใจว่าเราจะไปเที่ยวที่ชายแดนกันค่ะ และพอไปมาก็เอ้อออ งานดีจริงๆๆคะคุณณณณ!!!
เรามาเข้าเรื่องกันดีกว่า ก่อนจะยาวไปกว่านี้5555555
ก่อนอื่นอยากจะบอกว่าเราไปกับเพื่อนอีก2คน ทั้งหมดเป็นผู้หญิงนะคะ ตัวเล็กๆอายุยังน้อยคะ เรา3คนหาข้อมูลและเปรียบเทียบกันเยอะมากกว่าจะลงตัว ว่าจะไปยังไง เที่ยวเองหรืออะไร จะอันตรายมั้ยย สุดท้ายก้จบลงด้วยการไปกับทัวร์ค่าาา
ทุกคนที่กดเข้ามาในกระทุ้นี้ น่าจะเป็นกลุ่มคนที่สนใจสถานที่นี้นะคะ เราอาจจะไม่เล่ายาวมากเกี่ยวกับประวัติ แต่จะพูดคร่าวๆค่ะ
พวกเราเลือกการเดินทางเป็น all day trip กับทัวร์ชื่อ Seoul City Tour
http://www.seoulcitytour.net/English/engdmz03.html ลิ้งตามนี้ค่าาา เรา3คนเลือกเป็น DMZ & JSA (Panmunjeom) Tour ราคา 3,900บาท รวมค่ารถและอาหารกลางวันทุกอย่างง คือแบบดีเว่ออ ดูแลดี อาหารอร่อยมากคะ55555555
ที่ชายแดนนี้ เค้าจะ
ปิดให้เข้าชมทุกวันอาทิตย์,จันทร์และวันหยุดประจำชาติ หรือ วันที่เค้าคิดว่าไม่ปลอดภัยนะคะ เราจองในเวปล่วงหน้าประมาณ5วันคะ เพราะเราจะเข้าไปในเขตที่เค้าว่ากันว่าอันตรายที่สุด และเนื่องด้วยUNเป็นคนควบคุมตรงนั้นเราจึงต้องส่งเอกสารของเราให้เค้าตรวจสอบก่อนด้วยคะ แต่ไม่มีอะไรน่ากลัวน้าาา
เราเลือกเดินทางไปกันวันที่2มกราคม2561 ทางเราได้นัดกับทัวร์ให้มารับที่สถานีรถไฟฟ้าไกล้บ้านพัก(ทัวร์ที่เราซื้อเค้าจะมารับเราที่โรงแรมค่ะ) แต่!!!!! ทางเราตื่นสายจ้า ทัวร์โทรมา3สายไม่ได้รับ สุดท้ายไม่ทันต้องตามไปเจอที่โรงแรมของบริษัทเค้าค่าาา5555555 พวกเราก็รีบแต่งตัวหยิบเครื่องสำอางค์ใส่กระเป๋า คว้าอะไรได้คว้ารีบวิ่งไปขึ้นแทกซี่ไปเจอทัวร์ที่โรงแรมนั้น เพื่อตรวจสอบเอกสาร และเชคจำนวนกันอีกที่ ตอน8โมงง สุดท้ายทันจ้าาาาา (โล่งใจมากเว่อออ ถ้าไม่ทันนี่เสียดาย เพราะแพงค่ะ) และแล้ววว
ก็ถึงเวลาขึ้นรถบัสคะ เค้าจะให้เราแยกเป็น กลุ่มบรรยายภาษาอังกฤษกับกลุ่มภาษาจีนคะ เราคนไทยนั้นนภาษาอังกฤษแน่นอนจ้าา นั่งตามเลขที่ที่ไกด์บอก รถจะใช้เวลาวิ่งประมาณ2ชม(ไม่แน่ใจนะคะ พอดีหลับหมดเลย3คน แฮ่) เราจะไปถึงที่เขตปลอดทหารJSAเป็นที่แรก
JSAคืออะไร? คือเขตที่ถูกควบคุมภายใต้ทหารของUNคะ จะเป็นสถานที่สำคัญ และขึ้นชื่อว่าอันตรายที่สุด เพราะว่าจะเปิดการปะทะกันเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ บ้านฟ้าก็อยู่ในเขตนี้น้าา
JSA
พอรถมาถึงเขตตัวเมืองpanmunjeomบรรยากาศก็จะเงียบๆหน่อย
จะไม่ค่อยมีรถ เข้ามาเจอด่านแรก
จะมีทหารเกาหลีใต้ ขึ้นมาตรวจpassportเราค่ะ ตรวจทีละคน มองหน้าว่าตรงกับpassportมั้ย ตรงก็จบ ทหารลงไป เข้ามาอีก ก็จะเจออีกด่านค่ะ ตรวจpassportเหมือนกัน แต่ครั้งนี้เป็นทหารของUNขึ้นมา และก็พูดๆเกี่ยวกับกฎที่เราต้องทำในระยะเวลาที่อยู่ในเขตJSAและDMZแห่งนี้ ขอบอกว่าทหารที่นี่งานดีสมคำเล่าลือจริงๆค่ะ555555555 ไปต่ออ รถเคลื่อนตัวเข้าไปถึงเขตJSAของจริงกันแล้วจ้าาาา ตื่นเต้นมากมาย
ก่อนเราจะไปเข้าบ้านฟ้ากัน เราต้องมาที่ JSA VISITOR CENTER
ก่อนเพื่อฟังบรรยายเกี่ยวกับสถานที่นี้ และเซนต์ยอมรับว่าถ้ามีอะไรเกิดขึ้น ทางสถานที่ไม่รับผิดชอบ เพราะเราสมัครใจมาเอง ฮือออ ฟังดูแล้วน่ากลัว แต่ก็โอเคค่ะ ไม่มีอะไร ผ่านไปด้วยดี
เสร็จแล้วก้ขึ้นไปต่อกันที่ FREEDOM HOUSE และ บ้านสีฟ้า กันเล้ยยยยย(freedom house ไม่สามารถถ่ายรูปด้านหน้าตึกได้นะคะ)
ขอบอกว่าพอลงรถมาแล้วมันรุ้สึกโหวงเหวงยังไงไม่รู้ค่ะ เพราะก่อนมาที่นี่2-3วันเกิดเหตุทหารเกาหลีเหนือหนีเข้ามาที่เกาหลีใต้ และเกิดการยิงกัน พอลงไปยิ่งกลัว จากตอนแรกเฮฮา ทุกคนก็อยู่ในความสงบเฉยเลย5555555 พี่ทหารUNให้เราแบ่งเป็น2แถวแล้วเดินไปพร้อมกันอย่างเป็นระเบียบ....ภายในตึกก็จะเงียบๆๆโล่งๆๆไม่มีอะไร ที่สำคัญห้ามเดินแตกแถวเด็ดขาดค่ะ
เดินออกมานอกตัวตึก ก็จะเจอกับบ้านสีฟ้าในตำนาน
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้และตึกข้างหลังบ้านทั้ง3หลังนี้ก็คือตึกของ เ ก า ห ลี เ ห นื อ แล้วคะท่านผู้โชมมมม ซึ่งพี่ทหารบอกว่า หลังกระจกทุกบานมีทหารฝั่งนั้นคอยส่งกล้องมองเราอยู่ทุกมุม เพราะฉนั้นอย่ากระโตกกระตากเด็ดขาด แต่สามารถถ่ายรูปได้ ถ่ายรูปกันพอหอมปากหอมคอ ก็ถึงเวลาที่เค้าจะให้เข้าไปข้างในกันแล้ววววว โดยให้เข้าไปที่ละแถวค่ะ แถวละประมาณ15นาที หมดเวลาต้องออกทันนี้
ภายในบ้านสีฟ้า(บ้านหลังกลาง)จะมีทั้งทหารฝั่งเกาหลีใต้และทหารUNเท่านั้น เพราเราคือแขกฝั่งเกาหลีใต้ ทหารในห้องจะไม่พูดอะไรกับเราทั้งนั้น แต่ให้เราถ่ายรูปได้อย่างสงบ555555
รูปก็จะออกมาประมาณนี้ค่า
โต๊ะแนวนอนตรงกลางห้องนั้น เอาไว้สำหรับนั่งหารือกันระหว่าง ท่านผู้นำของเกาหลีเหนือและใต้ โดยมีคนของUNอยู่ตรงตัวโต๊ะ โดยฝั่งที่ถ่ายรูปมาเป้นฝั่งเกาหลีใต้ ส่วนฝั่งตรงข้ามเป็นของเกาหลีเหนือค่ะ เราสามารถข้ามไปฝั่งเกาหลีเหนือได้เฉพาะภายในห้องนี้เท่านั้น ข้ามไปมาแล้วตื่นเต้นค่ะ กลัวว5555555
พอทุกคนออกมาครบ เราก็จะเดินทางกลับไปที่ visitor centerอีกครั้งเพื่อส่งพี่ทหารunและแวะเข้าห้องน้ำหรือซื้อของฝากเบาๆ
และเราก็เดินทางไปทานอาหารกลางวันกันค่าาา
อันนี้เป็นเหมือนข้าวหน้าเนื้อค่ะ แต่แยกข้าวกับเนื้อในหม้อมาให้ อร่อยมากๆๆ
เมื่อทานเสร็จทางทัวร์ที่จองมาครึ่งวันก็จะกลับไป ส่วนทางเรานั้นก็จะแยกไปเช่นกัน ไปเจอไกด์คนใหม่ที่จะพาเราไป ZONE DMZ
เราจะนั่งรถผ่าน THE BRIDGE OF NO RETURN หรือ สะพานไม่มีวันหวนกลับ
เราจะเห็นได้ในระยะไกลๆ เพราะเค้าไม่สามารถให้เราลงไปได้ค่ะ เพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว
นั่งรถไปจนถึง
IMJINGAK PARK
ก็จะมีซากรถไฟที่ทางเกาหลีเหนือใช้เดินทางเข้ามาที่เกาหลีใต้อยู่ มีป้ายบอกทางไปเกาหลีเหนือ มีสะพานข้ามไป ซึ่งอยู่ห่างออกไปเพียง22กิโลเมตร ในขณะที่ห่างจากโซลถึง 53กิโลเมตร คือแบบเราอยู่ใกล้ทางนั้นมากจริงๆๆ บรรยากาศเป็นยังไงลองชมภาพกันดูนะคะ
ต่อมาคือ THE 3rd INFILTRATION TUNNEL อุโมงค์หมายเลข3นั่นเองจ้าาา
อุโมงค์นี้ เป็นแค่ส่วนหนึ่งที่ทางเกาหลีใต้ขุดเจอ และเปิดให้เข้าชม แต่ที่เหลือก็ยังมีอีกมากคะ
ภายใน อับและชื้นมาก เราทุกคนต้องใส่หมวกนิรภัย ฝากของไว้ที่ล้อคเกอร์(ฟรี) ทางลงเป็นทางลาดแอบชันหน่อยๆๆ คนอายุอย่างเราก็ยังปวดเข่า5555555แต่ฝรั่งที่ไปด้วย นางใส่ส้นสูงนะคะ ลงไปถึงพื้นอุโมง ก้จะเจอเหมือนเป็นรถไฟให้เล่น แต่ทางทัวร์เรานั้นไม่ได้รวมจ้า(อด) เลยเดินต่อไปจนสุดทาง บรรยากาศแบบว่าหายใจลำบาก กลิ่นเหม็น อับชื้นมาก แต่พอถึงจุดสิ้นสูด มองลอดช่องไปก้คือยังพอเห็นสภาพจริงของอุโมงค์ คือมันยาวมาก ไกลสุดลูกหูลูกตา พื้นที่แคบคนตัวสูงๆล้วนแต่เดินด้มหัวกันทั้งนั้น เค้าบอกว่าคนที่ขุดก็ต้องนอนกินในนี้ เราว่าตอนนั้นมันคงทรมานมากเลย
พอออกมาก็มีร้านให้ซื้อของเล็กน้อยคะ
ต่อไปก็เดินทางไปต่อที่ DORA OBSERVATORY หอชมวิวโดราซาน
ขึ้นไปก็จะมีกล้องส่งทางไกลให้หยอดเหรียญดูฝั่งนู้น ซึ่งเราก็หยอดด้วยความอยากรู้อยากเห็น คือไกลนะ แต่ยังเห็นเป็นเมือง
ซึ่งเค้าบอกมาว่าสร้างหลอกฝั่งนี้ และมันก็จริงค่ะ ปลอมจริงไม่มีวี่แววคนเลย และห้องด้านใน(ไม่ให้ถ่ายรูปคะ)ก็ฉายวีดีทัศน์เกี่ยวกับทั้ง2ฝั่งให้ดู และมีโมเดลจำลองให้คนเห็นภาพชัดขึ้นค่าา
ต่อมาเป็นที่สุดท้ายของเราแล้วว นั่นก็คืออออ
DORASAN STATION
ซึ่งก็ถือว่าเป็นสถานีสุดท้ายของเกาหลีใต้ ก่อนที่จะเดินทางเข้าเกาหลีเหนือนะคะ โดยจะมีการขายตั๋วล่วงหน้า เผื่อวันไหนทั้ง2ประเทศปรองดองกัน(ซึ่งตอนนี้คนที่มีตั๋วอยู่ในมือ อาจจะรออีกไม่นานก็จะได้ใช้ตั๋วนะค้าา555555) แล้วสถานีนี้เปิดใช้งานได้จริง คนที่มี่ตั๋วก็สามารถมาใช้บริการเดินทางไปเมืองหลวงของเกาหลีเหนือPyeongyangได้คะ
แต่สถานีนี้เปิดใช้ได้จริงในเกาหลีใต้นะคะ โดยจะมีรถวิ่งตรงมากจากSeoulสำหรับคนที่มาเที่ยวด้วยตัวเอง(เราคิดว่าลำบากคะ5555555)
ก่อนกลับถ่ายรูปและแสตมป์เป็นที่ระทึก เอ้ยยย ระลึกสักหน่อย
จบแล้วสำหรับทริปนี้ มาด้วยความอยากรู้อยากเห็นของเด็ก3คนล้วนๆ
ขอให้ทุกคนสนุกกับการได้ชมที่แปลกใหม่แบบนี้นะคะ
สำหรับคนที่อยากไปแล้วมีคำถาม สอบถามได้เลยนะคะ
ขอบคุณที่อ่านมาจนจบค่าาา
BYE BYE
[CR] เที่ยวชายแดนเกาหลี JSA&DMZ ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด
เรามาเข้าเรื่องกันดีกว่า ก่อนจะยาวไปกว่านี้5555555
ก่อนอื่นอยากจะบอกว่าเราไปกับเพื่อนอีก2คน ทั้งหมดเป็นผู้หญิงนะคะ ตัวเล็กๆอายุยังน้อยคะ เรา3คนหาข้อมูลและเปรียบเทียบกันเยอะมากกว่าจะลงตัว ว่าจะไปยังไง เที่ยวเองหรืออะไร จะอันตรายมั้ยย สุดท้ายก้จบลงด้วยการไปกับทัวร์ค่าาา
ทุกคนที่กดเข้ามาในกระทุ้นี้ น่าจะเป็นกลุ่มคนที่สนใจสถานที่นี้นะคะ เราอาจจะไม่เล่ายาวมากเกี่ยวกับประวัติ แต่จะพูดคร่าวๆค่ะ
พวกเราเลือกการเดินทางเป็น all day trip กับทัวร์ชื่อ Seoul City Tour http://www.seoulcitytour.net/English/engdmz03.html ลิ้งตามนี้ค่าาา เรา3คนเลือกเป็น DMZ & JSA (Panmunjeom) Tour ราคา 3,900บาท รวมค่ารถและอาหารกลางวันทุกอย่างง คือแบบดีเว่ออ ดูแลดี อาหารอร่อยมากคะ55555555
ที่ชายแดนนี้ เค้าจะปิดให้เข้าชมทุกวันอาทิตย์,จันทร์และวันหยุดประจำชาติ หรือ วันที่เค้าคิดว่าไม่ปลอดภัยนะคะ เราจองในเวปล่วงหน้าประมาณ5วันคะ เพราะเราจะเข้าไปในเขตที่เค้าว่ากันว่าอันตรายที่สุด และเนื่องด้วยUNเป็นคนควบคุมตรงนั้นเราจึงต้องส่งเอกสารของเราให้เค้าตรวจสอบก่อนด้วยคะ แต่ไม่มีอะไรน่ากลัวน้าาา
เราเลือกเดินทางไปกันวันที่2มกราคม2561 ทางเราได้นัดกับทัวร์ให้มารับที่สถานีรถไฟฟ้าไกล้บ้านพัก(ทัวร์ที่เราซื้อเค้าจะมารับเราที่โรงแรมค่ะ) แต่!!!!! ทางเราตื่นสายจ้า ทัวร์โทรมา3สายไม่ได้รับ สุดท้ายไม่ทันต้องตามไปเจอที่โรงแรมของบริษัทเค้าค่าาา5555555 พวกเราก็รีบแต่งตัวหยิบเครื่องสำอางค์ใส่กระเป๋า คว้าอะไรได้คว้ารีบวิ่งไปขึ้นแทกซี่ไปเจอทัวร์ที่โรงแรมนั้น เพื่อตรวจสอบเอกสาร และเชคจำนวนกันอีกที่ ตอน8โมงง สุดท้ายทันจ้าาาาา (โล่งใจมากเว่อออ ถ้าไม่ทันนี่เสียดาย เพราะแพงค่ะ) และแล้ววว
ก็ถึงเวลาขึ้นรถบัสคะ เค้าจะให้เราแยกเป็น กลุ่มบรรยายภาษาอังกฤษกับกลุ่มภาษาจีนคะ เราคนไทยนั้นนภาษาอังกฤษแน่นอนจ้าา นั่งตามเลขที่ที่ไกด์บอก รถจะใช้เวลาวิ่งประมาณ2ชม(ไม่แน่ใจนะคะ พอดีหลับหมดเลย3คน แฮ่) เราจะไปถึงที่เขตปลอดทหารJSAเป็นที่แรก
JSAคืออะไร? คือเขตที่ถูกควบคุมภายใต้ทหารของUNคะ จะเป็นสถานที่สำคัญ และขึ้นชื่อว่าอันตรายที่สุด เพราะว่าจะเปิดการปะทะกันเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ บ้านฟ้าก็อยู่ในเขตนี้น้าา
JSA
พอรถมาถึงเขตตัวเมืองpanmunjeomบรรยากาศก็จะเงียบๆหน่อย
จะไม่ค่อยมีรถ เข้ามาเจอด่านแรก
จะมีทหารเกาหลีใต้ ขึ้นมาตรวจpassportเราค่ะ ตรวจทีละคน มองหน้าว่าตรงกับpassportมั้ย ตรงก็จบ ทหารลงไป เข้ามาอีก ก็จะเจออีกด่านค่ะ ตรวจpassportเหมือนกัน แต่ครั้งนี้เป็นทหารของUNขึ้นมา และก็พูดๆเกี่ยวกับกฎที่เราต้องทำในระยะเวลาที่อยู่ในเขตJSAและDMZแห่งนี้ ขอบอกว่าทหารที่นี่งานดีสมคำเล่าลือจริงๆค่ะ555555555 ไปต่ออ รถเคลื่อนตัวเข้าไปถึงเขตJSAของจริงกันแล้วจ้าาาา ตื่นเต้นมากมาย
ก่อนเราจะไปเข้าบ้านฟ้ากัน เราต้องมาที่ JSA VISITOR CENTER ก่อนเพื่อฟังบรรยายเกี่ยวกับสถานที่นี้ และเซนต์ยอมรับว่าถ้ามีอะไรเกิดขึ้น ทางสถานที่ไม่รับผิดชอบ เพราะเราสมัครใจมาเอง ฮือออ ฟังดูแล้วน่ากลัว แต่ก็โอเคค่ะ ไม่มีอะไร ผ่านไปด้วยดี
เสร็จแล้วก้ขึ้นไปต่อกันที่ FREEDOM HOUSE และ บ้านสีฟ้า กันเล้ยยยยย(freedom house ไม่สามารถถ่ายรูปด้านหน้าตึกได้นะคะ)
ขอบอกว่าพอลงรถมาแล้วมันรุ้สึกโหวงเหวงยังไงไม่รู้ค่ะ เพราะก่อนมาที่นี่2-3วันเกิดเหตุทหารเกาหลีเหนือหนีเข้ามาที่เกาหลีใต้ และเกิดการยิงกัน พอลงไปยิ่งกลัว จากตอนแรกเฮฮา ทุกคนก็อยู่ในความสงบเฉยเลย5555555 พี่ทหารUNให้เราแบ่งเป็น2แถวแล้วเดินไปพร้อมกันอย่างเป็นระเบียบ....ภายในตึกก็จะเงียบๆๆโล่งๆๆไม่มีอะไร ที่สำคัญห้ามเดินแตกแถวเด็ดขาดค่ะ
เดินออกมานอกตัวตึก ก็จะเจอกับบ้านสีฟ้าในตำนาน [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้และตึกข้างหลังบ้านทั้ง3หลังนี้ก็คือตึกของ เ ก า ห ลี เ ห นื อ แล้วคะท่านผู้โชมมมม ซึ่งพี่ทหารบอกว่า หลังกระจกทุกบานมีทหารฝั่งนั้นคอยส่งกล้องมองเราอยู่ทุกมุม เพราะฉนั้นอย่ากระโตกกระตากเด็ดขาด แต่สามารถถ่ายรูปได้ ถ่ายรูปกันพอหอมปากหอมคอ ก็ถึงเวลาที่เค้าจะให้เข้าไปข้างในกันแล้ววววว โดยให้เข้าไปที่ละแถวค่ะ แถวละประมาณ15นาที หมดเวลาต้องออกทันนี้
ภายในบ้านสีฟ้า(บ้านหลังกลาง)จะมีทั้งทหารฝั่งเกาหลีใต้และทหารUNเท่านั้น เพราเราคือแขกฝั่งเกาหลีใต้ ทหารในห้องจะไม่พูดอะไรกับเราทั้งนั้น แต่ให้เราถ่ายรูปได้อย่างสงบ555555
รูปก็จะออกมาประมาณนี้ค่า
โต๊ะแนวนอนตรงกลางห้องนั้น เอาไว้สำหรับนั่งหารือกันระหว่าง ท่านผู้นำของเกาหลีเหนือและใต้ โดยมีคนของUNอยู่ตรงตัวโต๊ะ โดยฝั่งที่ถ่ายรูปมาเป้นฝั่งเกาหลีใต้ ส่วนฝั่งตรงข้ามเป็นของเกาหลีเหนือค่ะ เราสามารถข้ามไปฝั่งเกาหลีเหนือได้เฉพาะภายในห้องนี้เท่านั้น ข้ามไปมาแล้วตื่นเต้นค่ะ กลัวว5555555
พอทุกคนออกมาครบ เราก็จะเดินทางกลับไปที่ visitor centerอีกครั้งเพื่อส่งพี่ทหารunและแวะเข้าห้องน้ำหรือซื้อของฝากเบาๆ
และเราก็เดินทางไปทานอาหารกลางวันกันค่าาา
อันนี้เป็นเหมือนข้าวหน้าเนื้อค่ะ แต่แยกข้าวกับเนื้อในหม้อมาให้ อร่อยมากๆๆ
เมื่อทานเสร็จทางทัวร์ที่จองมาครึ่งวันก็จะกลับไป ส่วนทางเรานั้นก็จะแยกไปเช่นกัน ไปเจอไกด์คนใหม่ที่จะพาเราไป ZONE DMZ
เราจะนั่งรถผ่าน THE BRIDGE OF NO RETURN หรือ สะพานไม่มีวันหวนกลับ
เราจะเห็นได้ในระยะไกลๆ เพราะเค้าไม่สามารถให้เราลงไปได้ค่ะ เพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว
นั่งรถไปจนถึง
IMJINGAK PARK
ก็จะมีซากรถไฟที่ทางเกาหลีเหนือใช้เดินทางเข้ามาที่เกาหลีใต้อยู่ มีป้ายบอกทางไปเกาหลีเหนือ มีสะพานข้ามไป ซึ่งอยู่ห่างออกไปเพียง22กิโลเมตร ในขณะที่ห่างจากโซลถึง 53กิโลเมตร คือแบบเราอยู่ใกล้ทางนั้นมากจริงๆๆ บรรยากาศเป็นยังไงลองชมภาพกันดูนะคะ
ต่อมาคือ THE 3rd INFILTRATION TUNNEL อุโมงค์หมายเลข3นั่นเองจ้าาา
อุโมงค์นี้ เป็นแค่ส่วนหนึ่งที่ทางเกาหลีใต้ขุดเจอ และเปิดให้เข้าชม แต่ที่เหลือก็ยังมีอีกมากคะ
ภายใน อับและชื้นมาก เราทุกคนต้องใส่หมวกนิรภัย ฝากของไว้ที่ล้อคเกอร์(ฟรี) ทางลงเป็นทางลาดแอบชันหน่อยๆๆ คนอายุอย่างเราก็ยังปวดเข่า5555555แต่ฝรั่งที่ไปด้วย นางใส่ส้นสูงนะคะ ลงไปถึงพื้นอุโมง ก้จะเจอเหมือนเป็นรถไฟให้เล่น แต่ทางทัวร์เรานั้นไม่ได้รวมจ้า(อด) เลยเดินต่อไปจนสุดทาง บรรยากาศแบบว่าหายใจลำบาก กลิ่นเหม็น อับชื้นมาก แต่พอถึงจุดสิ้นสูด มองลอดช่องไปก้คือยังพอเห็นสภาพจริงของอุโมงค์ คือมันยาวมาก ไกลสุดลูกหูลูกตา พื้นที่แคบคนตัวสูงๆล้วนแต่เดินด้มหัวกันทั้งนั้น เค้าบอกว่าคนที่ขุดก็ต้องนอนกินในนี้ เราว่าตอนนั้นมันคงทรมานมากเลย
พอออกมาก็มีร้านให้ซื้อของเล็กน้อยคะ
ต่อไปก็เดินทางไปต่อที่ DORA OBSERVATORY หอชมวิวโดราซาน
ขึ้นไปก็จะมีกล้องส่งทางไกลให้หยอดเหรียญดูฝั่งนู้น ซึ่งเราก็หยอดด้วยความอยากรู้อยากเห็น คือไกลนะ แต่ยังเห็นเป็นเมือง
ซึ่งเค้าบอกมาว่าสร้างหลอกฝั่งนี้ และมันก็จริงค่ะ ปลอมจริงไม่มีวี่แววคนเลย และห้องด้านใน(ไม่ให้ถ่ายรูปคะ)ก็ฉายวีดีทัศน์เกี่ยวกับทั้ง2ฝั่งให้ดู และมีโมเดลจำลองให้คนเห็นภาพชัดขึ้นค่าา
ต่อมาเป็นที่สุดท้ายของเราแล้วว นั่นก็คืออออ
DORASAN STATION
ซึ่งก็ถือว่าเป็นสถานีสุดท้ายของเกาหลีใต้ ก่อนที่จะเดินทางเข้าเกาหลีเหนือนะคะ โดยจะมีการขายตั๋วล่วงหน้า เผื่อวันไหนทั้ง2ประเทศปรองดองกัน(ซึ่งตอนนี้คนที่มีตั๋วอยู่ในมือ อาจจะรออีกไม่นานก็จะได้ใช้ตั๋วนะค้าา555555) แล้วสถานีนี้เปิดใช้งานได้จริง คนที่มี่ตั๋วก็สามารถมาใช้บริการเดินทางไปเมืองหลวงของเกาหลีเหนือPyeongyangได้คะ
แต่สถานีนี้เปิดใช้ได้จริงในเกาหลีใต้นะคะ โดยจะมีรถวิ่งตรงมากจากSeoulสำหรับคนที่มาเที่ยวด้วยตัวเอง(เราคิดว่าลำบากคะ5555555)
ก่อนกลับถ่ายรูปและแสตมป์เป็นที่ระทึก เอ้ยยย ระลึกสักหน่อย
จบแล้วสำหรับทริปนี้ มาด้วยความอยากรู้อยากเห็นของเด็ก3คนล้วนๆ
ขอให้ทุกคนสนุกกับการได้ชมที่แปลกใหม่แบบนี้นะคะ
สำหรับคนที่อยากไปแล้วมีคำถาม สอบถามได้เลยนะคะ
ขอบคุณที่อ่านมาจนจบค่าาา
BYE BYE
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้