หนึ่งในแฟรนไชส์ที่คนไทยสนใจมากที่สุดในช่วงปี 2566 ก็คือ #Mixue แฟรนไชส์ไอศกรีมและชาผลไม้จากจีน มีเอกลักษณ์สีแดงโดนเด่น มาสคอตเป็น "ราชาหิมะ" เมนูหลากหลายราคา 15-50 บาท เพิ่งเปิดร้านครบ 200 สาขาไปเมื่อไม่นาน
ปัจจัยที่ทำให้ Mixue ได้รับสนใจจากผู้บริโภคและนักลงทุนชาวไทยมากกว่าแบรนด์อื่นๆ รวมถึง #แดรี่ควีน ทั้งที่อยู่ในเมืองไทยมายาวนานกว่า 18 ปี อยู่ที่ราคาสินค้าเข้าถึงผู้บริโภคในวงกว้าง เมนูยังมีให้เลือกมากกว่าร้านชานมไข่มุกด้วยซ้ำ
ไม่เพียงเท่านี้ ยังสามารถแข่งกับตลาดเครื่องดื่มอื่นๆ ได้อย่างสูสี เชื่อว่าถ้ามีร้าน "Mixue" อยู่ข้างหน้าคู่กับ "คาเฟ่ อเมซอน" ลูกค้าหลายๆ คนก็คงเลือกที่จะเข้าร้าน Mixue ราคาต่างกันลิบเลย มีทั้งไอศกรีม ชาผลไม้ ชานมไข่มุก แถมมีกาแฟอีกต่างห่าง
พอเป็นแบบนี้จึงทำให้คนไทยสนใจ Mixue จำนวนมาก ถึงขั้นต้องหยุดขายแฟรนไชส์ไปชั่วคราวเมื่อช่วงต้นปี 2567
ความน่าสนใจอีกอย่างของ Mixue ก็คือ เราแทบไม่เห็นแบรนด์จากจีนโฆษณาตามสื่อเลย มีแต่ลูกค้าไปซื้อแล้วโพสต์โชว์ตามโซเชียลจนกลายเป็นกระแสที่รวดเร็วมาก ถ้าเป็นคนซื้อแฟรนไชส์แทบไม่ต้องทำอะไรเลย แค่เปิดร้านวันแรกก็มีลูกค้าอยากไปลองแล้ว
แถมยังมีระบบการจัดการที่แข็งแกร่ง สินค้าขายง่าย มีให้ลูกค้าเลือกมากมาย ส่วนผู้บริโภคได้ซื้อไอศกรีมและเครื่องดื่มราคาถูก แต่อาจจะแพงกว่าแดรี่ควีนที่ขายโคนละ 12 บาท แต่โดยรวมราคาถือว่าถูก รสชาติดีด้วย
ในแง่การลงทุนแฟรนไชส์ Mixue ก็ยังถูกกว่าแดรี่ควีนหลายเท่าตัว เงินลงทุนที่ใช้ในการเปิดร้าน Mixue ดังนี้
ค่าแฟรนไชส์ 50,000 บาท/ปี
ค่าจัดการ 25,000 บาท/ปี
ค่าอบรม 10,000 บาท/ปี
ค่าค้ำประกัน 100,000 บาท
ค่าอุปกรณ์ 450,000 บาท
ค่าวัตถุดิบ 250,000 บาท
ค่าสำรวจพื้นที่ กรุงเทพฯ 2,500 บาท/ครั้ง, ต่างจังหวัด 5,000 บาท/ครั้ง
รวมงบลงทุนเริ่มต้น 887,500 - 890,000 บาท (ยังไม่รวมค่าเช่า+ก่อสร้าง+ตกแต่งร้าน)
ส่วนเงินลงทุนแฟรนไชส์แดรี่ควีน ต้องเตรียมไว้ราวๆ 15 ล้านบาท เพราะทางแบรนด์บังคับให้เปิดอย่างน้อย 3 สาขาในจังหวัดเดียว แบ่งออกเป็น
ค่าแฟรนไชส์ 1.5 ล้านบาท
Royalty Fee 5%
Marketing Fee 6%
งบก่อสร้าง+ออกแบบ+ตกแต่งร้าน 3-3.5 ล้านบาท
ระยะสัญญา 10 ปี
.
เงื่อนไขการลงทุน
1 สาขา ใช้เงินประมาณ 3 - 3.5 ล้านบาท ต้องเปิดร้านอย่างน้อย 3 สาขา ฝึกอบรมประมาณ 30 วัน
ผู้สมัครแฟรนไชส์ มีพื้นที่นำเสนอ 3 จุด และพร้อมวางเงิน 1,500,000 บาท เปิดสาขาแรก ภายใน 60 วันหลังจากทำสัญญา และ อีก 2 สาขาภายใน 12 เดือน นับจากเปิดสาขาแรก
นอกจากต้องใช้เงินลงทุนที่สูงแล้ว แดรี่ควีนยังพิจารณาคัดเลือกแฟรนไชส์ซี จะดูเรื่องเงินลงทุนเป็นองค์ประกอบพื้นฐาน รวมถึงทำเลเปิดร้านที่ผู้ซื้อแฟรนไชส์ส่งเข้าไปด้วย พิจารณาว่าทำเลนั้นส่งเสริมแบรนด์อิมเมจของแดรี่ควีนหรือไม่ และตอบโจทย์ที่ทาง Land Lord ต้องการหรือเปล่า เป็นการส่งเสริมธุรกิจซึ่งกันและกัน ทำให้ภาพลักษณ์แดรี่ควีนดีด้วย
ทั้งหมดเป็นเหตุผลทำให้ Mixue แฟรนไชส์ไอศกรีมซอฟต์เสิร์ฟและชาผลไม้จากจีน ได้รับความนิยมจากผู้บริโภค และได้รับความสนใจจากผู้ซื้อแฟรนไชส์จำนวนมาก ต้องจับตาดูกันต่อไปว่าตลาดไอศกรีมและชาผลไม้ราคาถูกในประเทศไทยจะร้อนแรงไปได้อีกยาวไกลแค่ไหน เพราะเชื่อว่ายังมีอีกหลายแบรนด์จ่อเข้าไทยตาม Mixue, Ai-cha และ Wedrink
ที่มา : ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ ธุรกิจไทย
ทำไม? คนไทยสนใจ Mixue มากกว่า DQ 🤔
ปัจจัยที่ทำให้ Mixue ได้รับสนใจจากผู้บริโภคและนักลงทุนชาวไทยมากกว่าแบรนด์อื่นๆ รวมถึง #แดรี่ควีน ทั้งที่อยู่ในเมืองไทยมายาวนานกว่า 18 ปี อยู่ที่ราคาสินค้าเข้าถึงผู้บริโภคในวงกว้าง เมนูยังมีให้เลือกมากกว่าร้านชานมไข่มุกด้วยซ้ำ
ไม่เพียงเท่านี้ ยังสามารถแข่งกับตลาดเครื่องดื่มอื่นๆ ได้อย่างสูสี เชื่อว่าถ้ามีร้าน "Mixue" อยู่ข้างหน้าคู่กับ "คาเฟ่ อเมซอน" ลูกค้าหลายๆ คนก็คงเลือกที่จะเข้าร้าน Mixue ราคาต่างกันลิบเลย มีทั้งไอศกรีม ชาผลไม้ ชานมไข่มุก แถมมีกาแฟอีกต่างห่าง
พอเป็นแบบนี้จึงทำให้คนไทยสนใจ Mixue จำนวนมาก ถึงขั้นต้องหยุดขายแฟรนไชส์ไปชั่วคราวเมื่อช่วงต้นปี 2567
ความน่าสนใจอีกอย่างของ Mixue ก็คือ เราแทบไม่เห็นแบรนด์จากจีนโฆษณาตามสื่อเลย มีแต่ลูกค้าไปซื้อแล้วโพสต์โชว์ตามโซเชียลจนกลายเป็นกระแสที่รวดเร็วมาก ถ้าเป็นคนซื้อแฟรนไชส์แทบไม่ต้องทำอะไรเลย แค่เปิดร้านวันแรกก็มีลูกค้าอยากไปลองแล้ว
แถมยังมีระบบการจัดการที่แข็งแกร่ง สินค้าขายง่าย มีให้ลูกค้าเลือกมากมาย ส่วนผู้บริโภคได้ซื้อไอศกรีมและเครื่องดื่มราคาถูก แต่อาจจะแพงกว่าแดรี่ควีนที่ขายโคนละ 12 บาท แต่โดยรวมราคาถือว่าถูก รสชาติดีด้วย
ในแง่การลงทุนแฟรนไชส์ Mixue ก็ยังถูกกว่าแดรี่ควีนหลายเท่าตัว เงินลงทุนที่ใช้ในการเปิดร้าน Mixue ดังนี้
ค่าแฟรนไชส์ 50,000 บาท/ปี
ค่าจัดการ 25,000 บาท/ปี
ค่าอบรม 10,000 บาท/ปี
ค่าค้ำประกัน 100,000 บาท
ค่าอุปกรณ์ 450,000 บาท
ค่าวัตถุดิบ 250,000 บาท
ค่าสำรวจพื้นที่ กรุงเทพฯ 2,500 บาท/ครั้ง, ต่างจังหวัด 5,000 บาท/ครั้ง
รวมงบลงทุนเริ่มต้น 887,500 - 890,000 บาท (ยังไม่รวมค่าเช่า+ก่อสร้าง+ตกแต่งร้าน)
ส่วนเงินลงทุนแฟรนไชส์แดรี่ควีน ต้องเตรียมไว้ราวๆ 15 ล้านบาท เพราะทางแบรนด์บังคับให้เปิดอย่างน้อย 3 สาขาในจังหวัดเดียว แบ่งออกเป็น
ค่าแฟรนไชส์ 1.5 ล้านบาท
Royalty Fee 5%
Marketing Fee 6%
งบก่อสร้าง+ออกแบบ+ตกแต่งร้าน 3-3.5 ล้านบาท
ระยะสัญญา 10 ปี
.
เงื่อนไขการลงทุน
1 สาขา ใช้เงินประมาณ 3 - 3.5 ล้านบาท ต้องเปิดร้านอย่างน้อย 3 สาขา ฝึกอบรมประมาณ 30 วัน
ผู้สมัครแฟรนไชส์ มีพื้นที่นำเสนอ 3 จุด และพร้อมวางเงิน 1,500,000 บาท เปิดสาขาแรก ภายใน 60 วันหลังจากทำสัญญา และ อีก 2 สาขาภายใน 12 เดือน นับจากเปิดสาขาแรก
นอกจากต้องใช้เงินลงทุนที่สูงแล้ว แดรี่ควีนยังพิจารณาคัดเลือกแฟรนไชส์ซี จะดูเรื่องเงินลงทุนเป็นองค์ประกอบพื้นฐาน รวมถึงทำเลเปิดร้านที่ผู้ซื้อแฟรนไชส์ส่งเข้าไปด้วย พิจารณาว่าทำเลนั้นส่งเสริมแบรนด์อิมเมจของแดรี่ควีนหรือไม่ และตอบโจทย์ที่ทาง Land Lord ต้องการหรือเปล่า เป็นการส่งเสริมธุรกิจซึ่งกันและกัน ทำให้ภาพลักษณ์แดรี่ควีนดีด้วย
ทั้งหมดเป็นเหตุผลทำให้ Mixue แฟรนไชส์ไอศกรีมซอฟต์เสิร์ฟและชาผลไม้จากจีน ได้รับความนิยมจากผู้บริโภค และได้รับความสนใจจากผู้ซื้อแฟรนไชส์จำนวนมาก ต้องจับตาดูกันต่อไปว่าตลาดไอศกรีมและชาผลไม้ราคาถูกในประเทศไทยจะร้อนแรงไปได้อีกยาวไกลแค่ไหน เพราะเชื่อว่ายังมีอีกหลายแบรนด์จ่อเข้าไทยตาม Mixue, Ai-cha และ Wedrink
ที่มา : ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ ธุรกิจไทย